Show Mine! ผู้ชายคนนี้ผมจอง

-

วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 23.38 น.

  1 chapter
  4 วิจารณ์
  1,610 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) Introduction

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Introduction 

 

 

ตึ้ง!

 

(ผมเป็นนักยิงสไนเปอร์ อาชีพของผมค่อนข้างเสี่ยงและอันตราย แต่ผมก็รักในอาชีพนี้เพราะได้จำนวนเงินที่คุ้มมหาศาล)

 

แกร็กๆ

 

          "อืมม เป็นหนังที่เปิดเรื่องได้น่าสนใจสุดๆเลยแฮะ เก็บเป็นเพลย์ลิสต์ไว้ดูละกัน"ผมนั่งพิมพ์ค้นหาชื่อเรื่องของหนังที่แนะนำขึ้นมาไว้ ก่อนจะพับหน้าจอลง ไม่ทันได้พับจนสนิทผมก็เปิดขึ้นเพื่อเปิดหนังที่กดค้นหาไว้ดูทันที

 

       ผมใช้ชีวิตที่น่าเบื่อแบบนี้วนลูปเดิมๆมาตั้งแต่ปิดเทอมวันแรกจนเข้าสัปดาห์ที่2 น่าเบื่อจังแต่ก็ไม่อยากให้รีบเปิดเรียน ปิดเทอมคราวนี้ผมไม่ได้กลับบ้านเพราะดันมีโรคระบาดเกิดขึ้นทำให้ประเทศต้องปิดทุกจังหวัด ผมนั่งดูหนังไปเรื่อยๆจนคิดว่าเกินร้อยเรื่องภายใน20วันแน่ๆ

 

       "แสงเลเซอร์มันเล็งไกลขนาดนั้นเชียว ถ้าในชีวิตจริงมีแสงแบบนั้นเล็งมาที่ฉันบ้างจะเป็นไงนะ ฮึบ! ชึ้บ! โอ้วว นั่นมันแสงเลเซอร์สีแดง!! ว่าไปนั่นแสงเครื่องซักผ้าจากตึกข้างล่างต่างหากฮ่าๆ อยู่คนเดียวแล้วมันจะเป็นบ้าแบบนี้แท้ๆ"ผมมองแสงสีแดงตรงฝั่งตรงข้ามตึกหอพักที่ผมอยู่ก่อนจะทำหลบมุมเหมือนหลบแสงเลเซอร์จากปืนเล่นๆ ตลกดีจังชีวิตคนเหงาเฮ้อ...ผมรู้สึกเบื่อที่จะดูต่อ บวกกับอยากพักสายตาเลยพับหน้าจอแบบสนิท ก่อนจะนวดตรงระหว่างตาแล้วหันหลังจากโต๊ะ

 

       "เฮ้ย!"แต่สิ่งที่ผมหันหลังมาเผชิญกลับทำผมช็อคมากๆ จุดสีแดง บ้าหน่า!มันเป็นแสงเลเซอร์จริงๆจากข้างล่าง ใครกัน มีคนลงทุนจ้างสไนเปอร์มายิงผมเลยหรอ หรือผิดคน ไม่น่าใช่คนพวกนี้มันต้องมีความชำนาญสูงสิจะผิดคนได้ไง แล้วทำไมเป้าหมายถึงเป็นนักศึกษาธรรมดาที่มีหนี้สินติดตัวเยอะแบบผมกันล่ะ!!

 

       "เอาไงดีๆโผล่หัวออกไปสมองกระจุยแน่ คลานหนีออกจากห้องก่อนดีกว่า ดีที่มันเล็งจากข้างล่างแต่เราอยู่ตั้งชั้น3มันคงไม่เห็นว่าเราคลานหรอกมั้ง..."

 

       "โง่รึเปล่า"เอ๊ะ เสียงใคร มีคนอยู่ในห้องผมหรอ โอ๊ยจะบ้าตาย ผมยังไม่ทันเรียนจบเอาใบปริญญาไปแขวนประดับฝาบ้านให้พ่อแม่เลย เมียก็ยังไม่ได้แต่งทั้งชีวิตยังไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับใครเขาเลยทำม๊ายยย

 

       "ตะ...ต้องการอะไรจากผม เงินหรอเอาไปสิทั้งเนื้อทั้งตัวมีไม่ถึงพัน ไม่ต้องลงทุนกันขนาดนี้ก็ได้!"ผมก้มลงเอาหน้าแทบกับพื้นห้องที่แทบไม่ได้กวาด ฝุ่นเยอะชิบ

 

       "บ้าไปแล้วรึไง เงียบๆสิ สไนเปอร์ไม่มีใครเล็งจากด้านล่างหรอกมันอยู่บนตึกต่างหากตอนนี้รีบวิ่งไปปิดไฟซะ เร็ว"เอ๊ะ เขามาช่วยหรอ ผมค่อยๆเงยหน้ามองรอบๆเสียงมาจากไหนกัน ผมหันไปมองตรงสวิชต์ไฟ

 

       "ปิดไฟแล้วมันจะยิงไม่ได้หรอ"

 

       "โง่จริงๆ ปิดไฟมันแค่เสียจังหวะชั่วคราวยังไงมันก็ยังเห็น ที่จะให้ทำต่อคือวิ่งออกจากห้องไป"คำก็โง่ สองคำก็โง่ ใครจะไปฉลาดแบบคุณวะครับ ผมเป็นแค่นักศึกษาธรรมด๊าธรรมดานะเว้ยจะไปคิดไรทันได้ในเวลาแบบนี้วะ แต่เอาเถอะทำตามที่ไอ้คนนี้บอกก่อนละกัน...เอ๊ะ!?

 

พรึบ!!

 

         "ชักช้า อยากตายเร็วรึไง"นะ ในตู้เสื้อผ้าเองหรอ ที่ซ่อนอยู่!! จู่ๆหมอนั่นก็พุ่งตัวออกมาคว้าตัวผมที่หมอบอยู่ไปปิดไฟแล้วดันออกจากประตูห้องไป

 

ฟิ้ว

 

 

จึก!

 

         เสียงอะไรสักอย่างพุ่งผ่านตัวผมไป แล้วไปปักที่ผนังตรงข้ามที่ผมยืนอยู่จนเป็นรู มะ มันยิงจริงๆแล้ว

 

         "วิ่งสิ มัวแต่ตะลึงอยู่ได้มาทางนี้"มือผมโดนคว้ากระชากวิ่งขึ้นด้านบน เอ๊ะ ทำไมไม่ลงด้านล่างล่ะ แล้วคนๆนี้เป็นใครทำไมมาช่วยผม งงไปหมดแล้ว

 

         "คุณเป็นใคร แล้วเกิดอะไรขึ้น"

 

         "ไว้ค่อยคุย"ผมมองแผ่นหลังกว้างๆของคนตรงหน้า ทำไมหุ่นผมไม่ได้แบบนี้บ้างนะไม่งั้นคงได้สาวๆมาติดตรึมแน่ แถมยังดูสุขุมขึ้นจสกสูทเนี๊ยบๆนั่นอีกดูดีเป็นบ้า หรือว่า เขากำลังถ่ายหนังนะ? แต่เมื่อกี้เขาตั้งใจยิงจริงๆนี่หว่า

 

         "หลบนี่สักพัก เดี๋ยวจะมีคนมารับ"ผมกับเขานั่งตรงบันไดทางประตูดาดฟ้า มีคนมารับ?ยังไงอ่ะ

 

         "รีบมารับเร็วคิดว่าคงยื้อเวลาได้ไม่นาน ถ้ามันเอะใจไวคงขึ้นมาทางดาดฟ้าทันที"หืม หนังจริงๆหรอหรือผมฝันอยู่ หยิกตัวเองก็รู้สึกอยู่ดีนี่

 

         "ให้ตบหน้าช่วยไหมล่ะ นี่ไม่ใช่ฝันไม่ใช่การแสดง นายก็แค่คนซวยคนหนึ่งแหละ"

 

         "เอ๊ะ ยังไง ดะ เดี๋ยวจะไปไหน"จู่ๆก็ดึงตัวผมให้ลุกขึ้นอีกแล้ว

 

         "อยากตายรึไง ไม่ได้ยินเสียงเท้าที่มันวิ่งขึ้นมาหรอ"เป็นเสียงกระซิบที่ดังพอให้ใจผมหล่นลงตาตุ่ม นี่ผมกำลังจะตายหรอ

 

         "ยังไม่ตายหรอกน่า พวกฉันมาถึงแล้วรีบก้าวขา"พอพ้นขึ้นดาดฟ้า อ๊ากกก ชีวิตจริง จริงหรอเนี่ย ฮะ เฮลิคอปเตอร์ เฮ้ยยย!!! พระเจ้าไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้สัมผัสกับการได้ขึ้น

 

         "รีบขึ้นไปสิเจ้างั่ง!! มันตามมาแล้ว"ผมรีบดึงสติก่อนจะรีบปีนขึ้นไป

 

ปัง!!

 

          เสียงปืนดังลั่น ผมที่กำลังปีนบันไดรีบมองลงหันกลับ คนที่มาช่วยผมโดนยิง!!

 

          "อย่าสนใจรีบปีนขึ้นมา"มีอีกเสียงที่ดังขึ้นมาจากข้างบน เขายืนมือลงมาผมจับมือคนนั้นไว้เขาใช้แรงเพียงข้างเดียวดึงตัวผมขึ้นไปทันที แข็งแรงมาก 

 

          "โช! รีบเกาะบันได"คนที่ดึงผมขึ้นตะโกนบอกคนข้างล่าง คนข้างล่างยิงขู่คนที่ตามมาไป3นัดก่อนจะกระโดดขึ้นเกาะบันไดระหว่างที่เฮลิคอปเตอร์กำลังออกตัว สุดยอด...ผมไม่คิดว่าชีวิตนี้จะเจอแบบนี้ คนพวกนั้นยิงไล่ตามมา คนที่ช่วยผมที่ชื่อ โช เขาจะเป็นไรไหม เขาโดนยิงนี่ แล้วตอนนี้ไม่รู้ว่าโดนเพิ่มจากที่มันยิงตามไหม

 

          "คือ นี่มันอะไร"

 

พรึบ!

 

           "คุณ เป็นอะไรไหม"สักพักคนชื่อโชก็ปีนขึ้นมานั่งข้างบนเฮลิคอปเตอร์กับผม

 

           "ฉันไม่ตายง่ายๆหรอก กระสุนแค่เฉี่ยวไม่โดนจุดสำคัญสักจุด ถ้านายไม่เอ๋อ คงไม่โดนสักจุด"

 

           "-0- อ่าาาา ขอโทษค้าบบ ผมผิดเองที่อ๊องเอง สรุปบอกผมได้รึยังนี่มันเรื่องอะไรกัน"พอได้เห็นหน้าคนชื่อโชใกล้ๆ โครตหล่อ ทำไมผมไม่ได้สักครึ่งของไอ้คนปากเสียนี่เลยนะ หรือจะถ่ายหนังจริงๆ แต่หนังอะไรเนี่ยพระเอกปากโครตหมาไม่รับประทานเลย

 

           "ไว้ค่อยคุยตอนถึงที่เซฟโซนกว่านี้แล้วจะบอกทุกอย่างให้นายกระจ่างเอง"สุดท้ายก็ติดงงต่อไป ผมมองออกไปนอกกระจก แสงในเมืองเวลานี้สวยจริงๆ พอช่วยเยียวยาเรื่องที่เจอมาได้มากเลย

 

           "ดูชิวมากนี่หลังเจอเหตุการณ์นั้น เคยเจอมาก่อนรึไง"

 

           "จะบ้ารึไง ใครจะเคยเจอชีวิตคนธรรมดาคนนึงนะ จะให้จู่ๆมีคนไล่ตามยิง ขณะไปเรียนงี้หรอ"

 

           "หึ แล้วไม่กลัวรึไง"

 

           "กลัวสิ แต่แสงไฟจากเมืองตอนนี้ช่วยได้เยอะมาก...พึ่งเคยได้มองจากจุดที่สูงๆแบบนี้ครั้งแรกเลยล่ะ"ผมมองข้างนอกไปเรื่อยๆจนเผลอหลับไป คงเพราะตามันหล้าจากหน้าจอมานานแล้ว

 

 

จิ๊บๆ

 

            "เฮือก!!" เช้าแล้ว? ฟู่...แสดงว่าเมื่อคืนฝันไปสินะ แต่เอ๊ะห้องนี้ห้องใครกัน วิวข้างนอก แสบตาชะมัด พอตาเริ่มปรับสภาพได้ถึงเห็นว่าข้างนอกมีแต่หิมะ!? เฮ้ยย!!! ที่ไหนอีกเนี่ยผมรีบเด้งตัวลุก ยันผ้าห่มออก เอื้อะ หนาว=____=

 

            "ตื่นแล้วก็ช่วยอย่าเป็นลิงที"หืมม เสียงใคร เฮ้ย คนชื่อโช กับคนที่ดึงผมขึ้นเฮลิคอปเตอร์นอนขนาบข้างผมทั้งคู่เลยอะ อะไรเนี่ย

 

            "ที่นี่ ที่ไหน ทำไมผมมาโผล่ที่นี่"

 

            "นี่นายน่ะ รู้ไหมว่าพวกเราพึ่งได้นอนไม่ใช่คนที่หลับเป็นตายตื่นมาแล้วกวนคนอื่นเขานอนแบบนาย ช่วยเงียบๆแล้วเอาผ้าห่มขึ้นมาซะ"คนชื่อโชทำสายตาที่ดุโครตๆส่งมา ขนลุกสิผมรีบดึงผ้าห่มมาคลุมทั้งๆหมด ทำไมต้องทั้งหมดอ่ะหรอเพราะผมนอนตรงกลางน่ะสิ เลยต้องห่มให้ครบทั้งสามคนเลยจะออกก็เกรงใจอีก ฮืออ วอท แฮปเปนครับบบ

 

พรึบ...

 

            "เอ๊ะ"จู่ๆคนชื่อโชก็พลิกตัวมากอดตัวผมไว้ อะ อะไรอีกเนี่ย เขาคิดว่าผมเป็นหมอนข้างหรอ

 

            "คะ..."จะพูดก็ไม่ได้อีก โอ๊ย ผมต้องทนต่อไปใช่ไหมเนี่ย ผมเหลือบไปมองคนข้างๆ ผมสีทอง เป็นฝรั่งรึเปล่าเนี่ย แต่พูดไทยชัดมากนี่หว่า จะว่าไป...ทั้งคู่ตัวใหญ่กว่าผมมาก พอถอดเสื้อนอนทั้งคู่แบบนี้ถึงเห็นกล้ามเนื้อที่ไม่ได้ใหญ่โตแต่ดูเป็นกล้ามเนื้อทั้งหมด...แบบไม่ได้เล่นเพื่อให้ใหญ่แต่เป็นเพราะใช้งานมันจริงๆเลยแฮะ คนพวกนี้เป็นใครกัน

 

              "พอไม่ได้ทำไรก็เริ่มง่วงแล้วแฮะ"แล้วผมก็เผลอหลับเพราะสภาพอากาศอีกรอบพอโดนกอดไว้ก็อุ่นขึ้นกว่าเดิม

 

 

              "ตื่นได้แล้ว"หือ...เสียงใครเนี่ย

 

พรึบ

 

             "..."ผมพลิกตัวเอาผ้าคลุมหัวไม่สนใจ

 

             "จะเอาแบบนี้ใช่ไหม"จู่ๆผ้าที่ผมพึ่งดึบมาคลุมก็โดนดึงออกจากตัวทันที อ๊ากกก หนาว!!

 

             "หนาว!! เอ๊ะ พวกคุณเป็นใครกันเนี่ย"พอผมเด้วตัวลุกตาสว่างทันทีก็เห็นคนใส่สูทสีดำเนี๊ยบยืนรอบเตียง มีคนนึงที่สะดุดตาเพราะคุ้นเคย

 

             "คุณโช มันคืออะไรกันแน่บอกผมได้รึยัง"

 

             "อืม กำลังจะบอกนี่แหละ ก่อนอื่นแนะนำตัวกันก่อนละกัน ฉันชื่อโช เป็นหัวหน้าการ์ด ส่วนนี่นายน่าจะคุ้นแล้วคนที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ด้วย ชื่ออลันดี เป็นผู้ช่วยฉัน ส่วนคนที่เหลืออีก5คนเป็นลูกทีมฉันเรียงจากขวาไปซ้าย คนแรก พาต้า คนที่สองเป็นพี่น้องฝาแฝดกับพาต้าชื่อ ฮานึล คนที่สามเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในทีมชื่อ เชอร์รีน คนที่สี่ชื่อ เคย์ คนที่ห้าชื่อ ไนท์ เป็นคนไทยแบบนาย"พอแนะนำตัวเสร็จถึงได้รู้ทุกคนในห้องนี้ยกเว้นผมกับคนชื่อไนท์ไม่มีคนไทยเลยแต่ทำไมพูดไทยคล่องขนาดนี้

 

             "ผม...มายด์ครับ"

 

             "อันนั้นพวกเรารู้อยู่แล้ว ต่อ ที่พวกเราต้องพาตัวนายมาที่นี่เพื่อความปลอดภัยนายเอง เจ้านายของเราเป็นคนไทย แล้วลูกชายของเขาน่ะ...หน้าตาดันเหมือนกันกับนายมาก แต่จริงๆแล้วลูกชายเขากำลังป่วยรักษาตัวในฐานลับของเราแน่นอนภายนอกไม่มีใครรู้ แต่จู่ๆสายเราก็แจ้งมาบอกว่าพวกมันกำลังส่งคนไปลอบยิงลูกชายเจ้านายเราที่อยู่ที่ไทยซึ่งมันเป็นไปไม่ได้พวกเรารีบสืบตามเรื่องคนที่ว่า ซึ่งก็คือนาย... หน้าตาที่คล้ายกันมากก็จริงแต่แปลกที่พวกมันไม่ทำงานรอบคอบถึงขั้นไม่เช็คข้อมูลเหยื่อเลย"อะไรมันจะดวงซวยขนาดนี้เนี่ยที่ว่าเหมือน มันจะเหมือนถึงขั้นมาเป็นตัวตายตัวแทนได้เลยหรอ

 

             "แต่มันก็คิดได้หลายกรณี เพราะเจ้านายเราค่อนข้างเป็นคนใหญ่โต บางทีพวกมันอาจจะคิดว่าใช้ข้อมูลให้ลูกชายปลอมแล้วยอมให้ไปอยู่ที่เก่าๆแบบนั้นก็ได้"=___=ที่เก่าๆ?

 

             "หลังจากนี้ก็พักที่นี่ก่อน ลูกทีมฉันจะคอยปกป้องนายเอง จะไปไหนก็ให้คนพวกนี้ไปให้ละกัน ส่วนเรื่องที่เรียนนายฉันส่งคนไปยื่นเรื่องดรอปให้แล้ว ครอบครัวของนายไม่ต้องห่วงฉันส่งคนไปคุยกับช่วยพาไปที่ปลอดภัยแล้ว"

 

             "ทำไม...ต้องเกิดเรื่องขึ้นกับครอบครัวผมด้วย"ชีวิตที่ธรรมดาน่าเบื่อๆยังดีกว่าตอนนี้อีก...ไม่น่าคิดอะไรพอเลยพอเกิดขึ้นจริง มันไม่ตลกเลยพ่อกับแม่จะเป็นไงบ้างนะ จะตกใจจนทำไรไม่ถูกเหมือนเราไหมจะปลอดภัยไหม

 

 

ตัดภาพไปที่พ่อแม่มายด์

 

 

            "อุ้ย อีป่อ ดูก่าห้องอย่างหรู! (พ่อดูสิห้องหรูมาก)"

 

            "แม่น กำกินก็อย่างลำ (ใช่ ของกินก็อร่อย)"

 

            "แม่มักเสื้อจะอี้เถาะ ไข่ใส่เป็นเมินเลาะ(แม่ชอบเสื้อผ้าแบบนี้มาก อยากใส่มาตั้งนานละ)"

 

            "ป่อแหม ไข่อยากอยู่บ้านจะอี้เมินละ ลูกเฮาก็โชคดีแต้ถูกหวยบ่โทรมาบอกหยังสักอย่างส่งแต่คนมาบอก ถ่าจะได้ตังจั๊ดหลาย (พ่ออีก อยากอยู่บ้านแบบนี้มานานละ ลูกเราก็โชคดีจริงๆ ถูกลอตเตอรี่ไม่โทรมาบอกอะไรเลย ส่งแต่คนมาบอก น่าจะได้เงินเยอะ)"

 

            "ฮ่าๆ"

 

ตัดภาพมาที่ลูกชายที่กำลังอมทุกข์

 

            "ไม่ต้องกังวลอะไรหรอกพวกเราไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้นลุกไปอาบน้ำแต่งตัวไปกินข้าวเถอะ"ตอนนี้ทุกคนออกไปนอกห้องหมดแล้วเหลือแต่คนไทยสองคนในห้อง ไนท์ที่บอกผมมาแบบนั้นก็ทำใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย ผมยิ้มรับนิดๆแต่ก็ยอมลุกขึ้นจากเตียงแต่เอ๊ะ

 

            "ชุดนอนอะไรเนี่ย!! ใครเปลี่ยนชุดของผม"พอผมถึงเห็นว่ามันเป็นแค่เชิ้ตตัวสีขาวตัวใหญ่ๆคลุมตัวผมตัวเดียวเอง หนะ หนาวว

 

            "เหมือนจะเป็นคุณโชนะที่เปลี่ยน เพราะเมื่อคืนมีแค่นายกับคุณโช อ้อ คุณอลันดีด้วยอีกคนที่อยู่ หนาวหรอ ห่มผ้าเข้าไปในห้องน้ำก่อนก็ได้ เดี๋ยวฉันไปเปิดฮีตเตอร์ให้"

 

            "-0- อะ โอเค"ผมรีบคลุมผ้าเข้าไปห้องน้ำแบบไม่สนใจที่ไนท์พูด ใครจะไปเปลี่ยนช่างมันเพราะไงก็ผู้ชายหมดนั่นแหละ

 

            "หืมมม อ่างน้ำโครตหรูเลยย เปิดน้ำร้อนใส่อ่างได้ด้วยโอ๊ยย ดีจัง ในเรื่องโชคร้ายก็มีเรื่องดีๆอยู่แฮะ"

 

            สบายสุดๆ อยากนอนแช่นี่ทั้งวันเลย มีกลิ่นหอมของดอกไม้อ่อนๆด้วย ดีไปหมดเลย ผมมองไปรอบๆห้องน้ำ ถ้าชีวิตปกติเลยกว่าจะได้แช่ห้องน้ำแบบนี้ในสภาพอากาศแบบนี้คงเป็นได้แค่ฝันสำหรับคนที่มาจากครอบครัวปานกลางแบบเรา

 

            "ขอกอบโกยความสุขช่วงนี้ไปเยอะๆละกัน...จริงสิ เราต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกัน แล้วจะได้เจอครอบครัวอีกไหมนะ"

 

 

 

         พออาบน้ำเสร็จ ผมก็รีบใส่เสื้อผ้าทันที ทำใจตั้งนานกว่าจะลุกจากน้ำได้ มันก็อารมณ์แบบคนอาบน้ำร้อนแล้วต้องออกจากห้องน้ำแหละมันต้องหนาวมากแน่ๆ เสื้อผ้าขนาดพอดีตัวเลยแฮะ

 

แอด

 

         เกินคาดในห้องอุ่นมาก ไนท์ที่นั่งเล่นโทรศัพท์พอเห็นผมออกจากห้องน้ำก็เก็บทันทีพร้อมกับลุกขึ้นจากโซฟาเดินมาทางผมพร้อมผ้าขนหนูเล็ก1ตัว ไนท์วางมันบนหัวผมก่อนจะยีเบาๆ

 

         "เช็ดผมให้แห้งก่อนก็ได้"ผมรับผ้าต่อก่อนจะพยักหน้า พอโดนทำแบบนี้ก็แอบเขินอยู่นะพ่อแม่ก็ไม่เคยทำให้เลยแบบนี้สินะที่ผู้หญิงชอบเขินกันเพราะถูกดูแลดีงี้นี่เอง

 

         "หิวรึยัง"

 

         "ก็หิวนิดหน่อย ตอนนี้กี่โมงแล้วหรอ"

 

         "บ่าย2น่ะ"

 

โครกกก

 

         ท้องเจ้ากรรม=___= พอได้ยินเวลาปุ๊บร้องปั๊บเลยนะ ไนท์หลุดขำนิดๆก่อนจะเอาผ้าขนหนูบนหัวผมไปตากไว้ที่ราว แล้วก็กลับมาคว้ามือผมไปจับดื้อๆ

 

         "ไม่ต้องจูงผมก็ได้เดี๋ยวเดินเองดีกว่า"

 

         "โอ๊ะ โอเค"ไนท์พูดพร้อมกับยิ้มรับ คือผู้ชายที่นี่ คงจะฮอตในหมู่ผู้หญิงน่าดู ดูดีกันจนเหมือนเป็นเจ้าชายทุกคนเลย ผมคงเป็นคนใช้ไม่ก็คนขัดรองเท้าหน้าวังสินะ

 

         "ชอบอาหารแบบไหนเป็นพิเศษไหม"

 

         "อืมมม จริงๆผมไม่เรื่องมากนะแค่ไม่ใช่ข้าวผมชอบกินหมดแหละ"

 

         "ฮ่าๆ ไม่ใช่ข้าวหรอ นี่นายเป็นคนไทยจริงๆไหมเนี่ย"

 

         "ขำอะไรล่ะหมายถึงเมนูข้าวผมไม่ชอบ แต่พวกเมนูเส้นอะไรงี้ชอบกินอยู่"

 

         "อืม...กินมาม่าไหม"

 

         "บ้านหรูขนาดนี้มีแต่มาม่ากินหรอ"ไนท์หลุดขำอีกที เขาหันมายีหัวผมทีนึงก่อนจะจับมือผม(อีกแล้ว) เดินตามเข้าไปในห้องหนึ่ง เป็นห้องทานอาหารแบบในวังสุดหรูเลยไม่ใช่รึไง0---0!

 

         "มาช้าชะมัด รีบนั่งสิ"คุณโชที่นั่งหัวโต๊ะพูดแบบเรียบๆผมต้องเดินอ้อมหลังรึเปล่านะเอ๊ะต้องเดินแบบไหน เฮ้ย ไนท์นายเดินไปนั่งเลยทำไมไม่บอกผมก่อนล่ะ อึ๋ย ละเก้าอี้ว่างก็อยู่อีกฝั่งข้างๆนายโชนั่นอีก

 

         "ยืนบื้อทำไม หาที่นั่งไม่เจอหรือขาเป็นตะคริว?"คุณโชนี่ปากร้ายชะมัด-*-

 

         "เปล่าครับ"ผมเลยเดินผ่านหลังไปเลย ดีกว่าเดินให้ผ่านเห็นตรงหน้าละมั้ง

 

         "นายแอบเอาครีมอาบน้ำมาเองหรอ"

 

         "เอ๊ะ เปล่า ผมก็อาบตามที่เตรียมในห้องน้ำให้ ทำไมหรอครับ"

 

         "เปล่า กินเถอะ"เขาพูดตัดบทก่อนจะลงมือกินข้าว อาหารตรงหน้าต่อให้ผมไม่ชอบข้าวยังไงก็คงสวาปามได้จนเกลี้ยงเลยล่ะ

 

         "อร่อย"

 

         "คุณโชหัวหน้าเราเป็นคนทำเลยนะไม่ชอบข้าวยังไงก็คงกินได้อยู่แหละ ใช่ไหม"ไนท์ถามผมข้ามโต๊ะ คุณโชทำเองหรอ จริงหรอเนี่ย โห...เพอร์เฟคเกินไปแล้ว

 

         "อะ...อืม"ผมตักแกงตรงหน้ามาซดคือแบบ...สุดยอด เขาปรุงเครื่องแกงได้เด็ดมากเลย พอผมหันหน้าไปมองเขา เขาก็หันมาสบตาพอดี ผมรีบก้มหน้าลงตักข้าวเข้าปาก เอิ่ม นี่ผมรู้สึกเขินผู้ชายหรอ จู่ๆก็ประหม่าขึ้นมาเฉยๆ ก็เขาหล่อมากนี่ครับ ใช่เขาหล่อมากความหล่อที่ผมไม่เคยมี-*-

 

         "มีไร กินไม่ได้?"

 

         "ปละ เปล่าครับ แค่จะบอกอร่อยมากครับ ขอบคุณที่ทำให้ทานครับ"คุณโชพยักหน้าเบาๆก่อนจะตักแกงที่ผมพึ่งซดไปให้ผม การกระทำทุกอย่างตั้งแต่ไนท์ ทำเอาผมรู้สึกว่า ตัวเองเป็นเด็กหญิงน้อยผู้บอบบางต้องการการทนุถนอมอย่างมาก-___- แต่เขาคงทำให้กันเป็นเรื่องปกติละมั้ง ผมเลยหันไปมองทางคุณเชอร์รีนบ้าง ตอนนี้ทถกสายตาจ้องมาที่ผม เอ๊ะ มีอะไรรึเปล่า

 

         "ไม่กินกันรึไง"เป็นคุณโชที่พูดตัดบท ทุกคนแอบหลุดยิ้มแล้วก้มกินข้าวกันต่อ คืออิหยัง? งง

 

         "มีอะไรรึเปล่าครับ"

 

         "เปล่า"เค เปล่าก็เปล่า ผมรีบกินข้าวให้อิ่มแล้ว....ขอเพิ่ม มันอร่อยจริงๆนะเนี่ย

 

         "นายไม่ชอบข้าวจริงๆหรอเนี่ยฮ่าๆ"แล้วไนท์ก็แซวผมตามระบบ 

 

         "ก็มันอร่อยนี่"ไม่รู้ผมทำหน้าแบบไหนไปทุกคนก็คือยิ้มแปลกๆเหมือนแต่ละคนเจอลูกหมาตัวนึงแล้วจะเข้ามาขย้ำเลยแม้กระทั่งคุณเชอร์รีน!

 

         "น่ารักจังนะคะคุณมายด์เนี่ย เหมือนลูกหมาเลย"นั่นไงสุดท้ายก็มีคนพูดตามที่ออร่าผมสัมผัสได้แต่เพราะคุณโชนั่งเป็นมุมอับสายตาพอดีเลยไม่ได้หันมองว่ามีปฏิกิริยาเหมือนกันไหม แต่พอหันไปเขาก็ตักของหวานเข้าปากปกติ คาดหวังอะไรอยู่ครับคุณมายด์

 

         "วันนี้ยังไม่ต้องออกไปไหน ลิสต์รายการสิ่งของต้องใช้ไว้ เดี๋ยวพาต้ากับฮานึลจะออกไปซื้อให้ โอเคไหม"ผมพยักหน้ารับ คุณโชวางช้อนก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะออกไป เขากินไวมาก อิ่มแล้วหรอ แล้วแต่ละคนก็ทยอยลุก กรรมแต่ผมพึ่งตักข้าวถ้วยใหม่-0-

 

         "ไม่ต้องรีบนะ ค่อยๆกิน ฉันนั่งรอเอง"ไนท์พูดพร้อมกับยิ้มตามสเตป ค่อยใจชื้นหน่อย ผมยิ้มรับก่อนจะรีบตักผัดผักมากิน อร่อยทุกอย่างเลยอ่ะเร็วๆนี้ผมคงเจริญอาหารมากแน่ๆ

 

         "เวลากินยังเหมือนลูกหมาเลยนายน่ะ"

 

         "ไม่เหมือนสักหน่อย พวกคุณคิดอะไรบ้าบอ"

 

         "เนี่ย ยิ่งเวลาทำหน้ามุ่ยๆนะ ยิ่งน่าแกล้งเลย ขอไปนั่งข้างๆได้ไหม"พูดมาได้ ผมเลิกทำหน้าขมวดคิ้วเลยทันที

 

         "มาสิจะขอผมทำไม"ไนท์ยิ้มแล้วเดินมานั่งข้างๆผม เขาตักแกงๆนึงให้ผมหน้าตาไม่คุ้นเลยไม่กล้าทาน แต่จริงๆแล้วแขนผมตักไม่ถึงฮ่า ฮ่า-___- เกลียดความจริงนี้ที่ว่าพอไนท์มานั่งข้างๆกลับตักถึงได้ง่ายๆนี่แหละ

 

         "ลองชิมนี่สิ เห็นนายไม่ได้ตักเลย น่าจะถูกปากนายนะ เพราะฉันชอบมาก"เดี๋ยวสิตรรกะอะไรของหมอนี่ เขาชอบแล้วทำไมผมต้องชอบด้วย=___= บ่นแต่ก็กิน หืม...อร่อยจัง รสชาติคล้ายๆแกงกะทิที่ใส่เนื้อไก่แต่เครื่องแกงเข้มข้นกว่า ผมไม่รู้จักเมนูอาหารอ่ะ อะไรตักเข้าปากได้ผมก็ตักกินไปเฉยๆ

         "อร่อยไหม"

 

         "อื้ม"

 

         "ดีเลย กินเยอะๆนะ^^"นายเป็นแม่ฉันรึไง อยากจะบ่นเหมือนกันนะแต่เขาดูแลดีมาก แถมใช้คำอย่างกับผมเป็นเด็กน้อยงั้นแหละ

 

ครืด...

 

          พอกินเสร็จผมกำลังจะเก็บรวบรวมจานแต่ไนท์ก็มาจับมือผมไว้ อะไรอีกล่ะ ฉวยโอกาสบ่อยไปแล้วนะนาย แต่ผมเป็นผู้ชายนี่หว่าจะถือตัวทำไม แต่มันก็รู้สึกทะแม่งๆอ่ะ

 

          "ไม่ต้องเก็บเดี๋ยวมีแม่บ้านมาทำเอง นายไปนั่งจดรายการที่ต้องใช้เถอะ แฝดพี่น้องคงรอนานแล้ว"นั่นสิ สองคนนั้นเป็นคนไปซื้อของให้ผมนี่เนอะ เฮ้อ...ยิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งรู้สึกอึดอัด ผมไม่ใช่คุณหนูจริงๆสักหน่อยไม่เห็นต้องปฏิบัติเหมือนผมเป็นตัวจริงแบบนี้เลย ดูผมทำอะไรเองไม่ได้เลยแฮะ

 

          "ไม่ต้องคิดมาก ที่เราทำให้เพื่อความปลอดภัยของนายเอง ถ้าพวกมันเห็นว่านายไม่ได้อยู่ตามที่ ที่สืบไว้ที่ แถวนี้ที่พวกเราใช้เป็นที่อยู่ชั่วคราวถึงจะย้ายเรื่อยๆแต่เราก็ย้ายในรัฐนี้ก็จะตกเป็นเป้าหมายหลักต่อไป พวกมันคงจะเคร่งตามหาตัวนายรอบๆเขตนี้สักพัก อีกอย่างพวกพาต้ากับฮานึลชอบออกไปข้างนอกอยู่แล้ว นายน่ะสบายใจได้เลย^^"

 

          "แล้ว...พวกเขาจะไม่ตกเป็นเป้าโจมตีอะไรหรอก็เป็นพวกคุณโช"

 

          "สบายใจได้เลยพวกนั้นชอบแต่งตัว ปลอมตัวเก่งที่ต้องลุกไปก่อนก็คงรีบไปเตรียมตัวแหละ"อ่อ ไนท์นี่ทำให้คนสบายใจเก่งชะมัด ผมยิ้มออกมานิดๆก่อนจะเดินตามไนท์กลับห้อง เอาอะไรบ้างนะ แปรงฟัน ยาสีฟัน ครีมอาบน้ำ? ไม่สิเขาแทบจะมีมาให้หมดแล้วนะ

 

          "กางเกงในนายล่ะ ใส่ไซส์ลงไปด้วยนะ"

 

          "-/////-"ผู้ชายที่ไหนเขามาพูดเรื่องกางเกงในด้วยกันวะครับ ผมรีบหันกระดาษจดหนีทันที

 

          "เอ้า ไม่ชอบหรอ ขอโทษๆ"ไม่ใช่ไม่ชอบที่มาแนะนำนะ แต่เรื่องนั้นมันของส่วนตัวลับๆต่างหาก

 

          "เปล่า ขอบคุณที่เตือน"ว่าแต่ไนท์มีหน้าที่ตามติดผมแบบนี้เลยหรอ เขาเป็นคนที่ปลอบใจคนอื่นเก่งรึยังไงนะ คุณโชถึงให้อยู่กับผม ผมแอบเหลือบมองเขานิดๆ แต่เขารู้ตัวไวมากรีบหันมายิ้มให้ทันที โอ๊ย โดนจับได้ ใจจะวายอาการคนโดนจับได้เป็นงี้นี่เองร้อนๆ กับใจเต้น เหมือนเวลาจะขโมยอะไรสักอย่างเลยแฮะ

 

          "มีอะไรรึเปล่า เสร็จแล้วหรอ"

 

          "เอ่อ อืม ไม่รู้จะเอาอะไรอ่ะ ห้ามเปิดดูนะ"

 

          "ฮ่าๆ โอเคๆ ถึงจะรู้สึกไม่ยุติธรรมที่พวกฝาแฝดต้องเห็นก็เถอะ"

 

          "อ่ะ จริงสิ...ผมอยากซื้อเอง สั่งออนไลน์ก็ได้-__-"

 

          "ไม่ได้ พวกมันจะจับสัญญาณได้"

 

          "ขะ ขนาดนั้นเชียว แต่ช้อปออนไลน์ใครก็ช้อปกันนะสมัยนี้"

 

          "นายไม่เข้าใจหรอก มันมีอะไรที่ซับซ้อนกว่านั้น พวกออนไลน์ อินเทอร์เน็ตต่างๆมันเข้าถึงได้ง่ายมากเกี่ยวกับข้อมูล พวกเราถึงพยายามเลี่ยงการใช้อินเทอร์เน็ตกับเทคโนโลยีติดต่อสื่อสารที่จับสัญญาณง่ายไง"จริงสิ ตั้งแต่มาที่นี่ไม่เห็นใครหยิบโทรศัพท์มาเล่นเลย ยกเว้นไนท์ แต่โทรศัพท์ที่ไนท์ใช้ล่ะ

          "ที่นายเห็นฉันเล่นไม่ใช่โทรศัพท์หรอกนะ^^ แล้วก็เป็นความลับที่ไม่บอกด้วยว่าคืออะไร"

 

          "-___- โกหก ก็เห็นว่าเป็นโทรศัพท์"

 

          "ฮ่าๆ แค่รูปทรงน่ะ แต่ก็เอาเถอะเอาที่นายเข้าใจละกัน เดี๋ยวฉันเอาลิสต์ไปให้พวกพาต้าก่อน"ผมพยักหน้าก่อนจะล้มตัวนอนลงกับเตียง นุ่มจริงๆ ผมหลับตาสักพัก นึกทวบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อคืน ไวจริงๆนี่ผมสามารถทำใจชินกับมันได้ขนาดนี้เลยหรอ

 

พรึบ!

 

           หืม มีคนมายืนข้างๆเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ ไนท์หรอ ไม่สิแล้วทำไมเงียบ...

 

           "กินอิ่มแล้วก็นอนหรอ หึ"เสียงคุณโช? เอ๊ะ เขาอุ้มผมไปไหน?? เฮ้ยตัวผมเบาขนาดที่เขาอุ้มลอยง่ายๆเลยหรอ เขาจะเอาผมไปไหนไปฆ่าหรอ

 

           "กลัวอะไร ไม่ได้นอนจริงๆสินะ"กรรม เขาจับได้ ผมค่อยๆลืมตาชัดเลยเหมือนผมเป็นเด็กตัวเล็กๆในอ้อมอกเขาเลย

 

พรึบ

 

            "อ๊ะ!"จู่ๆก็ปล่อยผมลงกับเตียงเลย อะไรของเขา แต่ไม่ทันได้โวยวายอะไร เขาก็ดึงผ้าห่มมาคลุมทั้งหัวผม ผมรีบผุดหัวออกจากผ้าห่มทันที

 

            "จะนอนในที่อากาศแบบนี้ก็ห่มผ้าซะไม่ใช่นอนทับ ฮีตเตอร์ก็ไม่เปิด ไนท์ไปไหน"บ่นเป็นคุณแม่2เลย=___= อ่อที่แท้ที่เขาอุ้มผมเพราะจะเอาผ้าห่มออกนี่เอง

 

            "ผมเปิดไม่เป็นไม่เคยใช้ ส่วนไนท์ก็เอาลิสต์รายการที่ผมเขียนไว้ไปให้ฮานึล นั่นไงมาแล้ว"

 

            "อ้าว คุณโช มีอะไรรึเปล่า"

 

            "ฉันบอกให้นายดูแลเขารึเปล่า ทำไมไม่เปิดฮีทเตอร์ในห้อง เขามาจากเมืองร้อนนายน่าจะรู้ดี เขาปรับตัวไม่ทันหรอก อย่าประมาทแบบนี้อีก"

 

            "ครับ ขอโทษครับ ครั้งนี้ผมพลาดเอง"ไม่เห็นต้องดุเป็นจริงเป็นจังเลย ผมไม่กล้าพูดแทรกเลยแฮะ คุณโชนี่จริงจังกับทุกเรื่องจริงๆ เขาหันมามองสักพักก่อนจะเดินออกจากห้องไป พึ่งสังเกตว่าคุณอลันดีก็ยืนอยู่หน้าห้องด้วย

 

            "ไนท์"

 

            "ฮ่าๆ ไม่เป็นไรหรอก มันเป็นเรื่องปกติ ฉันเองก็ไม่ได้ทำงานพลาดบ่อยๆหรอก"เขาเดินไปเปิดเครื่องสี่เหลี่ยมตรงมุมห้องก่อนจะเดินมานั่งที่ปลายเตียง

            "นายคงหนาวสินะ"

 

            "ไม่หรอก ผมตั้งใจจะนอนคิดไรเรื่อยเปื่อยแต่คุณโชคิดว่าผมนอนจริงจังมั้งเลยเอาผ้าห่มมาคลุมให้"

            "เขาอุ้มนายเองหรอ"เอ๊ะ

 

            "ทำไมหรอ"

 

            "เปล่า แค่คิดว่านายน่าจะนอนทับผ้าห่มนะถ้าไม่ได้นอนจริงจัง เขาจะห่มผ้าได้ก็ต้องอุ้มขึ้นก่อนอยู่แล้ว"-0-/// สันนิษฐานราวกับอยู่ในเหตุการณ์เอง เก่งมากคนที่นี่ พออากาศเริ่มอุ่น บวกกับเตียงนุ่มๆหนังตาเริ่มหนักๆแล้วแฮะ

 

            "ง่วงก็นอนก่อนเถอะ ถึงเวลาที่ควรตื่นเดี๋ยวฉันปลุกเอง อ้อ! อีกเรื่อง เวลาคุยกับฉันแทนสรรพนามว่าฉันนายดีกว่านะจะได้ดูไม่ห่างเหินเกินไป ผมคุณมันแปลกๆ"ผมพยักหน้ารับแล้วก็ล้มตัวนอนเลย สบายจัง สบายจนหลับไปในเวลาไม่กี่วิต่อมา

 

 

ตึกตึก

 

            มีอะไรเย็นๆมาสะกิดตรงหน้าผม ผมเอามือปัดออก แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมหน้าต่อ ยังมากวนอีก คนจะนอนนน ผมปัดมือที่มาจับจมูกผมออกแล้วพลิกตัวหนี

            "ขี้เซาชะมัด ตื่นได้แล้ว"เสียงทุ้มจัง ใครน่ะ ผมรู้สึกถึงความเย็นที่กำลังจับที่ใบหูผม

 

            "อือ...เย็น"

 

            "ตื่นสิ"เสียงคุ้นจัง พ่อหรอไม่สิ...เสียงหนุ่มกว่ามาก สุขุม เรียบนิ่งเหมือนผู้ชายที่มาช่วยผมจากที่...หืม! คุณโช 

 

 

 

โปรดติดตามตอนต่อไป...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา