Psychic พลังกายสิทธิ์ ลิขิตมรณะ

-

เขียนโดย MoMoGa

วันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 23.06 น.

  26 บท
  4 วิจารณ์
  16.71K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 11.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) ตอนที่ 3-2 ปีกคู่ลมกรด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

           วันพุธที่ 24 เมษายน เวลา 23.49 นาฬิกา

           “เนี่ยน่ะหรอ อาณาเขตต้องห้าม เหมือนที่คุณอลิซบอกเลย ไม่มีคนอยู่เลย”

           นากิสะพูดออกมาหลังจากที่เข้ามายังอาณาเขตต้องห้ามที่พวกอเล็กซ์กางรอเอาไว้แล้ว ตอนนี้มาซามุเนะ อากิโอะ นากิสะและอลิซาเบธอยู่ที่สี่แยกก่อนถึงหอคอยกลางเมืองที่เป็นจุดชมวิวและเป็นจุดท่องเที่ยวของเมือง แต่เมื่อพวกเขาเข้ามายังอาณาเขตแล้ว ก็ไม่เจอกับมนุษย์คนอื่นอีกเลย                               

           “อืม รู้สึกว่าเราจะไม่เจอกับคนจนกว่าจะถึงหอคอยสินะ”

           มาซามุเนะพูดเสริมขึ้นมา ก่อนที่ทั้งสี่คนจะมุ่งหน้าไปยังหอคอยที่เป็นจุดนัดพบที่บอกไว้ในจดหมาย

           “ว่าแต่ อย่าเรียกฉันด้วยชื่อง่ายๆแบบนั้นสิค่ะ! เดี๋ยวชื่อที่ท่านพ่ออุตส่าห์ตั้งฉันมันจะเสียเอา”

           อลิซาเบธบ่นเกี่ยวกับการเรียกชื่อของตัวเองแบบตามใจชอบของนากิสะระหว่างที่กำลังขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นชมวิวของหอคอย

           “ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนิค่ะ อลิซก็คืออลิซ ไม่เห็นจะต้องใส่ใจให้มากเลย ใช่ไหมค่ะท่านพี่”

           นากิสะยืนยันที่จะเรียกอลิซาเบธว่าอลิซ

           “นั่นสินะ จะเรียกยังไงก็ตาม เธอก็คือเธออยู่ดี”

           มาซามุเนะพูดเสริมขึ้นมาอีกครั้ง อลิซาเบธที่ได้ยินอย่างนั้นทำแก้มป่องอย่างไม่พอใจ ทั้งสี่คนจึงหัวเราะพร้อมกันอย่างไม่มีเหตุผล บางทีนี่อาจจะเป็นการผ่อนคลายครั้งสุดท้ายแล้วก็ได้

           เมื่อทั้งสี่คนมาถึงยังชั้นชมวิวที่สุงที่สุดของหอชมวิว ก็เจอกับอเล็กซ์ยืนรออยู่พร้อมกับกลุ่มคนสวมผ้าคลุมสีดำและปิดหน้าด้วยฮู้ดรอต้อนรับอยู่ คาดว่าส่วนใหญ่น่าจะเป็นตุ๊กตาเหมือนกับที่สู้คราวก่อน มาซามุเนะมองไปรอบๆเพื่อเช็คอะไรบางอย่าง

           “แล้วคุออนล่ะ แกเอาเธอไปไว้ที่ไหน”

           มาซามุเนะไม่มีแม้คำทักทาย เขาถามหาคนที่ควรจะอยู่ด้วย

           “มันก็แน่อยู่แล้วนี่ คนที่ไม่มีเวทมนต์น่ะ เข้ามาภายในอาณาเขตนี้ไม่ได้อยู่แล้ว นายน่าจะรู้อยู่แล้วนิ ทำไมถึงถามแบบนี้หล่ะ”

           อเล็กซ์ตอบมาซามุเนะด้วยท่าทีที่ไม่รู้สึกถึงความกังวลเลยแม้แต่นิดเดียว แต่พวกมาซามุเนะกลับรู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่แผ่ออกมาจากเขาได้อย่างชัดเจน

           “งั้นนายก็ไม่คิดจะแลกเปลี่ยนตั้งแต่แรกแล้วหรอ”

           มาซามุเนะเป็นฝ่ายโต้กลับบ้าง เขาถามออกไปโดยมีความคิดแปลกๆอยู่ในหัว

           “ไมใช่หรอกครับ พวกเราก็มีวิธีการแบบพวกเราเหมือนกัน ดังนั้น ทางนั้นแค่ส่งคัมภีร์มหาเวทมาก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องรู้อะไรอีก”

           อเล็กซ์ตอบกลับโดยเพิ่มน้ำเสียงให้ดุดันขึ้น พร้อมกับปล่อยจิตสังหารให้มากกว่าเดิม

           “เป็นงั้นเองหรอ ฉันนึกว่าเราจะคิดแบบเดี๋ยวกันซะอีกนะ”

           “หมายความว่า…”

           “<สตอร์ม บลาส (Storm Blast)>!!!”

           มีเสียงของอากิโอะดังมาจากข้างหลัง มาซามุเนะที่ได้ยินอย่างนั้นก็กระโดดออกมาจาแนวหน้า สิ่งที่อากิโอะทำคือการแผ่ฝ่ามือทั้งสองข้างออกไปทางของพวก อเล็กซ์ แล้วสิ่งที่พุ่งออกมาจากฝ่ามือก็คือพายุที่มีลักษณะเป็นแนวนอน มันพุ่งเข้าใส่พวกอเล็กซ์ด้วยความเร็วสูง แต่อเล็กซ์นั้นกระโดดออกไปได้ทันพร้อมกับคนสวมผ้าคลุมอีกคน แต่ที่เหลือที่อยู่ข้างหลังสองคนนั้นโดนกวาดโดยพายุจนราบ แล้วสิ่งปรากฏก็คือเศษซากตุ๊กตาจำนวนมาก หมายความว่ากลุ่มที่ถูกพายุกวาดล้างนั้นไม่มีมนุษย์จริงๆอยู่เลยสักคนนั่นเอง

           “อะไรกัน ไอ้เจ้านั่น พลังต่างจากเมื่อวานลิบลับเลยนี่หว่า”

           อเล็กซ์คิดอย่างนั้นระหว่างที่กำลังตั้งหลังใหม่อีกครั้ง ระหว่างนั้น ที่พื้นรอบๆตัวของเขาก็มีวงเวทย์จำนวนมากปรากฏขึ้นอย่างไร้วี่แวว จากนั้นก็มีกลุ่มคนสวมผ้าคลุมที่คาดว่าน่าจะเป็นตุ๊กตาออกมาจากวงเวทย์ หลังจากนั้นอเล็กซ์ก็หายไปจากกลุ่มตุ๊กตา

           “ตามที่คิดเอาไว้เลย ฝากด้วยนะ อากิโอะ”

           “อืม”

           มาซามุเนะออกคำสั่ง อากิโอะตอบสั้นๆพร้อมกับรอยตัวออกจากหอคอยไปยังที่ไหนสักแห่ง ส่วนพวกมาซามุเนะที่เหลืออยู่ก็เอาหลังชิดกัน

           “มาซามุเนะ ถึงจะเจ็บใจก็เถอะ แต่ฝากอเล็กซ์ด้วยนะ”

           “ฝากด้วยนะค่ะ ท่านพี่”

           อลิซาเบธและนากิสะฝากความหวังในการจัดการกับอเล็กซ์ไว้กับมาซามุเนะ

           “เข้าใจแล้ว งั้นไปล่ะนะ”

           หลังจากนั้นมาซามุเนะก็วิ่งจากทั้งสองคนไป แต่ตอนนี้ต่อหน้าของพวกเธอทั้งสองคนนั้นมีตุ๊กตาอยู่จำนวนหนึ่ง แต่สิ่งที่หน้าวิตกที่สุดก็คือคนที่สวมผ้าคลุมผู้ซึ่งปล่อยออร่าสีทองออกมาอย่างต่อเนื่อง ความรู้สึกที่ออกมาพร้อมออร่านั้นบ่งบอกได้ถึงความเครียดแค้นที่อยู่ในใจ อลิซาเบธที่รู้สึกได้ถึงความรู้สึกนั้นจึงคิดออกมาได้

           “เป็นนายเองสินะ ผู้ใช้สายฟ้าแห่งราชัน เมียวจิน ซาดาโอะ!”

           หลังจากที่อลิซาเบธตะโกนออกไป ออร่าสีทองนั้นก็ยิ่งรุนแรงขึ้น แล้วฮู้ดก็ถูกเปิดออก สิ่งที่ทั้งสองคนนั้นพบก็คือ ใบหน้าคนที่คิดว่ามีอายุมากกว่า 30 ปี แถมมันยังดูบิดเบี้ยวจนเกินที่จะคิดว่าเป็นสิ่งที่ยังมีชีวิตอยู่

           “เธอก็รู้จักฉันสินะ ใช่ ฉันคือ เมียวจินซาดาโอะ เป็นผู้ที่มีชีวิตที่บัดซบที่สุดยังไงล่ะ ถึงหน้าตาจะเป็นอย่างนี้ แต่ชั้นก็พึ่งจะอายุ 22 ปีเองนะ”

           ซาดาโอะพูดด้วยน้ำเสียงที่ชวนให้ขยักแขยงเป้นอย่างมาก

           “อย่างนี้นี่เอง เป็นผู้ใช้สายฟ้าคนนั้นสินะ ได้ยินข่าวลือมาว่าเป็นผู้มีพลังจิตรุ่นแรกด้วย แต่ข่าวที่ได้ยินมาก็มีแต่การก่อความวุ่นวายให้กับพวกรัฐบาล ไม่คิดว่าจะมีความสามารถที่เก่งอะไรเท่าไหร่หรอก”

           นากิสะเอ่ยขึ้นมาโดยไม่ใส่ใจกับท่าทีของอลิซาเบธที่กำลังตั้งท่าเตรียมรับมือแม้แต่น้อย ซาดาโอะที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมา

           “งั้นหรอ แม่หนูยังไม่รู้สินะว่านั่นอาจเป็นการอวดเก่งครั้งสุดท้ายของตัวเอง”

           เมื่อซาดาโอะพูดแบบนั้นออกมา เขาก็กำหมัดขึ้นมา มีประกายไฟสีทองเกิดขึ้นจำนวนมาก อลิซาเบธที่เห็นแบบนั้น เธอเขาสู่โหมดต่อสู้อย่างจริงจัง ผมสีทองนั้นกลายเป็นสีแดงเพลิงอย่างรวดเร็ว ที่มือของเธอมีประกายไฟลุกโชนอย่างโฉดช่วง ที่มือขวานั้นมีเปลวเพลิงรูปร่างดาบตะวันตกปรากฏขึ้นมา ส่วนนากิสะนั้นไม่มีอะไรออกมาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย

           “ไปเลย พวกตุ๊กตาไร้ประโยชน์!”

           ซาดาโอะตะโกนสั่งออกไป พวกตุ๊กตานั้นกระโดเข้าไปรุมโจมตีใส่พวกอลิซาเบธอย่างรวดเร็ว มันวิ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง

           “จงร่ายรำ เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ผู้ชำระบาปทั้งปวงแห่งข้า <แซคคริไฟ เฟลม (sanctify flame)>”

           ทันใดนั้น เปลวเพลิงที่ใสบริสุทธิ์ไรมลทิน ก็ถูกปล่อยออกมาจากมือซ้ายของ อลิซาเบธ เพลิงนั้นแผดเผาพวกตุ๊กตาจนละลายหายไปเพียงพริบตาเดียว จากนั้นเธอก็กระโดดข้ามกองเพลิงไปโจมตีใส่ซาดาโอะ

           “<คิง สปาร์ค (King Spark)>”

           มือขวาของซาดาโอะปล่อยลำแสงสายฟ้าสีทองออกด้วยความเร็วสูงอลิซาเบธก็หลบพ้น เมื่อเท้าขวาของเธอแตะพื้น เธอก็ใช้เท้านั้นดันพื้นเพื่อพุ่งตัวออกไปข้าง ดาบเพลิงนั้นฟันเข้าใส่ซาดาโอะ แต่เขารับไว้ได้ด้วยดาบรูปร่างสายฟ้าในมือ มันสปาร์คอยู่ตลอดเวลา แต่ทันใดนั้นก็มีเท้าถีบเข้าใส่ท้องน้อยของเขา ซาดาโอะปัดดาบของอลิซาเบธออกแล้วกระโดดหลบ

           ปึก!

           เท้าขวาของนากิสะโดนซาดาโอะเข้าอย่างจัง เขากระเด็นออกโดยไม่คิดว่านั่นคือการถีบของเด็กเลยสัดนิด

           “อะไรกัน กระโดดหลบพ้นแล้วแท้ๆ แต่ทำไมถึงยังโดนอยู่ล่ะ”

            “นั่นเป็นพลังจิตของฉันเองค่ะ แต่ขอเก็บไว้เฉลยตอนหลังนะค่ะ”

           นากิสะพูดเหมือนรู้ใจซาดาโอะที่กระเด็นไป แต่ก็ไม่มีเวลาให้เขาหยุดพัก อลิซาเบธวิ่งเขามาโดยทำท่าแทงใส่ ซาดาโอะกระโดดไปข้างหลังเพื่อหลบมัน แต่ดาบเพลิงที่ไม่ถูกบันทึกไว้ในหลักของวิทยาศาสตร์นั้นยืดออกมาด้วยเปลวเพลิงที่ลุกโชนจากด้ามจับ

           “<ธันเดอร์ บล็อก (Thunder Block)>”

           มีก้อนสายฟ้าขนาดใหญ่โผล่ออกมาจากมือของซาดาโอะ เขาปัดมันออกไปโดนท่งแทนที่จะเป็นตัวเขาที่ลอยอยู่กลางอากาศ แต่ด้วยความเร็วของนากิสะ เธอวิ่งขนาบข้างซาดาโอะที่กระโดดหลบซึ่งตอนนี้อยู่กลางอากาศ เธอซัดหมัดออกไปที่ท้องน้อยของเขาเหมือนเดิม แต่คราวนี้ด้วยความเร็วที่เกินคำว่ามนุษย์ ซาดาโอะไม่ทันที่จะทำอะไรก็ถูกหมัดขวาของเธอซัดปลิ่วลอยไปไกลกว่าเดิม

           “อะไรกัน หมัดนี่แรงกว่าเดิมเป็นเท่าตัวเลยนี่”

           “นั่นก็เป็นความสามารถของฉันค่ะ”

           นากิสะพูดออกมาเหมือนรู้ความคิดของซาดาโอะอีกแล้ว นั่นทำให้เขารู้สึกกังวลใจถึงความสามารถของนากิสะ แต่ก็เช่นเคย อลิซาเบธก็พุ่งเข้ามาจู่โจมอีกตามเคย ดาบเพลิงของเธอนั้นลุกโชนยิ่งกว่าเดิม ดูแล้วเธอน่าจะโจมตีโดยการฟัน

           “แบบนี้เราเสียเปรียบแน่ คงต้องใช้ไอ้นั่นแล้วล่ะมั้ง”

           “<เบิร์ส โหมด (Burst Mode)>!!!”

           สิ้นเสียงนั้น ทั่วทั้งร่างของซาดาโอะก็เปล่งประกาย แล้วก็เกิดการสปาร์คทั่วทั้งร่าง จากนั้นเขาก็ปล่อยกกระแสไฟฟ้าออกจากมือขวา มันมีรูปร่างที่เหมือนกับเส้นใยอะไรบางอย่าง มันพุ่งเข้าใส่อลิซาเบธที่กำลังวิ่งเข้าฟันเขาจากด้านบนหัว แต่เธอก็รับไว้ได้ด้วยดาบ กระแสพันเข้ากับดาบ จากนั้นเธอก็ตวัดดาบลงและดึงเข้าหาตัว แต่ซาดาโอะก็ดึงกระแสไฟเข้าหาตัวพร้อมกับปล่อยกระแสไฟอีกสายด้วยมือซ้าย

           “<เบลซ สปาร์ค (Blaze Spark)>!!!”

           เปลวเพลิงลุกโชติช่วงที่ดาบอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันพุ่งไปผ่านกระแสไฟไปหา  ซาดาโอะ ส่วนกระแสไฟอีกสายที่เขาปล่อยมา อลิซาเบธตวัดดาบป้องกันอีกครั้ง แต่ตอนนี้อลิซาเบธถูกดึงด้วยกระแสไฟอยู่ ส่วนซาดาโอะก็กำลังจะถูกไฟที่ลามมาตาม กระแสไฟนั้นแผดเผา แต่ด้วยซาดาโอะก็ยอมปล่อยกระแสไฟในมือขวาออก และในจังหวะนั้นอลิซาเบธก็กระซากกระแสไฟที่พันอยู่ที่ดาบของเธอ มาซาโอะเตรียมตัวกับแรงกระชากนั้นอยู่แล้วโดยการใช้มือขวาจับกระแสไฟในมือซ้ายเป็นการช่วยออกแรง แต่นั่นก็เป็นจังหวะที่นากิสะรอยู่ เธอพุ่งตัวออกไปด้วยความเร็วสูงและตั้งท่าเตรียมปล่อยหมัดขวา ซาดาโอะจับความเร็วของเธอได้ทันจึงปล่อยกระแสไฟทั้งหมดออกแล้วตั้งท่าปล่อยการโจมตีสวน

           “<ธันเดอร์ ช็อก (Thunder Shock)>!!!” 

           มันเป็นการโจมตีที่ปล่อยกระแสไฟออกไปรอบๆตัวเองในแนวตั้ง มันเป็นการโจมตีที่ไม่สามารถเล็งเป้าหมายได้อย่างแน่นอน แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น นากิสะก็ไม่คิดที่จะถอยหรือลดความเร็วลงเลยแม้แต่น้อย

           “ตามชื่อเบิร์สเลยสินะ ไม่สามารถควบคุมพลังได้ตามใจนึก แต่ทั้งศักยภาพและความเร็วนั้นยกระดับขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย”

           นากิสะยังคงพุ่งตัวต่อไป ไม่ใช่ว่าไม่มีท่าทีลังเลอย่างเดียว แต่การเคลื่อนที่นั้นก็ไม่มีการเปลี่ยนทิศทางเลย

           “1 ครั้ง, 2 ครั้ง, 3 ครั้ง เรื่อยๆเลยโดนสายฟ้าฟาดใส่ร่างกายตั้งขนาดนั้นแล้วแท้ๆ ทำไมยังไม่มีท่าทีที่จะรู้สึกเจ็บปวดหรือชะงักเลยสักนิด มันยังไงกันแน่เนี่ย”

           “ดูเหมือนสายฟ้าจะเบาลงแล้วสินะ งั้นก็…”

           ที่พลังโจมตีของสายฟ้าของซาดาโอะนั้นลดลง คงจะเป็นผลมาจากหลักการทำงานของพลังจิตที่จะขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของผู้ใช้ ในกรณี ซาดาโอะนั้นมีความคิดที่กังวลเกี่ยวกับตัวของนากิสะ นั่นจึงเป็นผลกระทบทางจิตใจที่มีส่วนทำให้พลังจิตอ่อนลง

           ทันทีที่นากิสะเข้าถึงตัวของซาดาโอะนั้น เธอก็ซัดหมัดขวาออกไปด้วยความเร็วสูง แต่ซาดาโอะป้องกันไว้ได้ด้วยการใช้แขนทั้งสองข้างตั้งการ์ด แต่ก็ถูกจู่โจมด้วยการโจมตีต่อเนื่องระหว่างนากิสะและอลิซาเบธ หลังจากที่ซาดาโอะการ์ดไว้ได้ เธอก็ถอยออกมา จากนั้นอลิซาเบธก็พุ่งเข้ามาแทนที่นากิสะที่ถอยออกไป เธอฟาดฟันดาบเพลิงใส่แขนที่ตั้งการ์ดอยู่ของซาดาโอะ มีเลือดและเปลวไฟกระจายอยู่กลางอากาศ อลิซาเบธปิดฉากการโจมตีครั้งนี้ด้วยการตั้งท่าดาบจากกลางหลังของตัวเอง แล้วเหวี่ยงมันกลับคืนไปที่แขนของซาดาโอะ

           “<เบลซซิ่ง สแลช (Blazing Slash)>!!!”

           เปลวเพลิงลุกโชนที่ดาบอีกครั้ง ดาบถูกฟันเป็นแนวตามขวางจากซ้ายไปขวา กลางดาบนั้นเฉือนเข้าไปในแขนโดยตรง อลิซาเบธรู้สึกได้ว่าฟันไมโดนกระดูก นั่นเป็นเพราะว่ากระดูกนั้นถูกหลอมไปแล้วนั่นเอง

           แต่ถึงจะโดนเข้าไปขนาดนั้น แขนของซาดาโอะก็ยังไม่ขาด แขนของเขานั้นแหว่งเข้าไปเกินกว่าครึ่งหนึ่ง

           “<ธันเดอร์ เบิร์ส (Thunder Burst)>!!!”

           ซาดาโอะรู้ตัวดีว่าจะต้องมีการโจมตีอีกต่อจากนากิสะอย่างแน่นอน เขาจึงเค้นพลังออกมากับการโจมตีครั้งนี้ มันเป็นการระเบิดสายฟ้าอย่างแท้จริง มีสายฟ้ากระจายออกเป็นวงกว้าง มันเป็นรูปแบบเหมือนม่านสายฟ้าที่จะโจมตีใส่ทุกๆสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวผู้ใช้ แถมอนุภาพก็รุนแรงมากด้วย แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น นากิสะก็พุ่งตัวเข้าไปหา  ซาดาโอะที่อยู่หลังม่านนั่น เธอผ่านมันเข้ามาโดยไม่มีความรู้สึกว่าถูกโจมตีอยู่เลยสักนิด

           “บ้าน่า การโจมตีของฉันไม่ได้ผลเลยงั้นหรอ ยัยเด็กนี่ ปีศาจชัดๆ”

           นากิสะซัดหมัดขวาตรงเข้าใส่ ซาดาโอะทำท่าทีเหมือนจะล้มลง แต่อยู่ๆตัวเขาก็ลอยขึ้นมา นากิสะก็ซัดหมัดออกไปรัวๆ จำนวนครั้งนั้นนับไม่ถ้วน แต่ซาดาโอะก็ยังคงลอยอยู่กลางอากาศเหมือนกับว่าโดนปักค้างไว้ สุดท้ายเธอก็หมุนตัวแล้วใช้ขาขวาถีบ ซาดาโอะกระเด็นไปอย่างไม่ใยดี สภาพของเขาตอนนี้ไม่ใช่สภาพของคนที่จะเปิดปากพูดได้ด้วยซ้ำ แต่เขาก็เค้นพลังเฮือกสุดท้ายออกมา

           “นี่พลังของเธอ... คืออะไรกันแน่... ช่วยบอกฉัน... ที”

           ซาดาโอะในตอนนี้ อีกไม่ช้าก็คงตายแน่ๆ แต่ที่เขาเค้นพลังออกมาถามนั้น มันอาจจะมาจากพลังจิตโดยถูกเปลี่ยนมาจากแรงใจอีกที นั่นก็คือศักดิ์ศรีในฐานะนักสู้ครั้งสุดท้ายนั่นเอง

           “งั้นฉันจะบอกให้ก็ได้ค่ะ ความสามารถทางพลังจิตของฉันน่ะ มันก็คือ       ดอพเพลแกงเกอร์ (Doppelganger) ยังไงล่ะค่ะ”

           นากิสะพูดด้วยสีหน้าที่เยือกเย็นราวกับเป็นน้ำแข็ง

           “งั้น... หรอ เป็นแบบนี้... เองสิ... นะ”

          สิ้นเสียงนั้น ซาดาโอะก็หมดลมหายใจ อลิซาเบธและนากิสะก้มหัวทำความเคารพศพ ก่อนที่จะเดินจากไป

          “สุดยอดเลยนะ นากิสะจังเนี่ย เธอเป็นนักฆ่าสินะ”

          อลิซาเบธที่เดินนำหน้าอยู่หันหลังกลับไปถามนากิสะที่เดินตามหลัง เมื่อเธอได้ยินคำถามแบบนั้น ก็ยิ้มขึ้นมาอย่างเขินอาย

          “รู้ไงกันค่ะ อุตส่าห์เก็บไว้เป็นความลับแท้ๆ รู้แบบนี้แล้ว อลิซเกลียดฉันรึเปล่าคะ”

          นากิสะหลบน่าของอลิซาเบธที่หันกลับมาถาม เส้นผมของเธอกลับคืนเป็นสีทองตามเดิมแล้ว

          “จะเกลียดได้ยังไงกันล่ะ นากิสะก็คือนากิสะนี่นา”

          อลิซาเบธหันกลับไปพูด นากิสะน้ำตาไหลออกมา

          “ขอบคุณนะ อลิซ”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา