ห่มรักเคียงดาว

-

เขียนโดย zusuran

วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2564 เวลา 09.43 น.

  10 ตอน
  0 วิจารณ์
  4,133 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 15.58 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

บทส่งท้าย

“ป่าป๊า”

“ไง เด็กดี วันนี้เป็นเด็กดีไหมครับ”

“เป็นเด็กดีค่ะ”

ตอนนี้ผมกำลังนั่งคุยกับเด็กผู้หญิงที่กำลังอ้อแอ้ ลูกบุญธรรมคนที่ห้าของผมกับภูผา

ผ่านมาหกปีแล้วที่ผมกับภูผาตัดสินใจอยู่ด้วยกันที่ภาคเหนือและรับเด็กมาเลี้ยง เรารับเด็กทารกไร้ญาติจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาเลี้ยงด้วยตัวเอง มีพี่เลี้ยงมีแม่บ้านเหมือนครอบครัวปกติ ตอนแรกคิดว่ารับแค่คนสองคนก็พอ แต่ไอ้เจ้าตำรวจหมาบ้านั่นดันงอแงจะเอาอีกเรื่อยๆ

ถ้าผมท้องได้เหมือนผู้หญิง ป่านนี้คงมีลูกหัวปีท้ายปีไปแล้ว

“เคียงดาว มาให้ป๊ากอดหน่อย”

ผมตั้งชื่อลูกบุญธรรมคนสุดท้องตามชื่อของน้องสาวผม เธอเป็นเด็กผู้หญิงคนเดียวในบรรดาลูกบุญธรรมทั้งหมดของผมที่ผมรับมาตั้งแต่เธอเพิ่งเกิดได้สัปดาห์เดียว

“หนูรักป่าป๊า”

“ป๊าก็รักเคียงดาวครับ”

“ป่าป๊าภูผาไปไหนคะ”

“ป่าป๊าภูผาไปทำงาน เดี๋ยววันนี้เคียงดาวกลับบ้านกับป๊าธารานะครับ”

“จ้า”

ผมอุ้มเด็กน้อยและยืนขึ้นเต็มความสูงเดินกลับไปที่รถโฟร์คสีดำที่จอดรออยู่หน้าโรงเรียน ไทด์กลับมาขับรถให้ผมตามปกติและยังเป็นพี่เลี้ยงให้กับลูกชายบุญธรรมของผมที่กำลังจะโตเป็นหนุ่มเข้ามัธยมพร้อมกัน

“คุณพ่อธารา วันนี้ว่างมารับพวกเราด้วย”

เจ้าดิน ลูกชายคนที่สามของผมช่างเจรจาและประชดประชันเก่ง แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็เป็นเด็กขี้เหงา ผมไม่พูดอะไรและลูบหัวเจ้าลูกชายขี้งอนนั้นไปสองสามทีด้วยความมันเขี้ยว

“ทำไม พ่อจะมารับลูกตัวเองกลับบ้านบ้างไม่ได้รึไง”

“ก็....ได้อยู่หรอก”

“ดิน”

“ครับ”

“ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว”

“สิบสอง”

“โตเป็นหนุ่มแล้วนะ”

“ฮึ ผมต้องโตเร็วๆ สิ”

“หืม”

“ผมจะเป็นตำรวจเหมือนพ่อภูผา ผมจะปกป้องคุณพ่อเอง”

“เหรอ พยายามเข้าล่ะ เอาล่ะ กลับบ้านกันเถอะ”

เวลาผ่านไปเร็วจนน่าใจหาย ผมรับลูกบุญธรรมมาเลี้ยงและตอนนี้สี่คนก็โตเป็นหนุ่ม อีกคนหนึ่งก็อยู่ในช่วงวัยน่ารัก

ผมสร้างครอบครัวที่ผมอยากได้และผมมีความสุขกับมัน แน่นอนว่าคนรอบข้างมีทั้งเห็นด้วยและขัดใจ แต่สุดท้ายผมก็เลือกที่จะทิ้งมันไปและใช้ชีวิตตัวเอง

พวกลูกชายของผมมีแพลนจะไปเรียนต่อที่อเมริกา ไปอยู่กับปู่ย่า ทีนี้ก็เหลือแค่ผม ภูผา แล้วก็ลูกสาวคนเล็ก เคียงดาว เท่านั้น

“ถ้าพี่ท้องขึ้นมาจะเป็นยังไงนะ”

“หึ โทษทีนะที่ท้องไม่ได้”

ผมตอบกลับไปพร้อมกับใส่อารมณ์นิดหน่อย ภูผาดึงผมเข้าไปกอดเหมือนจะง้อ

“แบบนี้แหละดีแล้ว”

“ดียังไง”

“อยู่ด้วยกันมาหกปีพี่ยังไม่รู้เหรอว่าผมเป็นยังไง”

“อ้อ”

รู้สิ ทำไมจะไม่รู้

คุณตำรวจสายบู๊ เป็นพวกเซ็กส์จัด ซาดิสต์ แบบเกินต้านทาน

“ถ้าพี่ท้องได้มันก็หมดสนุกน่ะสิ จะมีเซ็กส์แต่ละทีก็ต้องระวังหลายเรื่อง พอเป็นแบบนี้แล้วจะเอาแรงแค่ไหนก็ได้”

“ฉันเป็นคนนะไอ้บ้านี่”

“แต่พี่ก็ชอบให้ผมทำนี่นา”

“นั่นเพราะ”

“อย่าบอกนะว่าสู้แรงผมไม่ได้ก็เลยต้องยอม ไม่เชื่อหรอก”

ผมพูดไม่ออกเลยพับผ่าสิ ผมยอมรับว่าผมชอบเวลามีเซ็กส์กับคนตรงหน้า แต่ก็อายที่จะบอกตรงๆ

“เลิกพูดไร้สาระแล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว ลูกเพิ่งนอนหลับอย่าไปกวน”

ผมผละจากภูผาจะเดินเข้าห้องนอน แต่คนข้างหลังรวบผมเข้าไปกอดเอาไว้ก่อน

“งั้นวันนี้เราไปที่ห้องใต้ดินกันเถอะ”

ตึกตักๆๆ

ห้องใต้ที่สร้างยื่นห่างออกไปจากตัวบ้าน เป็นสถานที่ที่ถูกสร้างขึ้นพิเศษ เก็บเสียงมิดชิด ไม่มีใครรู้และไม่มีใครเข้าออกได้นอกจากผมกับภูผา เพราะมันเป็นสถานที่พิเศษของเราทั้งคู่

เรามีเซ็กส์กันในห้องนอนปกติก็ได้ แต่ถ้าเป็นสถานที่แห่งนี้มันพิเศษกว่าเพราะมันบอกได้ทันทีว่าคืนนี้ทั้งคืนผมจะไม่ได้นอนและปลดปล่อยอารมณ์ออกมาได้เต็มที่ ทุกตารางเมตรคือพื้นที่สำหรับระเริงรักของเราทั้งคู่ ความดิบเถื่อน ร้อนแรงที่มอบให้แก่กันโดยไม่ต้องเกรงใจใครหน้าไหน

 

“อ่ะๆๆๆ ......”

ร่างของผมนอนถ่างขาอยู่บนโต๊ะ มือสองข้างถูกสวมกุญแจมือขึงไว้มุมโต๊ะคนละฝั่ง ในขณะที่ร่างกายโยกไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้นของคนเบื้องบน

ขาสองข้างห้อยลงข้างโต๊ะคนละฝั่งยิ่งเปิดทางให้ความแข็งขืนนั้นทะลวงเข้ามาจนจุกเสียดเต็มท้องน้อย

“แฮ่กๆๆ”

ผมรับเอาความร้อนแรงนั้นในทุกท่วงท่าที่ถูกจัดแจงให้ แต่ละท่าให้ความรู้สึกกระสันจนหัวใจเต้นรัวเป็นกลองศึก

“ผมรักพี่จัง ธารา”

ปึ่ก!

“อ๊ะ!!!!”

ผมจุกจนพูดไม่ออก ร่างกายโยกคลอนตามจังหวะสอดเข้าและดึงออกไม่มีหยุด

จากโต๊ะก็มาที่พื้น โซฟา กำแพง และจบลงที่เตียง พื้นที่ทุกตารางเมตรถูกใช้รองรับบทระเริงรักที่บ้าคลั่งราวกับพายุร่วมค่อนคืน

“พอแล้ว เดี๋ยวก็ไปทำงานไม่ทันหรอก”

ผมผลักอกภูผาเอาไว้หลังจากที่เราผละริมฝีปากออกจากกันไม่ถึงสามสิบวินาที แต่ดูจากคนที่คร่อมทับอยู่บนร่างผมไม่ได้คิดจะฟังเลยแม้แต่น้อยและยังซุกไซร้ดูดดุนตามซอกคอผมสร้างรอยเอาไว้จนไม่เหลือพื้นที่ว่าง

“ภูผา”

“อืม ผมลาพักร้อนเอาไว้แล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก”

“นายลาได้แล้วฉันหยุดได้รึไง ฉันมีงานต้องทำอีกเยอะ แถมยังต้องพายายหนูไปโรงเรียนอีก”

“ถ้างั้นขออีกรอบ”

“ไม่ ฉันง่วงแล้ว จะนอน”

“ถ้าอย่างนั้น จูบผมก่อนสิ”

ผมมองภูผาอย่างชั่งใจก่อนจะรั้งอีกฝ่ายเข้ามาจูบ และมันก็ไม่ได้จบแค่จูบอย่างที่ชั่งใจเอาไว้จริงๆ ไอ้เด็กบ้าเจ้าเล่ห์ยังไม่ได้ถอนสัตว์ร้ายของมันออกไปจากตัวผมและตอนนี้มันก็ดุนดันความใหญ่โตอันร้อนแรงนั้นเข้ามาจนผมจุกต้องแอ่นอกเป็นสะพานโค้งตั้งฉากกับเตียง

“อะ!!!”

เสียงเนื้อกระทบเนื้อจาบจ้วงหยาบโลน จนหน้าผมร้อนเห่อ หลุดเสียงครางออกมาลั่นห้องที่เก็บเสียงได้เป็นอย่างดี

หลังจากนั้นผมก็จำไม่ได้ว่าเสร็จสมไปอีกกี่ครั้งจนกระทั่งเกือบจะเช้า

 

“เมื่อคืนเคียงดาวไปหาพวกผมที่ห้อง บอกว่าคุณพ่อไม่อยู่”

ลูกชายคนหนึ่งของเราพูดออกมากลางโต๊ะอาหารเช้า เล่นเอาผมแทบสำลักกาแฟ

สายตาผมตวัดมองเจ้าตัวต้นเหตุที่ยังยิ้มระรื่นไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่ข้างๆ ก่อนจะกระทืบเท้ามันไปสักทีหนึ่ง

ตุบ!

“โอ๊ย!”

“คุณพ่อภูผาเป็นอะไรเหรอครับ”

“เอ้อ เปล่าๆ เมื่อคืนพ่อทำงานจนลืมดูเวลา เคียงดาวคงมองไม่เห็นล่ะมั้ง”

“ออ เหรอ”

“ป่าป๊า”

“ครับ”

“เคียงดาวอยากมีหม่าม๊า”

แก๊ง.....

เอาแล้วไง ทำไงดีล่ะ

“หม่าม๊าก็อยู่ตรงนี้ไงครับ”

ภูผาก้มลงคุกเข่าต่อหน้าเด็กหญิงและชี้ไปที่หน้าอกของตัวเอง

“หม่าม๊าอยู่ตรงนี้เหรอคะ”

“ใช่ครับ หม่าม๊าอยู่กับพวกเราตลอดเลย”

ผมมองภูผาแสดงความรักกับลูก ในความหมายของเขาคงจะคิดให้เคียงดาวน้องสาวของผมเป็นแม่ของเด็กพวกนี้

เด็กหญิงแนบแก้มกับอกภูผาก่อนจะวิ่งมาปีนขึ้นนั่งบนตักผมและแนบแก้มกับหน้าอกผมและกอดผมเอาไว้

“หม่าม๊า”

“หืม”

“หนูรักหม่าม๊า”

“!!!!”

“ฮะๆๆ ดูท่าพี่ต้องเปลี่ยนคำเรียกแล้วสินะ”

ภูผาหัวเราะหน้าระรื่น ในขณะที่ผมถลึงตาใส่ ตอนนี้ถ้าลุกขึ้นได้ผมจะไปฟาดแรงๆ ที่กลางหลังเจ้าคนปากไม่มีหูรูดนี่ซะ

“เอ้า เด็กๆ เตรียมตัวไปโรงเรียนกันได้แล้ว วันนี้พ่อจะไปส่ง”

 

เป็นหนึ่งวันที่ผ่านไปปกติเหมือนอย่างทุกที

ผมมองรถโฟร์คที่ขับออกไปก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงานพร้อมกับดอกกุหลาบที่เพิ่งเด็ดมาจากสวนใส่ลงไปในแจกันแทนที่ดอกเก่าที่แห้งจนเป็นสีน้ำตาล

กรอบรูปตั้งอยู่บนโต๊ะริมหน้าต่างเรียงกันสลับสูงต่ำตามแต่ใจคนจะวาง หนึ่งในนั้นคือรูปของน้องสาวผม เคียงดาว สมัยที่เธอยังมีชีวิต

ผมมองรูปหญิงสาวอยู่สักพักก่อนจะหันหน้าออกไปรับลมฝนที่กำลังพัดเอื่อยๆ เข้ามาทางหน้าต่าง

นานแล้วที่ไม่มีเวลาว่างที่จะคิดช้าๆ ว่าวันนี้ผมจะทำอะไรดี

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา