โอรีเวีย 2 ( ล่มสลาย )

6.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 20.40 น.

  43 บทที่
  2 วิจารณ์
  22.99K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

36) ไม่อยู่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เที่ยงคืนนั้นเอง   ที่คฤหาสน์หรูหราตั้งอยู่ในอาณาเขตทองวังหลวง   หน้าต่างนานหนึ่งเปิดกว้างท่ามกลางแสงสลัว   กลิ่นสุราและควันจากสิ่งมึนเมาลอยคลุ้งเต็มห้อง

 

ชายหญิงคู่หนึ่งนอนกอดก่ายกันอยู่บนเตียงใหญ่ที่ปูด้วยกุหลาบ   เสียงหัวเราะคิกคักดังแว่วออกมาสู่ด้านนอกพอได้ยิน   บ่งบอกให้รู้ว่าพวกเขาทั้งสองกำลังอยู่ในห้วงแห่งสุนทรี

 

“ ข้าเคยออกรบ ”

 

เมทาอินในวัยสี่สิบกว่า

แต่มีสภาพเหมือนคนแก่คุยโม้โอ้อวดออกมา

 

“ ใช่   ข้าไม่ได้อยู่ในทำเนียบแห่งปราชญ์   นั่นเป็นเพราะแท้จริงแล้วข้าคือนักรบ ”

 

“ โอ๊ว   ข้าชอบบุรุษผู้แข็งแกร่ง ”

 

สตรีในชุดบางเบาว่า

นางเริ่มฉีกทึ้งเสื้อผ้าของหนุ่มใหญ่ออก

 

ราดไวน์สีแดงข้นลงบนแผ่นอกแห้งลีบไร้กล้ามเนื้อ

แล้วลากปลายเล็บจากใต้คางผ่านลำคอเรื่อยลงไปจนถึงเอว

 

สร้างรอยแผลตื้นๆ พอมีเลือดไหล

เมทาอินถึงกับดิ้นพราดด้วยความเสียวซ่าน

 

สตรีแสนสวยขึ้นไปคร่อมอยู่บนร่างของเขา

รวบลำคอแห้งกร้านเอาไว้ด้วยนิ้วที่เรียวยาวน่าหลงใหล

 

“ บอกข้ามาพ่อรูปหล่อเจ้ารักข้าหรือไม่ ”

 

นางเอ่ยถาม

ด้วยถ้อยคำหวานหยาดเยิ้ม

 

“ รักสิ   ข้ารักเจ้า   รักจนจะยอมถวายชีวิตอยู่แล้ว ”

 

หนุ่มใหญ่ตอบกลับมา

ด้วยเสียงแหบสั่นจากแรงตันหา

 

“ ดีมาก   ทูนหัวของข้าแล้วเจ้าแกร่งเท่าไหร่กัน   แข็งแรงพอที่จะรักกับข้าทั้งคืนหรือเปล่านะ ”

 

คำพูดนั้นทำเอาเมทาอินลุกพรวดขึ้น

เพื่อหวังจูบกับนาง

 

แต่สาวงามตรงหน้ากลับออกแรงกดลำคอเขาแนบกับเตียง

เห็นได้ชัดเลยว่าใครกันที่แข็งแรงกว่า

 

“ ชู่… ”

 

นางทำเสียงให้หนุ่มใหญ่คนนั้นสงบลง

 

“ อย่าใจร้อนนักเลย   เรายังมีเวลา   ท่านรู้หรือไม่สาวงามนั้นคู่กับของล้ำค่าบอกข้ามาเถิดนะ   อะไรล้ำค่าสุดในโอรีออน ”

 

“ บัลลังทองแห่งกษัตริย์ล้ำค่าสูงสุด   หากว่าเจ้าปรารถนา   ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไรข้าก็จะนำมามอบให้ ”

 

“ บัลลังทอง   มิใช่มงกุฎหรอกหรือ ”

 

คำตอบนั้นทำเอาสตรีในชุดแดงกรุยกรายถึงกับกระพริบตาปริบๆ

ด้วยความรู้สึกฉงนฉงาย

 

“ มงกุฎสร้างจากทองคำ   ส่วนบัลลังนั้นก็ทำจากทองคำเช่นกันเมื่อเทียบจากขนาดแล้วบัลลังทองย่อมมีราคากว่า ”

 

เมื่อได้ยินดังนั้นสตรีชุดแดงก็ถอนหายใจ

ด้วยความรู้สึกผิดหวัง

 

“ เจ้าอยากได้มงกุฎ   เช่นนั้นข้าจะสร้างมงกุฎที่งดงามที่สุดให้เจ้า   จนแม้แต่ราชินีวิเวียร่ายังหาได้เทียบเคียง ”

 

หนุ่มใหญ่กล่าวเอาใจ

ด้วยเห็นว่าสตรีแสนสวยของเขาเริ่มมีอารมณ์ขุ่นมัว

 

“ ช่างมงกุฎเถิดมันก็แค่ของนอกกาย   เวลานี้เรามาหาความสำราญกันดีกว่านะพ่อคนดี   ของล้ำค่าใดจะดีไปกว่าความสุขใจเล่า ”

 

นางหัวเราะคิกคัก

เปลี่ยนจากอารมณ์บูด

มาเป็นสาวน้อยแสนร่าเริงได้อย่างฉับพลัน

จนน่าประหลาดใจ

 

โซ่เส้นหนึ่งที่ใช้ล่ามข้อเท้าตนเองถูกตวัดปลายไปคล้องคอหนุ่มใหญ่

แล้วนางก็ม้วนตัวไปนั่งอยู่สุดปลายเตียง

 

“ มานี่มาคนเก่งมาหาข้าสิ ”

 

นางกระดิกนิ้วเรียก

ด้วยรอยยิ้มที่เชิญชวน

 

เมทาอินหมอบลงคลานไปตามคำเรียกหา

เหมือนสุนัขแก่แสนหิวโซกำลังจะได้กินอาหาร

 

หนามกุหลาบที่ปูบนที่นอนเกี่ยวไปบนผิวหนัง

ครั้งแล้วครั้งเล่า

 

แต่เขาก็ไม่ใส่ใจ

เพราะแรงตันหานั้นมีมากกว่า

 

            ในเวลานั้นหนุ่มใหญ่ในร่างเปลือยเปล่า

กำลังทำท่าลามกอยู่บนเตียงเพียงลำพัง

กับห้วงฝันประหลาดที่แสนวาบหวาม

 

ส่วนสตรีในชุดสีแดงนั่งเดียวดาย

หลังของนางพิงกับกรอบหน้าต่าง

 

เข่าที่ตั้งชันทำให้กระโปรงร่นลงจนสุดโคนขาขาวเนียน

 

สตรีนางนั้นนั่งนับกลีบกุหลาบในมือ

ปล่อยให้หลุดลอยตามลมออกไปนอกหน้าต่าง

พร้อมกับขับขานบทเพลงแสนเศร้า

 

เบื้องล่างมีบุรุษในชุดคลุมดำเผยกายออกมา

เขาคว้าเอากลีบกุหลาบได้กลีบหนึ่ง

แล้วขยี้มันจนสลายกลายเป็นขี้เถ้า

 

“ วอเรน่า ”

 

หนุ่มน้อยคนนั้นส่งเสียงเรียกเบาๆ

 

สตรีชุดแดงทำท่าเหมือนเพิ่งรู้การมาถึงของเขา

นางก้มลงมองพลางยิ้มหวาน

 

“ คิดถึงข้าหรือไร   ดึกป่านนี้ยังไม่ยอมเข้านอน   ต้องการให้ข้ากล่อมหรือเปล่าจ๊ะพ่อหนูน้อย ”

 

“ ให้ข้านอนกับคนแก่สู้เอาหมอนอุดจมูกตนเองตายไม่หลับสบายกว่ากันหรือ ”

 

สตรีชุดแดงทิ้งตัวจากหน้าต่าง

ลงมายืนข้างเขาด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

 

“ หยาบคายจริง   ข้าไม่เคยสอนเจ้าหรืออยู่กับสตรีคำว่าแก่ชรานั้นต้องห้าม ”

 

“ สรุปแล้วได้ความว่าอย่าไร ”

 

กาเอลเข้าเรื่องทันที

เพราะไม่อยากฟังสตรีนางนี้กล่าวให้มากความ

 

“ เขาคนนั้นไม่รู้อะไรเลย   น่าเสียดายเป็นถึงบุตรชายปราชญ์แห่งยุคเสียเวลาชะมัด   แต่ข้ารู้สึกว่าของที่เราต้องการไม่ได้อยู่ที่นี่ ”   

 

นางว่า

 

“ มันเพิ่งจะไม่อยู่หรือไม่เคยมีอยู่ตั้งแต่แรก   เจ้านี่นะวางของอย่างไรกัน   จำไม่ได้เลยหรือ ”

 

ถึงจะกล่าวเช่นนั้น

แต่เขาก็ไม่ได้มีท่าทีขัดเคืองอย่างใด

 

“ ก็แหมข้าเป็นคนจิตใจดี   ใครขอข้าก็ไห้เลยลืมๆ ไปบ้างมันก็ช่วยไม่ได้นี่นา   แต่ข้ารู้สึกว่ามันควรต้องอยู่ที่โอรีออนชิ้นหนึ่ง ”

 

กาเอลหมุนคทาในมือ

อัญมณีสีแดงเปล่งประกายขึ้น

 

“ แต่ข้ากลับไม่รู้สึกถึงมันแม้แต่น้อยเจ้าแน่ใจแล้วหรือว่ามันอยู่ที่นี่ ”

 

“ พันปีที่ผ่านไปมันย่อมมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น   ช่างเถิดของสำคัญอย่างนั้นมันไม่หายไปเฉยๆ อย่างแน่นอน   อย่างน้อยต้องมีคนรู้เรื่องราวอะไรบ้าง ”

 

วอเรน่าบอก

 

“ เจ้าจะอยู่ที่นี่ต่อสินะ ”

 

กาเอลสรุป

 

“ ก็ตามใจ   ส่วนข้าจะกลับไปโอรีเวียแล้ว ”

 

“ ทำไมล่ะ   ถึงอย่างไรเจ้าก็เทียวไปเทียวมาอยู่แล้ว   พูดอย่างกับเจ้าจะไม่มาที่นี่อีก ”

 

สตรีแสนงามท้วง

 

“ ในเมื่อแน่ใจว่าเมืองนี้ไม่มีสิ่งที่ต้องการข้าจะเสียเวลาไปใย ”

 

หนุ่มน้อยตอบ

 

“ ไม่คิดห่วงเจ้าชายตัวน้อยๆ ผู้น่าสงสารแล้วหรือ ”

 

“ คนที่แกร่งพอเท่านั้นจึงจะยืนข้างข้าได้ ”

 

“ ในเมื่อเจ้าไม่สนใจเขาแล้วให้ข้าสนใจแทนได้หรือไม่   ข้าบอกเจ้าแล้วว่าเอลานอสนั้นไม่ได้เรื่อง ”

 

สตรีชุดแดงว่า

 

“ ให้เวลาเขาหน่อยสิ   ข้ายังเชื่อใจเขาอยู่ ”

 

กาเอลบอก

 

“ แล้วกันข้าอดสนุกเลยสิ ”

 

สตรีนางนั้นทำหน้างอง้ำ

เหมือนว่าโดนขัดใจ

 

“ ไม่เป็นไร   เล่นลูกไม่ได้คนพ่อยังว่างนี่นา   ว่าแต่เจ้าจะไปโอรีเวียเพื่อสิ่งใดกัน ”

 

“ มีของสำคัญอยู่ที่นั่นอย่างน้อยสองชิ้นมิใช่หรืออีกอย่างเบาะแสอื่นคนในโอรีเวียบางคนควรจะรู้ ”

 

หนุ่มน้อยผู้สวมหน้ากากว่า

 

“ ก็ได้   แต่ระวังอย่าทำตัวเองให้ตกอยู่ในอันตรายล่ะ ”

 

สตรีชุดแดงบอกกับเขา

ด้วยความห่วงใยจากใจจริง

 

กาเอลไม่รับปากอะไร

เขาเพียงแต่ก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง

 

แล้วร่างก็แตกสลาย

กลายเป็นนกกลางคืน

 

โผบินขึ้นสู่ท้องฟ้า

ก่อนจะหายลับไปอย่างเงียบงัน

 

“ น่าแปลกนะ ”

 

สตรีชุดแดงรำพึงกับตนเอง

 

“ เนิ่นนานมาแล้วที่ข้าอยู่เพียงลำพังโดยไม่รู้สึกอะไร   แต่เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ที่เจ้าก้าวเข้ามาในชีวิต   ข้ากลับโดดเดี่ยวทุกครั้งที่เจ้าจากไปแบบนี้   อา… คิดถึงช่วงเวลาที่เจ้ายังเป็นเด็กเหตุใดจึงเติบโตไวนัก   ข้าอยากอุ้มเจ้าพาเจ้าขี่หลังเหมือนครั้งก่อนโน้น   แต่คงเป็นไปไม่ได้แล้วสินะ   เด็กน้อยของข้าปีกกล้าขาแข็งเสียแล้ว ”

 

นางกล่าว

พลางจ้องกุหลาบที่เหลือในมือ

 

“ เจ้ารักข้าหรือเจ้าจะไม่รักข้า ”

 

เสียงรำพันแว่วมากับสายลม

พร้อมกับกลีบกุกลาบสีหวานที่ปลิวกระจายไป

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา