11

-

เขียนโดย Ghetto

วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เวลา 17.12 น.

  9 chapter
  13 วิจารณ์
  5,389 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2564 17.22 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) 11-07

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

น้ำตาผมไม่ไหลออกมา มันจุกไปหมด

 

นั่นคืออาการที่ผมเป็นจริงๆ ผมนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้โดยที่ไม่รู้ว่าควรจะต้องทำอะไร ควรจะต้องรู้สึกอย่างไร ผมรู้แค่ว่าเอ็มเจจะต้องรับรู้เรื่องนี้ในฐานะที่เธอเป็นผู้ฟังหนึ่งเดียวของผมมาโดยตลอด

 

ผมรีบส่งข้อความไปหาเธอด้วยความสั่นเทาในใจ

 

“MJ

MJ

MJ

Fuckkkkk MJ”

 

เธอส่งข้อความกลับมาหาผมอย่างรำคาญ “what”

 

“J is dead…” ผมบอกกลับไปอย่างไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองพิมพ์ และแน่นอนว่าเอ็มเจเองก็ไม่เชื่อเช่นกัน เพราะเมื่อวานผมยังบอกเธออยู่เลยว่าผมชอบน้องเจมากที่สุดในบรรดาคนที่ผมเคยพบเจอมาทั้งหมด แถมผมยังมีความคิดที่จะกลับไปติดต่อกับน้องเจอีกครั้งหนึ่งด้วยซ้ำ

 

“นี่มันอะไรกันวะ” ผมนึกในใจ แต่อย่างไรก็ตาม ผมยังคงต้องทำงาน ผมรวบรวมแรงฮึดทั้งหมดเพื่อขจัดเรื่องนี้ออกไปจากหัวและกลับไปยังโต๊ะทำงาน เพื่อที่จะปฏิบัติภารกิจให้เสร็จก่อนที่จะเลิกงาน แต่ในหัวมันไม่เคยอ้างว้างและขาวโพลนขนาดนี้มาก่อนเลย…

 

หลังเลิกงาน ผมรู้ตัวเองทันทีว่าตอนนี้อารมณ์ของผมมันไม่ไหวแล้ว ผมไม่อยากอยู่บ้าน ผมต้องการไปในที่ที่ทำให้ผมลืมทุกสิ่ง

 

ผมต้องเหนื่อย

 

ผมต้องหอบ

 

ใช่แล้ว.. ผมต้องไปวิ่ง

 

ผมรีบบอกพ่อว่าผมมีธุระเย็นนี้ ขอให้พ่อหาอาหารเย็นในตู้เย็นกินเอาเลย ไม่ต้องเผื่อผม พ่อดูงงๆ แต่ก็ไม่ได้คัดค้านอะไร

 

ผมรีบออกจากบ้านโดยเร็วที่สุด ขับรถไปยังสนามวิ่งที่ผมชอบ และเริ่มวิ่งโดยแทบไม่ได้ยืดเส้นใดๆ เลย เพราะผมยอมแลกความเจ็บปวดของร่างกาย ขอเพียงแค่ให้ความเจ็บปวดทางจิตใจมันหยุด ไม่มากไปกว่านี้อีกแล้ว

 

ผมวิ่งอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ร่างกายของผมมันบอกผมอย่างชัดเจนว่าผมห่างหายการออกกำลังกายมานานเกินไป ผมนั่งลงที่ม้านั่ง หลับตา สัมผัสได้ถึงโลกที่หมุนไปมาเป็นวงกลม ผมลืมตาขึ้นช้าๆ ค่อยๆ หายใจ พบว่าผมยังคงอยู่ในโลกใบเดิม

 

จิตใจผมดีขึ้นเล็กน้อย น่าจะเป็นเพราะฮอร์โมนเอ็นโดรฟินที่หลั่งระหว่างการออกกำลังกาย ผมเริ่มหาของกิน และแวะเข้าไปอาบน้ำที่ล๊อบบี้ของบริษัทฯ ที่ได้มาอำนวยความสะดวกให้กับพนักงาน ณ สนามวิ่งแห่งนี้

 

ผมกลับมาบ้านด้วยความรู้สึกอึนๆ เรื่องของน้องเจมันวนกลับมาในหัวผมอีกแล้ว ผมคิดแต่ว่าจะทำยังไงให้ตัวเองรู้ได้ว่าน้องเจจากไปได้อย่างไรกันแน่ ผมค้นหาเพื่อนใน facebook ทั้งบัญชีหลักและบัญชีรองของน้องเจอย่างบ้าคลั่ง แต่ทำอย่างไรก็ไม่พบอะไรที่พอจะบ่งบอกได้เลยว่าน้องเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้นกับน้อง

 

ผมเหนื่อยมากจริงๆ ผมล้มตัวลงบนเตียง

 

ผมพยายามหลับ แต่ผมหลับไม่ได้

 

สี่ทุ่มก็แล้ว ห้าทุ่มก็แล้ว เที่ยงคืนก็แล้ว ผมทำใจหลับไม่ได้จริงๆ ผมคิดถึงน้องเจมาก ผมคิดถึงโอกาสที่ผมจะกลับมาคุยกับน้องเจหากวันนี้น้องเจยังมีชีวิตอยู่

 

นั่นสินะ ผมอยากจะบอกอะไรกับน้องเจกันแน่

 

ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิด note ผมอยากเขียนจดหมายสักอัน เพื่อเป็นสิ่งแทนความรู้สึกที่ชัดเจนที่สุดของผมที่มีต่อน้อง ผมย้อนทุก timeline ในหัวของผม ในโทรศัพท์ของผม เรารู้จักกันเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม สองปีก่อน จนวันนี้ที่ผมทราบว่าน้องจากไปสักพักแล้ว ผมทำใจไม่ได้ ตลอดเวลาที่ผม unfollow น้องไปและผม move on ได้ เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่น้องต้องพบเจอกับอะไรบางอย่าง จนทำให้น้องต้องจากผมไปตลอดกาล ยิ่งผมนึกผมก็ยิ่งรู้สึกแย่

 

ผมรู้สึกแย่มากที่วันที่ 7 กันยายนปีที่แล้ว ผมไม่ได้เข้าไปทักน้อง ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ น้องโอเคมั้ย น้องมีปัญหาอะไรรึเปล่า น้องมีอะไรให้พี่ช่วยมั้ย น้องมีความสุขรึเปล่า พี่พอเป็นสิ่งที่ทำให้น้องมีความสุขมากขึ้นได้มั้ย แล้ววันนี้ผมจะถามใคร วันนั้นผมมันโง่จริงๆ

 

ผมเริ่มเขียนจดหมายนั้นขึ้น ผมจำได้ว่าผมใช้เวลาไม่นาน ผมพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ แต่ผมจะพยายามแปลโดยเปิดมันอีกครั้ง

 

1410192230321

ถึง น้องเจ

 

ตอนนี้พี่อยากได้ยินอะไรสักอย่างจากเรา

 

อะไรก็ได้

 

ไม่ว่ามันจะเป็นคำว่า “ครับบบบ?” หรือ “ว่าไงครับ” หรือ “ขอโทษนะครับ พี่ช่วยหยุดส่งข้อความมาหาผมได้ไหมครับ ผมมีแฟนแล้ว”

 

อะไรก็ได้

 

แต่สิ่งที่พี่ได้รับตอนนี้มันมีแค่ความเงียบ กับ bubble ข้อความที่พี่ส่งไป

 

พี่คิดถึงน้องเจมากนะครับ พี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไม มีคนอีกตั้งหลายคนที่เข้ามาในชีวิตพี่แล้วเค้าก็หายไป แต่นั่นไม่ใช่เราเลย เจเข้ามาเพื่อจะเป็นแผลเป็นในชีวิตพี่ ข้างในตัวพี่ ในใจพี่ ในความรู้สึกพี่ ในความคิดของพี่ เจอยู่ในนี้ เหมือนเจไม่เคยหายไป เหมือนเราไม่เคยแยกจากกันเลย

 

พี่ยังจำวันที่เราเจอกันได้ชัดมาก พี่ระบายมันไปหมดแล้วในสิ่งที่พี่เขียน ตอนที่พี่เจอเจครั้งแรก มันเหมือนกับเมื่อวาน

 

พี่ยอมรับว่าตอนแรกพี่ก็คิดแค่ว่าเราจะเป็นอีกคนหนึ่งที่เข้ามาแล้วก็ไปเหมือนคนอื่นๆ แต่อย่างที่พี่บอกเจนะ เจทิ้งแผลเป็นในใจพี่ มันเป็นแผลเดียวที่พี่มี เป็นแผลที่ทำให้พี่จะนึกถึงเราตลอดไปตราบจนพี่ตาย พี่ไม่แน่ใจจริงๆ ว่าจะมีใครเข้ามาลบรอยแผลนี้ได้มั้ย แต่พี่หวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะมีนะ เพราะพี่เป็นคนที่ต้องอยู่ต่อไป ไม่ใช่เรา

 

พี่ไม่เคยได้รับเกียรติขนาดนี้มาก่อนเลย โดยเฉพาะจากคนแปลกหน้าที่คงต้องรู้สึกประหลาดมากแน่ๆ กับการเข้าไปคุยของพี่ในห้องที่เย็นชิบหายนั่น กับคำถามโง่ๆ บ้าๆ ที่พี่ถามเพื่อให้เราได้คุยกัน แต่เจก็ยังคุยกับพี่ พี่ขอบคุณมากๆ ขอบคุณจริงๆ

 

พี่ไม่เคยคิดเลยว่าเจต้องจากพี่ไปแบบนี้ แต่ว่ามันเกิดขึ้นแล้วใช่มั้ย มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ เจจากพี่ไปแล้วจริงๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ถ้าเจเลือกเอง พี่เคารพการตัดสินใจของเรา แต่พี่เสียใจมาก มากๆ มากจนไม่คิดว่าพี่จะเสียใจได้มากเท่านี้มาก่อน

 

แต่ยังไงก็เถอะ พี่ขอบคุณเรามาก ที่เราไม่ได้ให้พี่รับรู้ในสิ่งที่เราคิดหรือสิ่งที่เราเจอก่อนที่เราจะจากพี่ไป ไม่งั้นตอนนี้พี่คงไม่ไหวจริงๆ

 

ขอบคุณมากนะครับที่เป็นน้องที่น่ารักของพี่มาโดยตลอด แม้ว่าเวลาที่เรารู้จักกันมันจะสั้นมาก

 

พี่ขอบคุณมากจริงๆ สำหรับหัวใจที่เจแปะให้กับคำตอบของพี่ในแทบจะทุกแชทที่พี่ตอบไป พี่ไม่เคยได้มันจากใคร

 

พี่พูดไม่รู้เรื่องละ เพราะตอนนี้พี่ร้องไห้หนักมาก

 

แต่พี่ไม่เคยเสียน้ำตาให้ผู้ชายคนไหนมากมายขนาดนี้มาก่อน

 

นั่นอาจจะเป็นเพราะพี่ชอบเราขนาดนั้นมากก็ได้มั้ง

 

พี่ไม่เคยคิดเลยว่าพี่จะต้องใช้ past tense กับเรา

 

แต่ว่าพี่เคยชอบเรามากมากมากมากมากมากจริงๆ

 

หลับให้สบายนะครับ ตินตินน้อยของพี่

 

จากพี่ชาย”

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา