Look at me มองฉันสิ ‘เฮีย’

-

เขียนโดย zero0115

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 เวลา 17.43 น.

  14 chapter
  0 วิจารณ์
  9,464 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 17.59 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

13) Chapter 13

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 


Chapter 13

 

 

 

 

คีร์ดีน :

 

          ผมตื่นแต่เช้ามาทำอาหารเช้าให้ยูเอลเพราะวันนี้มีเข้างานเร็ว ยูเอลยังไม่ตื่นเพราะเมื่อคืนนอนดึกมากและเพราะยังไม่ถึงเวลาตื่นผมเลยปล่อยให้คนตัวเล็กนอนต่อไป ผมใช้ช้อนตักซุปแกงจืดที่ทำไว้มาชิมเพราะมันเป็นครั้งแรกที่ผมทำต้มจืดเลยอยากให้มันออกมาดี ถึงจะใช้เวลามากไปหน่อยแต่สุดท้ายผลก็ออกมาดีกว่าที่คิด

 

 

ผมตักแกงจืดใส่ถ้วยสีขาวแล้ววางไว้ที่โต๊ะอาหารพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ ผมมองนาฬิกาแว๊บนึงแล้วเดินเข้าไปในห้องตัวเองเพื่อปลุกยูเอล ร่างเล็กนอนอยู่กลางเตียงในท่าตะแคง เธอหายใจเบามากจนแทบจะไม่ได้ยินเสียงหายใจ ผมเดินไปใกล้ๆ คนหลับแล้วนั่งลงบนเตียงข้างๆ เธอ คนตัวเล็กหลับลึกมากจนไม่รู้ว่าผมมาแต่นั่นเป็นเรื่องปกติ

 

 

"ยูเอล..."

 

 

ผมค่อยลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆ เพื่อให้คนตัวเล็กตื่น แต่เจ้าตัวไม่รู้สึกอะไรเลย

 

 

"....ยูเอล ตื่นได้แล้ว"

 

 

คราวนี้ผมเรียกอีกครั้งแล้วค่อยๆ เอาผมเธอมาทัดหู เผยให้เห็นแก้วขาวเนียนอมชมพู เพราะคนตัวเล็กมีท่าทีที่ไม่ตื่นง่ายๆ ผมเลยค่อยๆ โน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆ แก้มหอมนั้นแล้วจูบลงไปที่แก้มหนักๆ และนานพอสมควร ผมค่อยๆ ผละออกจากแก้มนั้นแล้วหันมามองคนตัวเล็กต่อ

 

 

ดูเหมือนเธอจะรู้ตัวเลยค่อยๆ พลิกตัวและลุกขึ้นนั่ง ใบหน้าและท่าทางที่ง่วงนอนของเธอทำให้ผมแอบขำเพราะมันดูเหมือนเด็กตัวเล็กๆ ที่น่าทะนุถนอมมาก

 

 

"ตื่นได้แล้ว วันนี้ฉันทำข้าวเช้าไว้ให้"

 

 

ผมเอ่ยแล้วลูบหัวคนตัวเล็กที่ทำหน้าสะลึมสะลือจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ แต่เธอก็ลุกขึ้นอย่างว่าง่ายๆ แต่ก็ไม่วายหาวฟอดใหญ่แล้วเดินออกจากห้องผมไป เธอกลับมาอีกครั้งพร้อมกับชุดนักศึกษา

 

 

"กินข้าวกัน.."

 

 

ผมว่าแล้ววางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ แล้วพวกเราก็เริ่มกินข้าว ผมมองเธอตักต้มจืดใส่จานแล้วตักเข้าปากพร้อมกับข้าวเงียบๆ

 

 

"อะไร..."

 

 

"อร่อยรึเปล่า"

 

 

คงเพราะเธอรู้สึกถึงสายตาผม เธอเลยถามขึ้น แต่ที่ผมมองเพราะอยากรู้ว่ารสชาติเป็นยังไง ถูกปากเธอรึเปล่า

 

 

"อร่อยดี.....ทำไม"

 

 

"เปล่า....แค่ดีใจที่เธอพูดว่าอร่อย"

 

 

ผมยิ้มอย่างดีใจแบบเปิดเผย ผมรู้สึกว่าตั้งแต่อยู่กับยูเอล ผมพูดเยอะขึ้นและยิ้มเยอะขึ้นจนไอ้ลีโอหาว่าผมบ้าที่ยิ้มอยู่คนเดียวเสมอ แต่คนจะยิ้มมันห้ามไม่ได้นิ

 

 

          ผมจอดรถเทียบฟุตบาทหน้ามหาลัย คนตัวเล็กเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปในมหาลัย ผมมองแผ่นหลังคนตัวเล็กจนลับไปแล้วค่อยออกรถไปที่บริษัท ผมมักทำแบบนั้นบ่อยๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเธอไปมหาลัยอย่างปลอดภัยโดยที่ไม่มีแมลงน่ารำคาญมาเกาะแกะให้รำคาญใจ

 

 

 

 

ยูเอล :

 

          ฉันเดินขึ้นบันไดไปห้องเรียน วันนี้มีเรียนแค่วิชาเดียวเลยกลับได้เร็ว ฉันเดินเข้าห้องแล้วเดินไปนั่งที่หลังห้องเหมือนเดิม เพราะวิชานี้เป็นของอาจารย์ 'นนท์' อาจารย์สุดหล่อที่จบจากเมืองนอก เพราะความหล่อและนิสัยที่เป็นกันเองของเขาทำให้ใครๆ ก็อยากที่จะเรียนด้วย ในห้องเรียนวันนี้เลยมีคนเยอะกว่าปกติ

 

 

"เอาล่ะทุกคน! เรามาเริ่มเรียนกันเลยนะ"

 

 

อาจารย์ส่งยิ้มเป็นมิตรให้ทุกคนในห้อง เล่นเอาสาวๆ ทั้งห้องทำตาเยิ้มกันเป็นแถว ฉันนั่งฟังอาจารย์พูดไปเรื่อยๆ แต่บางครั้งก็แอบมองไปที่หน้าต่างนิ่งๆ อย่างเหม่อลอย

 

 

พอจบคลาสฉันเดินออกไปจากห้องทันทีเพราะอยากกลับเร็วๆ ระหว่างเดินออกไปจากตึกฉันหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมาเพื่อโทรหาเฮียคีร์

 

 

"......!! "

 

 

แต่จู่ๆ ตอนที่หยุดเดินเพื่อจะกดโทรออก มือของใครบางคนก็โผล่มาจับข้อมือฉันแล้วดึงอย่างแรง ฉันเซออกไปทางแรงที่ดึงแต่ก็รีบตั้งหลักเพื่อดูว่าเป็นใคร

 

 

"........เฮียทัน!! "

 

 

ฉันเบิกตากล้างเพราะตกใจที่เขามายืนตรงนี้ คนตรงหน้ายิ้มให้ฉันเหมือนทุกครั้งที่เราเจอหน้ากัน มันเป็นรอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์และอ่านไม่ออกเลยว่าเขาคิดอะไร เขาใส่เสื้อผ้าสีดำทั้งตัวแล้วเอาฮู้ดของเสื้อนอกมาคุมหัวจนแทบมองไม่เห็นหน้า

 

 

"ทำหน้าแบบนั้น...."

 

 

"......"

 

 

"ตกใจสินะที่เห็นเฮีย....."

 

 

"ทำไม...."

 

 

"......."

 

 

"ทำไมเฮียมาอยู่ที่นี่ได้"

 

 

เฮียหัวเราะขึ้นเบาๆ แล้วโน้มหน้าเข้ามาใกล้ฉันเพื่อให้ฉันได้ยินสิ่งที่เขาพูดชัดๆ

 

 

"มาตามหา 'เมีย' ไง! "

 

 

 

 

          ฉันนั่งเงียบอยู่ในรถของเฮียทันโดยที่ไม่รู้ว่าเขาจะพาไปไหน ฉันลอบมองเขาเป็นพักๆ อย่างสงสัย แต่ไม่ว่าจะพยายามมองเขามากเท่าไหร่ก็อ่านความคิดของเขาไม่ออกจริงๆ

 

 

"บอกมา"

 

 

เฮียทันเป็นคนทำลายความเงียบลง เขาพูดด้วยเสียงเย็นๆ แต่หนักจนรู้สึกกลัวในบางครั้ง

 

 

"เรื่องอะไร"

 

 

"......เฮียรู้ว่าเธอรู้"

 

 

เสียงเย็นตอบนิ่งๆ ตามแบบฉบับของเขา เขาไม่ได้หันมามองฉันแต่มองตรงไปข้างหน้า ฉันนิ่งลงหลังจากฟังคำพูดของเขา

 

 

"นาวาสินะ..."

 

 

"ก็รู้นี่...."

 

 

"ถามจริงเถอะ....เฮียกับนาวาไม่ได้เป็นแค่เพื่อนกันแล้วใช่มั้ย"

 

 

"........."

 

 

เฮียเงียบทันทีที่ฉันถาม ใบหน้าของเขานิ่งและดูเครียด ที่ฉันถามเพราะอยากให้เฮียทันนึกถึงนาวาให้มากกว่านี้ ถ้าขืนปล่อยให้เจอกันทั้งๆ แบบนี้คนที่ลำบากจะเป็นนาวา

 

 

"แทนที่จะมาถาม ตอบมาก่อนว่านาวาอยู่ที่ไหน..."

 

 

เสียงเข้มเริ่มดังขึ้นนิดหน่อย ทำให้รู้ว่าเขาเริ่มจะอารมณ์ไม่ดีแล้ว ฉันเงียบลงสักพักเพื่อคิดว่าจะบอกหรือไม่บอกดี แต่มาถึงขนาดนี้แล้วถ้าไม่บอกเฮียทันก็จะพลิกแผ่นดินจนหาเจออยู่ดี ถึงจะผิดกับนาวาแต่ฉันก็อยากให้พวกเขาเคลียร์กันให้ชัดเจน

 

 

"โรงแรม D......ห้อง 515"

 

 

 

 

 

 

คีร์ดีน :

 

 

"งั้นผมขอตัวนะครับ"

 

 

ผมโค้งให้บ. แล้วเดินออกไปจากห้อง พอออกมาผมก็มองนาฬิกาข้อมือพอเห็นว่ามันใกล้ถึงเวลายูเอลเลิกเรียนแล้วผมเลยออกจากบริษัทเพื่อไปรับคนตัวเล็กเหมือนทุกครั้ง ระหว่างทางขับไปที่มหาลัยผมกดโทรหายูเอลเพื่อเช็กว่าเธอเรียนเสร็จรึยัง แต่เจ้าตัวกับไม่รับสาย

 

 

"เรียนอยู่เหรอ..."

 

 

ผมพูดเบาๆ กับตัวเองแล้ววางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม เพราะไม่ได้คิดอะไรมากเลยไม่ได้โทรไปอีกรอบ แม้มันจะแปลกที่เธอไม่รับโทรศัพท์ผม แต่ผมก็ยังคงขับต่อไปโดยไม่ได้สนใจโทรศัพท์

 

 

สักพักผมก็จอดรถที่หน้ามหาลัย มีนักศึกษามากมายเดินออกมาจากประตู แต่ไม่มีวี่แววของคนตัวเล็กเลย แต่เพราะคิดว่าเธอคงกำลังเรียนอยู่ ผมเลยทำได้แค่รอเท่านั้น

 

 

30 นาทีต่อมา~

 

 

"ช้าจัง! "

 

 

ผมมองดูนาฬิกาข้อมือที่มันผ่านมา 30นาทีแล้วแต่ก็ยังคงไม่มีวี่แววของยูเอลเลย จากที่เมื่อกี้ใจเย็นตอนนี้กับรู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที

 

 

ก๊อกๆ ...

 

 

เสียงเคาะกระจกหน้าต่างของรถผมดังขึ้น ผมค่อยๆ เปิดมันออกแล้วชะโงกดูว่าเป็นใคร คนที่เคาะคือล็อกเก็ตเพื่อนสนิทยูเอลที่อยู่คณะเดียวกัน

 

 

"ว่าแล้วเชียวว่าต้องเป็นเฮีย มีอะไรเหรอคะ"

 

 

"ฉันมารับยูเอลน่ะ ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอ"

 

 

"เอ๊ะ!! แต่เมื่อกี้มีคนมารับยูเอลไปแล้วนะคะ นึกว่าเป็นเฮียซะอีก"

 

 

"ว่าไงนะ!! "

 

ผมเผลอตะโกนออกไปเพราะตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน ผมหยิบโทรศัพท์มาโทรหายูเอลทันที แต่เจ้าตัวก็ยังไม่รับเหมือนเดิมผมร้อนใจมากจนเผลอทุบพวงมาลัย

 

 

ตอนนี้ในหัวผมคิดแต่เรื่องความปลอดภัยของยูเอล เพราะความชุ่ยของตัวเองที่คิดว่าการที่เธอไม่รับโทรศัพท์เพียงครั้งเดียวเป็นเรื่องปกติ ผมจับพวงมาลัยแน่นและพยายามใจเย็นเพื่อหาทางออก

 

 

"ฮัลโหล ไอ้คิลล์! กูมีเรื่องจะให้ช่วย"

 

 

และทางออกของผมคือการขอความช่วยเหลือจากพวกไอ้คิลล์เพราะมันเป็นทางออกทางเดียวที่จะช่วยผมได้

 

 

"เรื่องรายละเอียดเดี๋ยวกูค่อยเล่าทีหลัง"

 

 

ผมกดตัดสายแล้วขับรถออกไปทันที ที่หมายคือผับประจำของพวกผม สิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้คือตั้งหลักและขอความช่วยเหลือเท่านั้น

 

 

พอมาถึงผับ ผมกระโดดลงจากรถแล้วรีบวิ่งขึ้นไปชั้นสองทันที ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเปิดนอกจากพนักงานแล้วเลยไม่มีใครอยู่ในร้านเลย

 

 

"ไอ้คีร์มาแล้ว! "

 

 

เสียงไอ้ลีโอดังขึ้น ทุกคนที่นั่งอยู่ลุกขึ้นมาทันทีที่เห็นผม ผมรีบเดินเข้าไปหาแล้วหยุดอยู่หน้าทุกคน

 

 

"ยูเอลหายไป.."

 

 

"ว่าไงนะ!! "

 

 

"หายไป? หายไปตอนไหน"

 

 

ไอ้ลีโอถามหน้าตื่น ทุกคนตรงนี้ตกใจกับสิ่งที่ผมพูดมาก แน่นอนอยู่แล้ว ตอนที่ผมรู้เรื่องนี้ผมก็ตกใจมากจนอยู่นิ่งไม่ได้

 

 

"กูว่ามึงนั่งทำใจเย็นๆ ก่อนดีกว่า"

 

 

ไอ้คิลล์พูดขึ้นแล้วผมก็นั่งตามที่มันบอก ผมพยายามทำใจเย็นแต่ก็ไม่วายที่จะใจร้อนอยากออกไปตามหาเธอใจแทบขาด แต่ก็รู้ดีว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้มากนอกจากรอและปรึกษาคนอื่น

 

 

"แล้วตกลง หายไปตอนไหน"

 

 

ไอ้พาสต้าพูดขึ้นนิ่งๆ ถึงมันจะไม่สนิทกับยูเอลแต่มันก็ยอมช่วยผมซึ่งนั้นทำให้ผมดีใจมาก

 

 

"ล็อกเก็ตบอกว่าตอนเลิกเรียนมีผู้ชายคนนึงพายูเอลขึ้นรถไป"

 

 

"ล็อกเก็ตเหรอ"

 

 

"อืม! มึงมีอะไร"

 

 

ผมถามไอ้ลีโอที่ทำหน้าอึ้งๆ ตอนผมพูดชื่อล็อกเก็ต

 

 

"เปล่า กูว่าเรามาหาทางแก้เรื่องนี้กันดีกว่า"

 

 

"ไอ้คีร์ มึงพอจะนึกออกมั้ยว่าใครน่าจะเป็นคนจับตัวยูเอลไป"

 

 

ผมเงียบลงกับคำถามของไอ้คิลล์ และพยายามนึกว่าใครน่าจะทำเรื่องแบบนี้ แต่ไม่ว่าจะคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก จริงอยู่ที่ผมมีศัตรูเยอะ แต่เพราะผมไม่ได้เปิดตัวว่าคบกับยูเอลเลยไม่น่าจะมีใครรู้จักเธอ

 

 

"กูนึกไม่ออกว่ะ ถึงกูจะมีศัตรูเยอะแต่กูไม่เคยบอกใครว่ากูคบกับยูเอล"

 

 

"กูว่านะ ที่แปลกน่ะไม่ใช่เรื่องที่ยูเอลหายตัวไป แต่เป็นเรื่องเหตุผลที่จับยูเอลไปมากกว่า"

 

 

ไอ้คิลล์ทำหน้าจริงจังขึ้นอย่างเห็นได้จัด ไม่ใช่แค่ไอ้คิลล์หรอก ทุกคนที่นี่ก็เป็นแบบเดียวกัน

 

 

"ที่มึงพูดก็มีเหตุผล งั้นแล้วมันจับยูเอลไปทำไม"

 

 

ผมกำมือแน่นเมื่อไอ้ลีโอพูดเรื่องนี้ ถ้าหากคนที่จับตัวยูเอลไปคือศัตรูของผมจริงๆ ผมจะฆ่ามันแน่ แต่พอคิดแบบนั้นผมก็เริ่มสงสัยบางอย่าง

 

 

"แต่ว่าถ้าคนที่จับยูเอลไปคือศัตรูกูจริงๆ มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ"

 

 

ผมพูดสิ่งที่ตัวเองเริ่มสงสัยขึ้น

 

 

"มึงหมายความว่ายังไง"

 

 

ไอ้คิลล์ที่นั่งตรงข้ามผมหันมามองผมนิ่งๆ ผมมองมันกลับและค่อยๆ คลายมือออก

 

 

"ก่อนที่ยูเอลจะมากูมีผู้หญิงมากมายที่คบด้วย ถึงจะเป็นแค่ระยะเวลาสั้นๆ แต่ถ้าศัตรูกูอยากจะแก้แค้นกู ทำไมมันถึงได้มั่นใจว่าถ้าจับยูเอลไปกูจะร้อนใจมาก"

 

 

"......เอ่อ นั้นดิ! ทำไมวะ"

 

 

"ที่มึงพูดก็มีเหตุผล...."

 

 

พวกเราเงียบลงเพื่อคิดอะไรบางอย่าง ผมได้แต่ก้มหน้าแล้วกำมือแน่น ในหัวมีแต่เรื่องยูเอลเต็มไปหมด

 

 

"ไม่ใช่ว่าเพราะตอนที่ยูเอลมา มึงแทบจะไม่แตะต้องพวกผู้หญิงเหมือนปกติเลยทำให้มันคิดว่ายูเอลคงสำคัญกับมึงล่ะมั้ง"

 

 

ไอ้ลีโอพูดขึ้นมาจากความเงียบ จริงอยู่ที่ผมไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นเลยตั้งแต่ยูเอลมา แต่ผมก็รู้สึกว่ามันแปลกๆอยู่ดี

 

 

"แต่กูว่าไม่ใช่แบบนั้น..."

 

 

"มึงหมายความว่าไงวะ ไอ้คิลล์"

 

 

"ถ้าเป็นอย่างที่ไอ้ลีโอพูดจริงๆ แทนที่จะเป็นยูเอลทำไมไม่เป็นรินแทนล่ะ ในเมื่อรินคบกับมึงนานกว่าที่ยูเอลจะมาอยู่ด้วยซ้ำ"

 

 

"แต่รินเป็นแค่แฟนเก่า"

 

 

"เพราะเป็นแฟนเก่านั่นแหละที่สำคัญ มึงลองคิดดู ระหว่างยูเอลที่พึ่งมาแม้จะอยู่บ้านเดียวกันและสวยกว่าริน แต่ดูจากอายุและบุคลิกดูยังไงก็ไม่ใช่สเป๊กมึง แต่รินที่ถึงแม้จะเป็นแฟนเก่าแต่ยังทำงานอยู่บริษัทเดียวกับมึงและถ้ารู้เรื่องที่รินอยากกลับมาคบกับมึงต่อ มันไม่คิดเหรอว่ารินที่เป็นแฟนเก่าดูจะสำคัญกับมึงมากกว่ายูเอลเพราะแฟนเก่ามึงทุกคนนอกจากรินแล้วไม่มีใครกลับมาหามึงเลยไง"

 

 

"........"

 

 

"พูดง่ายๆ คือ แทนที่จะเป็นถ่านไฟใหม่ สู้เอาถ่านไฟเก่ากลับมาคลุกอีกครั้งให้ไฟมันติดอีกรอบมันไม่ดูมีเปอร์เซ็นต์กว่าเหรอ"

 

 

ผมนั่งนิ่งฟังสิ่งที่ไอ้คิลล์พูด ก็จริงอยู่ว่าสิ่งที่มันพูดดูมีมูลเหตุมากกว่า แต่คำถามคือแล้วมันจับยูเอลไปทำไมแค่นั้น

 

 

"ถ้าเป็นงั้นมันจับยูเอลไปทำไม"

 

 

ผมพูดเบาๆ แล้วคิดเรื่องเหตุผล แต่ก็ไม่ได้คำตอบเลย มันจนหนทางจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว

 

 

"นี่...กูมีเรื่องจะถาม"

 

 

ไอ้พาสต้าที่นั่งฟังเงียบๆ ตั้งแต่เมื่อกี้เปิดปากพูดขึ้น พวกผมสามคนมองไปทางมัน มันทำหน้านิ่งแล้วพูดออกมา

 

 

"อะไร..."

 

 

"เด็กที่ชื่อล็อกเก็ตบอกพวกมึงงั้นเหรอว่ายูเอลถูกจับไป"

 

 

มันมองมาที่ผมแล้วถามด้วยเสียงนิ่งๆ ผมนิ่งไปสักพักแล้วตอบมัน

 

 

"เปล่า ล็อกเก็ตบอกว่ามีผู้ชายคนนึงพาตัวยูเอลไป"

 

 

"ถ้างั้นมันก็แปลก..."

 

 

"แปลกยังไง"

 

 

"ถ้าคิดดูอีกด้าน แทนที่จะเป็นถูกจับตัวไป กูว่ามันน่าจะเป็นถูกพาตัวไปมากกว่า"

 

 

"มันก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอวะ"

 

 

ไอ้ลีโอเถียงขึ้นมาทันควัน ตอนแรกผมเองก็คิดแบบมันแต่พอมาคิดดูดีๆ มันก็แปลกอย่างที่ไอ้พาสต้าพูดจริงๆ

 

 

"มึงกำลังจะบอกว่า ยูเอลไม่ได้ถูกจับตัวไป แต่เธอยินยอมไปเองงั้นเหรอ"

 

 

"กูก็ไม่ได้แน่ใจขนาดนั้น แต่มันก็มีความเป็นไปได้"

 

 

"กูก็คิดเหมือนไอ้พาสต้า"

 

 

คราวนี้ไอ้คิลล์เองก็พูดขึ้น มันจับคางแล้วคิดอะไรบางอย่าง

 

 

"มึงก็ด้วยเหรอไอ้คิลล์ แล้วมึงล่ะไอ้คีร์....ว่าไง"

 

 

ผมมองหน้าไอ้ลีโอนิ่งๆ แล้วคิดอย่างหนัก คิดว่ามันเป็นอย่างที่ไอ้พาสต้าพูดรึเปล่า คิดว่าถ้ามันเป็นจริง งั้นแล้วทำไมเธอถึงไม่โทรมาบอกผมแล้วไม่รับโทรศัพท์ และคิดว่า......เธออาจจะไปเจอคนที่อาจ 'สำคัญ' มากกว่าผมจนเธอไม่ยอมติดต่อมา ในใจของผมตอนนี้รู้สึกสับสนและหวั่นใจมาก

 

 

"กูว่า...."

 

 

 

 

ตืด......ตืด.......ตืด......

 

 

 

 

ยังไม่ทันที่ผมกำลังจะพูด เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ทุกคนที่นั่งอยู่เงียบลงอย่างไม่ได้นัดหมาย ผมรับรู้ถึงอะไรบางอย่างที่สั่นอยู่ในกระเป๋า ใจผมเต้นแรงขึ้นๆ จนจะหลุดออกมาตอนที่หยิบมันขึ้นมาผมหยุดหายใจไปชั่วครู่เมื่อเห็นชื่อคนโทรมาลอยอยู่บนหน้าจอ

 

 

"........ฮัลโหล"

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา