และนี่คือ!!! วิญญาณคุณชายสุดเฮี้ยนกับนายนักเขียนสยองขวัญ

-

เขียนโดย BennieRule

วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 15.01 น.

  12 ตอน
  0 วิจารณ์
  9,983 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 15.07 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) บทที่ 7 การตามหาเบาะแสคุณผีสุดเฮี้ยน #1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

>>> LINK WEBTOON <<<

 

QR CODE WEBTOON และนี่คือวิญญาณคุณชายสุดเฮี้ยนกับนายนักเขียนสยองขวัญ

ขอฝากเวอร์ชั่นเว็บคอมมิคไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ

__________________________________

 

ท่ามกลางความมืดยามเย็นหลังหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดอย่างมิทราบสาเหตุ มีเพียงไฟฉายของแม่บ้านอนงค์เท่านั้นที่มอบแสงสว่างให้พื้นที่ หลังจากสามหนุ่มตั้งสติได้พลันพวกเขาก็เปิดไฟฉายจากโทรศัพท์ตนเอง แสงสว่างมากพอให้เห็นรอบด้านมากขึ้น
“คุณคิด” เสียงธวัชชัยดังขึ้นจากด้านหลังนักเขียนหนุ่ม
“ครับ?” คิดหันมองเจ้าของคอนโดที่เดินมาพร้อมป้าแม่บ้าน
“ในฐานะเจ้าของคอนโด ถ้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คุณคิดไม่สบายใจ คุณคิดแจ้งประสงค์ย้ายออกกับผมได้นะครับ” ชายวัยห้าสิบกล่าวข้อเสนอ
“ขอบคุณมากครับ แต่ผมคงไม่ย้าย” นักเขียนหนุ่มตอบทันใด เขาไม่มีความหวาดกลัวต่อเรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย
“ว่าแต่ขอดูวงจรปิดได้ไหมครับ เห็นรอยที่ลูกบิดแล้วกลัวว่ามีโจรมางัดแงะน่ะครับ” บรรณาธิการเสือกล่าวด้วยเสียงหนักแน่นเหมือนกึ่งโมโหกึ่งคล้ายจะเอาเรื่อง
ด้านเจ้าของคอนโดพยักหน้าหงึก ๆ พลางถอนหายใจแผ่วเบา
“เห็นจะไม่ได้” เขาตอบด้วยเสียงแผ่ว
“เอ๊ะ ทำไมขอดูไม่ได้ล่ะครับ?” เป็นเด็กฝึกงานบ.ก.ต่ายที่โพล่งถามขึ้นมา
“ไม่ใช่ขอดูไม่ได้แต่เพราะมันไม่มีน่ะสิ” ธวัชชัยชี้แจ้ง
“เฉพาะชั้นที่สิบสามเท่านั้นที่ไม่มีวงจรปิดค่ะ” ป้าอนงค์เสริม
“อะไรนะ?” สามหนุ่มฉงนพร้อมกัน
“เห็นรอยเก่าบนนั้นไหม” เจ้าของคอนโดชี้นิ้วไปยังบนเพดานขาว ป้าอนงค์เหมือนรู้ใจจึงหันกระบอกไฟฉายส่องไฟไปยังด้านบน เผยให้เห็นร่องรอยติดตั้ง รอยของอุปกรณ์ นอต
และรอยขีดข่วนที่เหมือนเล็บมืออยู่ตรงนั้นหลายจุด
เห็นเช่นนั้นต่ายกับเสือก็รู้สึกขนลุกซู่ทันที
“เมื่อก่อนเราเคยมีกล้องอยู่หลายตัว แต่พวกมันมักจะขัดข้องด้วยเหตุผลบางอย่าง ผมเลยเอาพวกมันออกไป” เจ้าของคอนโดพูดด้วยเสียงราบเรียบ ดวงตาของเขานิ่งฉายแววซ่อนเงื่อนงำเอาไว้
“เหตุผลบางอย่าง?” ต่ายทวนคำด้วยเสียงแผ่วเล็กน้อย
“…พวกคุณ…อยากรู้จริง ๆ หรือครับ?” เจ้าของย้ำอีกรอบพลางเอนคอ
“ไม่เป็นไรครับคุณลุง ไม่เป็นไรครับ แค่นี้ผมก็ขนลุกแล้วครับ แฮะๆ” ต่ายตอบพร้อมหัวเราะแก้เก้อพลางเกาะแขนเสื้อรุ่นพี่เอาไว้แน่น
“ผมอยากรู้ทุกเรื่องเลยครับ” หนุ่มนักเขียนนิยายสยองขวัญกล่าวพร้อมแววตาเป็นประกาย
“คิด!” เสือเอ็ดเสียงดุ
“ผมไม่ย้าย ผมมาเพราะอยากรู้ความจริง พี่เสืออย่าโน้มน้าวผมเลย” คิดโต้ด้วยความเร็ว “มีบางอย่างที่นี่ ผมว่าที่นี่มีสิ่งที่ผมต้องการหาคำตอบ ที่นี่แหละ” เขาย้ำอย่างแน่วแน่
เพราะทำงานร่วมกันมานาน เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้เสือก็ไม่รู้จะห้ามปรามนักเขียนหัวดื้อผู้นี้ได้อย่างไร
“เชื่อเขาเลย” ร่างสูงใส่แว่นตัดพ้อพลางใช้ปลายนิ้วดันแว่นขึ้น
“ทำงานกับนักเขียนชื่อดังนี่ลำบากกว่าที่คิดนะครับเนี่ย” เด็กหนุ่มที่เกาะหลังเสือกระซิบ
“อา เรียนรู้ไว้ซะนะเจ้าต่าย”
ขณะที่สามหนุ่มสนทนา ร่างชายวัยห้าสิบปีก็เดินไปที่บานประตู สายตาแหลมคมจ้องมองชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ลูกบิดปรกติ ไม่ได้พังไม่ได้มีการงัดแงะอะไรหรอกครับสบายใจได้ ถ้าคุณคิดคิดว่าห้องเละเพราะลมก็เพราะลมนั่นแหละครับ เดี๋ยวผมจะให้อนงค์ช่วยทำความสะอาดให้แล้วกันนะครับ ผมขอแวะลงไปดูหม้อแปลงไฟฟ้าเสียหน่อย ไฟดับนานมันน่าเป็นห่วง” เขาพูดพลางหันหลัง
“คุณธวัชชัย” คิดเรียกเจ้าของขณะเมื่อเห็นเจ้าตัวเดินไปทางบันไดหนีไฟ “แล้วตกลงเกิดอะไรขึ้นกับกล้องวงจรปิดนี่หรือครับ?”
ชายชรานิ่งครุ่นคิดราวกับว่าจะเฉลยดีหรือไม่ พลันเห็นสายตาใคร่รู้ของเด็กหนุ่มเขาก็หัวเราะหึแล้วตอบด้วยเสียงแหบ
“จะไม่เชื่อก็ได้นะ จะคิดว่าผมโกหกก็ได้” ธวัชชัยบอก “เคยมีคนที่เช่าห้องนี้จู่ ๆ สติไม่ดีมาปีนผนังขึ้นไปข่วนแกะกระชากกล้องลงมา”
เจ้าของคอนโดกล่าวก่อนจากไป ทิ้งไว้เพียงสายตาของสามหนุ่มมองขึ้นไปด้านบนผนังอย่างไม่เชื่อตา ผนังสูงขนาดนี้อะไรกันหนอทำให้คนปีนขึ้นไปตะกุยตะกายคว้ากล้องวงจรปิดได้…
 

 
แสงสว่างกลับมาอีกครั้งหลังจากคุณเจ้าของลงไปได้ราวยี่สิบนาที ขณะที่สามหนุ่มกับหนึ่งแม่บ้านกำลังร่วมด้วยช่วยกันจัดทำความสะอาดห้อง โชคดีที่ข้าวของของคิดมีไม่มากทำให้การจัดเก็บเป็นไปโดยเรียบร้อย เมื่อหนังสือกับกระดาษถูกเติมเต็มลงบนชั้น เสื้อผ้าถูกเก็บในตู้ ทุกอย่างก็เป็นอันเรียบร้อย
“ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยนะครับ รบกวนทุกคนวันนี้จริง ๆ ” คิดกล่าวพลางผงกศีรษะเล็ก ๆ
“ยินดีค่ะ”
“ทางนี้ก็ได้ประสบการณ์ไปเล่าให้เพื่อนฟังเยอะเลยครับ” ต่ายพูดหมายเรียกเสียงหัวเราะ “ยิ่งกว่าวิ่งซื้อกาแฟหรือถ่ายเอกสารเยอะเลย”
“ความลับบริษัท ไอ้นี่!” เสือใช้แขนถองอีกฝ่ายก่อนหันไปทางนักเขียนที่ตนดูแล “คิด พี่ยังไม่โอเคกับที่นี่หรอกนะ ถ้ามีปัญหาอีกก็ย้ายออกซะ มาพักที่บ้านพี่ก่อนก็ได้ เข้าใจนะ”
“ครับ ขอบคุณนะครับพี่เสือ”
“อา เข้าใจก็ดี เรื่องพล็อตนิยายเรื่องใหม่ก็เตรียมไว้ให้เรียบร้อยล่ะ จะได้มาทรีตเม้นกัน”
“ทราบแล้วครับพี่”
เสือพยักหน้าหน้านิ่งพลางขยี้ศีรษะนักเขียนเสียหนึ่งทีก่อนเอ่ยขึ้นต่อ “ร่างคร่าวๆ เขียนเสร็จภายในวันพรุ่งนี้ล่ะ เตรียมเข้าบริษัทด้วยล่ะ จำนัดพวกเราได้นะ”
“จำได้ครับพี่ ไม่ต้องห่วง”
“ทำงานนะ”
“ครับ”
“อย่าลืมไหว้พระไหว้เจ้าที่ล่ะ”
“ค้าบพี่”
“เอาล่ะ ไปได้แล้ว ต่าย กลับๆ” หนุ่มแว่นเอ่ยกับรุ่นน้อง
“ไปก่อนนะครับคุณคิด”
“รุ่นเดียวกัน ไม่ต้องเรียกคุณไม่ต้องสุภาพก็ได้” คิดกล่าว
“รับทราบครับ” ต่ายใช้กำปั้นชนฝ่ามืออีกฝ่าย
“มีอะไรให้ช่วยติดต่อฉันได้เลยนะคะคุณคิด” อนงค์เสริม “ฉันอยู่ที่ชั้นเจ็ด ห้องประตูที่มีตู้ไปรษณีย์อยู่ด้านหน้านะคะ”
“ได้ครับคุณป้า ขอบคุณนะครับ”
เมื่อบทสนทนาจบลง ทุกชีวิตยกเว้นคิดก็ทยอยจากไปเหลือเพียงห้องว่างเฉกเช่นตอนแรกที่เขาเข้ามาอาศัย คิดมองเอกสารงานก่อนเดินมายังโต๊ะ กางโน๊ตบุ๊คแล้วเอ่ย
“คราวนี้มีแค่ผมกับคุณแล้ว ถ้าคุณมีตัวตนอยู่จริงก็ทำให้ผมรับรู้ได้เลยนะครับ ไม่ต้องแอบ” คิดเอ่ยลอย ๆ ก่อนลงมือนั่งเขียนงาน
“เรื่องอะไรล่ะไอ้เด็กคนนี้” คุณชายเอ่ยข้าง ๆ เจ้าตัวยังคงวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ “ท่าทางไล่ธรรมดาคงไม่ไป มุกเดิมกับพวกประตูหน้าต่างมันก็ไม่ตกใจ หรือทำของแตกสักรอบซ้ำสองดีไหมนะ”
คุณชายพึมพำก่อนหันไปยังข้าวของเครื่องใช้ในครัว ทุกอย่างเก็บกวาดสะอาดดีแล้วเป็นระเบียบ งามจนคุณชายไม่อยากทำลายให้พินาศสายตา ด้วยความที่ตนรักสะอาดและทนรอคิดในห้องรกเละมานานสองนาน คุณผีจึงไม่อยาก
คิดวางพระไว้บนตู้เย็น
“ชิ” คุณชายผีจิ๊ปากเล็กน้อย “ตัดสายอินเทอร์เน็ตมันดีไหมเนี่ย”
คุณชายหันไปมองลู่ทางก่อกวน ทว่าสายเน็ตก็อยู่ไม่ห่างจากตู้เย็น
วิญญาณร้ายนิ่งเงียบ
“ทำอะไรไม่ได้เลยรึ ไว้ตอนนอนจะเล่นให้หนัก” วิญญาณพึมพำก่อนกระโดดลงเตียง วิญญาณไม่มีความรู้สึกง่วงหรือหิว กระนั้นแล้วคุณชายก็ฆ่าเวลาเบื่อด้วยการพักตาอยู่ตรงนั้น รอนักเขียนหนุ่มทิ้งตัวลงนอนบนเตียง
 

 
คิดใช้เวลาเขียนงานเพียงสองชั่วโมง นอกเหนือจากนั้นเขาก็ท่องไปในโลกไร้พรมแดน ชายหนุ่มล๊อคอินด้วยชื่อปลอมเพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าตนคือนักเขียนชื่อดัง
เมื่อเข้าถึงโลกอินเทอร์เน็ตเข้าไปในเว็บต่าง ๆ แล้วคิดก็เริ่มตั้งกระทู้ขึ้นมาว่า
Id:Kidja ‘มีใครรู้เรื่องผีในห้อง 704 ชั้นที่ 13 คอนโดธวัชชัยย่านลาดพร้าวบ้างไหมครับ’
ชายหนุ่มเขียนรายละเอียดและบรรยายสรรพคุณเสร็จสรรพลงไปในโซเชียลทุกช่องที่พอจะนึกออก
ดึ๋ง ดึ๋ง นาทีเดียวหลังจากตั้งกระทู้เด้งขึ้นมาในบอร์ดชมรมคนเล่าสู่กันฟังเรื่องราวสยองขวัญ
Id: Knowone : เรื่องห้องนี้มาอีกแล้ว!
Id: MusicMusic : ว่าแล้วว่าต้องมีกระทู้ห้องนี้ พักนี้ไม่ค่อยเห็นคนโพสต์ถึงเลย คงเพราะที่มาอยู่ส่วนใหญ่ไม่ได้เล่นเน็ตล่ะมั่ง
Id: แม่หมอขอไม่ยุ่งกับเรื่องลี้ลับ : ห้องนั้นมีผี อย่าไปยุ่งเลย ออกมาเถอะ!
 
สายตาของคิดนิ่งมองคอนเมนต์ทั้งสามที่ขึ้นมาเขาจึงพิมถามต่ออย่างว่องไว
 
Id: Kidja : มีใครพอจะรู้เรื่องวิญญาณในห้องนี้ไหมครับว่าเป็นใครมาจากไหน ผู้ชายหรือผู้หญิง ทำไมถึงมาอยู่ในห้องนี้
Id: Knowone : ถามแบบนี้แสดงว่าอยากจะเช่าที่นี่หรือ อย่าเลย พวกที่เข้าไปโดนหลอกทุกราย ถ้าให้เดาคงเป็นหญิงผมยาวชุดขาวแหละ อารมณ์แปรปรวนเบอร์นั้น บรื้อ
Id: MusicMusic : ใครได้ยินว่ามีหลายตน ผู้ชายบ้างผู้หญิงบ้าง ได้ยินว่าอกหัก ไม่ก็เป็นแดนยมทูตที่มิติทับซ้อนกัน
Id: Knowone : ^ความเห็นบนเหมือนในรีวิวในเพจคอนโดนั้นเลย [ฮา]
Id: แม่หมอขอไม่ยุ่งกับเรื่องลี้ลับ : เป็นผู้ชาย เหตุผลที่อยู่ห้องนั้นไม่รู้
 
สายตาของคิดสะดุดกับแอคเคาท์ ‘แม่หมอขอไม่ยุ่งกับเรื่องลี้ลับ’ รวมถึงความเห็นเจ้าตัวที่ตอบชัดกว่าคนอื่น ชายหนุ่มจึงจิ้มถามพร้อมแท๊กชื่อเจ้าตัวด้วยข้อความว่า
Id: Kidja : @แม่หมอขอไม่ยุ่งกับเรื่องลี้ลับ คุณรู้เรื่องของเขาบ้างไหม
หลังคิดพิมจบไปก็รออยู่นานราวสิบนาที
คำตอบก็ขึ้นมาหลังจากนั้น
Id: แม่หมอขอไม่ยุ่งกับเรื่องลี้ลับ : ไม่รู้ รู้แค่อย่าไปยุ่งกับห้องนี้เลย
 

 
หลังจากหาข้อมูลอยู่นาน คิดก็สรุปได้เพียงแค่ข้อเดียวที่น่าเป็นไปได้
วิญญาณในห้องนี้น่าจะเป็นผู้ชาย
แต่ที่เหลือนอกนั้นยังคงเป็นปริศนา ไม่ว่าจะประวัติ ชื่อ หรือที่ไปที่มา
กระนั้นความใคร่รู้ไขปริศนาของนักเขียนนิยายสยองขวัญกลับพุ่งพรวดอย่างมาก
พริบตาเดียวเวลาก็ผ่านไปหนึ่งคืน
คุณชายลุกจากเตียงขึ้นมา ร่างนักเขียนหนุ่มยังคงนั่งบนเก้าอี้
“ไม่หลับไม่นอนก็ได้นะคนเรา” วิญญาณหนุ่มครุ่นคิด
"จริงด้วย มีคนที่ช่วยเราได้นี่น่า!!!! "
ทันใดนั้นคิดก็ลุกพรวดออกจากโต๊ะจนคุณชายผงะไปขณะหนึ่ง เขาไปอาบน้ำอย่างว่องไวก่อนแต่งกายด้วยเสื้อยืดกางเกงวอร์มพร้อมหน้ากากกันมลภาวะ คว้ากุญแจและกระเป๋าตังส์แล้วออกจากห้องไปภายในเวลาเพียงห้านาที
“ผมไปข้างนอกหาเบาะแสเพื่อนบ้านก่อนนะครับคุณ แล้วเดี๋ยวจะรีบกลับ! ไม่ทำห้องรกนะครับ”
ตึง เสียงประตูปิดอย่างไว พร้อมกับคิดที่วิ่งออกไป ทิ้งให้คุณชายผีมองทุกอย่างด้วยสีหน้าสับสนในความเงียบงันนั้น
“อะไรของมัน…ตกใจหมด!!”
 

 
สรุปสถานะคนกับผี #1
นักเขียนนิยายสยองขวัญ สถานะ ไม่นอนแถมออกไปข้างนอกแบบไม่ทันตั้งตัว
วิญญาณเฮี้ยน สถานะ รอหลอกอยู่บนเตียงยันเช้าตรู่ ตกใจกับการลุกพรวดของเป้าหมายในการหลอก
สถานะคืนแรกของการอยู่ที่ห้องผีดุ : ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา