ยอดสตรีฉางอิ๋ง

-

เขียนโดย Xiaobei

วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 17.20 น.

  35 ตอน
  0 วิจารณ์
  23.36K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 17.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

18) การกลับมาของเว่ยฮ่วน (1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เจียงเจิงพลันรู้สึกยากขึ้นมา ปลายหอกเงินประกายขาวมาจ่ออยู่ที่คอของแม่นมเฮ่อเรียบร้อยแล้ว พวกลวี่ปิ้นต่างกำลังนิ่งงันไปอย่างพูดไม่ออก กลับได้ยินเขากล่าวด้วยสีหน้าท่าทางเสียงจริงจังอย่างไม่รีบร้อนว่า "คุณหนูใหญ่มีปฏิกิริยารวดเร็ว แต่ว่าฝีมือยังคงนิ่งไม่พอ"

"ลุงเจียง ท่านทำข้าตกใจเกือบตายแล้ว!" หลายปีมานี้เว่ยฉางอิ๋งประมือกับเจียงเจิงไม่น้อย เจียงเจิงถือกำเนิดในตระกูลผู้คุ้มกัน วิชาฝีมือกับประสบการณ์ในแผ่นดินต่างก็มีพร้อม เขาเน้นในเรื่องการถ่ายทอดประสบการณ์ในการต่อสู้มากกว่า ดังนั้นแม้กระทั่งตอนนี้ ก็ยังไม่ลืมชี้แนะความผิดพลาดของเว่ยฉางอิ๋ง

ส่วนเว่ยฉางอิ๋งกับเจียงเจิงประมือกันจนชินแล้ว เห็นเขาขยับหอก นางจึงคิดจะไปเอามีดมาช่วยแม่นมเฮ่อตามสัญชาตญาณ วิ่งไปสองก้าวถึงตั้งสติขึ้นมาได้ว่าเจียงเจิงจะฆ่าแม่นมเฮ่อได้อย่างไร?

ตอนนี้นางจึงหยุดเท้าลงแล้วหันกลับมากล่าวบ่นว่า "อยากจะทดสอบความนิ่งในการรับมือศัตรูของข้า อย่างน้อยก็ช่วยพูดล่วงหน้าก่อนสิ!"

"หากว่าเตือนคุณหนูใหญ่ แล้วการชี้แนะจะได้ผลหรือ?" เจียงเจิงกล่าวเน้นเสียงหนักว่า "คุณหนูใหญ่เห็นแล้วสินะ ในการต่อสู้ที่แท้จริง ยิ่งนิ่งสงบก็ยิ่งชนะง่ายขึ้น แม้ว่าเมื่อครู่คุณหนูใหญ่จะมีปฏิกิริยาเร็ว แต่ว่าถึงจะเร็ว แต่ก็ใช่ว่าจะถูก คุณหนูใหญ่อยากจะเป็นอย่างยอดฝีมือชั้นหนึ่ง ยังต้องฝึกซ้อมมากขึ้น โดยเฉพาะความนิ่งในการรับมือ มันคือรากฐานที่จะเอาชนะในอันตรายได้"

เว่ยฉางอิ๋งรู้สึกว่ามีเหตุผลมาก "จริง หากเป็นอย่างนั้น วันหลังลุงเจียงก็มาอีกสักหลายกระบวนท่าก็ดี"

จุดมุ่งหมายของนางคือการได้เป็นยอดฝีมือชั้นหนึ่ง และสามารถจัดการเสิ่นจั้งเฟิงจนสวนกลับไม่ได้ทั้งชีวิต เพื่อให้มีชีวิตที่ดีงามมีความสุขทั้งชีวิต!

"และในลานนี้ ผู้ที่สูงศักดิ์ที่สุดก็ไม่มีใครเหนือไปกว่าคุณหนูใหญ่แล้ว ดังนั้นเมื่อครู่เพื่อไปช่วยแม่นม คุณหนูใหญ่มุ่งไปยังชั้นวางอาวุธ นั่นหมายความว่าท่านเห็นว่าสิ่งอันตรายคือปลายหอกของข้า ไม่เพียงแต่จะไม่ถูกเท่านั้น ยังผิดอย่างมหันต์ด้วย!" เจียงเจิงกล่าวเสียงหนัก และอธิบายอย่างอดทนว่า "หากว่าเป็นยอดฝีมือที่มีประสบการณ์ จะต้องพุ่งเข้าไป อาศัยโอกาสที่ข้าแทงแม่นมของคุณหนูใหญ่คนนี้ตาย อาศัยจังหวะที่ยังไม่ได้ดึงหอกออกมาเข้าไปสู้ระยะประชิดแน่ อย่างนี้ไม่ใช่กลายเป็นการเปลี่ยนมือเปล่าไร้คมที่อ่อนแอให้เป็นข้อได้เปรียบหรือ? ดังนั้นคุณหนูใหญ่ฝึกฝนอย่างลำบากก็เป็นส่วนของการฝึกฝน แต่การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเฉพาะหน้าก็ยังต้องฝึกอีก!"

เขามีท่าทีจริงจังและชี้แนะอย่างตั้งใจเข้มงวด แววตากลับยากจะกลบความภาคภูมิใจได้ เขาเก็บหอกกลับมาอย่างสบายๆ และประสานมือให้กับแม่นมเฮ่ออย่างไร้ความจริงใจ แล้วเอ่ยอย่างกลัวคนอื่นจะมองไม่ออกว่าเขาจริงใจว่า "เพี่อแนะคุณหนูใหญ่ ทำให้ท่านตกใจแล้ว!"

ดูสิว่าหญิงไร้เหตุผลอย่างเจ้า ตอนนี้ยังจะกล้ามาพูดจาไร้สาระอะไรอีก!

เจียงเจิงคิดในใจอย่างรวดเร็ว เพื่อเรียนวิชาฝีมือจริงๆ เว่ยฉางอิ๋งจึงไม่เคยจำกัดเขา ในลานนี้สามารถกล่าวได้ว่าเจียงเจิงกล่าวถือเป็นที่สุด โดยเฉพาะตอนที่ชี้แนะ เจียงเจิงมักลงมือโดยไม่บอกกล่าวมาก่อนเสมอ มักลอบลงมือหลายต่อหลายครั้ง เพื่อฝึกฝนเว่ยฉางอิ๋งให้รับมือศัตรูกับการเปลี่ยนแปลงเฉพาะหน้า คราวนี้แม้ว่าการลงมือกับแม่นมเฮ่อจะน่าตกใจมาก แต่ว่าเมื่อเกี่ยวพันไปถึงการสั่งสอนเว่ยฉางอิ๋งแล้ว คิดว่าคุณหนูใหญ่เว่ยอยู่ตรงนี้ หญิงไร้เหตุผลที่น่ารังเกียจคนนี้ก็คงไม่สามารถทำอะไรตนเองได้!

แม้ว่าจะไม่สามารถทำร้ายแม่นมของเว่ยฉางอิ๋งจริงๆ ได้ แต่ว่าลงมือแสดงกำลังออกมา ทำให้นางรู้สึกไปว่าอาจจะต้องตายอยู่ตรงนี้ขึ้นมา ทำให้นางเกิดความจำที่ลึกซึ้งไว้นับว่าก็ยังใช้ได้อยู่!

เจียงเจิงคิดอย่างสมน้ำหน้าในใจ ‘กับอีแค่หญิงที่เรือนหลังคนหนึ่ง คิอว่าตอนนั้นข้าอยู่ในแผ่นดินอย่างเปล่าๆ หรือ เห็นแก่คุณหนูใหญ่ ทำให้ฆ่าเจ้าจริงๆ ไม่ได้ แต่ทำให้เจ้าตกใจก็ยังได้อยู่!’

คิดไม่ถึงว่าแม่นมเฮ่อกลับใจกล้ามาก มากเกินกว่าที่เจียงเจิงจะคิดถึง แม้ว่านางจะถูกทำให้ตกใจจนนิ่งงันไป แต่ว่าตอนนี้เจียงเจิงมาขอโทษ นางกลับพลันรู้สึกได้ขึ้นมาทันที และร้องดังราวกับสายฟ้า "เจ้าเฒ่าสารเลวที่น่าตาย! เจ้า..."

เห็นทั้งสองคนกำลังจะทะเลาะกันขึ้นมาอีกครั้ง เว่ยฉางอิ๋งกำลังจะคลายสถานการณ์อย่างปวดหัว ประตูลานที่เปิดออกครึ่งหนึ่งตอนแม่นมเฮ่อเข้ามาก็พลันมีคนหนึ่งเข้ามา นางมีอายุประมาณสิบสามสิบสี่ปี ใบหน้ากลมอิ่มเอิบ สวมชุดไหมสีเขียวเอาไว้ เพราะรีบร้อนวิ่งเข้ามา รองเท้าไม้จึงกระทบกับพื้นของระเบียงคดดังก้อง ก้าวพุ่งลงไปที่ลานแล้วรีบคารวะอย่างรีบร้อนพร้อมกับร้องด้วยท่าทีดีใจว่า "คุณหนูใหญ่ ท่านอาเฮ่อ ผู้นำตระกูลกับนายท่านสามกลับมาแล้ว ตอนนี้อยู่ที่เรือนหน้า ฮูหยินให้บ่าวมาเชิญคุณหนูใหญ่ไปที่ฮูหยินผู้เฒ่าเพื่อคอยต้อนรับ!"

"ท่านปู่กับท่านอาสามกลับมาแล้วหรือ?" เว่ยฉางอิ๋งได้ยิน ใบหน้าก็มีแววยินดี และพลันทิ้งการทะเลาะกันของแม่นมเฮ่อกับเจียงเจียงไว้ทันที "ไม่รู้ว่าผลการกวาดล้างรังโจรเป็นอย่างไร?"

นางเป็นพวกชอบต่อสู้เกลียดตัวอักษรมาตั้งแต่กำเนิด อยู่ในตระกูลเว่ยที่แต่ละรุ่นแต่ละยุคต่างก็เป็นขุนนางฝ่ายบุ๋นนับว่าแปลกประหลาดมาก ยังดีที่ท่านพ่อของนางคือบุตรของภรรยาเอก และยังเป็นบุตรชายสายตรงคนเดียวที่เติบโตขึ้นมาได้ เว่ยฮ่วนกับฮูหยินผู้เฒ่าซ่งเป็นพวกรักใครก็รักบ้านเขาด้วย ทั้งยังรักสงสารหนึ่งบุตรสาวหนึ่งบุตรชายของบ้านใหญ่ที่ยากจะได้รับการชี้แนะได้รับการปกป้องจากบิดาด้วย จึงทำให้รักใคร่และใจกว้างกับนางและเว่ยฉางเฟิงมาก จึงยอมให้นางจับอาวุธ

ก่อนหน้านี้เว่ยฮ่วนตามซ่งหานออกไปที่เขาเฟิ่งฉี เว่ยฉางอิ๋งที่คิดว่าตนเองมีฝีมือไม่เลวแล้วนั้นก็ไปขอร้องว่าอยากจะติดตามไปด้วยหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายที่ไปขอนั้นเว่ยฮ่วนเกือบจะตอบตกลงแล้ว แต่กลับถูกฮูหยินผู้เฒ่าซ่งที่รีบตามมาฝืนลากกลับไปที่เรือนหลัง ทำให้นางหมดอารมณ์มาก

แม้จะเป็นอย่างนั้น ตอนนี้เมื่อได้ยินว่าเว่ยฮ่วนกับเว่ยเซิ่งเหนียนกลับมาแล้ว เว่ยฉางอิ๋งจึงดีใจขึ้นมา และสนใจถามถึงผลการต่อสู้

จูสือ สาวใช้ตัวน้อยที่ถูกส่งมาบอกข่าวกล่าวอย่างลำบากใจว่า "เมื่อครูพี่ฮว่าเหมยไปที่เรือนเสียนซวง เร่งให้บ่าวรีบมาเชิญคุณหนูใหญ่ สถานการณ์อย่างละเอียดเป็นอย่างไร บ่าวเองก็ไม่รู้!"

คราวนี้แม่นมเฮ่อไม่มีอารมณ์จะมาสนใจทะเลาะกับผู้คุ้มกันเจียงเจิงแล้ว นางรีบกล่าวว่า "คุณหนูใหญ่ พวกเรารีบกลับไปเปลี่ยนชุดที่เรือนเสียนซวงเถอะ!"

แม้ว่าเว่ยฮ่วนกับฮูหยินผู้เฒ่าซ่งจะรักใคร่ตามใจหลานสาวสายตรงมาก แต่ไม่ได้ใส่ใจที่เว่ยฉางอิ๋งไปสายเสียมารยาทไปหลายครั้ง แต่ว่าเขากลับมาพร้อมกับทหารที่ไปปราบโจร เหน็ดเหนื่อยมาตลอดทาง ได้เห็นหลานสาวที่รักใคร่ตามใจมาตลอดไปรอคอยต้อนรับ ก็ถือว่าน่ายินดี แน่นอนว่าแม่นมเฮ่อต้องแนะนำให้เว่ยฉางอิ๋งรีบไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

"ควรเป็นอย่างนั้น!" เว่ยฉางอิ๋งพยักหน้า แล้วประสานมือให้กับเจียงเจิงพลางกล่าวว่า "ลุงเจียง วันนี้เรียนถึงเท่านี้ก่อน ขอข้าไปต้อนรับท่านปู่!"

เจียงเจิงคารวะกลับแล้วกล่าวว่า "หัวหน้าตระกูลกลับมาคือเรื่องใหญ่ เชิญคุณหนูใหญ่เถอะ!"

เห็นเว่ยฉางอิ๋งทำท่าประสานมือคารวะอย่างที่พบเห็นกันอยู่บ่อยครั้งในแผ่นดินได้อย่างคล่องแคล่ว มากยิ่งกว่าการคารวะอย่างหญิงสาวมากแล้ว สีหน้าของแม่นมเฮ่อก็คล้ำขึ้นมา!

กลับไปที่เรือนเสียนซวง เช็ดเหงื่อที่ไหลมาตามหน้าผากและข้างแก้ม จากนั้นก็เปลี่ยนชุดจิ้น[1]พร้อมคลุมด้วยชุดแบบหญิงสาวมีตระกูลที่แขนเสื้อกว้างและรัดด้วยเข็มขัด แม่นมเฮ่อรีบร้อนจัดแต่งทรงผมให้กับเว่ยฉางอิ๋ง รวมถึงใส่เครื่องประดับอีกเล็กน้อย เมื่อไปถึงหน้าฮูหยินผู้เฒ่าแล้วกลับเห็นว่าห้องโถงเต็มไปด้วยผู้คนแล้ว ส่วนเว่ยฮ่วนกับเว่ยเซิ่งเหนียนนั้นยังไม่ถึง

เว่ยฉางอิ๋งถอนหายใจและคารวะพลางกล่าวทักทายกับผู้ใหญ่และคนรุ่นเดียวกันที่มาถึงก่อน ถูกฮูหยินซ่งถลึงตาใส่เข้า นางก็ปั้นหน้าผีอย่างซุกซน ไม่รอให้ฮูหยินซ่งมาจัดการ ตัวนางก็รีบไปหลบซ่อนที่ด้านหลังของซ่งไจ้สุ่ยก่อน

ซ่งไจ้สุ่ยลอบหยิกนางแล้วกล่าวเสียงเบาว่า "เจ้ามีมารยาทหน่อยสิ! จะแต่งงานอยู่แล้ว!"

"ท่านปู่ทำไมยังไม่มาอีก?" เดิมเว่ยฉางอิ๋งก็ไม่ใส่ใจในคำพูดนางอยู่แล้ว ทำเป็นไม่ได้ยิน แล้วกล่าวถามเสียงเบา

เห็นนางดื้อดึงอย่างนี้ ซ่งไจ้สุ่ยก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาแล้วกล่าวว่า "ข้าเองก็ไม่รู้ เมื่อครู่ท่านย่าส่งคนไปถามแล้ว เหมือนจะพูดว่าซ่งจ่างสื่อเองก็มาด้วย ตอนนี้กำลังคุยธุระกันอยู่ที่เรือนหน้า"

"ซ่งจ่างสื่อมีท่านอาสามคอยพูดคุยเป็นเพื่อนไม่พอหรือ ทำไมยังต้องให้ท่านปู่อยู่ด้วยล่ะ?" เว่ยฉางอิ๋งพลันรู้สึกสงสัยขึ้นมา

..........................................

[1] ชุดจิ้น : เป็นชุดที่คล้ายชุดกีฬา แขนเสื้อและขากางเกงจะรัดแน่นเพื่อให้เหมาะต่อการออกท่วงท่าต่อสู้

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา