Mention Of Love (รัก)

-

เขียนโดย Nanpm

วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 20.52 น.

  12 ตอน
  0 วิจารณ์
  8,352 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) ลางสังหรณ์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     และแล้ววันแสดงละครก็มาถึงจนได้ ทุกคนที่ร่วมแสดงกำลังแต่งตัวกันอยู่ พี่จอมและทีมงานทุกคนก็กำลังเตรียมงานอยู่ด้านหน้าเวที

     “น้อง ๆ พร้อมกันหรือยัง ไม่ต้องตื่นเต้นนะ อีกยี่สิบนาทีละครจะเริ่มแล้ว เต็มที่กันนะทุกคน สู้ ๆ” พี่นกวิ่งเข้ามาบอกกับนักแสดงทุกคนในห้องให้รีบเตรียมตัว

     อิงขับรถไปรับลินที่บ้าน พ่อกับแม่ของลินบอกว่าหญิงสาวกำลังแต่งตัวอยู่บนห้อง ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะนั่งลง หญิงสาวเดินลงมาจากห้องพอดี

     “วันนี้ลินสวยจัง” อิงเอ่ยชมเมื่อเห็นหญิงสาวยิ้มแล้วรีบเดินมาหาเขา

     “สวยกว่านางเอกละครที่เราจะไปดูหรือเปล่าคะ”

     คำถามของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มถึงกับพูดอะไรไม่ออกได้แต่ยืนยิ้ม

     “ผมกับลินขอตัวไปก่อนนะครับ ละครใกล้จะเริ่มแล้ว” ชายหนุ่มมองนาฬิกาที่ข้อมือแล้วกล่าวลาพ่อกับแม่ของหญิงสาว

 

     ส่วนในห้องแต่งตัว ฉากแรกว่านต้องแต่งตัวดูมอมแมมแต่ดูยังไงก็ยังดูดี

     “เสื้อผ้าโทรม ๆ นี่ไม่สามารถทำลายออร่านางเอกได้เลยนะเนี่ย” พัทพูดแซวขึ้น

     “เกินไป รีบ ๆ เถอะ จะได้เวลาแล้ว ตื่นเต้นมากเลยพัท” ว่านพูดจบก็สูดลมหายใจเข้าแล้วทำสมาธิก่อนที่เธอจะขึ้นเวที

     ละครดำเนินเรื่องไปจนถึงฉากเต้นรำ ว่านเปลี่ยนชุดราตรีแล้วเดินออกมากลางเวที ผู้ชมจ้องมองเธอตาไม่กะพริบเพราะหญิงสาวราวเจ้าหญิงที่หลุดมาจากเทพนิยายจริง ๆ

     “นางเอกสวยจังเลยค่ะ” ลินกระซิบกับชายคนรักที่นั่งชมละครอย่างตั้งอกตั้งใจ ชายหนุ่มรู้สึกตัวเมื่อมือของลินมาจับมือของเขาไว้

     “ว่ายังไงนะครับลิน” อิงหันหน้ามาถามลินอีกครั้ง เพราะเขามัวแต่จ้องมองหญิงสาวที่กำลังแสดงละครอยู่บนเวที

     “โอ๊ย! อิงทำไมลินรู้สึกเจ็บตรงนี้มากเลย” ลินยังไม่ทันตอบคำถามอิง อยู่ ๆ เธอก็รู้สึกเจ็บที่หน้าอก หญิงสาวเอามือทาบไว้ตรงหน้าอกใกล้ ๆ หัวใจของเธอ

     “ลิน! เดี๋ยวเราออกไปข้างนอกกัน ไปโรงพยาบาลกันนะ”

     ชายหนุ่มประคองหญิงสาวออกจากโรงละคร แล้วรีบพาเธอมาที่รถ

     “อิง ลินไม่เป็นไรมากหรอก เมื่อกี้มันจี๊ดขึ้นมาข้างในนิดหน่อยเอง เรากลับเข้าไปดูละครกันต่อนะ”

     พอหญิงสาวมานั่งที่รถเธอหยิบยาในกระเป๋าขึ้นมากินแล้วดื่มน้ำเปล่าตาม ตอนนี้เธอรู้สึกว่าอาการเมื่อครู่หายไปทุกอย่างดูเหมือนเป็นปกติจึงชวนชายหนุ่มกลับเข้าไปดูละครต่อ แต่ชายหนุ่มรู้สึกเป็นห่วงว่าเธอจะเป็นอะไรขึ้นมาอีก จึงยืนยันว่าจะพาหญิงสาวกลับบ้าน

     “กลับบ้านดีกว่าลิน แต่ยังไงรออิงแป๊บนึงนะ อิงเอาดอกไม้ไปฝากแสดงความยินดีกับเพื่อนไว้ก่อน”

     หญิงสาวพยักหน้า แล้วอิงก็เดินถือช่อดอกไม้ไปฝากไว้กับพี่ทีมงานคนหนึ่ง

 

     เมื่อละครจบลง ผู้ชมปรบมือเพื่อเป็นกำลังใจให้กับนักแสดงและทีมงานทุกคน ว่านเดินลงจากเวทีมาที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที

     “ว่านจ๋า มีคนฝากดอกไม้มาให้จ้ะ”

     พี่นกยื่นช่อดอกไม้ส่งให้กับว่าน หญิงสาวกำลังจะเอ่ยปากถามว่าเป็นใครที่ให้มา พี่นกรีบเดินออกไปเสียก่อนเพราะมีงานจะต้องเคลียร์ หญิงสาวมองที่ช่อดอกไม้แล้วเห็นการ์ดเสียบอยู่จึงหยิบขึ้นมาดู

     “สำหรับมิตรภาพดี ๆ เป็นกำลังใจให้ครับ จากอิง”

     หญิงสาวยิ้มเมื่อเห็นข้อความบนการ์ดจากชายหนุ่ม พัทเดินพาแม่กับพี่หว้าเข้ามาหาว่านที่ห้องเปลี่ยนชุด ลูกหว้าเห็นน้องสาวของเธอกำลังยืนยิ้มมองช่อดอกไม้ที่อยู่ในมือ

     “ว่าไงจ๊ะสาวน้อยยังไม่เปลี่ยนชุดอีก เอ๊ะ! ดอกไม้ใครให้มานะ” พี่หว้าแกล้งถามเมื่อเห็นน้องสาวยิ้มแบบอาย ๆ

     “รอเดี๋ยวนะคะแม่ พี่หว้าด้วย” ว่านไม่ตอบคำถามพี่สาวของเธอ แต่เปลี่ยนเรื่องแล้วรีบวิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

     ว่านเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินออกมาที่หน้าโรงละครพร้อมแม่กับพี่สาวเพื่อรอเต้ที่ยังไม่ออกมา

     “นั่นแน่ ได้ช่อดอกไม้ช่อโตมาจากใครนะ” พัทกำลังจะกลับบ้านแต่เห็นว่านเดินออกมาเลยรีบวิ่งมาหา แต่เห็นช่อดอกไม้ที่อยู่ในมือของว่านเลยแซวขึ้นมา เพราะเธอคิดว่าต้องเป็นเพื่อนของเธอแน่ ๆ ที่มอบให้

     “นึกว่ากลับไปแล้วเสียอีก เต้มาพอดี เดี๋ยวพวกเราต้องกลับแล้ว ไว้เจอกัน” ว่านยิ้มแต่ไม่ตอบ พอดีกับที่เต้เดินออกจึงบอกลาพัททันที

     “ไม่ตอบเนี่ยมีพิรุธนะ ไปก็ได้ พัทกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะคุณแม่ พี่ลูกหว้า” พัทลาครอบครัวของว่านเรียบร้อย เธอก็วิ่งกลับไปหาพ่อกับแม่ของเธอที่ยืนรอเธออยู่

     ตลอดทางที่นั่งรถกลับบ้าน เต้มองว่านที่นั่งยิ้มมองช่อดอกไม้ที่อยู่ในมือ จึงเอ่ยปากถามขึ้น

     “ใครให้มาเหรอ”

     ว่านยิ้มก่อนที่จะตอบว่าอิงเป็นคนให้เธอมา เมื่อชายหนุ่มได้ยินเช่นนั้นก็เงียบลงแล้วหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างรถจนถึงบ้านของว่าน เต้กล่าวขอบคุณแม่และพี่หว้าที่ให้ติดรถกลับมาด้วย แล้วชายหนุ่มก็ถีบจักรยานกลับบ้านของเขา ระหว่างทางก็นึกถึงว่านที่กำลังจ้องมองดอกไม้แล้วยิ้มอย่างมีความสุข จนเขาพูดกับตัวเองออกมาว่า “คิดอะไรเนี่ย เรากับว่านเป็นเพื่อนกัน จำไว้สิ”

 

     “อิง ๆ นายจะไปวาดรูปที่ไหนวะ” เพื่อนร่วมคณะวิ่งตามหลังอิงมาแล้วถามขึ้น

     “คิดอยู่ว่าจะไปหาที่เงียบ ๆ แล้ววาดภาพคนที่รู้ใจ คิดว่าเสาร์นี้จะไปทะเล แล้วนายล่ะ” อิงตอบและถามกลับบ้าง

     “ยังไม่รู้เลยว่าที่ไหนถึงจะได้ไอเดียดี ๆ เดี๋ยวเราไปก่อนนะ”

     อิงพยักหน้าแล้วเดินมาที่รถ เพื่อจะขับรถกลับบ้าน แต่ยังไม่ทันที่จะสตาร์ทรถเสียงมือถือของเขาก็ดังขึ้น

     “อะไรนะครับแม่ ครับ ๆ เดี๋ยวผมรีบไป” อิงรับสายจากแม่ของเขาและต้องตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่แม่ของเขาบอก

     หลังจากวางสายชายหนุ่มก็รีบขับรถไปที่โรงพยาบาล

     “สวัสดีครับคุณป้า ลินเป็นยังไงบ้าง” อิงรีบเดินมาไหว้แม่ของลินที่ยืนอยู่ตรงหน้าห้องซึ่งลินนอนพักอยู่และชายหนุ่มก็ถามถึงอาการของหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง

     “หมอให้ยาก็หลับไปสักพักแล้ว ไปหาที่นั่งคุยกับป้าหน่อยนะ”

     ชายหนุ่มพาแม่ของลินหาที่นั่งคุยตามที่บอก

     “คราวนี้หมอบอกป้าว่า ลินต้องรีบได้รับการผ่าตัด ทิ้งไว้นานอาการก็จะแย่ลงเรื่อย ๆ”

     “แล้วหมอเขามีกำหนดวันมาหรือยังครับ” ชายหนุ่มมองสายตาที่กังวลและเศร้าสร้อยของผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างเขา

     “หมอบอกว่าเร็วสุดก็อาทิตย์หน้า ป้าอยากให้อิงช่วยอยู่ข้าง ๆ ลินเป็นกำลังใจ ปลอบให้เขาหายกลัว รู้ใช่ไหมว่าเขาไม่อยากผ่าตัด”

     ชายหนุ่มพยักหน้ารับ แล้วพูดให้แม่ของหญิงสาวหายกังวลใจว่าเขาจะช่วยอย่างเต็มที่

     “ป้าขอบใจอิงมากนะ เรากลับไปดูลินที่ห้องดีกว่า” แม่ของหญิงสาวชวนอิงกลับไปหาลินเพราะปล่อยให้เธออยู่คนเดียวนานแล้ว

 

     ว่านกำลังรับประทานอาหารเย็นพร้อมแม่กับพี่หว้าเสร็จ หญิงสาวก็เดินมาช่วยพี่หว้าล้างจาน

     “พี่หว้า ว่านอยากอยู่ที่นี่” หญิงสาวเริ่มพูดขึ้นมา

     “คิดดีแล้วเหรอ พี่ขอเหตุผลได้ไหม” ลูกหว้าถามเหตุผลจากน้องสาวของเธอ

     “ว่านเกิดที่เมืองไทยก็ต้องอยู่เมืองไทยสิคะ ถ้าแม่ส่งว่านเรียนไม่ไหวจริง ๆ ว่านทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยก็ได้นะ” ว่านรีบให้เหตุผล

     “พี่ยังอยู่ที่นี่อีกเป็นเดือน ว่านมีเวลาตัดสินใจนะ” ลูกหว้าทิ้งท้ายให้น้องสาวลองคิดใหม่อีกรอบ

     “ค่ะ” ว่านตอบตกลงไป แต่ในใจเธอยังคงมีคำตอบเช่นเดิม

     ทั้งสองสาวล้างจานเสร็จก็เดินออกมานั่งดูทีวีกับแม่ของพวกเธอ

     “เห็นแม่บอกว่าจะไปเชียงใหม่วันศุกร์นี้ แล้วแม่จะกลับมาวันไหนคะ” ว่านถามแม่ของเธอขึ้นมา

     “วันอังคารเย็นจ้ะ มีอะไรหรือเปล่า อยากไปกับแม่ไหม” แม่ของหญิงสาวตอบ

     “แม่ขาว่านอยากไปด้วยจัง แต่ติดเรียนเดือนหน้าจะสอบแล้วด้วย” ว่านทำเสียงอ้อนแม่ของเธอ

 

     “ลินตื่นแล้วเหรอ ดื่มน้ำก่อนนะ” อิงถามขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวที่อยู่บนเตียงลืมตาขึ้นมา แล้วชายหนุ่มก็เทน้ำใส่แก้วมาให้หญิงสาวดื่ม

     “เสียดายจังที่ลินป่วย อิงกะว่าจะพาลินไปเป็นนางแบบให้ผมวาดภาพส่งอาจารย์เสียหน่อย เราจะได้ไปเที่ยวทะเลด้วย”

     “ลินก็เสียดายอยากไปด้วยจริง ๆ ค่ะ แต่ถ้าไปกลัวอิงจะวาดภาพไม่เสร็จ ไม่มีงานส่งอาจารย์พอดี” หญิงสาวตอบแล้วยิ้มแบบเศร้า ๆ

     “ไม่เป็นไรนะ ถ้าลินผ่าตัดแล้วลินก็จะหาย เราก็จะได้ไปเที่ยวด้วยกัน อย่าดื้อกับคุณหมอสิคะ จะได้หายไว ๆ” ชายหนุ่มเอามือลูบที่แก้มของหญิงสาว

     “สัญญานะ” หญิงสาวยกนิ้วก้อยให้ชายหนุ่มเกี่ยวเพื่อเป็นการสัญญา

     “อิงมานั่งเฝ้านานแล้วกลับก่อนเถอะ เดี๋ยวป้าดูแลลินต่อเอง” แม่ของลินเปิดประตูเข้ามาแล้วพูดขึ้น

     “อิงกลับก่อนนะลิน สวัสดีครับคุณป้า” ชายหนุ่มเอ่ยลาแล้วเดินออกจากห้องไป

     เต้กำลังเดินไปรับยาที่ห้องจ่ายยาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เนื่องจากวันนี้แม่ของเขาปวดท้องกะทันหันจึงรีบพามาให้อาหมอเช็กอาการดู แต่แล้วเขาก็เห็นใครคนหนึ่งออกมาจากลิฟต์ซึ่งเป็นชายหนุ่มหน้าตาคุ้น ๆ ที่เขารู้จัก แต่ชายหนุ่มคนนั้นไม่ทันได้เห็นเขา

     “นั่นมันอิงนี่ มาทำอะไรที่นี่ ใครเป็นอะไร” เต้บ่นพึมพำด้วยความรู้สึกสงสัยและสังหรณ์ใจแปลก ๆ

 

     เช้าวันต่อมา เต้กับว่านนั่งอ่านหนังสือกันอยู่ใต้ต้นไม้ข้าง ๆ คณะ

     “ว่าน เดี๋ยวเต้มานะ คอยอยู่นี่อย่าไปไหนนะ” ชายหนุ่มย้ำกับเพื่อนสาวของเขา

     หญิงสาวงงว่าทำไมอยู่ ๆ เต้ทำท่าลุกลี้ลุกลนขึ้นมา แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรพยักหน้ารับเฉย ๆ แล้วตั้งใจอ่านหนังสือต่อ

     พัทกำลังเดินเข้ามาหาว่าน แต่กลับโดนเต้วิ่งมาตัดหน้าแล้วดึงตัวไปคุยกันที่อื่น

     “อะไรของนายเนี่ย จะลากฉันมาทำไม มีอะไร” พัทสะบัดมือที่รู้สึกเจ็บเพราะโดนชายหนุ่มตรงหน้าดึงมาอย่างแรง

     “เข้าเรื่องเลยนะ เธอกับอิงรู้จักกันมานานแล้วใช่ไหม แล้วสนิทกันมากหรือเปล่า” เต้เริ่มตั้งคำถาม

     “ใช่ ก็ตั้งแต่ ม.ต้น แล้วมีอะไรอ่ะ” พัทตอบแต่สงสัยว่าทำไมเต้ถึงถามเธอเรื่องนี้

     “อิงเขามีใครหรือยัง หมายถึงมีแฟนหรือคนรักน่ะ” เต้ถามต่อ

     “จริง ๆ อิงไม่เคยพูดถึงนะ จากที่เรียนด้วยกันมามีคนมาชอบอิงนะ แต่ไม่เคยเห็นอิงสนใจใคร ก็พึ่งมาเห็นสนใจว่านนี่ล่ะ และเราก็คิดว่าว่านก็คิดเหมือนกันกับอิง” พัทตอบ

     “เราแค่สังหรณ์ใจ กลัวว่านจะผิดหวังน่ะ” เต้พูดแล้วหันไปมองหญิงสาวที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ไม่ไกลมากนัก

     “เดี๋ยวที่นายถามนี่ ไม่ใช่ว่านายคิดกับว่านมากกว่าเพื่อนนะ” พัทมองหน้าเต้อย่างสงสัย

     “จะบ้าเหรอ เราเป็นเพื่อนแล้วโตด้วยกันมา เราก็ต้องเป็นห่วงเพื่อนสิ” เต้รีบแก้ตัว

     “ก็แล้วไป ไม่งั้นฉันคงลำบากใจ” พัทพูดแล้วทำเสียงเศร้า ๆ

     “ทำไมอ่ะ” เต้อยากรู้ว่าทำไมหญิงสาวถึงพูดเช่นนั้น

     “ไม่มีอะไร ไปหาว่านกันไหม ถ้านายมีเรื่องจะถามแค่นี้เราไปหาว่านกันดีกว่า” พัทรีบตัดบท ซึ่งชายหนุ่มก็เห็นด้วยจึงพากันเดินไปหาว่าน

     “อ้าว! เดินมาด้วยกันได้ยังไง” ว่านถามขึ้นเมื่อเห็นเต้กับพัทเดินมาพร้อมกัน

     “เราพึ่งมาถึงเจอเต้พอดีน่ะ ได้เวลาเรียนแล้วไปเข้าเรียนกันเถอะ” พัทรีบชวนทุกคนเข้าเรียน

     พัทเดินตามหลังเต้กับว่าน ในใจของหญิงสาวรู้สึกสงสารและเป็นห่วงเต้ขึ้นมา เพราะจริง ๆ แล้วถึงแม้เธอจะคอยหาเรื่องชายหนุ่มและถึงแม้เขาจะปากไม่ดีใส่เธอบ่อย ๆ แต่ไม่รู้ทำไมเธอไม่เคยโกรธหรือรังเกียจเขาเลย แต่กลับรู้สึกดีด้วยและเห็นเขาเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง เมื่อได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มถามและคุยกับเธอก็ทำให้รู้ว่าเต้ต้องแอบรักว่านแน่ ๆ แต่เธอก็รู้ว่านไม่ได้คิดแบบนั้นกับชายหนุ่มเลย

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา