โรคผ่านรัก

8.9

เขียนโดย สนสนธ์

วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13.42 น.

  4 ตอน
  5 วิจารณ์
  2,877 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2564 17.39 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) เจอกันอีกครั้ง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

          ช่วงเช้าของวันนี้ฉันต้องขึ้นไปทำหัตถการให้กับคนไข้บนวอร์ด ระหว่างรอลิฟต์ขึ้นกับพี่คุมฝึกเราก็คุยอะไรเรื่อยเปื่อยกันจนกว่าลิฟต์จะมา

 

          พอลิฟต์เปิดทุกคนก็รีบเข้าไปข้างในกัน ซึ่งตอนนั้นคนเยอะมากกกกก (ช่วงเช้าอะน้อ คนค่อนข้างหนาแน่นหน่อย) มันมีหมออยู่คนนึงที่ยืนอยู่ข้างๆฉัน

          ฉันแลด้วยหางตา ในใจบอก “โอ่ววว นางงานดีบ่า” หมอคนนี้สูง ขาว หล่อเท่มากกกกก หมอคนนั้นก็ขยับมาใกล้ๆเพื่อเว้นที่ให้คนอื่นเข้ามา ส่วนฉันนั้นก็ขยับชิดผนังลิฟต์เลย ขอบอกเลยว่าอึดอัดมาก

 

          ขณะอยู่ในลิฟต์นั้น จู่ๆก็มีเสียงดังโคร่ม! ดิฉันก็ตกใจสิ่คะ สติหลุดเลยค่ะ ละก็เงียบไปชั่วขณะก่อนจะมีสติกลับมา ละปลอบตัวเองว่ามันไม่มีอะไร ทุกอย่างมันโอเค

          แต่มันรู้สึกเอ๊ะ! นิดนึง คือเหมือนมีคนจ้องมาที่ฉันแล้วกำลังหัวเราะดังๆในใจอยู่ตอนฉันตกใจอ่ะ แต่ก็ไม่กล้าหันไปไปมองคนอื่น จนลิฟต์เปิด จากนั้นต่างคนต่างแยกย้ายกันไป

         

          หลังจากไปตรวจและให้การรักษาคนไข้เสร็จ พี่คุมฝึกก็ให้ฉันกลับไปที่แผนกก่อนเดี๋ยวพี่เขาจะตามไปทีหลัง เพราะมีธุระต้องทำอยู่

 

          จากนั้นฉันก็เดินออกจากวอร์ดคนเดียวจนมาถึงหน้าลิฟต์ แล้วกดปุ่มลง ละเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองต้องลงไปคนเดียวนี่ว่ะ........

 

          ระหว่างยืนรอลิฟต์อยู่นั้นฉันก็ลังเลว่าจะลงลิฟต์หรือลงบันไดดี ฉันพูดกับตัวเองพร้อมกับเสี่ยงทายว่าจะลงลิฟต์หรือลงบันได (เสี่ยงทายโดยการนับข้อนิ้วตัวเองนะ เสี่ยงนับ 3 รอบ ใช้ลิฟต์ขึ้นก่อน) ละก็หาเหตุผลให้กับตัวเองในใจว่า “ถ้าลงบันไดอะ มันอาจจะเหนื่อยหน่อยนะ แต่ถ้ามันมีอะไรเกิดขึ้น ฉันก็สามารถวิ่งขึ้นหรือวิ่งลงได้”

          อีกเหตุผลคือ “ถ้าลงลิฟต์อะ มันจะไม่เหนื่อย แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นฉันจะไม่สามารถทำอะไรได้เว้ย” ละก็นับออกเสียงไปเรื่อยๆๆ “ลิฟต์ บันได ลิฟต์ บันได ...”

 

          แต่แล้วคุณพระก็มาโปรด จู่ๆมีคนเดินมาจากข้างหลังแล้วบอกว่า “ลงลิฟต์สิ่คับ จะลงบันไดให้เหนื่อยทำไม” เหี้ย! ฉันก็ตกใจสิ่ว่ะ มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง

 

          ขณะที่ทำท่าตกใจอยู่และปลอบตัวเองว่า “ขวัญเอ้ยขวัญมา” เขาก็หัวเราะใส่ละพูดขึ้นว่า “ตกใจอะไรขนาดนั้น...” อ่าวเป็นมึง มึงจะไม่ตกใจหลอ (ขออภัยในคำหยาบ)

เออ...ลืมบอกไปเขาเป็นหมอนะ ใส่เสื้อกาวน์ สั้น ตัวหมอจะสูงๆ หล่อๆหน่อย น่าจะหมอคนเมื่อเช้าที่บอกไปมั้ง

 

          พอเข้าลิฟต์เขาก็กดไปชั้น 4 ละถามฉันว่า “ลงชั้นไหนคับ” ฉันก็ตอบไปว่า “ชั้น 1 ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

         

          เขาหันมาถามฉันว่า “เป็นอะไรมั้ยคับ” ฉันประมวลคำถามครู่นึงว่าที่เขาถามนี่คือยังไง แต่คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องหน้าลิฟต์เมื่อกี้แหละ ฉันก็ตอบไปว่า “ตกใจค่ะ แต่ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว” ละเขาพูดขึ้นมาอีกว่า “เมื่อเช้าก็เห็นคุณตกใจ ตอนลิฟต์ตกอะ เป็นคนขวัญอ่อนจริงๆนะเราเนี้ย” แล้วหัวเราะแรงผ่านทางจมูกแบบคนเท่ๆอะแก

เอ่อ.... ลืมบอกไปว่าก่อนลง อยู่ชั้น 7 นะ (ท่านผู้อ่านคงคิดในใจ "แล้วจะลงบันไดทำห่าไรตั้งแต่ชั้น 7 ???")

         

          อ่า....เจอตัวคนหัวเราะใส่เมื่อเช้าแล้ววว ละลิฟต์ก็เปิดที่ชั้น 4 แต่เอ๊ะ! ทำไมเขาไม่ออกไป จะทักบอกเขาก็ไม่กล้า555 จนลิฟต์ปิด ก็คิดว่าเขาลืมออกหรืออาจจะมีธุระข้างล่างแหละมั้ง

 

          จากนั้นก็ถึงชั้น 1 ฉันเดินออกจากลิฟต์ แต่เขาก็ยังไม่ออกมาเหมือนเดิม ฉันเห็นเขากดกลับขึ้นไป ฉันก็คิดในใจทั้งทางบวกและลบว่า เขาอาจจะลืมออกตอนชั้น 4 เมื่อกี้แหละ หรืออาจจะลงมาส่งเรา เพราะคิดว่าเราอาจจะกลัวตอนลงเองคนเดียว (อันนี้คิดเข้าข้างตัวเองไว้ก่อน)

 

หรือว่า...... จะเป็นผี! เหี้ย! คิดแล้วขนลุกเลยอะ หรือเราคิดไปเองเยอะไป พักเที่ยงของวันนั้นฉันเล่าเรื่องให้เพื่อนฟัง ละก็คิดถึงเรื่องที่เจอในลิฟต์ สรุปแล้วเอ๊ะมันยังไง เลยลองปรึกษาเพื่อนและได้คำตอบอย่างแจ่มแจ้งว่า “มึงคิดไปเองค่ะ” โอเค พัก

 

ตอนใหม่มาแน่ แต่ไม่รู้ตอนไหนอิอิ รออ่านตอนต่อไปด้วยนะค๊าาาา ท่านผู้อ่านที่น่ารัก

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา