ม่านนารี By แพรววาริน

-

เขียนโดย sunthree22

วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 19.33 น.

  4 ตอน
  0 วิจารณ์
  3,543 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2563 19.36 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) Lunch hour มือกลางวันของเจ้านายและเลขา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ม่านธาราถือถาดอาหารที่เป็นของโปรดของเป็นหนึ่งเดินตรงมายังห้องพักที่วิวดีที่สุดที่ยังว่างอยู่ เธอเลือกห้องนี้เพราะมันเงียบไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน ‘วิวดีจริงๆ ’ ทะเลที่มีเส้นบางๆ แบ่งระหว่างสีฟ้าและสีขาวนั้น เป็นวิวที่เธอแทบลืมมันไปแล้วทะเลคือบ้านที่เคยเธออยู่ ‘เขาลืมเธอ’ ม่านธาราปล่อยอารมณ์ตามความคิดที่ผุดขึ้นมา

“ทำไมเป็นเธอ” เป็นหนึ่งมองเห็นเลขาสาวแต่เขาสงสัยทำไมเธอมานี้ละ เอื้อมดาวไปไหน

“คุณหนึ่ง ทานข้าวซิคะ ม่านถือมาให้” ม่านธาราไม่ได้ฟังว่าเป็นหนึ่งพูดอะไร เธอรู้แต่ว่าจะต้องนำอาหารมาให้เขาตาม ‘คำสั่ง’

“ม่าน ผมถามว่าทำไมเป็นคุณมาที่นี้” เป็นหนึ่งมีเรื่องที่จะคุยกับเอื้อมดาวมากมาย งานที่มอบหมายให้ กลับไปโพล่งกับงานของคู่แข่งได้ พานทำให้เขาหงุดหงิด เรื่องไม่น่าเกิดขึ้นก็เกิดขึ้นมาอีก ทั้งๆ ที่ควรเป็นเวลาพักผ่อน

“พี่เตยบอกคุณหนึ่งจะทานข้าว” ม่านธาราเริ่มไม่เข้าใจกับคำถามของเป็นหนึ่ง ก็เธอได้ยินว่าเขาติดต่อเธอไม่ได้

“ทานอะไรมาหรือยัง” เป็นหนึ่งรู้ว่าเอื้อมดาวคงไม่มาเลยใช้ให้อีกคนมาแทน โบนัสเอื้อมดาวลดห้าเปอร์เซ็นต์ละปีนี้

“ยังคะ เดี๋ยวม่านเดินไปทานที่ห้องอาหารคะ คุณหนึ่งทานตรงนี้เลยไหมคะ” ม่านธารามองหามุมที่ให้เจ้านายนั้นนั่งทานอาหารและชมวิวที่เธอเลือกให้

“ทานด้วยกันเนี่ยละ ผมทานไม่หมดเดี๋ยวมดก็ขึ้น” เป็นหนึ่งแพ้มดและยุง นิดหน่อยก็คันบวมแดงไปหมด

“คะ มุมไหนดีคะ” มุมสำหรับเราสองคน ม่านธารานึกถึงคำนี้ทันที

“มุมของเราเอาตรงนี้ละ มองทะเลชัดดี” เป็นหนึ่งพูดเหมือนใจที่ม่านธาราคิด ทำให้อีกคนสะดุ้งขึ้นมา “เป็นอะไร” เป็นหนึ่งเห็นอาการแปลกๆ ของเลขา

“กลัวโต๊ะจะโดนเท้าคะ” ม่านธาราเห็นเป็นหนึ่งกำลังเลื่อนโต๊ะและเก้าอี้ เธอจึงให้ข้อนี้กลบเรื่องที่เขาคิดเหมือนเธอเมื่อสักครู่

โต๊ะสำหรับห้องมุมที่ดีที่สุด เป็นเพียงโต๊ะไม้สไตล์วินเทจสีสดใสพร้อมผ้าปูโต๊ะที่ขนาดพอดี มีแจกันดอกไม้หลากสีตั้งกลางโต๊ะ ม่านธารามองเห็นกลับคิดถึงดินเนอร์ที่เธอเป็นคนจองโต๊ะสำหรับให้เขาพาคู่เดตไป ถ้ามีเทียนสักหน่อยก็คงเหมือนๆ กันล่ะมั่ง ม่านธารานั่งชมบรรยากาศรอบตัวไปโดยไม่สนใจอะไรมากนัก แม้แต่คนข้างๆ ที่นั่งมองเธอ ในใจของเป็นหนึ่งกลับอยากให้แสงอาทิตย์เปลี่ยนเป็นแสงจันทร์ แจกันกลางโต๊ะเป็นเชิงเทียนที่แสนโรแมนติก เมื่อไหร่จะถึงวันที่เขาจะพาเธอไปดินเนอร์แทนผู้หญิงที่แม่จัดมาให้ดูตัวเสียที

“ทานซิ จะถึงเวลาแล้วไม่ใช่เหรอ” เป็นหนึ่งเห็นม่านธาราไม่แตะต้องอาหารเลย ใช่ว่าเราสองคนไม่เคยทานข้าวกลางวันด้วยกันสักหน่อยทำไมม่านธาราดูเกร็งอย่างบอกไม่ถูก เขาขมวดคิ้วเล็กหน่อย ม่านธารายังคงนั่งนิ่งมองวิวทิวทัศน์ไม่สนใจเขาเลยสักนิด

“คะ ทานข้าวกัน” ม่านธาราละสายตาจากวิวแสนงดงามนั้น สายตาส่งไปอย่างเจ้านายที่นั่งอมยิ้มอยู่ตรงข้าม เขายิ้มทำไม??

“รีบๆ ทาน เดี๋ยวจะไปเล่นเกมไม่ใช่เหรอ ผมไม่ยอมแพ้ง่ายๆ นะ” เป็นหนึ่งรู้สึกว่าม่านธารากำลังไม่สบายใจอะไรบ้างอย่าง “ถ้าคุณไม่อยากให้ผมแข่งด้วย ผมดูเฉยๆ ก็ได้นะ” เขาไม่เป็นหนึ่งไม่ต้องการให้ม่านธาราเครียดเพราะรู้ว่ารางวัลที่จะได้นั้นสำคัญกับเธอมาก

“ทานกันเถอะคะ คุณหนึ่งก็มาร่วมสนุกกันทุกคนน่าจะดีใจ” ม่านธาราก้มหน้าก้มตาทานโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นมองเป็นหนึ่ง



กริ๊ง……….

เป็นหนึ่งลุกขึ้นเดินออกจากตรงนั้นเดินออกมาที่เงียบๆ เพื่อคุยโทรศัพท์ “ครับ ผมมาเที่ยวกับที่บริษัท ผมเรียกฝ่ายการตลาดมาแล้วครับ ตอนนี้เวลาพักทานเขาพวกเขายังไม่มา เดี๋ยวผมจะรีบติดต่อไปครับ” เป็นหนึ่งไม่อยากคุยให้ม่านธาราได้ยิน ไม่งั้นเธอจะหมดสนุกและคอยมาเครียดกับเขา ตอนนี้เขาคงไม่มีอารมณ์แข่งกับเธอแล้ว เมื่อเขาเดินกลับมายังโต๊ะรับประทานอาหาร ม่านธาราเตรียมที่จะถามแต่เป็นหนึ่งพูดขึ้นมาก่อน

“ม่าน เดี๋ยวทานข้าวเสร็จเรียกเอื้อมดาวให้ผมด้วยนะ” เป็นหนึ่งต้องการคุยกับเอื้อมดาวถึงปัญหา แน่นอนว่าต้องเรียกปุรานนท์ด้วยอีกคน

“คุณหนึ่งมีงานด่วนเหรอคะ ให้ม่านช่วยไหมคะ” ม่านธาราเป็นห่วงอีกอย่างตำแหน่งเธอนั้นคือเลขาที่ต้องอยู่เคียงข้างเป็นหนึ่งเสมอ

“ม่าน ช่วยดูแลกิจกรรมด้วยนะ ผมมีงานที่ต้องคุยกับเอื่อมดาวเล็กน้อย” เป็นหนึ่งพูดมือก็ตักอาหารรับประทาน เขาหิวแต่มีเรื่องเข้ามาหลังจากมาถึงที่พักไม่นานเขายังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เช้า สินค้าแช่แข็งเกิดละลายก่อนถึงปลายทางเกิดจากตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรจุสินค้านั้นไม่ใช้ตู้แช่แข็งทางตามที่ตกลงกันไว้ ผู้ส่งขอโทษและขอเจรจาค่าเสียหายแต่ผู้ซื้อจำเป็นต้องใช้สินค้าไม่สามารถสั่งซื้อที่อื่นทำทันการ เขาสอบถามผู้ผลิตแล้วมีสินค้าบางส่วนที่เขาสามารถส่งไปทางนั้นได้ยังมีบางส่วนที่จำต้องหาที่อื่น จำต้องการความช่วยเหลือจากฝ่ายการตลาด ฝ่ายวางแผน ฝ่ายผลิต

“คุณหนึ่ง งดกิจกรรมใช่ไหมคะ” ม่านธาราหน้าง้อรู้ว่าอีกฝ่ายคงทำงานอีกขนาดพามาไกลแบบนี้งานก็ยังต้องทำ

“ม่าน งานด่วนจริงๆ ตู้คอนเทนเนอร์ที่ใส่ของไปส่งมีปัญหา” เป็นหนึ่งรู้ว่าเธอไม่พอใจที่เขาต้องทำงานทั้งๆ ที่บอกไปแล้วว่าจะร่วมกิจด้วย

“ม่านจะไปเรียกพี่เตยให้คะ คุณหนึ่งทานข้าวนะ” ม่านธาราลุกจากที่นั่งถ้ารีบทำงานก็น่าจะได้พักกันจริงๆ ได้แล้ว

เป็นหนึ่งยืมมือจับมือม่านธาราในนาทีนั้นตัวเขาเองก็ตกใจในสิ่งที่ตัวเองทำ คงเพื่อหน้าที่แสดงออกว่ากังวลและลุกหนีทันทีที่เขาบอกว่างานด่วน งอนล่ะมั่ง

“ทานข้าวก่อนนะ เดี๋ยวค่อยไป ตอนนี้เวลาทานข้าว” เป็นหนึ่งยังคงจับมือแน่นไม่รู้ว่าทั้งบรรยากาศรอบข้างเป็นใจให้พูดความในใจหรือเปล่า ใจอยากพูดแต่กลัวเธอจะหนี

“เออ ม่านอิ่มแล้ว คุณหนึ่งอยากได้อะไรเพิ่มไหม” ม่านธาราพูดแต่ยังคงมองมือหน้าที่ยังจับมือเธอไว้ เขายังไม่ปล่อยมือเหมือนต้องการสื่ออะไรบ้างอย่างเธอรอให้เขาพูดเสมอเบื่อที่ต้องคิดไปเอง “คนพิเศษ” แบบไหนหรือเปล่า

“นั่งเป็นเพื่อนผมก่อนนะ” เป็นหนึ่งจับมือแน่น เขาต้องการกำลังใจจากเธอช่วงนี้เหมือนมรสุมเข้าหลายอย่างมีปัญหาหลายเรื่องที่ม่านธาราไม่รู้เหนื่อยจนหมดแรง ม่านธารารู้ไหมว่าเธอคือกำลังใจอย่างดี

“เหนื่อยหรือคะ” ม่านธาราเห็นแววตาที่มองเธอนั้นแฝงไปด้วยความอ่อนล้า

“ครับ” เป็นหนึ่งตอบสั้นๆ นั่งเงียบมองทิวทัศน์ด้านหน้าสลับกับมองหน้าม่านธารา เขาต้องการแค่นี้ล่ะมั่ง มีแค่เธอ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา