วิวาห์ก่อรัก

-

วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 14.15 น.

  2 ตอน
  0 วิจารณ์
  2,457 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 14.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ตอนที่ ๑

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ ๑

 

            สิงหนาทชักไม่แน่ใจแล้วว่าตัวเองตัดสินใจถูกที่ขอเปลี่ยนตัวเจ้าสาวเป็นเด็กหมูหวานซึ่งดูยังไงก็ห่างไกลจากคำว่าหมูลิบลับ นมก็ไม่มี สะโพกก็แฟบ ตัวเล็กผอมบางจนเหมือนจะหัก นี่เขาจะเอายายเด็กนี่ไปทำอะไรได้บ้างวะ ชายหนุ่มครุ่นคิดในใจขณะมอบรับน้ำสังข์ข้างเจ้าสาวซึ่งอยู่ในชุดหลวมๆ ของมัดไหมผู้อวบอัดและเต่งตึงไปทุกส่วน

            “ยิ้มหน่อยอย่าทำหน้าเหมือนกับจะถูกเอาไปฆ่าแบบนั้น” ชายหนุ่มเอียงตัวไปกระซิบข้างหูของเจ้าสาวที่ทำหน้าตาเศร้าโศกราวกับจะถูกจับเอาไปเชือด ไม่ลืมยิ้มแบบแยกเขี้ยวขู่เหมือนสิงโตกำลังข่มเหยื่อให้หวาดกลัว

            นิรดาถูกลหายใจอุ่นร้อนที่รินรดเบาๆ ลงบนแก้มนวลทำให้สะดุ้ง เธอใจลอยจนไม่รู้ว่าคนซึ่งกำลังรดน้ำสังข์ให้กับเธอและสิงหนาทนั้นพูดอะไรบ้าง ตอนหันมามองหน้าเขาที่แย้มยิ้มเพียงปากแต่ไปไม่ถึงตานั้น เด็กสาวก็นึกอยากจะถอดชุดเจ้าสาวหลวมๆ ของมัดไหมทิ้งแล้วหนีไปบ้าง

            ถึงสิงหนาทจะสั่งให้ยิ้มและเธอเองก็อยากจะยิ้ม แต่มันยิ้มไม่ออกจริงๆ ยิ่งคนต่อมาที่มารดน้ำสังข์ให้นั้นเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาผู้แสนใจดีอย่างภูเบศ เด็กสาวก็แทบอยากจะร้องไห้แล้วโผเข้าไปกอดคนเป็นอาจารย์ของเธอ

            “ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแกถึงเปลี่ยนตัวเจ้าสาวจากมัดไหมมาเป็นลูกศิษย์ของฉัน เห็นแก่ความเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยอนุบาล” ภูเบศถอนหายใจพลางก้มลงกระซิบ “มึงเห็นไหมลูกศิษย์ของกูกลัวมึงจนตัวสั่น คืนนี้เข้าหอน่ะกูขอเถอะ ถ้าเด็กไม่เต็มใจมึงอย่าฝืนบังคับจิตใจเด็ก หมูหวานเป็นเด็กดีมากนะมึง”

            สิงหนาทไม่ได้รับปากแต่อย่างใด เพียงแต่สบตากับเพื่อนแล้วพยักหน้าส่งๆ ในใจกำลังครุ่นคิดว่าไอ้เพื่อนเวรนี่คิดว่าเขาจะมีอารมณ์กับยายเด็กหมูหวานที่แห้งอย่างกับหมูปิ้งนี่หรือไง

            “หมูหวานอาจารย์ขอให้เธอเข้มแข็งและผ่านเรื่องร้ายๆ ไปได้ในเร็ววันนะครับ” คำอวยพรของภูเบศทำให้สิงหนาทหันขวับ นึกอยากจะด่าเพื่อนสนิทของตัวเองสักคำสองคำ

อะไรคือสิ่งร้ายๆ เขาเรอะ!

“ขอบคุณนะคะอาจารย์ภูเบศ” นิรดาพยายามฝืนยิ้มให้กับอาจารย์หนุ่ม แต่ทำได้เพียงยิ้มฝืดเฝื่อนที่ยิ่งมองยิ่งน่าสงสารจับใจ

ภูเบศนึกอยากจะยื่นมือไปลูบหัวเด็กน้อยที่อยู่ในความดูแลของอาจารย์ที่ปรึกษาอย่างเขามาตลอดสามปีในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย แต่ในเมื่อตอนนี้อีกฝ่ายใส่ชุดเจ้าสาวนั่งหมอบรับน้ำสังข์อยู่ข้างๆ เพื่อนสนิทของเขา มันก็คงดูไม่เหมาะสม จึงทำได้เพียงส่งสายตาให้กำลังใจและอวยพรอีกหลายร้อยคำในใจ ขอให้ชีวิตในอนาคตที่เจ้าตัวตกมาอยู่ในอุ้งมือของสิงหนาทไม่เลวร้ายเกินไปนัก เพราะอันที่จริงเขาก็รู้จักเพื่อนของตัวเองดีว่าเป็นอย่างไร ถึงจะดูร้ายกาจ เจ้าอารมณ์ ไม่อ่อนโยน อ่อนหวานเท่าไหร่ แต่เขารู้มันเป็นคนดีคนหนึ่ง ภูเบศคิดอย่างปลงๆ

นิรดาปล่อยให้คนข้างกายฉุดลากเธอไปเหมือนกับตุ๊กตา เธอปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามยถากรรม อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เพราะถึงจะบอกว่าถ้ามัดไหมกลับมาเธอจะเป็นอิสระ แต่ทว่ามันจะมีวันนั้นเหรอ

‘พี่แต่งกับคุณสิงห์ไม่ได้หรอกหมูหวาน ตอนนี้พี่ท้องกับพี่กานต์’ นั่นเป็นคำสารภาพของมัดไหมที่บอกกับนิรดาตอนที่เธอพยายามจะขัดขวางไม่ให้ญาติผู้พี่หนีการแต่งงาน

ลุงคมสันกับป้าสายไหมรักมัดไหมมาก มากเสียจนไม่ยอมบอกให้รู้ว่าครอบครัวติดหนี้เสี่ยอนุรักษ์เพื่อนำเงินส่งไปให้เธอตอนที่ยังเรียนอยู่เมืองนอก เหตุที่ต้องไปยืมเพราะธุรกิจโรงพิมพ์นั้นไม่อู้ฟู่เหมือนแต่ก่อนจึงทำให้หมุนเงินไม่ทัน

แม้ว่ามัดไหมจะกลับมาอยู่บ้านนานเป็นปีแล้ว แต่เจ้าตัวก็ไม่เคยรับรู้ถึงปัญหาพวกนี้อยู่ดี เพราะถูกเลี้ยงมาแบบลูกคุณหนูเต็มขั้นจึงยังรู้สึกสนุกกับชีวิตที่เป็นอิสระ ได้ลองเปิดร้านโน่นนี่นั่นหลายอย่าง แต่ทุกอย่างก็ไปไม่ถึงไหนเนื่องจากเจ้าตัวเบื่อหน่ายเสียก่อน ทุกร้านจึงติดตัวแดงขาดทุนไปเสียหมด

กว่านิรดาจะรู้ตัวอีกทีงานฉลองมงคลสมรสในช่วงค่ำก็ผ่านพ้นไปเรียบร้อย นิรดานั่งนิ่งอยู่ปลายเตียง เธอไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าบ่าวของเธอหายไปไหน ถ้าเขาจะหายไปเลยทั้งคืนก็ดี เธอไม่ว่าอะไรหรอก

เด็กสาวนั่งคิดอะไรเงียบๆ อยู่นานจนเริ่มง่วงจึงคิดจะปลดเปลื้องชุดแต่งงานฟูฟ่องออกจากตัว ชุดที่เธอเป็นคนเลือกให้กับมัดไหมที่กว่าจะกล่อมให้ไปลองชุดได้ก็พูดกันจนปากแทบฉีก

เพราะเป็นชุดแบบเกาะอก ดังนั้นเข็มกลัดมากมายจึงถูกนำมาใช้ เนื่องจากขนาดตัวเธอกับมัดไหมนั้นต่างกันพอสมควร นิรดาแกะเข็มกลัดแต่ละอันอย่างระมัดระวังไม่ให้พลาดทิ่มเนื้อของตัวเองและเพราะตั้งสมาธิไปกับการถอดชุดเจ้าสาวมากเกินไปจึงไม่ทันได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ กับเสียงเปิดประตูของใครบางคน

นิรดาเปิดตู้ออกเพื่อจะนำไม้แขวนออกมาแขวนชุดเจ้าสาว เมื่อเรียบร้อยแล้วก็คิดจะเข้าไปอาบน้ำให้สบายตัว แต่พอหมุนตัวกลับก็ตกใจจนร้องไม่ออก เพราะสิงหนาทกำลังมองมาด้วยสายตาคู่คม เด็กสาวรีบยกมือขึ้นปิดหน้าอกที่มีเพียงชั้นในแบบกาวทรงปีกนก

“คุณสิงห์!”

“เล็กปานนั้นไม่ต้องปิดฉันก็ได้มั้ง ไม่มีอะไรน่าดูเลย” ทั้งๆ ที่พูดไปแบบนั้นแต่ชายหนุ่มกลับยังไม่ละสายตาไปจากกายสาวนวลลออตรงหน้า

เอาจริงๆ แล้วถึงจะมีน้อยกว่ามัดไหมอยู่มากโข แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย กะๆ ดูแล้วก็คงจะพอดีกับมือของเขานั่นแหละ

สิงหนาทรู้จักกับเด็กสาวเพราะเจ้าตัวมักจะปรากฏตัวเป็นผู้ติดตามของมัดไหม ราวกับตัวประกอบในละครที่คอยเป็นลูกไล่ของนางเอก เขาไม่เคยสนใจอีกฝ่ายเลยสักนิด ไม่เคยคิดฝันด้วยว่าจะมาจบกับเจ้าหล่อนในสภาพนี้

นิรดาได้กลิ่นเหล้ามาจากตัวของสิงหนาท ซึ่งมันเป็นสัญญาณที่ไม่ดีเลย ดวงตาของเขาฉ่ำเยิ้ม ริมฝีปากยิ้มน้อยๆ ทำให้เขาดูเจ้าเล่ห์เหลือเกิน

“คุณเมาเหรอคะ” เด็กสาวถามอย่างหวาดๆ

“เปล่า”

ทั้งสองเงียบกันไปครู่หนึ่งก่อนจะเป็นฝ่ายเด็กสาวที่ทำลายความเงียบลง “ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนได้ไหมคะ” เด็กสาวกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ เธอยังคงยกมือกอดอกตัวเองเอาไว้แน่น

“ก็ไปสิ” เขาเอ่ยปากอนุญาตแต่ตัวกลับไม่ขยับหลีกทาง นิรดาจึงหยิบเอาชุดนอนมากอดไว้แน่นแล้วพยายามแทรกตัวผ่านเขาไปยังห้องน้ำ “เร็วๆ นะฉันคอยอยู่” เสียงของเขาที่ไล่หลังมาทำให้เด็กสาวแทบสะดุดขาของตัวเองล้มลงตรงหน้าห้องน้ำ

พอปิดประตูได้ก็ทรุดกายลงกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง คืนนี้เธอต้องเข้าหอกับเขาจริงๆ เหรอ

 

“นึกว่าตายอยู่ในนั้นแล้วซะอีก”

นิรดาเงยหน้าขึ้นมองคนที่พูดจาไม่ดี แล้วก็ต้องรีบก้มหน้าลงเมื่อพบว่าเขานอนเหยียดขาเอนหลังพิงหัวเตียงโดยไม่ได้ใส่เสื้อ อวดกล้ามและหุ่นแน่นๆ ที่ทำเอาเธอใจสั่นไปหมด นี่เขาพร้อมจะขย้ำเธอแล้วใช่ไหม!

สิงหนาทมองหญิงสาวซึ่งกำลังยืนตัวลีบอย่างนึกรำคาญ เขาชอบมัดไหมเพราะเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงและดูขยันขันแข็ง เธอเปิดร้านอะไรต่อมิอะไรตั้งหลายร้าน ถึงจะไปไม่รอดสักร้านก็เถอะ แต่คงเพราะเธอยังเป็นมือใหม่ แต่กับเด็กสาวที่เขาไม่เคยเห็นอยู่ในสายตา เขาก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน ก็แค่โมโหที่เจ้าตัวมีส่วนร่วมกับการหนีไปของว่าที่เจ้าสาว

“มานี่สิ” ชายหนุ่มตบๆ ลงบนเตียงข้างตัว

เท้าของเด็กสาวก้าวถอยโดยอัตโนมัติ นิรดากลัว เธอกลัวสิงหนาทมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แค่เพียงเขาจ้องมาเธอก็ต้องรีบหลบตา

สิงหนาทรู้ว่าเด็กสาวกลัวเขา อาจเพราะหน้าดุๆ หรือไม่ก็เสียงเข้มๆ เขาไม่เหมือนกับภูเบศเพื่อนสนิทหรอกที่พูดจาไพเราะหวานหู แล้วยังจะดูสุภาพหล่อเหลา เด็กนักเรียนหญิงหลายคนแอบเป็นแฟนคลับเพื่อนของเขากันทั้งนั้น เมียของเขานี่ก็คงไม่เว้นละมั้ง

“เธอเลี่ยงไม่ได้หรอกนะเพราะเธอแต่งงานกับฉันแล้ว ถึงจะไม่เต็มใจแต่ง แต่เธอก็ต้องทำหน้าที่เมีย มันเป็นเรื่องปกติ”

เด็กสาวถอนหายใจ เธอแย้งคำพูดของสิงหนาทไม่ได้ แต่ในเมื่อเขาจะเป็นสามีของหล่อนแล้ว หล่อนก็อยากรู้ว่าเขาจะรับผิดชอบหล่อนไปอีกนานแค่ไหน

นิรดาเดินเข้าไปหาสามีของเธอบนเตียง ปีนขึ้นไปนั่งข้างๆ เขาที่กำลังมองเธออย่างพิจารณา ดวงตาของเขาออกจะหวานฉ่ำหน่อยๆ เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์

“คุณสิงห์จะหย่ากับหมูหวานไหมคะถ้าพี่มัดไหมกลับมาหาคุณสิงห์”

คำถามของเด็กสาวทำให้สิงหนาทเม้มริมฝีปาก “แล้วพี่สาวของเธอจะกลับมาไหมล่ะ”

“เออ...” ในใจของเธอนั้นคิดว่าบางทีมัดไหมอาจจะไม่มีวันกลับมาหาสิงหนาทและถึงกลับมา อาจจะกลับมาพร้อมลูกและสามี

“ตอนนี้ฉันตอบเธอไม่ได้หรอก”

นิรดาถอนหายใจ นั่นสิ ใครจะไปตอบได้เล่า...

“แต่รู้ไว้อย่างก็แล้วกัน ถ้าเธอเป็นเด็กดี ไม่ดื้อกับฉัน เราคงอยู่กันไปยาวๆ นั่นแหละ”

“ทำไมล่ะคะ”

“ฉันขี้เกียจหาเมียใหม่แล้ว ตอนแรกที่อยากได้มัดไหมเพราะพี่สาวเธอเป็นแบบที่ฉันชอบ แต่เป็นเธอมันก็ไม่ได้แย่ ใช้ได้เหมือนกันแหละ” สิงหนาทพูดหน้าตาย แต่คนฟังตาโต

นี่เขาอยากได้เมียหรืออยากได้อะไรกันแน่!

เพียงชั่ววินาทีสิงหนาทก็กดร่างของคนตัวเล็กบอบบางให้ล้มลงบนเตียงโดยมีเขาคร่อมทับ นิรดาใจหายวาบ เธอรู้ว่าผู้หญิงกับผู้ชายต้องทำอะไรกัน เธอเองก็อยากรู้อยากเห็น เคยคิดว่าอาจจะได้เรียนรู้ภาคปฏิบัติในวันที่ตัวเองพร้อม

อันที่จริง...ตอนนี้ตัวเธอซึ่งแต่งงานแล้วก็ถือว่าพร้อมที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับความใคร่ระหว่างชายหญิง เพียงแต่...

“คุณสิงห์คะหมูหวานยังไม่อยากท้องค่ะ!” เด็กสาวรีบอธิบาย “หมูหวานยังต้องเรียนหนังสือ ถ้าเกิดท้องขึ้นมาระหว่างเรียน หมูหวานคิดว่ามันคงไม่เหมาะ ตอนนี้หมูหวานไม่ได้กินยาคุม หมูหวานหามากินไม่ทันจริงๆ ค่ะ” กะทันหันขนาดนี้ เธอไม่ได้คิดถึงเลยด้วยซ้ำ

            “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ไอ้นี่ฉันมีเยอะ” สิงหนาทเอื้อมมือไปดึงลิ้นชักที่หัวเตียง ข้างในนั้นเต็มไปด้วยซองเล็กๆ ที่นิรดารู้ว่ามันคืออะไร ชายหนุ่มเลิกคิ้ว “มีปัญหาอะไรอีกไหม”

            “มะ...หมูหวานกลัวเจ็บ” เธอกลัวจริงๆ เพื่อนที่เคยลองแล้วบอกว่าเจ็บมาก

            “ใครบอกเธอ” สิงหนาทเอ่ยถามพลางหยิบซองเล็กๆ ที่ทำให้นิรดาใจสั่นออกมาซองหนึ่ง

            “เพื่อนค่ะ”

            “แล้วเพื่อนบอกหรือเปล่าว่าหายเจ็บแล้วมันจะฟินแค่ไหน”

            นิรดาหน้าแดงก่ำ นึกถึงเสียงครวญครางในคลิปเอวีที่เพื่อนพาแอบดูตอนเข้าค่ายลูกเสือแล้วก็หัวใจเต้นระทึก

            “บอกเลยเธอจะฟินจนครางไม่หยุดแน่ๆ ยายหมูหวาน” สิงหนาทเอ่ยด้วยน้ำเสียงยั่วเย้า ร้ายกาจและแสนเซ็กซี่

            แล้วค่ำคืนแรกก็ผ่านพ้นไปอย่างที่ควรจะเป็น เจ้าบ่าวได้ลิ้มรสเจ้าสาว ตักตวงความหวานหอมแสนไร้เดียงสาจากเรือนร่างอีกฝ่ายจนอิ่มเอม แถมยังไม่ใช่แค่ครั้งเดียวอีกด้วย แต่มากกว่านั้น...

เสียงกระซิบหนึ่งดังขึ้นอย่างแผ่วเบาเมื่อความหวานรัญจวนเข้าครอบงำ

            “หมูหวาน รู้แล้วทำไมถึงชื่อนี้ เธอหวานสมชื่อจริงๆ”

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา