ภวังค์รักในห้วงฝัน

9.0

เขียนโดย Yajula

วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2564 เวลา 23.05 น.

  19 ตอน
  2 วิจารณ์
  10.99K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 22.39 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) ความสัมพันธ์ 2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่หก

ความสัมพันธ์ 2

          ภายในห้องสมุดที่รักษาความสงบ มีเด็กสาวร่างบางในชุดนักเรียนนั่งพลิกหนังสืออยู่ที่โต๊ะมุมหนึ่ง ซึ่งห่างจากคนอื่นพอสมควร  มองใกล้ ๆ จะเห็นว่าใบหน้าเล็ก ๆ นั้นยับย่น คิ้วบางได้รูปของเธอขมวดเข้าหาจนจะชนกันอยู่รอมร่อ บ่งบอกถึงความเคร่งเครียด คิดหนักอยู่พอสมควร มือขวาควงพลิกปากกาไปมาระหว่างจับจ้องไปที่หน้ากระดาษของหนังสือ บ่งบอกได้ว่าเธอไม่เข้าใจหรือยังหาคำตอบไม่ได้

          “อะ” จู่ ๆ ปากกาของเธอก็กระเด็นตกไปที่มุมหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เธอนั่งอยู่ ทว่า ในขณะที่เธอลุกขึ้น

          แกรก! เสียงเหยียบสิ่งของบางอย่างดังขึ้น เท้าปริศนาของผู้ชายที่สวมถุงเท้าสีขาวหยุดชงักทันที หลังจากที่เดินเหยียบบางอย่างลงไป จึงยกเท้าตัวเองขึ้น เผยให้เห็นแท่งปากกาด้ามเล็กสีขาวอยู่ใต้ฝ่าเท้าที่ถูกเขาเหยียบจนแตกออกมาป็นสองท่อน เมื่อเงยหน้าขึ้นเพื่อมองหาเจ้าของจึงสบตาเข้ากับดวงตากลมโตคู่หนึ่งที่เคยเห็น ร่างสูงของเมศจึงก้มลงเก็บซากปากกา และเดินตรงมายังเด็กสาวที่เขาคาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของปากกาที่ถูกเขาเหยียบจนแตก

          “พาฝัน?” เสียงทักแผ่วเบาของเด็กหนุ่มที่คุ้นหูดังขึ้น ทำให้เธอเงยหน้ามองชัด ๆ

          “เมศ”

          “เอ่อ ใช่ของเธอหรือเปล่า” เขาหยิบชิ้นส่วนปากกาด้ามหนึ่งให้เธอดู

          “ใช่”

          “ขอโทษนะ ผมไม่ได้ตั้งใจ เดี๋ยวผมจะรีบซื้อมาใช้คืนให้นะ” เด็กหนุ่มบอกอย่างรู้สึกผิด

          “ไม่ต้อง มีหลายด้ามน่ะ” เธอไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแค่นี้ และเขาก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเหยียบมัน

          “ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าผมจะชดใช้เป็นอย่างให้แทนนะ” ระหว่างนั้นก็มองไปบนโต๊ะที่มีหนังสือเรียนของเธอเปิดทิ้งไว้อยู่

          “ไม่ต้องรู้สึกผิด และไม่ต้องชดใช้อะไรทั้งนั้น” เธอบอกอย่างเน้นย้ำ แสดงอย่างชัดเจน แต่เสียงคงเข้าไปไม่ถึงเด็กหนุ่มตรงหน้า ซึ่งสายตาจดจ้องมองไปที่โต๊ะของเธอที่มีหนังสือเรียนที่มีเนื้อหาเอาใว้ใช้สอบ เธอยอมรับแบบตรง ๆ เลยนะ ว่าเธอยังไม่เข้าใจจริง ๆ น่าใจหายที่เหลือเวลาอีกหนึ่งวันเท่านั้น

          “แล้วเพื่อน ๆ กลุ่มของคนดีล่ะ วันนี้ไม่นัดติวด้วยกันเหรอ” ร่างสูงไม่สนใจเสียงปฏิเสธของเด็กสาว และถามถึงเพื่อนกลุ่มเธออย่างสงสัยพร้อมขยับเก้าอี้นั่งข้างฝั่งตรงข้ามกับเธอ ยิ่งทำให้เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาขจองเขาอย่างชัดเจน แต่ทว่าเธอไม่มีเวลาที่จะมาชื่นชมความหล่อของเขาตอนนี้ เพราะมีเรื่องที่ให้ทำสำคัญกว่า เช่น ต้องรีบทำความเข้าใจเนื้อหาที่จะใช้สอบในวันพรุ่งนี้ แม้จะนัดเพื่อน ๆ ทั้งสามไว้ ว่าจะช่วยกันติวให้ ทว่า

          “ไม่ว่างกัน” ใช่ วันนี้พวกเพื่อน ๆ ต่างมีนัดกันหมด ยกเว้นเธอคนเดียว ทำให้เธอต้องมาหาที่นั่งสงบ ๆ ติวด้วยตัวเอง และดูเหมือนว่าจะช่วยอะไรไม่ได้มากนัก เพราะเธอก็ยังไม่เข้าใจเหมือนเดิม

          “อ้อ ผมช่วยติวหนังสือให้เธอได้นะ”

          “ฮะ? เอ่อ ขอบใจนะ” ใบหน้าที่มักจะเรียบเฉยของเธอ เผยสีหน้างง ๆ เมื่อเขาอาสาจะติวให้อย่างกะทันหัน แต่ก็เป็นข้อเสนอที่ไม่เลวเลยทีเดียว คิดได้ดังนั้น จึงปล่อยให้เขาย้ายมานั่งใกล้กับเธอ เพื่อสะดวกต่อการติวข้อสอบให้

          “ไหน เธอไม่เข้าใจตรงนี้ใช่ไหม อาจารย์จะเน้นตรงนี้เป็นพิเศษซึ่งนี่แหละเป็นหัวใจสำคัญและสาระของเรื่อง ถ้าเธอเข้าใจตรงนี้ได้อย่างดีเนี่ย คะแนนสอบดี ๆ ก็อยู่ไม่ไกลแล้ว ส่วนตรงนั้น ไม่ต้องไปเน้นอ่านเยอะ ไม่ค่อยมีข้อมูลสาระสำคัญอะไร” เด็กหนุ่มพูดอย่างเป็นหลักการ ทำให้ใบหน้าที่อันหล่อเหลาดูคมคายและจริงจังขึ้นมา เด็กสาวเช่นเธอรู้สึกทึ่ง ที่ได้มาเห็นอีกด้านหนึ่งของเพื่อนร่วมห้องคนนี้ และไม่คิดว่าจะได้เห็นเขาใกล้ ๆ อย่างนี้ ทุกครั้งที่เห็น เขามักจะมีรอยยิ้มให้กับทุกคน ไม่ว่าจะในสถานการณ์ เธอไม่เคยเห็นเขาแสดงสีหน้าที่น่ากลัวออกมาให้เห็นเลยสักครั้ง

          “พาฝัน” เสียงเรียกแว่วมา

          “หืม”

          “เข้าใจไหม? ผมอธิบายยากเกินไปหรือเปล่า” เขาถามด้วยความเป็นห่วง บางทีเขาอาจจะอัดเนื้อหาให้เธอเยอะเกินไป เกรงว่าเธอจะไม่ทัน

          “ไม่เป็นไร เอ่อ...ตรงนี้ให้ทำไงต่อนะ” เธอชี้ไปที่มุมหนึ่งของหนังสือ พร้อมก้มหน้าตั้งใจจดบันทึกและขีดเขียนตามที่เขาแนะนำ

          เด็กหนุ่มช่วยเด็กสาวติวตลอดช่วงเวลานั้น เธอรู้สึกว่าเวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน เทียบกับเธอที่พยายามทำความเข้าใจด้วยตัวเองมาตลอดนั้น แตกต่างกันมากนัก ทั้งน่าเบื่อและเวลาที่มักจะผ่านไปช้ามากในความรู้สึกของเธอ

          หลังจากติวเสร็จเวลาก็ผ่านล่วงเลยไปเกือบห้าโมงเย็น ที่นี่จึงเหลือเพียงบรรนารักษ์และพวกเธออีกสองคนเท่านั้น ทั้งสองจึงรีบพากันออกมาก่อนที่ห้องสมุดจะทำการปิดให้บริการ ซึ่งก่อนที่เธอกำลังจะแยกตัวออกไป เขาได้กล่าวกับเธอว่า

          “ไม่ต้องห่วง มีผมอยู่ ผมจะอยู่ช่วยคุณเอง” เป็นประโยคที่ตราตรึงใจเธอเหลือเกิน ในครั้งที่เธอไร้ที่พึ่งพาดังเช่นในวันนี้ เมื่อถึงวันสอบจริง ๆ เธอไม่รู้สึกกังวลเลย กับรู้สึกมีความมั่นใจเข้ามามากกว่า เป็นครั้งแรกที่พาฝันเดินออกมาจากห้องสอบอย่างมีความสุข เพื่อน ๆ ต่างพากันแปลกใจเมื่อเห็นว่าใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความปลอดโปร่งโล่งสบาย แววตาสดใส

           ผ่านไปไม่กี่วัน ผลการสอบออกมา ปรากฏว่าคะแนนสอบของเธอทำแต้มได้สูงที่สุดจากที่เธอเคยทำได้ ทำให้พวกเพื่อน ๆ รู้สึกตกใจ และพากันถามเสียวุ่นวายในตลอดวัน แต่เธอก็ไม่ได้บอกเรื่องในวันก่อนไป เพียงบอกให้กับเพื่อน ๆ ว่า เธอใช้เวลาท่องจำเนื้อหาในหนังสือนานพอสมควร กว่าจะจำได้

           พาฝันคิดว่าเธอควรจะเข้าไปขอบคุณเมศสักหน่อย ที่มีสวนช่วยให้เธอสอบผ่านวิชานี้ไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งทุกครั้งที่ผ่านมา เธอสอบได้บ้าง ตกบ้าง หลายครั้งแล้ว ซึ่งทำให้เธอเครียดมาก มาคราวนี้ได้เขาช่วยติวให้ นับว่าช่วยให้เธออยู่รอดต่อไปได้อีกหน่อย

           ระหว่างที่ตั้งใจเดินไปบอกขอบคุณ สายตาเหลือบไปเห็นเขาอยู่กับมินนี่พอดี ก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งด้วยมากนัก เพราะขี้เกียจเกินกว่าที่จะให้ยัยคนนี้มาวุ่นวายกับเธอ

           ไม่เป็นไร วันหลังก็แล้วกัน เธอคิด และหันหลังเดินจากไปเงียบ ๆ

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา