นักล่าล้างพันธุ์อมตะ (NC 18+)

-

เขียนโดย Jalando

วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เวลา 10.51 น.

  15 ตอน
  25 วิจารณ์
  13.34K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2563 10.55 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) ความท้าทายที่สูงเสียดฟ้า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เครดิตภาพจาก  https://pixabay.com

 

…………………

           

         ช่วงเที่ยงของวันนั้น หรั่งและเก๋ได้เดินทางไปถึงสนามบินเชียงใหม่ด้วยเครื่องบินโดยสารชั้นบิสสิเนสคลาส หนุ่มหล่อร่างล่ำอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์สีดำดูทะมัดทะแมง ส่วนสาวสวยซ่อนร่างสูงเพรียวในชุดเสื้อแขนกุดเอวลอยสีฟ้า ช่วงล่างปกคลุมด้วยกระโปรงขาวที่สั้นเต่อเสมอหู ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ประดุจดังเทพบุตรและเทพธิดา ย่อมทำให้ทั้งคู่ตกเป็นเป้าสายตาของผู้คน

          

 

        ทันทีที่สองหนุ่มสาวเดินมาถึงประตูผู้โดยสารขาออก ก็พบกับชายหนุ่มผู้หนึ่ง เขาเป็นชาวต่างชาติผิวขาว ดวงตาสีเขียวอ่อน ผมสีบลอนด์ ใบหน้ายิ้มละไมและเป็นมิตรกับผู้คน ท่าทางภูมิฐาน สังเกตได้จากชุดสูทดำหรูหราบนร่างสูงโปร่งได้สัดส่วน

 

“ เฮ้ บราเธอร์ นายเป็นไงบ้าง ” หรั่งร้องทักหนุ่มต่างชาติ พร้อมถอดแว่นเรย์แบนออก เผยให้เห็นใบหน้าที่ทรงเสน่ห์ 

 

“ สบายดี นายเป็นไงบ้าง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ” หนุ่มต่างชาติทักกลับ 

 

“ ฮ่าๆ ก็สบายดี บิสสิเนสคลาสที่นายจองให้ชั้นนั่งโคตรสบายเลยว่ะ หนึ่งชั่วโมงที่เดินทางมา ไม่ได้ทำให้ชั้นเมื่อยล้าเลย ” หรั่งตอบ พลางหัวเราะดังลั่นแบบไม่เกรงใจใคร

 

“ ดีแล้วที่นายไม่ล้า เพราะวันนี้นายต้องใช้พละกำลังในการทำงานอีกมาก ” ชายหนุ่มในชุดสูทกล่าว พร้อมยิ้มให้เล็กน้อย 

 

“ ของมันแน่อยู่แล้ว เราจะไปกันเลยดีมั้ย จะได้แวะไปดูสถานที่กันซักหน่อย ” หรั่งยักคิ้ว ปากก็ตอบกวนๆตามสไตค์ของตัวเอง 

 

“ เอ๊ะ เดี๋ยวใจเย็น เจ้าน้องชาย ชั้นยังไม่ได้ทักทายว่าที่ภรรยาของนายเลยนะ  ว่าไงจ๊ะ สุดสวย สบายดีมั้ย ” หนุ่มในชุดสูทห้ามล้อ ก่อนหันไปทักทายสาวสวย

 

“ แหม…….. นึกว่าจะไม่ทักกันซะแล้ว สบายดีค่ะ พี่อานนท์ ” สาวสวยร่างสูงแย้มยิ้ม จากคำสนทนาบ่งบอกว่าทั้งคู่น่าจะคุ้นเคยกันดี 

 

“ เรียกพี่นนท์ เฉยๆก็ได้ ไม่ต้องมากพิธี เพราะอีกเดี๋ยวเธอก็ต้องมาเป็นน้องสะใภ้ของพี่แล้ว ว่าแต่เจ้าน้องชายคนนี้มันเลี้ยงยากมั้ย ” ชายหน้าฝรั่งที่พูดไทยคล่องปรื้อกล่าวสัพยอก

 

“ อ้อ……..ยากพอตัวเลยค่ะ ทั้งเสเพล กินเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยวกลางคืน ร้ายที่สุดก็เจ้าชู้แบบกู่ไม่กลับ เก๋เลยต้องคอยตามติดอยู่ตลอด ” เก๋ฟ้องเป็นการใหญ่ ใบหน้าขาวสวยนิ่วขมวด อันเป็นกิริยางอนตามสัญชาติของเพศสตรี 

 

“ เฮ้ๆ เดี๋ยวนะ ตกลงชั้นมีอะไรดีมั่งเนี่ย ” หลังโดนเฉซึ่งหน้า หรั่งก็โวยวายเสียงดัง

 

“ ฮ่าๆ ก็บ้าดียังไงเล่า เอาล่ะไปกันเถอะ ไปใช้ความบ้าของนายให้เป็นประโยชน์ ” ชายหน้าฝรั่งผู้มีชื่อไทยกล่าวด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ มือก็โอบไหล่น้องชายร่างล่ำ พร้อมพากันเดินไปยังจุดหมายปลายทางที่ต้องการ 

 

……………………

           

        ทั้งสามเดินทางต่อด้วยเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว นับว่าอานนท์เป็นชายหนุ่มที่มีฐานะดีพอสมควร ซึ่งก็ควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะหนุ่มต่างชาตินายนี้มีอาชีพเป็นนักธุรกิจที่จับแต่ดีลใหญ่ๆ

           

 

        ห้องพักภายในเฮลิคอปเตอร์ประกอบไปด้วยเบาะนุ่มแบบยาวที่ตั้งประจันหน้ากัน ผู้จับจองฝั่งหนึ่งคือ อานนท์ หนุ่มนักธุรกิจอารมณ์ดี ส่วนอีกฝั่งคือหรั่งที่นั่งเหยียดขาด้วยท่าทีสบายอารมณ์ โดยมีแฟนสาวร่างเพรียวนั่งอยู่ข้างกาย ท่าทางดูกังวล

 

“ ฮะๆ ไม่ทันไรน้องสะใภ้ของชั้นก็หวาดกลัวจนตัวสั่นไปซะแล้ว ” อานนท์ร้องแซว 

 

“ เหอๆ ธรรมดาน่า พี่นนท์ ยัยเก๋เป็นโรคกลัวความสูง นี่ก็บอกไปแล้วตั้งหลายครั้งว่าไม่ควรตามมา แต่คุณเธอก็ไม่ยอมรับฟัง ” หรั่งพล่ามบ่น กิริยาเบื่อหน่าย 

 

“ ก็….. ชั้นกลัวว่า…..นายจะๆ เจ้าชู้อีกน่ะซิ ” เก๋กัดฟันข่มความกลัว เพื่อตอบกลับ แต่เสียงที่เปล่งออกมากลับตะกุกตะกัก 

 

“ ฮะๆ เป็นอย่างนี้นี่เอง นายทำตัวไม่ดีเอง ไปโทษเก๋ ไม่ถูกหรอก ” อานนท์หัวเราะเสียงดัง พลางกล่าวสัพยอกน้องชายคนสนิท ส่วนหรั่งไม่โต้ตอบ เขาเพียงแต่ส่ายหัวไปมาด้วยอาการเซ็ง ปากก็พล่ามบ่นเบาๆ 

 

“ โธ่เอ๊ย วัยรุ่นเซ็งเลย ” 

 

…………………..

          

        การเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์กินเวลาไม่ถึงชั่วโมง ก็ลงจอดบนพื้นอย่างนิ่มนวล พอเสียงเครื่องยนต์ดับสนิท หรั่งเป็นคนแรกที่หย่อนเท้าสัมผัสพื้น เขารับรู้ถึงลมหนาวที่พัดผ่าน พร้อมกลิ่นหญ้าที่โชยเข้าจมูก

 

“ ว้าว…… อากาศดีจริงๆ เยี่ยมไปเลย ไอ้พี่ชาย ” หรั่งอุทานดัง เขาบิดกายไปมา เพื่อขับไล่ความเมื่อยขบ ดวงตาจับจ้องทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยแมกไม้เขียวชอุ่ม

 

“ เป็นไงเล่า อากาศที่นี่ดีพอจะให้นายปลดปล่อยความบ้ามั้ย ” อานนท์เอ่ยถาม ใบหน้าแย้มยิ้ม 

 

“ แน่นอนอยู่แล้ว แต่คงต้องรีบนิดหนึ่ง เพราะวันนี้น่าจะมีฝน ” หรั่งเงยหน้ามองท้องฟ้ายามบ่ายที่อึมครึม 

 

“ งั้นจะรอช้าอะไรล่ะ รีบไปกันเถอะ ทีมงานของพวกเราไปรอบนยอดเขาแล้ว เอ๊ะ เดี๋ยว เหมือนเราจะลืมอะไรบางอย่างนะ ” อานนท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย คล้ายพยายามจะนึกว่าลืมอะไร 

 

“ อ้อ ถ้าพี่หมายถึงยัยเก๋ล่ะก็ คุณเธอน่าจะนั่งเข่าอ่อนอยู่แถวนี้แหละ ฮ่าๆ ” หรั่งหัวเราะลั่น พร้อมผายมือไปยังแฟนสาวที่บัดนี้นั่งคุกเข่าสิ้นท่าอยู่กับพื้น ดวงตาคู่งามดูเหลือกลอยๆด้วยความหวาดกลัว 

 

“ ฮ่าๆ สงสัยวันหลังต้องมาด้วยรถยนต์แล้วล่ะมั้ง น้องชาย ” อานนท์หัวเราะร่วนด้วยความขบขัน หลังเห็นสภาพว่าที่น้องสะใภ้ของตนเอง 

 

…………………..

           

         สามสหายเดินทางต่อด้วยรถยนต์ แม้คราวนี้จะโดยสารด้วยรถจิ๊ปโฟร์วิลไดร์ แต่มันก็ทำให้เก๋ฟื้นตัวเล็กน้อยจนสามารถพล่ามบ่นถึงความยากลำบากในการเดินทางแบบไม่หยุด ส่งผลให้สองพี่น้องเริ่มรำคาญและหันมามองหน้ากันเอง พวกเขาให้สัญญากันในใจว่า……ถ้ามีทริปไปเที่ยวที่สูงๆ อย่าอัญเชิญเจ้าหล่อนมาเด็ดขาด 

         

 

        การเดินทางครั้งสุดท้ายกินเวลาเพียงสิบนาที ทั้งสามก็ถึงจุดหมายปลายทาง หรั่งพบว่าสถานที่นั้นก็คือหน้าผาสูงชันที่แวดล้อมด้วยหินแกร่งสีเทา ลานกว้างก่อนถึงหน้าผาสูงมีรถกระบะจอดอยู่สามคัน แต่ละคันบรรทุกชายฉกรรจ์ไม่ต่ำกว่าสามคน พวกเขาล้วนมีอุปกรณ์ถ่ายทำอย่างครบครัน คล้ายจะเป็นทีมงานรายการเรียลลิตี้ก็ไม่ปาน 

 

“ เอาล่ะ ถึงแล้ว ที่นี่คือจุดชมวิวลับสำหรับแขก VIP แบบชั้น จากยอดผานั้นถึงพื้นเบื้องล่าง ไม่มีเกาะแก่งใดๆขวางกั้น จึงนับว่าเป็นมุมที่สวยงามและอันตรายที่สุด ” อานนท์อธิบายคร่าวๆ พร้อมขยับสูทที่สวมใส่ให้เข้าที่ 

 

“ เยี่ยมมาก พี่ชาย ทุกสิ่งดูจะพร้อมหมดแล้ว ” หรั่งตอบกลับ ท่าทางพึงพอใจ พร้อมเหลียวมองไปรอบๆเพื่อสำรวจสถานที่ 

 

“ ก็ตรงตามที่นายสั่งนั่นแหละ มีทั้งหน้าผาสูงชัน ลานยาวที่พอให้รถวิ่งได้ แถมทีมงานถ่ายทำมืออาชีพ ” อานนท์กล่าวยิ้มๆ 

 

“ ขอบใจมาก พี่ชาย ” หรั่งตบไหล่อานนท์เป็นเชิงขอบคุณ 

           

 

         ครู่หนึ่งหรั่งก็หันไปสบตาแฟนสาว ซึ่งเก๋ก็ไม่รอช้า เธอรีบเอ่ยถามโดยเร็ว น้ำเสียงเจือความห่วงใยอย่างชัดเจน 

 

“ แน่ใจแล้วนะว่าเธอจะทำแบบนี้ ” 

          

 

          หรั่งยักคิ้วให้เล็กน้อย ก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงยั่วเย้า 

 

“ แน่ใจ เพราะหน้าผาแห่งนี้มีความสูงถึง 2,688 เมตร อันจัดว่าสูงที่สุดในประเทศไทย มันช่างเหมาะสมกับคนระดับสุดยอดอย่างชั้น ” 

 

“ ฮะๆ ตาบ้านี่ เวลาแบบนี้ยังมีหน้ามาทำทะเล้นอีก เดี๋ยวเถอะ ” เก๋อดไม่ได้ที่จะหัวเราะน้อยๆ ความเป็นคนกวนๆของหรั่งทำให้เธอผ่อนคลายได้ทุกที  

          

 

         หรั่งไม่โต้ตอบ เขาเพียงส่งยิ้มอบอุ่น ปากก็กล่าวเบาๆแค่พอได้ยินกันสองคน 

 

“ ขอบใจมาก แต่ไม่ต้องห่วง ชั้นไม่เป็นไรหรอกและนี่คืองานของชั้น เชื่อใจเถอะ ” 

          

 

         ประกายตาของหญิงสาวเปลี่ยนไป จากความพรั่นพรึงก็กลับกลายเป็นความเชื่อใจแบบไม่มีเหตุผล เธอไม่รู้เลยว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น อาจเป็นเพราะเสน่ห์ที่ยากจะต้านทานของชายคนรัก สิ่งนั้นเองที่ทำให้สาวสวยตอบกลับไปโดยไม่รู้ตัว

 

“ จ้ะ ชั้นเชื่อใจเธอ ”

 

 

สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา