ยอดสตรีฉางอิ๋ง

-

เขียนโดย Xiaobei

วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 17.20 น.

  35 ตอน
  0 วิจารณ์
  23.23K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 17.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

30) ล้มเหลวอีกครั้ง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ท่านปู่ท่านย่ากำลังวุ่นกับการถกเถียงกัน แน่นอนว่าเว่ยฉางอิ๋งไม่รู้เรื่องด้วย วันต่อมานางก็ถูกซ่งไจ้สุ่ยเร่งให้ไปหาฮูหยินผู้เฒ่าซ่งเพื่อพูดแทนซ่งไจ้สุ่ยอีกแล้ว ตอนเริ่มแรกที่พูดยังคงพูดเหมือนอย่างเดิมที่พูดกับฮูหยินซ่ง "วังตะวันออกมีข่าวลือมามากมาย ได้ยินว่าสองปีมานี้ฮ่องเต้รักใคร่สนมขั้นสามแซ่เมี่ยวมาก นางทั้งอายุน้อยและมีรูปโฉมงดงาม นอกจากนี้สนมแซ่เมี่ยวยังรับองค์ชายสิบหกและองค์ชายสิบเจ็ดมาเลี้ยงอีก จึงทำให้มีสายในราชสำนักนักมากขึ้น ตอนนี้ฐานะของฮองเฮาเองก็ไม่มั่นคง ฐานะของฮองเฮาอันตราย อ้างจากสถานการณ์ของรัชทายาทสองคนก่อนของรัชสมัยนี้ ฐานะของรัชทายาทก็สั่นคลอนเช่นกัน รัชทายาทที่ถูกปลดส่วนมากมีแต่ต้องตาย แม้ว่าชายารัชทายาทที่ถูกปลดจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ว่าก็มีชีวิตไปอย่างนั้นเอง งานแต่งอย่างนี้จะมีอะไรน่าแต่งหรือ?"

ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งยิ้มบางๆ แล้วกล่าวว่า "เมื่อวานนี้เจ้ามาหาย่าเพื่อเรื่องนี้หรือ?"

เว่ยฉางอิ๋งแอบฟังท่านปู่ท่านย่าทะเลาะกัน ก็รู้สึกหวาดผวาอยู่บ้าง นางฟังแล้วก็มองฟ้ามองดินพลางกล่าวว่า "ใช่แล้ว ท่านย่า พวกเราช่วยท่านพี่กันดีไหม ข้าได้ยินนิสัยของรัชทายาทแล้ว รู้สึกว่าขนาดสาวใช้บ้านเราหากแต่งงานกับเขายังไม่ยุติธรรมเลย"

"เจ้าพูดจาไร้สาระเรื่อยๆ แล้ว" ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งปรายตามองหลานสาวที่มีท่าทีหวาดผวาแล้วรู้สึกน่าขัน จากนั้นก็กล่าวตำหนิไปอีก แต่ว่าน้ำเสียงกลับเอ็นดูรักใคร่มาก "รัชทายาทเป็นเชื้อพระวงศ์ เป็นถึงองค์ชายของประเทศ เจ้าพูดไร้สาระอย่างนี้ได้อย่างไร อยู่บ้านพูดจนเคยชิน ภายหลังไม่ใช่ว่าสร้างแต่ภัยหรือ เจ้าจะต้องแต่งงานไปที่เมืองหลวงนะ"

เว่ยฉางอิ๋งโถมตัวเข้าใส่ร่างของท่านย่าแล้วกล่าวออดอ้อนว่า "ข้าเองก็มีแต่ต่อหน้าท่านย่าเท่านั้นที่พูดจาไร้สาระอย่างนี้ ข้ารู้ว่าท่านย่ารักข้าที่สุดแล้ว! ต่อให้ข้าทำอะไรผิดพลาดไป ก็ยังมีท่านย่าอยู่!" ว่าแล้วก็พิงซบฮูหยินผู้เฒ่าซ่งพลางคลอเคลียไปมาทั้งยังกล่าวเสียงหวานว่า "ท่านย่า ท่านย่าช่วยท่านพี่ได้ไหม!"

ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งกลัวที่สุดและชอบที่สุดก็คือวิธีการนี้ของสองพี่น้อง ถูกดึงแขนเสื้อออดอ้อนผมเผ้าหลุดลุ่ยลงมา แต่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม นางด่าทอด้วยรอยยิ้มว่า "ยังไม่ปล่อยมืออีก กระดูกอย่างคนเฒ่าคนชราอย่างย่าแทบจะหักแล้ว หากหักไปเจ้าจะไปออดอ้อนใคร?"

เว่ยฉางอิ๋งถึงได้หยุดมือ เฉินหรูผิงกลั้นยิ้มแล้วมาจัดการเสื้อผ้าให้กับฮูหยินผู้เฒ่าซ่งจนกลับมามีท่าทีเรียบร้อยดังเดิม ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าผากเกลี้ยงเกลาของหลานสาวแล้วกล่าวทั้งรักทั้งแค้นว่า "ท่านพี่ๆ เพื่อท่านพี่แล้วเจ้ามาเขย่าย่าไปๆ มาๆ อย่างนี้ นี่มันอะไรกัน มีพี่สาวน้องสาวแล้วก็ไม่รักย่าอย่างข้าแล้วจริงๆ!"

"ไม่มีเรื่องนี้เลย!" เว่ยฉางอิ๋งดึงแขนเสื้อนาง แล้วเปลี่ยนหัวข้อเรื่องอย่างเจ้าเล่ห์ว่า "ท่านย่าช่วยท่านพี่ได้ไหม?"

แม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าซ่งจะมองความคิดของนางออก แต่ว่าก็คิดเหมือนกันกับเว่ยฉางอิ๋ง ทนให้นางลำบากใจไม่ได้ จึงจิ้มไปที่หน้าผากของนางอีกครั้งแล้วกล่าวลากหางเสียงอย่างนาง พร้อมกับกล่าวอย่างเชื่องช้าว่า "ย่าจะช่วยท่านพี่อย่างไรดี?"

"เอ๋?" แม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าซ่งจะมีใจคล้ายเด็กขึ้นมาชั่วครู่ และกล่าวรับมาอย่างนี้ แต่ว่าเว่ยฉางอิ๋งกลับรับรู้ได้ถึงความผิดแปลกไปในนั้น นางจึงถามอย่างประหลาดใจว่า "ท่านเองทำไมถึงไม่สามารถช่วยท่านพี่ได้กัน อาศัยว่าตอนนี้ท่านพี่อยู่ในบ้านเรา เราพูดไปว่าท่านพี่ไม่สบาย ทางฝั่งรัชทายาทยังจะรอท่านพี่ไปตลอดหรือ รอให้รัชทายาทตั้งชายารัชทายาทก่อน แล้วท่านพี่ค่อยหายดีไม่ใช่ว่าได้แล้วหรือ?"

ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งคิดไม่ถึงว่าหลานสาวจะรู้สึกไวถึงเพียงนี้ หลานสาวที่ใกล้จะออกเรือนแล้ว แน่นอนว่ายิ่งฉลาดก็ยิ่งดี ได้ยินดังนั้นก็ดีใจและวางใจ พลางถอนหายใจแล้วกล่าวว่า "เรื่องนี้ เด็กๆ อย่างพวกเจ้าไม่ต้องถามมาก อวี่วั่งอย่างไรก็เป็นพ่อของไจ้สุ่ย บุตรสาวของเขา บ้านเราจะไปยุ่งได้อย่างไร?"

"แต่ว่าตอนนี้ท่านลุงผลักท่านพี่ไปบนกองเพลิง!" เว่ยฉางอิ๋งกล่าวอย่างไม่พอใจว่า "ท่านย่าช่วยท่านพี่สักหน่อยไม่ได้หรือ ข้าได้ยินว่าฮูหยินผู้เฒ่าของตระกูลซ่งเองก็ไม่ยินดีจะให้ท่านพี่ไปเป็นชายารัชทายาท แต่เป็นท่านลุงที่เป็นผู้น้อยของท่านย่า หรือว่าภายหลังเขายังจะมาเค้นถามท่านย่าหรือ?"

ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งยิ้มน้อยๆ แล้วกล่าวว่า "ในเมื่อเจ้ารู้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลซ่งยังไม่มีวิธี แล้วเจ้าคิดว่าย่าเจ้าจะมีวิธีอะไรหรือ?"

"...เพราะอะไรกัน?" เว่ยฉางอิ๋งคิดไปคิดมา ไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าทำไมเรื่องแต่งงานของซ่งไจ้สุ่ยถึงได้จัดการยากอย่างนี้ ทั้งๆ ที่ทุกคนต่างก็คิดเห็นเหมือนกันแท้ๆ คงไม่ถึงกับทำอะไรไม่ได้ แต่ว่าผู้ใหญ่ทั้งหลายต่างก็พากันแสดงว่าไม่มีวิธีช่วยแล้ว

นอกจากนี้ ไม่ว่าฮูหยินผู้เฒ่าซ่งหรือว่าฮูหยินซ่ง พูดไปแล้วต่างก็ไม่ใช่คนที่หวาดกลัวซ่งอวี่วั่งทั้งนั้น แต่ว่าตอนนี้กลับไม่มีใครยอมต่อต้านซ่งอวี่วั่งให้กับซ่งไจ้สุ่ยเลย พูดไปแล้วแม้ว่าจะไม่ถึงกับปกป้องซ่งไจ้สุ่ยอย่างที่ปกป้องเว่ยฉางอิ๋ง แต่อย่างไรก็เป็นหลานสาวสายตรงของฮูหยินผู้เฒ่าซ่งเช่นกัน ก็ไม่ควรจะอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรสิ?

แต่แม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าซ่งจะรักใคร่หลานสาว แต่ว่าเรื่องที่นางไม่อยากพูด ไม่ว่าเว่ยฉางอิ๋งจะใช้วิธีการออดอ้อนแง่งอนอย่างไร กระทั่งกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงของฮูหยินผู้เฒ่าซ่งจริงๆ ก็ไม่สามารถที่จะทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งกล่าวอะไรออกมาได้ ทำได้แต่กลับไปพูดกับซ่งไจ้สุ่ยให้ชัดเจนอย่างกลัดกลุ้ม

แม้ว่าซ่งไจ้สุ่ยจะรู้แต่แรกว่าหากท่านย่ากับท่านอาคิดจะช่วยเหลือ ก็คงไม่ถึงกับต้องให้นางกล่อมเว่ยฉางอิ๋งให้ไปขอร้องให้ตนอย่างนี้ แต่ว่าได้ยินข่าวนี้เข้าจริงๆ นางก็อดที่จะน้ำตาตกไม่ได้

เว่ยฉางอิ๋งก็ครุ่นคิดอย่างไม่เข้าใจแล้วกล่าวว่า "ไม่อย่างนั้นท่านไปที่เมืองหลวง แล้วไปถามท่านลุงเสียเลยไหม ข้าไม่เชื่อว่าท่านลุงจะไม่รักท่านจริงๆ บางทีอาจจะมีอะไรเข้าใจผิดก็ได้?"

"กลับไปแล้วเกรงว่าคงต้องถูกขังจนกระทั่งวันแต่งงานไหม?" แม้ตอนนี้ซ่งไจ้สุ่ยจะเสียใจ แต่นิสัยกลับไม่ได้เปลี่ยน นางยิ้มเย็นแล้วกล่าวอย่างปวดใจว่า "เจ้าว่าข้าถึงกับเขียนไปในจดหมายแล้วว่าหากให้ข้าไปเป็นชายารัชทายาท ข้ายอมตายเสียดีกว่า หากว่าเป็นท่านย่ากับท่านอา ยังจะยอมให้ความเข้าใจผิดนี้ดำเนินต่อไปหรือ?"

นางเช็ดใบหน้าอย่างผิดหวังเสียใจ แล้วถอนหายใจพลางกล่าวว่า "ท่านพ่อต้องการชีวิตของข้าจริงๆ!"

"คงไม่ถึงกับอย่างนี้หรอก ข้าว่าบางทีท่านลุงอาจเพราะเห็นจดหมายนั่นแล้ว จึงโมโหแล้วกล่าวใส่อารมณ์ออกมา" เว่ยฉางอิ๋งเห็นนางอย่างนี้ ในใจก็เห็นใจมาก และพยายามปลอบกล่าวปลอบ

ทว่าซ่งไจ้สุ่ยกลับฟังไม่เข้าหู นางก้มหน้าน้ำตาตกเงียบๆ ครู่หนึ่ง เว่ยฉางอิ๋งกำลังจะให้คนไปเชิญฮูหยินซ่งมา นางกลับเช็ดน้ำตาจนแห้ง กลับมาสงบนิ่งดังเดิมแล้วกล่าวว่า "ไม่ต้องไปเรียกท่านอา หลายวันมานี้มารบกวนที่นี่ตลอด แล้วจะไปเพิ่มเรื่องยุ่งยากให้ท่านอาอีกได้อย่างไร?"

"ท่านพี่" เว่ยฉางอิ๋งได้ยินน้ำเสียงนางผิดปกติไป ก็เรียกออกมาอย่างระวัง "ข้าว่าท่านย่ากับท่านแม่ไม่มีทางที่จะไม่รักท่าน เพียงแต่ว่าไม่ยอมแทรกมือเข้าไปเท่านั้น...ท่านย่ากับท่านแม่ต่างก็ไม่ยอมพูด ข้าว่า จะต้องมีเหตุผลอะไรในนั้นแน่..."

ซ่งไจ้สุ่ยเอียงตัว พิงไปที่เบาะแล้วมองไปด้านบนพลางกล่าวเสียงเรียบว่า "อืม"

"บางทีหากรู้สาเหตุนี้แล้วก็น่าจะไม่เป็นไร?" เว่ยฉางอิ๋งน้อยครั้งที่จะเห็นนางมีท่าทีก้มหน้าเศร้าอย่างนี้ จึงยิ่งเห็นใจนาง พยายามคิดหาเหตุผลสุดความสามารถ "ที่ว่ากันว่าสวรรค์ไม่ให้คนไร้ทางเดิน..."

"ข้ายังไม่ตาย! เจ้าไม่ต้องแสดงท่าทีเศร้าสลดอย่างนี้ออกมา!" ซ่งไจ้สุ่ยพลันถลึงตาใส่นางแล้วพลิกตัวขึ้นนั่งพร้อมกล่าวว่า "พอแล้วๆ ตอนนี้ข้ายังคิดหาทางออกไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรอให้ถึงเวลาก่อนแล้วค่อยว่ากัน!"

แม้ว่าเว่ยฉางอิ๋งจะไม่รู้ว่านางเตรียมใจที่จะทำลายโฉมของตนเมื่อไร้หนทางเดินแล้วเพื่อให้ตนหลุดพ้น แต่อาศัยที่ทั้งสองต่างก็เข้าใจกันและกันจากที่อยู่กันมา นางจึงรู้สึกว่าซ่งไจ้สุ่ยยังมีแผนการอื่นอยู่ นางลังเลแล้วกล่าวว่า "ท่านพี่อย่าคิดไม่ตกเชียว! เรื่องยังไม่ถึงกับไร้ทางออก ยังมีความเป็นไปได้ที่จะพลิกกลับมาได้"

"...ข้าคิดตกมาก!" แผนการหลังของซ่งไจ้สุ่ยคือการทำลายโฉมหน้า ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย อีกอย่างนางทำลายโฉมหน้าก็เพี่อให้แต่งกับชายที่ไม่ต้องมาคอยกังวลอย่างนี้แล้วใช้ชีวิตกันไปทั้งชีวิต นางยังไม่อยากตาย ได้ยินแล้วก็โมโหจนหัวเราะออกมา "เจ้า...ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้ามันมาเพื่อขัดข้าโดยเฉพาะ! ไม่เห็นหรือว่าข้าอารมณ์แย่อย่างนี้ เจ้าพูดให้ดีหน่อยไม่ได้หรือ?"

เว่ยฉางอิ๋งอ้าปากกล่าวโดยไม่แม้แต่จะกะพริบตาว่า "ท่านพี่งดงามน่ามอง มีความสามารถเปี่ยมคุณธรรม นุ่มนวลเอาใจใส่ รู้จักกาลเทศะ จิตใจดีมีเมตตา จะต้องมีสิ่งดีๆ ตอบแทนแน่...เฉลียวฉลาดมีไหวพริบ น่ารักมีเมตตา เป็นหญิงงามที่หลายคนชอบ ฉลาดบริสุทธิ์ เหนือล้ำเกินคนธรรมดา...ท่านพี่ดีอย่างนี้ ฟังแล้วข้ายังอิจฉาเลย! ไอหยา พูดไปพอหรือยัง หากยังไม่พอข้าจะไปหาในหนังสือมาอีก"

ซ่งไจ้สุ่ยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า "ใช่แล้ว ข้าดีแล้ว! ข้าขอร้องเจ้าเรื่องหนึ่ง...เจ้าจะทำอะไรก็รีบไปทำเถอะ! ไม่ต้องมาพูดกับข้าแล้วได้ไหม?"

"ท่านพี่ท่านนี่ปรนนิบัติยากเสียจริง" เว่ยฉางอิ๋งลุกขึ้นอย่างเกียจคร้านแล้วกล่าวว่า "ข้าเป็นเด็กดีอย่างนี้ ท่านยังไล่ข้าไปอีก แต่ข้าว่าข้าพูดอย่างนี้ ท่านอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหม?" นางมีท่าทีภูมิใจ "เป็นข้าที่รู้จักปลอบใจคนที่สุด ข้าว่าท่านพี่ตอนนี้จะต้องไม่มีความคิดทางลบแล้วแน่ๆ"

ซ่งไจ้สุ่ยพลิกตัวไปแล้วเอาหัวซุกไปในผ้าห่มผืนบางทำเป็นไม่ได้ยิน...

ออกมาจากเรือนหมิงเซ่อ เว่ยฉางอิ๋งก็สั่งการคนไปเชิญเจียงเจิงมาที่ด้านหลัง ลวี่ปิ้นมองไปยังพระอาทิตย์ที่ยังอยู่บนหัวที่สว่างจ้าก็กล่าวเตือนว่า "ยามนี้กำลังร้อน คุณหนูใหญ่กลับไปพักในเรือนเสียนซวงก่อนดีกว่า รอให้พระอาทิตย์เคลื่อนไปก่อนแล้วค่อยไปไหมเจ้าคะ?"

เว่ยฉางอิ๋งกล่าว "ข้าไม่ง่วงเสียหน่อย ไปพักในเรือนเสียนซวงก็ไม่มีความหมาย สู้ไปฝึกซ้อมหมัดที่ใต้ต้นไม้ให้กระปรี้กระเปร่าหน่อยดีกว่า"

นางไม่ง่วง แต่ว่าเหล่าสาวใช้ต่างก็อ่อนเพลีย ดังนั้นลวี่ปิ้นจึงกล่าวว่า "พระอาทิตย์กำลังจัด เกรงว่าใต้ต้นไม้ก็คงไม่มีลมเย็น คุณหนูใหญ่มองใบไม้รอบด้านยังไม่ไหวสักนิดเลย ถึงตอนนั้นเสื้อไหมก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อแนบติดไปกับร่างไม่น่ามอง

นอกจากนี้สองวันก่อนคุณหนูใหญ่ไม่ใช่เพิ่งจะกล่าวว่าถูกแดดเผาใบหน้าจนเจ็บหรือ ฮูหยินกับท่านอาเฮ่อต่างก็พูดว่าให้คุณหนูใหญ่หลบอยู่ในห้องให้มาก"

พูดกันไปเรื่อย สุดท้ายก็เตือนจนทำให้เว่ยฉางอิ๋งกลับไปที่เรือนเสียนซวงก่อนได้

เพียงแต่ว่าเพิ่งจะไปถึงเรือนเสียนซวง ก็เห็นจูสือยื่นหัวออกมานอกประตู เมื่อเห็นเว่ยฉางอิ๋งกลับมา ก็รีบวิ่งออกมาทันทีแล้วรายงานว่า "คุณหนูใหญ่ เมื่อครู่พี่หญิงฮว่ามา บอกว่าฮูหยินให้คุณหนูใหญ่ไปหา"

เว่ยฉางอิ๋งถามอย่างสงสัย "สองวันนี้เหมือนว่าข้าจะไม่ได้สร้างเรื่องนะ?"

"..." เหล่าสาวใช้ต่างก็นิ่งเงียบลงไป แล้วจึงกล่าวอย่างไม่มั่นใจว่า "เหมือนว่าจะไม่ได้ก่อเรี่องอะไรนะ" ช่วงนี้เว่ยฉางอิ๋งแค่ถูกลงโทษคุกเข่าไปสองครั้งเท่านั้น โดยทั่วไปเมื่อถูกเรียกไปหาฮูหยินซ่งก็หลีกเลี่ยงการถูกพูดสักรอบไม่ได้ จนทำให้เจ้านางบ่าวใช้เมื่อได้ยินว่าฮูหยินซ่งเรียกให้บุตรสาวไปหา ความคิดแรกที่เข้ามาจึงเป็นว่า หรือจะต้องถูกลงโทษอีกแล้ว?

"แล้วทำไมท่านแม่ถึงได้เรียกข้าไป?" เว่ยฉางอิ๋งกล่าวอย่างไม่วางใจ "ลวี่ปิ้นเจ้าอยู่ที่นี่ จะได้ไปคอยสืบข่าว หากว่ามีอะไรก็ให้ไปรายงานหาฉางเฟิงกับท่านย่า เข้าใจไหม?"

เหลือแผนไว้สักอย่าง แล้วเว่ยฉางอิ๋งถึงได้ไปหาฮูหยินซ่งที่เรือน เพียงแต่ว่านางกังวลไปเองเปล่าๆ เพราะว่าคราวนี้ฮูหยินซ่งเรียกนางไปไม่ได้เพื่อว่ากล่าวเรื่องสำคัญ แต่ว่าเป็นเรื่องอื่น "วันนี้เจ้าไปหาท่านย่าของเจ้า ได้ยินท่านย่ากับคนของท่านย่าคุยเรื่องการแต่งงานของน้องหญิงสี่ของเจ้าบ้างไหม?"

เว่ยฉางอิ๋งแปลกใจแล้วกล่าวว่า "ไม่มี การแต่งงานของน้องหญิงสี่ทำไมหรือ?"

"เมื่อครู่อาสะใภ้สามของเจ้ามา แล้วบอกว่าเมื่อคืนนี้อาสามของเจ้าพูดกับนางแล้วว่าชอบใจซ่งตวนบุตรชายคนโตจากภรรยาเอกของซ่งหาน อยากจับคู่ให้กับน้องหญิงสี่เจ้า" ฮูหยินซ่งไม่ปิดบังบุตรสาวที่รักแล้วกล่าวว่า "นิสัยอาสามเจ้า เจ้าเองก็รู้ แต่ไหนมากล่อมได้ง่าย ยังดีว่าอาสะใภ้สามของเจ้าละเอียดลออ ถึงได้ถามถึงซ่งตวนอย่างละเอียด ใครจะรู้ว่าอาสามเจ้านึกอยู่นานยังนึกไม่ออก ถึงได้กล่าวกับอาสะใภ้สามของเจ้าว่าตอนนั้นดื่มมากไป จากนั้นได้พบเห็นซ่งตวนอยู่หลายครั้งจึงรู้สึกว่าไม่เลว...อาสะใภ้สามเจ้าวางใจที่ไหน ถึงได้มาหาข้าเพื่อปรึกษาหารือ"

เว่ยฉางอิ๋งอดยิ้มไม่ได้ "ท่านอาสามทำไมถึงได้เหลวไหลอย่างนี้ เรื่องทั้งชีวิตของน้องหญิงสี่ เขาดื่มมากไป แล้วภายหลังยังไม่ยอมถามให้ละเอียดอีก หากว่าอยู่ต่อหน้าอาสามเขาดี จะมีอะไรน่าแปลกตรงไหน ไม่กล่าวว่าอยากสู่ขอน้องหญิงสี่ ซ่งตวนคนนี้ก็เป็นเพียงบุตรชายของจ่างสื่อเท่านั้น ทั้งยังเป็นตระกูลสาขาของตระกูลซ่งอีก อาสามเป็นถึงลูกหลานของตระกูลหลัก และยังเป็นผู้ว่าของเฟิ่งโจวอีก โจรที่เขาเฟิ่งฉีครั้งนี้ ท่านปู่เองก็ไป แล้วเขาจะกล้าเสียมารยาทหรือ?"

ฮูหยินซ่งไม่เห็นเว่ยเซิ่งเหนียนในสายตาแล้วกล่าว "เขายังคิดอยากจะไปรายงานท่านย่าพวกเจ้าอีก! เป็นอาสะใภ้สามของพวกเจ้าที่เล่าว่า ท่านย่าของพวกเจ้ากล่าวแล้วว่า ผ่านไปอีกสักพักค่อยมาปรึกษากันเรื่องงานแต่งงานของเกาฉาน ถึงได้หยุดไว้ได้! หากว่าไม่ใช่เพราะเห็นท่าทางของเขาที่เกรงว่าอยากจะรีบส่งน้องหญิงสี่ของเจ้าออกไปทันที ข้าว่าเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะถูกซ่งหานกล่อมจนมึนหัวไปแล้ว! หากว่าไม่มีอาสะใภ้สามของเจ้า เกาฉานเกรงว่าคงต้องเสียเปรียบไม่น้อยแน่!"

"แล้วอาสะใภ้สามคิดอยากจะล้มเลิกความคิดนี้ของท่านอาสามหรือ?" เว่ยฉางอิ๋งถาม

ฮูหยินซ่งพลันส่ายหัว "แม้ว่าซ่งหานจะเป็นตระกูลสาขาของตระกูลซ่ง แต่ว่าอาสะใภ้สามของพวกเจ้ารู้สึกว่าหากซ่งตวนคนนั้นดี ก็ไม่ใช่ว่าจะพิจารณาดูไม่ได้ อย่างไรหากเป็นอย่างนี้เกาฉานก็ยังแต่งงานอยู่ที่เฟิ่งโจว ภายหลังกลับมาที่บ้านแม่ก็ยังง่าย มีเรื่องอะไรก็ยังคอยดูแลได้ถึง ดังนั้นตอนนี้ที่สำคัญเลยคือต้องไปสืบข่าวซ่งตวนนั่นมาให้แน่ชัด แล้วจึงไปลอบถามท่านย่าของพวกเจ้า...หากว่าทั้งสองต่างก็ไม่มีปัญหา ท่านอาสามของพวกเจ้าก็ถือว่าคราวนี้ทำเรื่องเสียให้กลับมาดีได้ ถือว่าทำเรื่องที่สำคัญมากเรื่องหนึ่ง"

...................................................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา