ชื่อเรื่อง ยังไม่มี

7.0

เขียนโดย PMTV

วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 22.35 น.

  54 ตอน
  6 วิจารณ์
  24.05K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2564 15.27 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) ตอนที่ 10

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

พอมาถึงบ้านก็โทรหา สาวสวยร้านรองเท้าก่อน เด๋วจะโดนด่า

ผม-ฮัลโหล ผมถึงบ้าน แล้วนะครับ

ฮารุ-ถึงแล้วหรอคะ คุณพ่อ บิกคุคุงบอกถึงบ้านแล้วค่ะ บิกคุคุง คุณพ่อบอกว่า เพิ่งไปซื้อรถใหม่ มารีบกลับมาดูเร็วๆนะ

ผม-เอ๋รถใหม่หรอครับ รุ่นอะไรหรอครับ

ฮารุ-ไม่บอกจ๊ะ
ผม- ทำไมละครับ
ฮารุ-อยากรู้ก็รีบๆ กลับมาสิจ๊ะ ที่รัก

ผม-เข้าใจแล้วครับแล้วผมจะรีบกลับไปนะครับ

ฮารุ-บิกคุคุงจะโทรมาหาอีกใช่มั้ย

ผม-แน่นอนสิครับ

ฮารุ-อะ อื้ม งั้น รีบๆกลับบ้านของเรานะคะ

ผม-อะ อื้ม งั้นแค่นี้ นะครับ

ฮารุ-จ๊ะ

 

หลังจากที่วางสายกับฮารุเสร็จผมก็แกะกระเป๋า แล้วก็เตรียมเอกกสารที่ต้องไปยื่น ตื่นเช้ามาผมก็เอาเอกสารทั้งหมดที่

เตรียมมาไปยื่นแล้วก็รอผลถ้าผ่านเค้าก็จะส่งพาสปอร์ตกลับไปที่บ้านให้เลย ระหว่างนี้ก็ถือโอกาศนอนพักเอาแรงสะ

หน่อย

ปึงๆๆๆ!!!

 

เตี่ย-ลงไปกินข้าวเร็ว

ผม-เข้าใจแล้วววว

ผมก็ลุกขึ้นมาานั่ง งัวเงียอยู่แปปนึงแล้วก็เดินลงมาข้างล่างก็เห็นเตี่ยกับแม่และก็น้องพลอย

แม่- มากินข้าวมา

พลอย- นี่เฮียบิ๊ก ของฝากอยู่ไหนอ่ะ
ผม- ก็ซื้อขนมมาอยู่ในตู้เย็นไง เต็มตู้นั่นอ่ะไม่เห็นหรอ

เตี่ย- แล้วจะเอายังไงต่อ ไปยืนสมัครเรียน รึยัง
ผม- อ่อ คือว่า เรื่องนั้น.....ผมคิดว่าจะไปทำงานที่ญี่ปุ่นอะ เตี่ย
เตี่ย/แม่- หาาา!!

พลอย- แล้วจะไปทำงานอะไรอะ

เตี่ย- นั่นสิ แล้วจะขอวีซ่ายังไงทำงานไม่ใช่จะขอกันง่ายๆหรอกนะ

พลอย- ใช่มันต้องหนังสือรับรอง ด้วยนะ

ผม- ก็รู้แล้วไปยื่นเอกสารมาเมื่อวาน

แม่- เด๋วๆนี่แกไม่คิดจะปรึกษาครอบครัวเลยหรอจะทำอะไรเนี่ย

ผม- มันก็ไม่ใช่หรอก แต่ว่า ยังไงก็อยากจะอยู่ที่ญี่ปุ่นจริงๆอะ ก็เลยลองยื่นเอกสารวีซ่าทำงานไปไง

เตี่ย- แล้วคิดว่าจะได้หรอ

ผม- อืมมมมม ก็อาจจะได้ละมั้ง

พลอย- ไม่มีหนังสือรับรองของ บิรษัท ทำงานที่ญี่ปุ่นมายืนยันมันก็ไม่ได้หรอกนะ

ผม- ก็ตามนั้นแหละ เตี่ย แม่ ถ้าวีซ่าผ่าน ก็จะไปทำงานที่นั่นแหลนะ ฮ่ะๆ

แม่- ไม่ได้!!! ครั้งที่แล้วกลับมา อยู่ไทยทำเรื่องเรียนจบ อยู่แค่1อาทิตย์ และแกก็ บินไปญี่ปุ่นอีก2อาทิตย์พอกลับ

มา ก็มาบอกว่าจะไปทำงานที่นั่นเนี่ยนะ

ผม- แม่ มันก็ยังไม่แน่ว่าวีซ่าจะผ่านเลย ถ้าผ่านผมก็อยากจะลองไปใช้ชีวิตที่นู่นดู ถ้ามันอยู่ได้ เวลา เตี่ย แม่ หรือ

พลอย กับพวกเฮียๆ ไปญี่ปุ่นก็มีที่พัก แถม พาเที่ยวได้อีกนะ

ตี่ย- ตามใจละกัน ไม่จ่ายค่าใช้จ่ายให้หรอกนะ หาเงินไปจ่ายเอาเองละกัน
ผม- เข้าใจแล้ววเตี่ย

 

 

หลังจากนั้นผมก็นั่งๆนอนๆ ไม่ได้ทำไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง ตื่นมาไปยิม ยิมเสร็จ ก็เดินเล่น หาซื้อของ ฝาก ไปให้

พวกฮารุ ตกเย็นมมากลับบ้านนอน กิจวัตรประจำวันผมก็เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนผ่านไป 7วัน ตอนเช้าก็มี จดหมาย ส่ง

มาถึงบ้านผมในที่สุดมันก็มาแล้วตั๋วการไปทำงานที่ญี่ปุ่น พอได้ วีซ่าปุ๊บ ผมก็รีบโทรหาฮารุทันที

 

 

ฮารุ- ฮัลโหล บิกคุคุง บิกคุคุง

ผม- ฮ่ะๆ ฮารุซังจะเรียกชื่อผม2ครั้งทำไมครับเนี่ย

ฮารุ- ก็ฮารุคิดถึงนี่คะ บอกว่าจะโทรหาบ่อยๆแต่นี่หายไป7วันเลยนะคะ พรุ้งนี้ฮารุ จะซื้อตั๋วเครื่องบินอยู่แล้วนะ

ผม- ใจเย็นๆครับ คือว่าที่ผมหายไปก็ทำเอกสารแล้วก็ คุยกับที่บ้านครับ พอดี แม่ผมเค้าไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับการ

ที่ผมจะไปทำงานที่นู่น

ฮารุ- เอ๋ แต่ บิกคุคุงสัญญากับฮารุแล้วนะ ว่าจะกลับมาหาฮารุอะ

ผม- ก็ใช่น่ะสิครับ แล้ววันนี้ ผมก็เพิ่งได้รับวีซ่าทำงานมาเองครับ ก็เลยรีบโทรบอหฮารุซังก่อนครับ

ฮารุ- ทำเสร็จแล้ว จริงๆนะ

ผม- เสร็จแล้วครับ ที่เหลือก็แค่ คุยกับที่บ้าน แล้ว ก็จองตั๋วเครื่องบิน

ฮารุ- แล้วท่านแม่ บิกคุคุงจะยอมให้มามั้ย เด๋วฮารุนั่งเครื่องบินไปคุยให้นะ

ผม- หยุดเลยครับ

ฮารุ- ทำไมละคะ

ผม- ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจัดการได้ยังไง ก็ได้ไปหาฮารุซังแน่ๆครับ

ฮารุ- งั้น คุยเสร็จแล้วซื้อตั๋วเครื่องบินกลับมาเลยนะ ไม่ต้องเสียเวลาจองหรอกนะคะ

ผม- ก็ได้ครับ งั้นเด๋วผม ไปคุยกับที่บ้านแล้ว จะลองดูว่า ซื้อตั๋วแบบเร็วสุดได้ตอนไหน แล้วเด๋วจะโทรหาอีกทีนะครับ

ฮารุ- อื้ม

 

พอวางสายเสร็จผมก็เก็บของลงกระเป๋า แล้วก็เตรียมเงินไปก้อนนึง กันตาย พอเก็บของเสร็จปุ๊บผมก็เปิดดูตั๋ว เร็ว สุด

คือ บ่าย2ครึ่ง ผมก็กดซื้อ แล้วก็ทำการเช๊คอินออนไลน์เลย ไปถึงจะได้ไว แล้วก็ยกกระเป๋าลงมาข้างล่าง

 

แม่- นี่จะเอากระเป๋าไปไหนอีกเนี่ย

ผม- อ่อ คืองี้ นะ เตี่ย แม่ คือว่า วีซ่าทำงานอะมันผ่านแล้วแหละ ดีใจสุดๆไปเลยนะเนี่ย

เตี่ย- ไหนเอามาดูสิ

 

ผมก็ยื่น ให้เตี่ยไปดู

 

ตี่ย- อืมมม แล้วจะไปวันไหนอะ

ผม- ไปวันนี้แหละ ตอนบ่าย2ครึ่ง ซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว
แม่- หา!!!!ทำไมต้องรีบขนาดนั้นด้วย แล้วเย็นนี้ พวกเฮียๆก็จะกลับมา กินข้าวพร้อมกันทั้งครอบครัว แล้วนะ
ผม- แม่เด๋วผมก็มาหาใหม่

เตี่ย- แล้วจะไปนานมั้ยเนี่ยรอบนี้
ผม- ไม่รู้สิ ไม่ผมกลับมาบ้านก่อน ก็ พวกเตี่ยกับแม่ ไปเที่ยวญี่ปุ่นก่อน

เตี่ย- หรอ งั้นก็พยายาม โทรมาบ่อยๆละ

ผม- เข้าใจแล้วละ งั้นผมไปก่อนนะเตี่ย แม่

 

 

 

พอผมพูดเสร็จ เตี่ยกับแม่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมาอีกเลยได้แต่มอง หลังผมเงียบๆตอนผมเดินออกจากบ้านมา เอา

ตรงๆ ถึงมันจะไม่ใช่การจากกันจริงๆ แต่ ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะไปนานแค่ไหน ส่วนเตี่ยกับแม่ ในใจก็คงอยากจะห้ามไม่ให้

เราไปหรอกแต่ก็คงเพราะเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่เราอยากทำถึงได้ไม่ห้าม แล้วก็ได้แต่ยืนส่งลูกชายออกจากบ้านอย่าง

เงียบๆ พอออกจากบ้านมาผมก็ขึ้นรถไปสนามบิน ไปถึงก็โหลดกระเป๋าเสร็จก็เข้าไปรอที่หน้าgate ตอนนั้น บอกตรงๆ

ความรู้สึกและภาพที่เห็นเตี่ยกับแม่ ยืนส่ง เราเงียบๆออกจากบ้านมา มันยังติดตาอยู่เลย

พอขึ้นเครื่องผมก็หลับ ตื่นมาอีกทีก็ถึงสนามบินนาริตะเรียบร้อย เดินลงเครื่องมา พอมาเอากระเป๋าเสร็จ เริ่มตั้งสติได้ ดู

นาฬิกา จะ3ทุ่มแล้วงั้นหรอ ชิบหายแล้วว ลืมโทรบอกฮารุเลยว่าจะมาถึงกี่โมง ชิบหายละงั้นนั่งรถไฟไป หาชิโระก่อนละ

กันผมก็รีบวิ่งลาก กระเป๋าไปซื้อตั๋วรถไฟซิมมือถือก็ยังไม่ได้เปลื่ยน ก็ได้แต่วิ่งๆ

อย่างน้อยไปให้ถึงสถาณี ที่เราเคยอยู่ก่อนละกัน กว่าจะถึงก็เกือบจะเที่ยงคืน โรงแรมก็ไม่ได้จองเพื่อ ไว้เพราะตอนแรก

คิดว่าจะโทรบอกไม่ฮารุก็ชิโระให้มารับแต่ดันลืมนี่สิ ผมก็เลยเดินไปที่ย่านการค้า แล้วก็เปลื่ยนซิมมือถือเสร็จปุ๊บผมก็กด

โทรหาชิโระ เพราะคิดว่า ฮารุน่าจะนอนแล้ว

 

 

 

ผม- ฮัลโหล ชิโระ มากินราเมงกันเถอะ

ชิโระ- นี่แก กลับมาแล้วหรอ กลับมาตอนไหนเนี่ย

ผม- เอ้อ เด๋วค่อย คุย นอนรึยัง ถ้ายังก็ออกมากินราเมงกันเถอะ รออยู่ย่านการค้าตรงหน้าสถาณีนะ

ชิโระ- เข้าใจแล้วรอแปปนึงละกัน

ผม- ได้เลยเด๋ววันนี้จะเลี้ยงราเมง นะ ชิโระคุง

ชิโระ- เข้าใจแล้ว

 

พอผมวางสายปุ๊บ ก็เดินไปร้านราเมง ดูเมนูที่อยากกินระหว่างรอ ชิโระ สักพักชิโรก็มา

 

ชิโระ- นี่แก ไม่เอากระเป๋าไปเก็บก่อนละ แล้วฮารุละ

ผม- คือว่านะชิโระ ก็เรื่องนี้แหละ คือลืมโทรบอกฮารุน่ะสิแล้วนี่มันก็จะเที่ยงคืนแล้วด้วย

ชิโระ- ให้ตายสิ แก ก็ลองโทรดูก่อน

ผม- อะ อื้ม งั้นเด๋วจะลองดู

ชิโระ- แกจะกินอะไรเด๋วจะเข้าไปสั่งให้

ผม- ซุปเปอร์ชาชูเมน

ชิโระ- โอเค

 

ชิโระมันก็เดินข้าวร้านไป ผมก็เลยลองกดโทรหาฮารุดู

 

ฮารุ- ฮาาาาาาาาาโหลลลลลลลลล

ผม- นอนแล้วหรอครับ

ฮารุ- อืมมมมมมมมมม

ผม- คือว่าผมกลับมาแล้วนะครับ

ฮารุ- กลับมาแล้วนะ หื๋อ?

ผม- ใช่ครับ ตอนนี้ก็กำลังจะนั่งกินราเมน กับชิโระ ตรงย่านการค้าที่เราเจอกันที่ร้านลองเท้าอะครับ

ฮารุ- ชิโระ? ร้านลองเท้า? บะ...บิกคุคุงหรอ

ผม- ครับ ผมเองครับ

ฮารุ- จะมาตอนไหนทำไม ไม่โทรบอกฮารุละคะ

ผม- คือว่ามีเรื่องหลายอย่างเกิดขึ้น ผมก็เลยลืมเปลื่ยนซิม แล้วกว่าจะถึงก็3ทุ่มของที่นี่ผมก็เลยรีบ ก่อนรถไฟจะหมด เลยมาแวะกินราเมงกินชิโระครับ

 

ฮารุ- งั้น รอแปปนึงนะ เด๋วฮารุจะไปหานะ

ผม- เอ๊ะ เวลานี้หรอครับ มันดึกแล้วนะครับ

ฮารุ - งั้นเด๋วฮารุไปเรียกคนขับรถมาก่อนนะ

ผม- เด๋วว.... ตู๊ดๆๆๆๆๆ

 

 

ฮารุวางสายไปสะแล้ว เฮ้อ ไม่น่าโทรเล้ยยย ผมก็เลยเดินเข้าไปร้าน

 

 

ชิโระ- ฮารุว่าไงบ้าง หลับยัง

ผม- หลับไปแล้วนะสิ คุยกันอยู่แปปนึงกว่าจะรู้สึกตัวว่าเป็นใคร แล้วเด๋วจะออกมาหาที่ร้านราเมนเนี่ยละ

ชิโระ- มาถึงก็ก่อเรื่องเลยนะ แกเนี่ยไม่เปลื่ยนไปเลย

ผม- ก็ใครเป็นคนบอกให้โทรละ จริงๆไปนอนบ้านแกก่อนคืนนึงก็ได้แท้ๆ

ชิโระ- เฮ้ออออ...ก็ยัยนั่นอ่ะนะ ตอนที่แกกลับไปเนี่ยโทรมาถามทุกวัน ว่าแกโทรมาหาบ้างมั้ย บอกไปตั้งหลายครั้งแล้ว

ว่าตอนแกอยู่ไทยแกไม่เคยโทรมา ยัยนั่นอยากจะเจอแกใจจะขาด

ผม - งะ งั้นหรอ

ชิโระ - รีบๆกินเถอะเด๋ว ยัยนั่นมา ก็ลากแกไปอีกเด๋วก็อดกินหรอก

ผม - อะ อื้ม นั่นสิ

 

 

แล้วผมก็นั่งกิน พอพวกเรากินกันเสร็จก็มานั่ง อยู่หน้าร้าน

 

 

ชิโระ- จริงสิ วันดูดอกซากุระ แก จะไปดูด้วยกันมั้ย

ผม- ไปสิ แต่แกไม่ต้องไปกับที่บ้านหรอ

ชิโระ- จริงๆก็ไม่ได้ชอบงานของพ่อเท่าไหร่อยู่แล้วละนะ เลย ไม่ค่อยอยากเข้าไปยุ่งถ้าไปยุ่งมากๆ เด๋วได้กลายเป็น

หัวหน้าแก๊งรุ่นใหม่พอดี

ผม- ฮ่ะๆ นั่นสินะ แล้วแกจะเข้ามหาลัยหรอ

ชิโระ-ก็คิดไว้แบบนั้นละนะ

ผม-งั้นหรอ

ชิโระ-แล้วแก จะไปทำงานกับ โอคะวะซังใช่ป่ะ

ผม-อะ อื้ม แต่ก็ยังไม่รู้เลยว่าเค้าจะให้ทำงานอะไร

ชิโระ-ก็คง ไปแทน ยัยนั่นละมั้ง เห็นยัยนั่นบ่นๆ ว่าอยากจะไปเรียนอะไรเพิ่มก็ไม่รู้

ผม-งั้นหรอ จริงสิงั้นเราไปดูซากุระกัน

ชิโระ-เฮ้ออออออ ว่าแต่แกไม่ต้องไปสวีทกับฮารุหรอ

ผม-เอ๋ ชิโระ คุงงงงงงง

ชิโระ-อะ อะ อะไร

ผม-ป๊าวไม่มีอะไร

 

 

พวกผมก็ยืนคุยกันกำลังสนุกเลย อยู่ๆก็มีคนมากอดจากด้านหลัง

 

 

ฮารุ-บิกคุ คุงงงงง บิกคุคุงงงง

ผม-เอ๋ ฮารุซังมาแล้วหรอครับ

ฮารุ-ยืนคุยอะไรกันอยู่หรอ

ผม-อ่อพอดี ชิโระ จะชวนไปฉลองวันดูดอกซากุระ อะครับ

ฮารุ-เอ๋ ฮารุมีที่ ที่จะพาบิกคุคุงไปแล้วนะ

ชิโระ-แกก็พาฮารุไปเที่ยวละกัน

ผม-นี่ฮารุซังเห็นบอกจะทานราเมงนิ่ครับ เข้าไปสั่งสิครับ

ฮารุ-อะ อื้ม

ชิโระ-ฮารุมาแล้ว งั้นแกก็กลับบ้านได้แล้วสินะ งั้นไปละ

ผม-ชิโระ

ชิโระ-อะไร

ผม-เจอกันวันฉลองฮานามินะ

ชิโระ-เฮ้ออออออ ตื้อจริ๊งๆ แกนิ เข้าใจแล้ว คืนนี้ฝันดีนะ เจอกัน

ผม-อื้ม เจอกันนะ ฝันดี

 

 

พอผมคุยเสร็จก็เดินเข้าไปหาฮารุ ฮารุกำลังนั่งกินอยู่ผมก็เลย สั่ง มาอีกชาม แต่ แบบกลับบ้าน

 

 

ฮารุ-บิกคุคุง ยังไม่อิ่มหรอคะ

ผม-อิ่มแล้วครับ

ฮารุ-แล้วสั่งทำไมอะคะ

ผม-ก็สั่งให้ คนขับรถที่อดหลับอดนอน พาฮารุมาไงครับ

ฮารุ-เอ๋ ไม่ต้องหรอก

ผม-ไม่ได้นะครับ จริงสิ ฮารุ วันฮานามิ จะไปที่ไหนหรอ

ฮารุ-พอดี มันมีรีสอร์ท ในเครือ ที่ ฮารุต้องไป ตรวจ แล้วใก้ลๆ กันจะมีแม่น้ำแล้ว2ข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นซากุระด้วย

แหละ ทางเดิน ชมซากุระ ยาวมากเลยนะ แถมมีจัดงานออกร้านขายของด้วยนะ

ผม-เอ๋ งั้นก็น่าไปนะเนี่ย

ฮารุ-ใช่ม้าาาา!!!!

 

 

หลังจากที่ฮารุกินเสร็จ ฮารุก็พาผมไปที่รถ จะได้กลับบ้านสัก ทีพอถึงบ้านฮารุ พวกผมก็ลงรถแล้วผมก็เอาถุงราเมงที่

ซื้อมายื่นให้ฮารุ

 

 

ผม-ฮารุซังครับ เอาอันนี้ให้ คนขับรถหน่อยได้มั้ยครับ ก่อนกลับไปนอน อากาศเย็นๆแบบนี้ถ้าได้ซดอะไรร้อนๆ คงจะ

หลับสบายน่าดูเลยนะ

ฮารุ-ถ้าบิกคุคุง บอก ละก็ งั้นเด๋วฮารุเอาไปให้ก่อนนะ

ผม-ครับ

 

 

พอฮารุเอาราเมนไปให้เสร็จปุ๊บก็มาพาผมไปที่ห้องนอน พอปิดประตูห้องนอนปุ๊บ ฮารุก็วิ่งมากอด

 

 

ฮารุ-ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะคะ

ผม-กลับมาแล้วครับ

ฮารุ-อะ อื้ม หนาวมั้ยคะ

ผม-ไม่หนาวเลยครับ

ฮารุ-หรอ งั้นคืนนี้ เปลื่ยนชุดแล้วนอนพักผ่อนกันเถอะนะ

ผม-ครับ งั้นเด๋วผมไปเปลื่ยนชุดก่อนนะครับ

 

ฮารุก็ยื่นชุดให้ผม พอผมเปิดประตู ก็เห็นฮารุใส่ ชุดนอน วันพีช พอดี

 

 

ผม-นี่ถ้าแต่งตัวแบบนี้ ผมจะอดใจไม่ไหวเอานะครับ ฮารุซัง

ฮารุ-ฮิฮิ ขึ้นมานอนบนเตียงได้แล้วค่ะ

ผม-ครับ

 

ผมก็ขึ้นไปนอนกอดฮารุบนเตียง

 

ผม-นี่ฮารุซัง

ฮารุ-มีอะไรหรอคะ

ผม-วันที่เราไปฮานามิกันอ่ะ ให้ชิโระไปด้วยเถอะนะ

ฮารุ-เอ๋ ไม่เอาหรอก ฮารุอยากจะสวีทกับบิกคุคุงนิ

ผม-แค่วันฮานามิเองนะ ตอนนี้ชิโระมันเหงามากเลยนะ

ฮารุ-แต่

ผม-ชิโระคือเพื่อนไม่กี่คนที่ผมมีที่นี่นะครับ ฮารุซัง

ฮารุ-บิกคุคุงยังมีฮารุอยู่นะ

ผม-ใช่ครับผมยังมีฮารุซัง อยู่ แต่ตอนนี้ผมมาอยู่ฮารุซังแล้ว ขิโระมันก็ไม่เหลือใครแล้วนะครับ

ฮารุ-แต่

ผม-ชิโระหน้าตามันก็ดี ฮารุน่าจะพอมีเพื่อนที่ชอบแนวชิโระ อยู่บ้าง แล้วใช่มั้ยละครับ

ฮารุ-มันก็พอมีอยู่หรอก

ผม-ได้โปรด ช่วยเพื่อนของผมด้วยเถอะนะครับ

 

ฮารุก็ลุกขึ้นทันหลังจากที่ฟังเสร็จ

 

ฮารุ-นี่บิกคุคุง ฮารุไม่ชอบเลยนะที่บิกคุคุง มาพูดเหมือนฮารุเป็นคนอื่นแบบนี้

ผม-งั้นฮารุซังพอจะช่วยเพื่อนของแฟนฮารุซังได้มั้ยครับ

 

 

พอพูดจบผมก็จับมือฮารุแล้วมองไปที่ฮารุ

 

 

ผม-นะที่รัก

ฮารุ-อะ อื้ม ถ้าที่รักพูดขนาดนี้ละก็

ผม-ผมรักฮารุซังที่สุดเลยครับ

ฮารุ-โธ่!!! นอนได้แล้วค่ะ

ผม-ฮิฮิครับ ผมขอกอดตอนนอนด้วยนะครับ

ฮารุ-อะ อื้อ

 

 

แล้วผมก็เข้าไปกอดฮารุนอน มันก็ทำให้ผมเคลิ้มได้จริงๆ แล้วผมก็หลับไป ตื่นมาอีกที ก็คือตอนที่ ฮารุปลุก

 

 

ฮารุ-ที่รักคะ ที่รักคะ ตื่นได้แล้วค่ะ

ผม-หื๋ออ อะไรหรอ

ฮารุ-เช้าแล้วน่ะสิคะ ไปทานข้าวเช้ากันเถอะนะ

ผม-แล้ววันนี้ฮารุซังไม่ต้องไปทำงานหรอครับ

ฮารุ-วันนี้วันเสาร์นะคะ หยุดงานค่ะ

ผม-งั้นหรอ งั้นเด๋วผมขอแกะ กระเป๋า อ่าบน้ำก่อนนะครับเด๋วตามลงไปครับ

ฮารุ-เร็วๆนะคะ

ผม-คร้าบๆ

 

 

แล้วฮารุก็ออกไป ผมก็แกะกระเป๋าเตรียมของ ฝาก ที่ ซื้อมาจากไทย นั่นก็คือ ทุเรียนทอดที่ผมชอบนั่นเองฮ่าๆๆ

พออ่าบน้ำเสร็จผมก็เดินลงมาข้างล่าง

 

 

พ่อบ้าน-บิกคุซัง คุณหนูรออยู่ที่ห้องทานอาหารแล้วครับ เชิญทางนี้เลยครับ

ผม-ครับ

 

ผมก็เดินตามไป จนเจอฮารุ

 

ฮารุ-ที่รัก มานั่งตรงนี้เร็ว

โอคะวะซัง-กลับมาแล้วหรอ

สึคุยะซัง-ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะจ๊ะ

ผม-กลับมาแล้วครับ แล้วก็อันนี้ เป็นของฝากเล็กๆน้อยๆ ที่ผมซื้อมาจากไททยครับ มันคือทุเรียนทอด

โอคะวะซัง-ทุเรียนหรอ เอ๋ บ้านนี้ไม่มีคนกินทุเรียนนี่สิ

 

ผม-อ่อ ทุเรียนเป็นผลไม้ที่กลิ่นแรงก็จริงนะครับแต่ ว่า ทุเรียนที่ส่วนใหญ่ออกมาขายนอกประเทศไทยจะแก่เกิน พอแก่

เกิน เนื้อทุเรียนจะเละ แล้วกลิ่นจะแรงแบบที่ทุกคนเคยเห็นครับ แต่ว่าลองชิมอันนี้สักชิ้นก่อนครับมันจะไม่เหมือนกับ ที่

ทุกคนคิดแน่ๆครับผมรับประกัน

 

โอคะวะซัง- ถึง บิกคุคุง จะเป็นคนพูดก็เถอะ

ฮารุ-งั้นฮารุจะลองเอง เพราะหนูเชื่อใจที่รักของหนูค่ะ

 

 

ผมก็หยิบให้ฮารุ1ชิ้น ตอนนี้ทุกคนจ้องไปที่ฮารุกำลังจะเอาทุเรียนทอดเข้าปาก

 

ฮารุ-อื้มมมมมม อร่อยกว่าที่คิดนะเนี่ย คล้ายๆ มันฝรั่งทอดเลย คุณแม่

สึคุยะ-เอ๋ จริงหรอจ๊ะ งั้นขอแม่ ลองหน่อยสิจ๊ะ

ผม-นี่ครับ สึคุยะซัง

สึคุยะซัง-อื้มมมมม อร่อยนะ มีรส เค็มๆ หวานๆ

โอคะวะซัง-งั้นกินบ้างดีกว่า

ผม-เป็นไงบ้างครับ โอคะวะซัง

โอคะวะซัง-อื้มก็อร่อยจริงๆนะ แตกต่างจากที่คิดไว้จริงๆด้วยนะ

ผม-ฮ่ะๆ จริงๆ ทุเรียนที่วางขายตามต่างประเทศ คนไทยจะไม่ซื้อกินหรอกนะครับ เพราะมันสุกจนเกินไป

โอคะวะซัง-อื้มม เมืองไทยนี่ได้ยินว่าเป็นประเทศแห่งผลไม้เมืองร้อนสินะ

ผม-ใช่แล้วครับ เมืองไทย มีผลไม้เยอะแยะไปหมดเลยครับ แล้วราคาถูก กว่าที่นี่ มากเลยนะครับ

ฮารุ-ที่รักคะ เมื่อไหร่จะมานั่งทานข้าวดีๆคะ มัวแต่คุย วันนี้ฮารุทำ ออมเล็ทให้ที่รักด้วยนะ

ผม-เอ๋ ฮารุซังทำเองหรอครับ

ฮารุ-อื้ม ฮารุทำเอง

ผม-โห น่าอร่อยจัง เลยครับ

ฮารุ-ว่าจะไปเรียนทำอาหารเพิ่มแหละ บิกคุคุง ดีมั้ยคะ

ผม-อืมมมมม..... ก็ดีนะครับ แต่ถ้าเป็นฮารุซังทำอะไรให้ สำหรับผมก็อร่อยเสมอแหละครับ

ฮารุ-ฮิฮิ

โอคะวะซัง-จริงสิ เริ่มงานวันจันทร์นะบิกคุคุง

ผม-ได้ครับโอคะวะซังแล้วจะให้ผมทำงานอะไรหรอครับ

 

โอคะวะซัง-มันก็งานเดิม ที่เคยทำไม่ใช่หรอ เมื่อก็ได้ยินแล้วนิว่าฮารุจะ ไปเรียนเพิ่ม ถ้าฮารุไม่มีเวลาทำงาน ก็ต้องเอา

บิกคุคุงทำแทนอยู่แล้วไม่ใช่หรอ แล้วก็เด๋วจะให้ฮารุพาไปเปิดบัญชีนะเพราะเงินเดือนจะโอนเข้าให้ในบัญชีจากแผนก

การเงิน

 

ผม-เอ๊ะ งั้นก็โอนทั้งหมดให้ฮารุซังก็ได้ครับ

โอคะวะซัง-แล้วจะเอาเงินที่ไหนใช้ละบิกคุคุง

ผม-ผมก็พอมีอยู่ครับ อีกอย่างผมมีข้อเสีย อยู่ครับ

โอคะวะซัง-ขอเสีย?หรอ

ผม-ครับ ข้อเสียของผม คือ ถ้าได้แต่งรถ หรืออยู่กับรถเมื่อไหร่ ผมจะลงกับรถหมดเลยครับ

ฮารุ-ไม่ได้!!! ใครให้เอาเงินไปลงรถหมดค่ะ งั้นฮารุจะเก็บเงินเดือนเอง แล้ว จะให้ที่รักเป็นรายวัน ทุกวันแทน โอเคมั้ยคะ

 

โอคะวะซัง-นี่ฮารุ ทำแบบนี้ บิกคุคุงจะลำบากนะ แล้วถ้ามีงานเลี้ยงบริษัทถ้า พ่อไม่อยู่บิกคุคุงก็ต้องพา พนง ไปเลี้ยงนะ

แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงละ

 

ฮารุ-ก็มาขอฮารุก่อนไงคะ ถ้าฮารุให้ไปฮารุ ก็จะให้เงินไปด้วย แต่ถ้า ฮารุไม่ให้ไปก็คือไม่ให้ไปค่ะ

โอคะวะซัง-ลูกนี่ ต้องแยกกันนะ เรื่อง งาน กับเรื่องส่วนตัวอะ

 

ฮารุ-ไม่รู้แหละค่ะ ถ้ามันเกี่ยวกับบิกคุคุง หนูจะต้องมีส่วนร่วมในการจตัดสินใจค่ะ

โอคะวะซัง-เฮ้อออออ เหมือนใครกันนะ บิกคุคุง เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ละ ไหวแน่นะ

ผม-ฮ่ะๆ ครับ ผมจะพยายามนะครับ จริงสิครับโอคะวะซัง ผมว่าจะขอไปเช่าคอนโด แถว บริษัท นอนอ่ะครับ

ฮารุ-ไม่ได้ค่ะ!!!บิกคุคุงต้องพักที่นี่เท่านั้นค่ะ เพราะฮารุจะอยู่ที่นี่

ผม-เอ๋!!!แต่

โอคะวะซัง-ก็ให้บิกคุคุงไปนอนใก้ลๆบริษัทมันก็สดวกกว่านะ ลูก

ผม-นั่นสิครับฮารุซัง

ฮารุ-งั้นถ้าเกิดมีสาวเข้าไปในห้องกับบิกคุคุง คุณพ่อจะรับผิดชอบไหมคะ

ผม-เอ๋ผู้หญิงที่ไหนละครับ

 

โอคะวะซัง-เฮ้ออออ พอเป็นเรื่องบิกคุคุงแล้วละก็คุยไม่รู้เรื่องเลยแหะ

 

ฮารุ-ไม่รู้แหละค่ะ ยังไง บิกคุคุงต้องอยู่ที่นี่เท่านั้น

สึคุยะซัง-แต่ว่านะฮารุจัง คนขับรถเราก็มีคนเดียวนะลูก มันไม่สดวกนะ เพราะคนขับรถก็ต้องคอยดุแลคุณพ่อนะ

ผม-ชะ ใช่เลยครับ ฮารุซัง เพราะบางที ไปทำงานไม่ตรงกัน มันก็ต้องไปกลับหลายรอบนะครับ ยิ่งถ้าเกิด พบลูกค้าคนสำคัญ พร้อม กัน มันจะไม่ทันนะครับ

 

ฮารุ-งั้น บิกคุคุง ก็เอารถคุณพ่อขับไปสิ มีตั้งหลายคัน

ผม-เอ๋ มันไม่เหมือนกันนะครับ รถพวกนั้น คือรถที่เก็บสะสม นะครับ

โอคะวะซัง-อื้ม บิกคุคุงพูดถูก

ฮารุ-ก็ตามใจ คุณชายทั้งคู่เถอะค่ะ แต่ยังไงบิกคุคุงต้องนอนที่นี่ เข้าใจมั้ยคะที่รัก

ผม-แต่

ฮารุ-เข้าใจมั้ยคะ!!!

ผม-คะ ครับ เข้าใจแล้วครับ ฮารุซัง

ฮารุ-งั้นก็อย่าลืมทานข้าวให้หมดนะค่ะ เด๋วฮารุจะขึ้นไปอ่าบน้ำบ้าง และฮารุลงมา ต้องเจอบิกคุคุงอยู่ที่นี่นะค่ะ

ผม-ครับ

 

แล้วฮารุก็เดินกลับไปที่ห้องนอน

 

โอคะวะซัง-เฮ้ออออออออออ เป็นแบบนี้ทุกที

สึคุยะ-ปกติก็ออกจะเป็นเด็กน่ารักแท้ๆนะ แต่พอเป็นเรื่องของบิกคุคุง ทีไร อย่างกับระเบิดลงทุกที

ผม-นะ นั่นสิครับ

โอคะวะซัง- ถ้าฮารุพูดขนาดนี้ละก็คงเปลื่ยนใจฮารุไม่ได้แล้วละ จริงสิ บิกคุคุง วันนั้น เพิ่งไปซื้อSupra mk4มา สนใจ

เอาไปใช้มั้ย

ผม-เอ๋ แต่ว่า

โอคะวะซัง-ใช่มั้ยละ แต่ยังไง คนขับรถก็คงไม่ว่างไปดูแล ทั้ง2คนพร้อมกันได้หรอกจริงมั้ยละ

ผม-นั่นสินะครับ คือว่าผม มีเงินเก็บติดตัวมาด้วย ถ้าเป็นรถรุ่นเก่าหน่อยน่าจะซื้อมาใช้ได้อยู่ครับ

สึคุยะ-จริงๆ ไม่ต้อง ซื้อหรอก เอา ของคุณพ่อ ไปใช้ สักคัน เถอะ ซื้อมา4-5คันก็จอดอยู่แค่ในโรงรถ

โอคะวะซัง-หรอ งั้นเด๋ว แนะนำร้านขายรถมือสองให้นะ ที่นั่นน่าจะมีรถที่ถูกใจอยู่เยอะนะ

ผม-ขอบคุณครับโอคะวะซัง

ฮารุ-ตกลงกันได้รึยังค่ะว่าจะเอายังไง คุณชายทั้ง2

ผม-ตัดสินใจแล้วครับ ผมจะไปซื้อรถมาใช้ครับ

ฮารุ-เอ๋!! ซื้อทำไมค่ะมันเปลืองเงิน นะรู้มั้ย รถคุณพ่อก็มีตั้งหลายคัน

สึคุยะซัง-นั่นสิ ลูกจะไปซื้อมาเพิ่มอีกคันทำไมละ

ผม-แต่ว่า

โอคะวะซัง-ผู้หญิงอย่ายุ่งน่า นี่มันเรื่อง ของผู้ชาย เค้า

สึคุยะซัง-เมื่อกี้คุณพูดว่ายังไงนะคะ ยูคิคุง!!

โอคะวะซัง-เอ่อไม่มีไรจ๊ะ

สึคุยะซัง-อ่อหรอ งั้นเด๋วจะขึ้นไปข้างบนห้องหน่อย ตามมานี่สิคะ ยูคิคุงง!!

โอคะวะซัง-ครับ!!

 

 

แล้วโอคะวะซังกับสึคุยะซังก็ออกไป

 

 

ฮารุ-นี่ ไม่ต้องซื้อรถหรอกนะคะ

ผม-เราไม่มีทางได้อะไรทุกอย่างหรอกนะครับถ้าฮารุซังไม่อยากให้ผมไปนอนที่อื่น งั้นผมก็ต้องหารรถคันอื่น มาใช้แทน

ฮารุ-อะ อื้ม ก็ได้ค่ะ งั้นฮารุจะเป็นคนเลือกนะคะ

ผม-ครับ

 

 

แล้วพวกเราก็ เอาทุเรียนทอดไปฝากให้ชิโระกับทาเคดะซัง หลังจากนั้นเราก็ไปดูร้านขายรถมือสองที่โอคะวะซังแนะนำ 

มา จะว่าไปมันก็มีรถเจ๋งๆอยู่ หลายคัน rx7 ก็สวยดีนะ

 

 

ผม-นี่ฮารุ คันนี้สวยมั้ย (ชี้ไปที่rx7)

ฮารุ-ก็สวยนะคะ แต่ทำไม ข้างในรถมันเล็กจังละเอาที่มันใหญ่ๆหน่อยดีกว่ามั้ย

ผม-งั้นคันนี้เป็นไงครับ(ชี้ไปที่ supra mk2)

ฮารุ-เอ๋!!! มันไม่เก่าไปหน่อยหรอคะ

ผม-งั้นฮารุชอบคันไหนละครับ

ฮารุ-ฮารุว่าคันที่เหมาะกับบิกคุคุง น่าจะคันนี้ ค่ะ(ชี้ไปที่r33)

ผม-เอ๋ คันนั้นหรอ

ฮารุ-ใช่ ตอนนั้นที่บ้าน ชิโระบิกคุคุงบอกว่า ชอบskyline ไม่ใช่หรอ

ผม-อืมมมันก็ชอบอยู่นะครับ แต่ ราคามัน แพงไปหน่อย

ฮารุ-แพงหรอคะ ฮารุว่าไม่แพงนะ

ผม-อ๊ะถ้าฮารุซังว่าดี งั้นก็เอาคันนี้ละกันเนอะ

ฮารุ-อื้ม เข้าไปซื้อคันนี้กัน

 

 

แล้วพวกเราก็เข้าไปตกลงต่อราคาซื้อขายกันพอตกลงราคาได้ ฮารุ ก็อยู่ทำเรื่องเอกสาร เพราะรถจะชื่อ ฮารุ ส่วนผม ก็

ออกมาเช๊ครถด้านนอกว่ามีตรงไหน ผุมั้ย ตรงไหนพังบ้าง อะไรทำนองนี้ แต่หลังจากเช๊ค ก็ต้องบอกว่าเจ้าของเก่า ต้อง

เป็นพวกสะสม รถพอสมควรเพราะอะไหล่รถเดิม อยู่ครบทุกชิ้น ยันกุญแจสำรอง

 

 

ฮารุ-ที่รักเสร็จแล้วค่ะ รถเป็นไงบ้าง

ผม-ก็อยู่ในสภาพที่ น่าจะเก็บสะสม สุดๆเลยละครับ ของเดิม อยู่ตรงหมดเลย โชคดีจริงๆ ที่เชื่อฮารุ

ฮารุ-ฮิฮิ ฮารุเก่งใช่มั้ยคะ

ผม-อื้ม เลือกได้เก่งมากเลยละครับ

ฮารุ-งั้นวันนี้ก่อนกลับบ้าน เราไปขับรถเล่นกันหน่อยมั้ยคะ

ผม-อะอื้มเอาสิครับ ผมเองก็อยากจะลองรถเหมือนกันครับ

 

หลังจากนั้น ผมก็ ลองรถตั้งแต่ออกจากร้านเลย ขับไปเติมน้ำมัน เสร็จปุ๊บ ผมก็ขับรถไปเรื่อยๆ เปิดกระจกรับลม เย็นๆ

สบายจังเลย ระหว่างทางกลับบ้าน ก็เห็น เหมือนเค้าจะสร้าง อะไรกันก็ไม่รู้ ลงเสาเข็มเต็มแล้วด้วยนะ

 

ผม-อ๊ะ เค้าสร้างอะไรกันหรอ โห พื้นที่ กว้างจัง

ฮารุ-นั่นสิคะ พื้นที่น่าจะใหญ่กว่าบ้านฮารุนะเนี่ย

ผม-ว้าวววว ถ้ามีบ้านพื้นที่ขนาดนี้ นะ คงทำ อะไรได้เยอะเลยแหละ เนอะ ทำสวน ปลูกดอกไม้ ทำสระว่ายน้ำ ทำโรง

จอดรถใหญ่ๆ

 

ฮารุ-อืมมมมมม.....นั่นสิฮารุก็ว่าดีเหมือนกันนะคะ

ผม-ใช่ม้าาาา แต่ว่าผมคงต้องทำงาน อีกกี่ชาติก็ไม่รู้นะครับ ฮ่ะๆ

ฮารุ-นี่ บิกคุคุงฮารุชวนเพื่อนมาให้ชิโระแล้วนะ ฮารุไม่รู้จะทำไงก็เลย ส่งรูปชิโระไปให้ทุกคนดูเพื่อจะมีคนชอบ

ผม-หรอแล้วคนที่จะมา เค้าน่ารักมั้ย

ฮารุ-น่ารัก เอ๋!! ที่รักคะ!!

ผม-คะ ครับ มีอะไรหรอ

ฮารุ-คงไม่ได้คิดจะจีบเพื่อนฮารุหรอกนะคะ

ผม-เอ๋!! ใครจะไปจีบละครับ แต่ถ้าเป็นคนน่ารักๆ ชิโระมันอาจจะชอบก็ได้

ฮารุ-ชิโระมันก็น่าจะชอบอยู่แล้วละค่ะ

ผม-เอ๋ ทำไมหรอครับ

ฮารุ-ก็คนที่จะมา คือ คนที่ชิโระเคยชอบ ตอนสมัย ม.ต้นไงคะ

ผม-เอ๋ ฮารุกับชิโระอยู่โรงเรียนเดียวกันหรอครับ

ฮารุ-อื้ม

 

แล้วพวกผมก็ขับรถมาถึงบ้าน พอเข้ามาถึง โอคะวะซัง ก็ยืนรออยู่หน้าบ้าน

 

โอคะวะซัง-เอาคันนี้มาหรอ

ฮารุ-ใช่แล้ว ฮารุเลือกเก่งมั้ยคุณพ่อ

โอคะวะซัง-ฮารุเป็นคนเลือกงั้นหรอ อืม........งั้นอาจจะต้องเอาไปที่ร้านดูสะหน่อย

ฮารุ-เอ๋ ทำไมคะ บิกคุคุงยังบอกเลย ว่าโชคดีที่ให้ฮารุเลือก

โอคะวะซัง- งั้นหรอ

ผม-รถคันนี้ ดีมากเลยครับโอคะวะซัง

โอคะวะซัง-งั้นหรอ แต่ ฮารุจัง เป็นคนเลือกจะดีจริงๆหรอ

ผม-ดีสิครับ คันนี้สวยมากเลยนะครับ ภายในเดิมอยู่ครบ ห้องเครื่องก็สะอาด แถม สีขาว ตรง โรงงานเลยนะครับ

โอคะวะซัง-อืมมมม

ผม- มันสวยมากเลยละครับแล้วบอดี้ ไม่เคยชนหนักๆเลยครับ

โอคะวะซัง-แล้วใต้ท้องมี ผุ มีสนิม บ้างมั้ย

ผม-สนิมพอมีครับแต่ เหมือนจะไม่ผุเลยครับ

โอคะวะซัง-อืมมมมม ฮารุจังก็เลือกรถดีเหมือนกันนะ

ผม-นั่นนะสิครับฮะๆ

 

หลังจากนั้น ผมกับโอคะวะซังก็เข้าบ้าน ไปนั่งกินข้าว แล้วก็โทรบอกชิโระ เรื่องวันฮานิมิ

 

ผม-ชิโระวันศุกร์ตอนเย็นเจอกันที่บ้านฮารุนะ

ชิโระ-จะไปไหนวะ

ผม-ก็ไปดูดอกซากุระด้วยกันไง

ชิโระ-แล้วยัยนั่นไม่โวยวายหรอ

ผม-ไม่เห็นจะโวยวายตรงไหนเลย?

ชิโระ-แค่กับแกละมั้ง เข้าใจแล้ววันศุกร์ตอนเย็นนะ

ผม-ใช่ จริงสิ เห็นฮารุบอกว่าจะมีเพื่อนมาด้วยนะ

ชิโระ-หร๊อ งั้นแค่นี้นะ

ผม-เคร

 

หลังจากที่ผมวางสายจากชิโระไป ก็เดินเข้ามาในบ้านเตรียมตัว วันจันทร์จะได้ไปทำงานสักที ระหว่างที่ผมจัดของอยู่

ฮารุก็เข้ามาในห้อง

 

ฮารุ-ทำอะไรอยู่หรอคะ

ผม-กำลังจัดแจงเสื้อผ้าอยู่ครับ เด๋ววันจันทร์ไปทำงานแล้วด้วยสิ

ฮารุ-นี่บิกคุคุง ฮารุว่าจะ เปลื่ยน ที่เรียนแหละ

ผม-เอ๋ จริงสิ ผมไม่เคยรู้เลยว่าฮารุเรื่อง อะไรอยู่ที่ไหน

ฮารุ-จริงๆแล้วฮารุเรียนบริหารเพิ่งขึ้นปี2แต่ตอนนี้เริ่มอยาก เรียนเกี่ยวกับ การทำอาหาร

ผม-ฮารุอยากเปิดร้านอาหารหรอครับ หรืออยากจะเป็นเชฟ

ฮารุ-ปะ ป่าว ฮารุแค่คิดว่า อีกหน่อย ฮารจะต้อง เป็น มะ...มะ.....แม่บ้านที่ดีให้ได้ ก็เลยอยากไปเรียนทำอาหารแทน

ผม-อืมมมม..........แต่ผมว่าฮารุเรียนบริหาร ก็ดีอยู่แล้วนะ

ฮารุ-เอ๋ ทำไมละคะ

ผม-ก็ถ้าเรียนบริหารใช่มั้ยฮารุก็จะมาบริหาร งานต่อจากคุณโอคะวะซังได้ไงครับ

ฮารุ-ไม่เอาหรอก บิกคุคุง ก็ทำแทนสิ

ผม-แต่ผมคิดว่ามันจะดีกว่าถ้าเกิดมีฮารุมาช่วย

ฮารุ-แล้วถ้าเกิด ทำงานกันทั้งคู่แล้วใครจะทำข้าวไว้รอ ตอนกลับบ้านละคะ

ผม-ก็ถ้าวันไหนเราว่างๆ เรามาช่วยกันทำอาหารกินกันเองดีมั้ย

ฮารุ-อะ อะ อื้ม

 

หลังจากนั้นพวกเราก็ลงมากินข้าว แล้วก็เข้านอน พอมาเช้าวันจันทร์

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา