Mention Of Love (รัก)

-

เขียนโดย Nanpm

วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 20.52 น.

  12 ตอน
  0 วิจารณ์
  8,345 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) บอกลา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     เต้เดินมาที่บ้านของว่านแล้วกดกริ่งที่หน้าประตู ชายหนุ่มเห็นพี่หว้าเดินออกมาจากบ้านแทนที่จะเป็นเพื่อนของเขา

     “เต้ วันนี้ว่านไม่ไปเรียนนะ พอดีว่านไม่ค่อยสบาย” พี่หว้าบอกชายหนุ่มที่มายืนรอน้องสาวของเธอ

     “ฝากบอกว่านด้วยนะครับว่าหายเร็ว ๆ เดี๋ยวผมไปเรียนก่อน สวัสดีครับ” เต้ยกมือไหว้พี่ลูกหว้าแล้วชายหนุ่มก็ถีบจักรยานไปถึงหน้าหมู่บ้าน

     ในใจของชายหนุ่มรู้สึกไม่สบายใจ เพราะเขาคิดว่าหญิงสาวต้องเป็นอะไรที่มากกว่าไม่สบายธรรมดา

     “เต้ แล้วว่านล่ะ” พัทถามขึ้นเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้าห้องเรียนมาคนเดียวโดยไร้เงาของหญิงสาวเพื่อนสนิทของเขา

     ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆ พัท แล้วถอนหายใจออกมา

     “พี่หว้าบอกว่าว่านไม่สบาย เราถามอะไรหน่อยสิ” เต้หันมองหน้าพัทแล้วทำสีหน้าเคร่งเครียด

     “ถามจริง ๆ เถอะ เมื่อวานพัทพาว่านไปไหนมา” ชายหนุ่มตั้งคำถามด้วยสีหน้าจริงจัง

     พัทอึกอักอยู่นานแต่ไม่ทันที่จะตอบอะไร อาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้องเรียนพอดี ทำให้หญิงสาวต้องกระซิบบอกว่าจะเล่าให้ฟังหลังเลิกเรียน

     “แม่ตัวดีจะเล่าได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวาน” เต้พูดขึ้นเมื่อพาพัทมานั่งตรงม้านั่งข้างคณะเรียน

     “โอเค เราจะเล่าให้ฟังเดี๋ยวนี้ล่ะ”

     หญิงสาวเล่าเหตุการณ์ที่เธอพาว่านตามอิงไป เมื่อชายหนุ่มได้ฟังเรื่องทั้งหมดก็ถอนหายใจออกมาอีก

     “เราก็เป็นห่วงว่านเหมือนกัน ไปบ้านว่านกันไหม เราอยากไปดูหน่อยว่าว่านเป็นยังไงบ้าง” พัทชวนเต้ไปหาว่านที่บ้าน เพราะเธอรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนของเธออย่างมาก

     เต้ไม่รีรอตอบตกลงทันที แล้วพัทก็ขับรถพาเต้ไปที่บ้านของว่าน

     “สวัสดีค่ะพี่หว้า พัทมาเยี่ยมว่านน่ะค่ะเห็นวันนี้เต้บอกว่าว่านไม่สบายเลยไม่ได้ไปเรียน” พัทกล่าวทักทายและบอกจุดประสงค์ที่เธอมา

     “เข้าไปในบ้านกันก่อนนะ” ลูกหว้าเปิดประตูให้พัทกับเต้เดินเข้ามานั่งในบ้าน

     “คุณแม่ไม่อยู่เหรอคะ” พัทถามขึ้นเมื่อเธอมองไปรอบ ๆ บ้านแล้วไม่เห็นแม่ของเพื่อน

     “คุณแม่ออกไปซื้อของที่ตลาด ดื่มน้ำกันก่อนนะ มากันก็ดีแล้ว พี่อยากจะถามเราสองคนพอดีว่ารู้ใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับว่าน” ลูกหว้าเริ่มถามหาสาเหตุที่ทำให้น้องสาวเธอไม่สบาย และเก็บตัวอยู่บนห้อง

     “พัทคิดว่าพัททราบค่ะ ให้พัทขึ้นไปคุยกับว่านได้ไหมคะ”

     ลูกหว้ายิ้มแล้วพยักหน้าเมื่อได้ยินพัทถาม และเมื่อพัทเดินขึ้นบันไดไป เต้ก็หันมาเล่าทุกอย่างที่รู้เรื่องมาจากพัทให้พี่หว้าได้รับรู้

     “ก๊อก ๆ” เสียงใครคนหนึ่งเคาะประตู

     “พี่หว้าเหรอคะ เข้ามาได้เลยค่ะ ว่านไม่ได้ล็อกประตู” ว่านบอกคนที่มายืนเคาะประตูให้เข้ามาซึ่งเธอคิดว่าเป็นพี่สาวของเธอ

     พัทค่อย ๆ เปิดประตูแล้วเดินเข้าห้องมา

     “ว่านเป็นยังไงบ้าง” พัทถามด้วยความเป็นห่วง

     น้ำตาค่อย ๆ ไหลออกมาจากตาของหญิงสาวเมื่อได้ยินเพื่อนสาวถามขึ้นมา พัทเดินเข้าไปกอดและปลอบเพื่อนของเธอ

     “ไม่เป็นไรนะ ช่างมันสวย ๆ อย่างเราหาใหม่ได้อีกเยอะ ยังไงว่านยังมีเรา เต้ แม่และก็พี่หว้าที่รักและเป็นห่วงว่านนะ”

     ยิ่งพัทพูดปลอบก็ยิ่งทำให้ว่านร้องไห้ออกมาอีก พัทยังคงกอดและลูบหลังเพื่อนของเธอไว้

     “ร้องให้เต็มที่ พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องร้องอีก”

     ว่านร้องไห้จนพอแล้ว หญิงสาวเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาเลอะหน้าของเธอไปหมด ว่านมองหน้าพัทแล้วจับมือเพื่อนของเธอมากุมไว้

     “พัท เราจะไปอยู่ที่อังกฤษกับพี่หว้า พรุ่งนี้เราจะไปทำเรื่องลาออกจากมหาวิทยาลัยและก็ไปทำวีซ่า วันที่เราเดินทางพัทต้องไปส่งเรานะ”

     พัทตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนของเธอบอก

     “ห๊ะ! อะไรกัน ทำไมกะทันหันขนาดนี้ ว่านจะทิ้งเราไปจริง ๆ เหรอ”

     “เราขอโทษที่บอกกะทันหันแบบนี้ พี่หว้ามีคุยกับเรานานแล้ว แต่เรายังตัดสินใจไม่ได้ แต่คราวนี้เราคิดว่าเราคงต้องไปจริง ๆ” ว่านตอบแล้วยิ้มออกมาแบบเศร้า ๆ ซึ่งนัยน์ตาของเธอยังคงมีน้ำตาคลออยู่

     “ว่าน ไม่ว่ายังไง ไม่ว่าว่านจะอยู่ที่ไหน พัทคนนี้ก็ยังเป็นเพื่อนที่รักและหวังดีกับว่านนะ ถ้าไปอยู่ที่นู่นคิดถึงเราก็กลับมานะ” พัทพูดจบก็กอดเพื่อนเธออีกครั้ง

     “พัทต้องขอตัวกลับแล้วนะคะ ว่านนอนพักไปแล้ว ไว้พัทมาใหม่นะคะ” พัทเอ่ยลาแม่และพี่หว้า

     “เธอขึ้นไปคุยอะไรกับว่านมา แล้วว่านเป็นยังไงบ้าง” เต้รีบถามขึ้นเมื่อเดินออกจากบ้านของว่าน

     “นายรู้เรื่องว่านจะไปอยู่อังกฤษแล้วใช่ไหม เศร้าเนอะ เราน่าจะเชียร์ให้นายบอกชอบว่านมากกว่าพาว่านไปรู้จักคนแบบนั้น เราขอโทษ เราเสียใจจริง ๆ” พัทพูดด้วยความรู้สึกเสียใจเพราะเธอคิดว่าเธอเป็นต้นเหตุทำให้ว่านต้องเสียใจ

     “ไม่ต้องคิดมากหรอก ต่อให้ไม่มีอิง เราก็ไม่กล้าที่จะบอกอะไรกับว่าน เราขอแค่เป็นเพื่อนที่ดีกับเขาดีกว่าถ้าเราบอกไปแล้วไม่ได้เป็นอะไรเลย” ชายหนุ่มก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อยเช่นกัน

 

     พัทเดินมาที่คณะจิตรกรรมเพื่อตามหาใครบางคน และเธอก็พบเขาจนได้ ซึ่งชายหนุ่มกำลังนั่งวาดรูปอยู่

     “อิง เราขอคุยด้วยหน่อยสิ” พัทพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง

     “มีอะไรเหรอ” ชายหนุ่มวางดินสอในมือลง แล้วหันมาถามหญิงสาวที่มายืนอยู่ข้าง ๆ

     “นายไม่รู้จริง ๆ หรือแกล้งไม่รู้ นายจะไม่ถามหรือสนใจหน่อยเหรอว่าว่านหายไปไหน” พัทพูดด้วยความโมโหที่ได้ยินคำถามจากชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะไม่รู้สึกอะไรเลย

     “ไม่รู้” ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

     “ทำไมนายเป็นคนแบบนี้เนี่ย เราผิดหวังในตัวนายจริง ๆ อ้อ! เราแค่จะมาบอกว่าครอบครัวว่านจะย้ายไปอยู่ที่อังกฤษ จะไปวันจันทร์นี้ ถ้ายังพอมีหัวใจอยู่บ้างก็ไปส่งว่านด้วยนะ” พัทพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะสะบัดหน้าแล้วเดินกลับคณะของเธอไปด้วยความโมโหที่เห็นชายหนุ่มตรงหน้าทำเหมือนไม่สนใจเพื่อนของเธอเลย

     หลังจากหญิงสาวเดินกลับไป อิงขยำกระดาษที่เขากำลังวาดรูปอยู่แล้วโยนทิ้งไว้ข้างตัวของเขา ด้วยความรู้สึกโมโหและเสียใจในการกระทำของตน

 

     ช่วงเย็นวันเดียวกัน พัทรีบไปหาว่านที่บ้านเพื่อไปช่วยเพื่อนของเธอเก็บข้าวของที่จะนำไปอังกฤษด้วย

     “ของเยอะจังเลย เออ! แล้วบ้านนี้จะทำยังไง” พัทถามด้วยความอยากรู้

     “เห็นพี่หว้ากับแม่บอกว่าจะให้คนเช่า แต่ก็ไม่แน่ก็อาจจะขาย เราก็ไม่ค่อยรู้อะไรมาก แต่ช่วงแรก ๆ คงฝากให้ที่บ้านเต้ช่วยดูแลให้ก่อน” ว่านตอบขณะที่เธอยังคงเก็บข้าวของแพ็คลงกล่อง

     พัทเห็นว่านหยิบม้วนกระดาษใส่ไปในกล่องด้วย พัทยื่นมือไปหยิบมันขึ้นมาดู

     “จะเอาไปด้วยเหรอ” พัทถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นภาพที่อิงเคยวาดให้ว่าน

     ว่านได้ยินที่เพื่อนของเธอถามก็นั่งลงกับพื้นก่อนที่จะถอนหายใจออกมา

     “เราอยากเจออิงอีกสักครั้ง” ว่านพูดแล้วทำหน้าเศร้า แต่ในใจของเธอก็ยังหวังซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าจะหวังอะไร

     เมื่อสองสาวเหนื่อยจากการจัดของก็พากันลงไปนั่งเล่นที่หน้าบ้าน

     “พัทเราขอไปโทรศัพท์ก่อนนะ” ว่านพูดขึ้นเมื่อเธอคิดอะไรขึ้นมาได้ แล้วเดินเข้าไปหามือถือของเธอ

     “สวัสดีค่ะ นี่ใช่เบอร์อิงหรือเปล่าคะ” ว่านโทรหาอิงแต่เสียงปลายสายกลับไม่ใช่เขา

     “อิงไม่อยู่จ้ะ เขาลืมมือถือไว้ที่บ้าน เดี๋ยวแม่บอกให้เขาโทรกลับตอนเขากลับมานะจ๊ะ” แม่ของชายหนุ่มตอบ

     ว่านวางสายไปด้วยความผิดหวัง แล้วเดินกลับมาหาพัทที่นั่งเล่นคอยเธออยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน

     “โทรหาใครอะ ดูทำหน้าเข้า” พัทเห็นสีหน้าของว่านที่ดูเศร้า

     หญิงสาวไม่ตอบเพื่อนของเธอ เพราะกำลังผิดหวังที่ไม่ได้คุยกับชายหนุ่มที่เธอคิดถึงเขามาก

     “ไม่ตอบ กลับก็ได้ ไว้เจอกันที่สนามบินนะ” พัทขอตัวกลับแล้วบอกลาทุกคนที่บ้านของว่าน

     หลังจากที่พัทกลับไปแล้ว ว่านก็นึกถึงเต้ขึ้นมาจึงโทรไปหาชายหนุ่มที่บ้านซึ่งแม่ของเต้เป็นคนรับสายเช่นกัน

     “เต้ไม่อยู่นะ วางมือถือไว้ เห็นบอกว่านัดเพื่อนไว้ ได้ยินแว่ว ๆ ว่าชื่ออิงอะไรเนี่ยแหละจ้ะ”

     เมื่อว่านได้ยินชื่อของคนที่เต้ออกไปหาเธอก็รีบขออนุญาตแม่ออกไปนอกบ้านโดยอ้างว่าจะไปหาเต้ที่บ้าน

 

     เต้เดินมาที่สะพานตามที่ใครบางคนนัดเขาให้ออกมาเจอ

     “นายมีอะไรว่ามา” เต้พูดขึ้นเมื่อเดินมาเจอชายหนุ่มที่นัดเขาออกมา

     “เรารู้นะ ว่านายคิดกับว่านมากกว่าเพื่อน”

     อยู่ดี ๆ ชายหนุ่มตรงหน้าของเต้พูดกับเขาขึ้นมา

     “นายมีอะไรกันแน่ พูดมาเลย” เต้เริ่มหงุดหงิดเพราะสงสัยว่าอิงต้องการจะสื่ออะไร

     “เราเอาหัวใจที่มีค่าของใครบางคนมาคืนให้นาย”

     อิงพูดแล้วยื่นแหวนให้กับเต้ เต้รับแหวนจากมือของอิงมาด้วยความสงสัยมากขึ้นไปอีก

     “เราเสียใจ แต่นายคือคนที่จะดูแลหัวใจดวงนี้ได้” ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยความรู้สึกเสียใจ

     “นายเคยรักว่านบ้างหรือเปล่า” เต้ถามเพราะอยากให้เขาพูดความรู้สึกจริง ๆ ที่มีต้องหญิงสาวเพื่อนของเขา

     “ว่านยังมีนาย แต่ลินไม่มีใคร”

     เต้กำลังจะพูดตอบกลับ แต่เขาต้องตกใจเมื่อเห็นหญิงสาวเดินเข้ามาใกล้ ๆ ชายหนุ่มที่ยืนหันหลังให้เธออยู่

     ชายหนุ่มสะดุ้งเมื่อถูกสวมกอดจากทางด้านหลัง เขารีบแกะมือของหญิงสาวออกแล้วหันมามองหน้าเธอ

     “บอกว่านสักครั้งได้ไหมว่าอิงรักว่าน” หญิงสาวมองหน้าเขาด้วยสายตาที่เว้าวอนและน้ำเสียงที่สั่นเครือ

     อิงมองหน้าหญิงสาวตรงหน้าด้วยความรู้สึกสงสาร เขากำลังจะยกมือขึ้นลูบผมของเธอแต่เขาก็ต้องหยุดความคิดและเอามือของเขาทันที

     เต้หันหน้าหนีไม่มองคนทั้งคู่ เขายืนนิ่งและก้มหน้ามองลงไปในแม่น้ำด้วยความรู้สึกเห็นใจหญิงสาวอย่างสุดหัวใจ

     “อิงรักว่าน...” ชายหนุ่มพูดออกมาช้า ๆ ทำให้ให้หญิงสาวยิ้มออกมาทั้งน้ำตาเพราะนี่คือสิ่งที่เธออยากได้ยินมากที่สุด แต่ไม่ทันที่เธอจะดีใจได้นาน ชายหนุ่มยังพูดต่อท้ายมาอีกว่า “...แค่เพื่อน”

     ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแต่มันกลับดังก้องอยู่ในหูของหญิงสาว เธอรู้สึกหมดเรี่ยวแรงที่จะยืนขึ้นมาทันที ซึ่งเต้ที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็ได้ยินสิ่งที่อิงพูดเช่นกัน เขารีบหันกลับมามองว่านที่ยืนร้องไห้ด้วยความเสียใจ

     “ลาก่อนนะครับ เพื่อนที่แสนดี” อิงพูดจบก็เดินจากเธอไปด้วยความรู้เสียใจไม่ต่างกัน

     ว่านยังพยายามรวบรวมความกล้าครั้งสุดท้ายตะโกนไล่หลังชายหนุ่มที่กำลังเดินจากเธอไป

     “พรุ่งนี้ไปส่งเราที่สนามบินด้วยนะ เราจะรอ”

     ชายหนุ่มได้ยินที่หญิงสาวตะโกนบอก เขาหยุดยืนนิ่งสักพักแล้วค่อยเดินต่อโดยไม่หันมามองเธออีก

     เต้เดินมากอดหญิงสาวที่ยังคงยืนร้องไห้อยู่

     “กลับบ้านกันเถอะ” เต้พูดขึ้นแล้วจูงมือพาว่านเดินกลับบ้านซึ่งมืออีกข้างของเขายังคงกำแหวนที่พึ่งได้รับจากอิงก่อนหน้านี้ เขาไม่กล้าคืนแหวนให้กับว่านตอนนี้เพราะกลัวว่าเธอจะเสียใจมากขึ้นไปอีก

 

     ค่ำคืนนี้อาจจะเป็นค่ำคืนยาวนานสำหรับใครหลาย ๆ คน และไม่สามารถจะข่มตาหลับได้

     เมื่อพบก็มีจาก เมื่อมีรักก็มีทุกข์ เป็นสัจธรรมที่เราต้องยอมรับมัน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา