SOMEDAY | โลกกว้างใหญ่ฉันได้พบเธอ

-

เขียนโดย LuckyStars★

วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.21 น.

  4 บท
  0 วิจารณ์
  3,582 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 กันยายน พ.ศ. 2563 18.48 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บทที่ 2 - ชายคนนั้น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
          บทที่ 2 - ชายคนนั้น
 
          “คุณผู้หญิงครับ รถโดยสารของเรามาถึงแล้ว นี่คือกระเป๋าเดินทางของคุณหรือเปล่าครับ” ชายชราผมสีเงินเอ่ยทักด้วยความสุภาพ เขาชี้ไปยังกระเป๋าลากใบโตสีแดงเข้ม
          หลี่เวยปิดหน้าหนังสือ พยักหน้ารับคำ “ใช่ค่ะ”
          ได้ยินดังนั้นชายชราจึงลากกระเป๋าเดินทาง พร้อมกับเดินนำไปถึงรถขนาด 6 ประตูด้านหน้า ความจริงแล้วหลี่เวยรู้สึกเกรงใจไม่น้อย จู่ๆ มีชายสูงวัยอายุรุ่นคุณปู่มายกกระเป๋าให้แบบนี้ แต่ก็พบว่าเขาสามารถทำทุกอย่างได้ด้วยความคล่องแคล่วว่องไว สังคมสูงอายุเช่นนี้ บางครั้งการได้ออกมาทำงานนอกบ้าน พบเจอผู้คนมากมาย อาจจะดีกว่าการที่นั่งเหงาอยู่บ้านเพียงลำพัง
          เป็นเพราะต้องเดินมางานสัมมนาของนักเขียนนานาชาติที่หลี่เวยทำอยู่ ทำให้เธอมีเวลาพักผ่อนเกือบหนึ่งสัปดาห์ในต่างแดนนี้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าแปลกหรือไม่ ที่หญิงสาวอายุน้อยออกเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศเพียงลำพัง เธอมักพบว่าผู้คนรอบข้างมักระมัดระวังและรักษาระยะห่างกับเธอ แต่สายตาของเขาเหล่านั้นกลับจ้องมองมาอยู่เสมอ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาที่แสนจะคุ้นเคย เพราะตั้งแต่หลี่เวยจำความได้ ใครๆ ก็มักบอกว่าเธอมีใบหน้าที่หมดจดน่ามอง แต่หลี่เวยไม่อยากจะสนใจคนที่ไม่รู้จักเท่าไรนัก บุคลิกภายนอกทั้งเงียบขรึม และเย็นชา เธอจึงไม่เคยใส่ใจสายตาต่างๆ ไม่ว่าจะมองมาอย่างไร
          “จากโรงแรมถึงสถานีรถไฟใช้เวลาประมาณ 15 นาทีนะครับ ทุกท่านกรุณารัดเข็มขัด ขอบพระคุณครับ” เสียงของชายชราเอ่ยขึ้นเป็นภาษาท้องถิ่น
          เสียงเครื่องยนต์รถกำลังเคลื่อนตัวออกไปเบื้องหน้า
          แสงแดดส่องผ่านเข้ามาทางกระจก กระทบลงบนร่างของหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างคนขับ หลี่เวยนั่งมองวิวของหน้าต่างรถ พร้อมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอัดวิดีโอ บนรถเงียบสงัด มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงานอยู่ เมื่อมองมายังถนนสามารถพบเจอรถยนต์ได้บ้าง แต่ไร้ซึ่งเสียงแตรรถและการพูดคุยกันของคนที่เดินสวนไปมาโดยสิ้นเชิง การท่องเที่ยวต่างประเทศสามารถพบกับวัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตได้อย่างหลากหลาย ที่นี่ทุกคนใช้ชีวิตกันอย่างสงบและเป็นระเบียบเรียบร้อย แตกต่างกับบางประเทศที่ผู้คนพลุกพล่านและเต็มไปด้วยเสียงแตรรถยนต์
          หลี่เวยชอบบรรยากาศเงียบสงบแบบนี้ บางทีถ้าข้ามไปยังเมืองหลวงที่อยู่ติดๆ กัน อาจพบเห็นผู้คนมากมายและวุ่นวายได้มากกว่า ถือว่าโชคดีที่เธอไม่ได้เลือกมาท่องเที่ยวในวันหยุดพักผ่อนของคนที่นี่
 
          ใช้เวลาเพียงไม่นานก็เดินทางมาถึงปลายทาง ที่นี่เป็นทั้งสถานีรถไฟ สถานีรถบัส และรถประจำทาง หลี่เวยลากกระเป๋าเดินทางอันหนักอึ้งเข้าไปฝากในล็อกเกอร์ จากนั้นจึงออกมาต่อคิวเพื่อรอรถประจำทาง
          ในตอนนั้นเอง นักท่องเที่ยวชาวยุโรปกลุ่มใหญ่ที่ยืนเยื้องไปด้านหลังก็เอ่ยถาม “ขอโทษที่รบกวนครับ ไม่ทราบว่านี่คือคิวรถประจำทางสายสีเขียวหรือเปล่า”
          นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้แสดงท่าทางเป็นกันเองกับเธอมาก หลี่เวยจึงยิ้มนิดๆ และตอบกลับว่า “ใช่ค่ะ”
          เธอเพิ่งพูดจบ หญิงสาวคนหนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวนั้นก็ถามขึ้นมาอีกว่า “คุณมาจากที่ไหนหรือคะ”
          หลี่เวยหันไปยิ้มให้เธอพลางตอบว่า “ฉันมาจากประเทศ A เมือง C ค่ะ”
          “ผมเคยไปที่นั่น เป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ น่าสนใจมากทีเดียว”
          หลี่เวยเป็นคนที่มีใบหน้าสวยหวานอยู่แล้ว ยิ่งไม่ได้แต่งหน้าก็ยิ่งทำให้เธอดูน่ารักสะอาดหมดจด เพียงริมฝีปากยิ้มแย้ม ดวงตายิ่งดูใสบริสุทธิ์กระจ่างใสยิ่งกว่าเดิม
          “พวกคุณกำลังจะไปที่ไหนหรือคะ” เธอเอ่ยถามเสียงนุ่มอันเป็นเอกลักษณ์
          “เราจะไปขึ้นโรปเวย์กันครับ”
          หลี่เวยนิ่งคิด “สถานีที่ 9 โรปเวย์ ล่องเรือชมทะเลาสาบหรือเปล่าคะ”
          “ใช่แล้ว คุณกำลังจะไปที่นั่นเหมือนกันหรือครับ”
          หลี่เวยยังไม่ตอบคำถาม แต่กลับเปิดกระเป๋าหยิบแผนที่แนะนำการท่องเที่ยวขึ้นมาดู จังหวะนี้เอง เธอก็มองเห็นร่างของชายคนหนึ่งยืนกอดอกพิงป้ายโฆษณาต่อคิวตามหลังกลุ่มนักท่องเที่ยวเหล่านั้น เป็นชายคนเดียวกับที่โรงแรมนั่นเอง ในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนพลุกพล่านเช่นนี้ ชายหนุ่มที่ดูเงียบขรึมกลับเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย ทำให้ดูโดดเด่นสะดุดตาเป็นพิเศษ
          บังเอิญจัง
          หลี่เวยลอบคิดในใจพลางกล่าวว่า “ดูเหมือนพวกคุณจะรอรถผิดสายนะคะ โรปเวย์น่าจะเป็นสายสีแดงค่ะ” หลี่เวยเอ่ยตอบและยื่นโบรชัวร์ให้กลุ่มนักท่องเที่ยวดู
          “เอ๊ะ! จริงๆ ด้วย พวกเราต้องไปอีกทาง”
          “ขอบคุณครับ ขอบคุณมากๆ ”
          “ไม่เป็นไรค่ะ” พวกเขามีท่าทางขัดเขินเล็กน้อย และเดินแยกออกไป พอกลุ่มนักท่องเที่ยวจากไป ไม่นานนักชายชุดดำคนนั้นก็เดินต่อคิวตามหลังหญิงสาวเข้ามา หลี่เวยไม่ได้พูดอะไร เธอหันหน้ากลับไปและรอคิวเช่นเดิม
 
          รถประจำทางมาถึงตรงเวลา และออกจากสถานีอย่างตรงเวลา หลี่เวยมองดูสภาพภายในรถด้วยความสนอกสนใจ รถของเมืองนี้ราวกับออกแบบมาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ที่ว่างระหว่างเก้าอี้ไม่คับแคบเกินไป มีที่วางเพียงพอสำหรับสัมภาระและกระเป๋าเดินทาง มีป้ายที่บอกถึงรายละเอียดของทุกๆ สถานีและสถานที่ท่องเที่ยวละแวกนั้น แต่ที่เธอชอบมากที่สุด คือกริ่งหยุดรถที่มีไว้สำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง พอเป็นแบบนี้เวลากดกริ่งก็สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและไม่ต้องรบกวนใคร
          ขณะที่กำลังสำรวจตรวจตราด้วยความสนใจ หลี่เวยพลันรู้สึกถึงสายตาของชายหนุ่มชุดดำคนนั้น สักพักเขาก็เดินมายังที่นั่งด้านหน้าของเธอและหันมาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก …
 
----------
 
จบบทที่ 2

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา