Pathenon โรงเรียนมนตราพาเธนอน

-

เขียนโดย OAZIS

วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13.58 น.

  17 ตอน
  2 วิจารณ์
  6,694 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 กันยายน พ.ศ. 2564 15.16 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

17) ข้อเสนอ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 17

ข้อเสนอ

 

          เนื้อตัวของเด็กทั้ง 3 ตอนนี้มอมแมมไปด้วยฝุ่นและเศษดินทรายจากการถูกจับตัวและลากเข้ามายังใจกลางของถ้ำก็อบลิน แว่นของแอเลน่าขุ่นมัวจากเศษความสกปรกภายในถ้ำ และเธอไม่สามารถแม้แต่จะเช็ดสิ่งเหล่านั้นออกจากแว่นตาได้ เพราะ ตอนนี้พวกเขาทั้ง 3 คนถูกจับให้นั่งอยู่ในท่าคุกเข่า มือ 2 ข้างไพล่ไว้ด้านหลัง ถูกมัดด้วยเชือก และถูกรายล้อมไปด้วยก็อบลินหลายตัว มันคงไม่น่าแปลกใจนัก ถ้าหากว่าพวกเขาจะถูกคุมตัวด้วยก็อบลินหนึ่งฝูงซึ่งควรมีไม่เกิน 10 ตัวตามที่แอเลน่าเคยบอกไว้ แต่รอบตัวพวกเขาตอนนี้ มันดันมีเยอะจนนับจำนวนไม่ได้นี่สิ

 

          “นายคิดว่ามีทั้งหมดเท่าไร” เอ็ดเวิร์ดหันไปกระซิบถามเดรโก

 

          “กะประมาณจากที่ตาเห็นตอนนี้ คงไม่น้อยกว่า 60 ตัว” เดรโกประเมินสถานการณ์อย่างใจเย็น แต่เอ็ดเวิร์ดก็สัมผัสได้ว่า แม้ภายนอกของเด็กหนุ่มจะยังคงดูควบคุมสติได้ดี แต่ภายในของเดรโกก็ร้อนรนไม่แพ้เขา “แต่ฉันว่าคงไม่ได้มีเท่านี้”

 

          เอ็ดเวิร์ดเข้าใจดีว่าเพื่อนของเขาหมายถึงอะไร ถ้ำอันกว้างขวางที่พวกเขาอยู่ตอนนี้ บวกกับรูบนถ้ำอันดำมืดมากมายด้านหน้าของเขา คงจะไม่แปลกใจนักถ้าจะมีก็อบลินอีกฝูงใหญ่อยู่ในรูพวกนั้น

 

          “เหล่าผู้บุรุก จงเอ่ยนามของพวกเจ้า และบอกจุดประสงค์ที่เข้ามาเยือนที่แห่งนี้แก่พวกเรามา” ก็อบลินตนหนึ่งที่ยืนอยู่บนชะง่อนหินขนาดใหญ่หน้าพวกเขาเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

 

          ไม่ต้องบอกก็ตอบได้ว่า ก็อบลินตรงหน้าต้องเป็นหัวหน้าฝูงก็อบลินที่อาศัยอยู่ในถ้ำแห่งนี้แน่ๆ จากน้ำเสียง ท่าทาง รอยเหี่ยวย่นมากมายบนผิวหน้า รวมถึงความเคารพที่ได้รับจากก็อบลินตัวอื่นๆ ในถ้ำ

 

          “พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะบุกรุกเข้ามาที่นี่ พวกเราแค่มาตามหาเพื่อน แล้วก็เอาของที่โดนขโมยไปคืนมา” เอ็ดเวิร์ดเงยหน้าตะโกนตอบกลับไป

 

          “เพื่อนงั้นรึ ของงั้นรึ” ก็อบลินตัวนั้นลูบคางทำท่าครุ่นคิด สักพักก็ยิ้มออกมา หันหลังกลับไปหาก็อบลินอีกตนหนึ่งเพื่อรับของบางสิ่งมากำไว้

          

          “พวกเจ้าหมายถึงสิ่งนี้เช่นนั้นรึ” ก็อบลินแบมือสีเทาอันเรียวซีดออก เผยให้เห็นแหวน 4 วง

 

          เอ็ดเวิร์ดรีบขยับนิ้วไปลูบตรงบริเวณที่สวมแหวนทันที แหวนไม่อยู่ตรงที่ที่มันเคยอยู่แล้ว ไม่ต้องสงสัย แหวน 4 วงนั้นเป็นของพวกเขาแน่ๆ

 

          “เอาคืนมานะ” เอ็ดเวิร์ดกัดฟันกรอดออกคำสั่ง แม้จะรู้ตัวดีว่าสภาพพวกเขาในตอนนี้ไม่มีสิทธิที่จะต่อรองอะไรได้ทั้งนั้น

 

          และสิ่งที่เอ็ดเวิร์ดคิดก็เป็นจริง เมื่อก็อบลินเฒ่าตัวนั้นดูไม่ได้ทุกข์ร้อนหรือให้ค่าอะไรกับคำพูดของเขา พลางหยิบแหวนขึ้นมาพินิจดูอย่างใจเย็น

 

          “มรกตแห่งมนตรางั้นรึ” เขาเอ่ยถามอย่างแผ่วเบาราวกับพูดกับตนเอง “มณีหายากเช่นนี้ น่าแปลกนักที่พวกพาเธนอนปี 1 เช่นพวกเจ้าจะมีได้”

 

          “เขารู้ได้ไงว่าเราเป็นใคร” แอเลน่าหันไปกระซิบถามเอ็ดเวิร์ด แต่ก็ได้รับคำตอบกลับมาเป็นความเงียบ ก็แน่ล่ะ แอเลน่าเองก็ไม่ได้หวังว่าเอ็ดเวิร์ดจะตอบคำถามนี้ได้หรอก เธอก็แค่ถามตามความรู้สึกว่าควรถามเท่านั้น

 

          “ถอยไปห่างๆ เลยนะเจ้าพวกบ้า!” เสียงตะโกนโวยวายดังออกมาจากส่วนลึกตรงไหนสักแห่งในถ้ำ เอ็ดเวิร์ดไม่สามารถจับที่มาของต้นเสียงได้ แต่ที่เขารู้แน่ชัดก็คือ นั่นคือเสียงของนิโคล

 

          “นิโคลอยู่ที่ไหน” แอเลน่าตะโกนถามขึ้นมาก่อนที่เขาจะทันอ้าปากถามเองซะอีก

 

          “นิโคล...นิโคล...นิโคล” ก็อบลินทวนคำอย่างยียวน “ข้าไม่รู้จักนามนั้นหรอกนะ แต่ถ้าจะให้เดา เจ้าคงหมายถึงเจ้าเด็กขี้โวยวายนั่นล่ะสิ หนวกหูน่าดูเชียวล่ะ ตอนที่เขาโดนจับเข้ามา”

 

          “พวกคุณทำอะไรเขา” อีกครั้งที่เดรโกชิงพูดในสิ่งที่เขากำลังจะอ้าปากพูด

 

          “ทำอะไรงั้นรึ” ก็อบลินมองเหยียดลงมาที่เดรโก หน้าตาแสดงความยโส และเหมือนมีเสียงหัวเราะก้องอยู่ในลำคอ “เห็นเจ้าหนุ่มนั่นท่าทางร่าเริงดี ข้าก็เลยให้อยู่เป็นเพื่อนเล่นกับเด็กๆ ของข้า”

 

          “พอสักที!” เอ็ดเวิร์ดตะโกนออกมาสุดเสียงเพื่อหยุดความคิดอันฟุ้งซ่านของตัวเอง แววตาเต็มไปด้วยความโกรธ และเหมือนจะมีน้ำตารื้นๆ อยู่บริเวณขอบตา เขาไม่อยากจะจินตนาการว่านิโคลจะเป็นยังไงในตอนนี้ เพราะไม่ว่ายังไง เขาจะต้องช่วยเพื่อนของเขาออกไปจากที่นี่ให้ได้ “ส่งตัวนิโคลมาเดี๋ยวนี้!”

 

          “โฮ่ๆๆ” ก็อบลินเฒ่าส่งเสียงหัวเราะน่ารังเกียจออกมา “ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่เลือดร้อนเสียจริง แล้วถ้าข้าไม่ยอมล่ะ”

 

          “พวกคุณต้องการอะไรกันแน่” แอเลน่าตะโกนออกมาบ้าง หยดน้ำตาเริ่มไหลลงมาผ่านทางหางตา “ก็อบลินเป็นสิ่งมีชีวิตที่ขี้แกล้งก็จริง ก็สิ่งที่พวกคุณทำกับพวกเรา หรือทำกับนิโคลนี่มันเกินไปแล้วนะ”

 

          “โฮ่ๆๆ” มันส่งเสียงหัวเราะออกมาอีกครั้ง “ดูท่าแม่หนูคนนี้จะศึกษาเรื่องเผ่าพันธุ์ของพวกเรามาบ้างเหมือนกันนี่ ช่างเป็นเด็กที่รอบรู้เสียจริง แต่ดูท่าเรื่องที่เจ้ารู้เกี่ยวกับพวกเรามันจะคร่ำครึไปเสียหน่อยนะ

 

          เจ้ากล่าวหาว่าสิ่งที่ข้าทำมันเกินไปเช่นนั้นรึสาวน้อย เกินไปๆ เจ้ารู้ไหมว่าสิ่งที่เกินไปจริงๆ คืออะไร เจ้าไม่แปลกใจรึ ว่าเหตุใดที่พวกเราก็อบลินจึงมารวมตัวกันมากมายเช่นนี้ ทั้งๆ ที่เผ่าพันธุ์ของพวกเราไม่เคยจับกลุ่มกันมากมายเช่นนี้มาก่อน ให้ข้าเฉลยให้ฟังสักหน่อยนะ เพราะพวกเจ้าอย่างไรล่ะ”

 

          “หมายความว่ายังไง เกี่ยวอะไรกับพวกเรา” แอเลน่าถามกลับไป

 

          “ก็เผ่าพันธุ์ที่ถือตนว่าสูงส่งเช่นพวกเจ้าอย่างไรล่ะแม่หนูน้อย ที่สังหารหมู่พวกเราอย่างเลือดเย็น” ก็อบลินตนนั้นแค่นเสียงตอบอย่างโกรธแค้น

          

          “ญาติพี่น้องของเรานับร้อยถูกสังหารอย่างไร้ความปราณี พวกเราต้องหนีหัวซุกหัวซุนมารวมตัวกันเพื่อเอาชีวิตรอด ไม่กล้าออกไปสัมผัสกับแสงแดดด้านนอกนั้นเสียด้วยซ้ำ เพราะ กลัวจะถูกจับได้และถูกสังหารอย่างไรล่ะ จำคำข้าไว้สักหนึ่งคำเถิดหนาพวกเจ้า พวกเราก็อบลินรังเกียจมนุษย์ และพร้อมที่จะแก้แค้นให้แก่พี่น้องของพวกเราที่ตายไป”

 

          “ไร้สาระเป็นบ้า” เอ็ดเวิร์ดสบถออกมา เรียกเสียงโห่ร้องกึกก้องไปทั่วทั้งถ้ำจากเหล่าก็อบลินตนอื่นๆ บ้างก็ตะโกนให้ฆ่าพวกเขา บ้างก็ตะโกนให้ทรมาน จนเมื่อก็อบลินเฒ่ายกฝ่ามือขึ้นมาห้ามไว้ เสียงทั้งหลายจึงเริ่มสงบลง

 

          “เจ้ามีสิ่งใดจะพูดเช่นนั้นรึ หนุ่มน้อย”

 

          “การแก้แค้นมีแต่จะสร้างวงจรแห่งความแค้นขึ้นใหม่” เอ็ดเวิร์ดตอบ “คุณไม่มีทางหยุดความรุนแรงได้ด้วยความรุนแรงหรอก มันมีแต่จะสร้างความรุนแรงที่มากกว่าเดิมเท่านั้น”

 

          “เช่นนั้นเจ้ามีทางออกอื่นจะเสนอให้แก่ข้างั้นรึ”

 

          “สักวันหนึ่ง ผมจะทำทุกเพื่อให้พวกคุณได้ออกไปใช้ชีวิตอย่างที่เคยเป็น ได้เป็นอิสระ” เอ็ดเวิร์ดจ้องเขม็งเข้าไปในดวงตาของก็อบลินเฒ่า เขายังคงสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนที่ซ่อนอยู่ข้างในนั้น ก็อบลินตรงหน้าเขาไม่ใช่ก็อบลินที่ชั่วร้าย เขารู้สึกได้

 

          “อย่าไปฟังพวกมัน หัวหน้า” ก็อบลินที่อยู่ข้างหลังเขาตัวหนึ่งส่งเสียงดูแคลนออกมา “ก็แค่ลมปากเหม็นเน่าของพวกมนุษย์ พวกมันก็แค่จะหาทางเอาตัวรอดไปจากที่นี่เท่านั้นแหละ”

 

          “เจ้าคิดจะทำเช่นนั้นจริงๆ รึ” ก็อบลินเฒ่าถามเอ็ดเวิร์ด “หรือมันก็แค่ลมปากเพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น”

 

          “ผมพูดจริง”

 

          “ข้าคงไม่สามารถปล่อยตัวพวกเจ้าไปด้วยลมปากเช่นนั้นได้หรอกนะ พี่น้องของข้าคงจะไม่พอใจแน่หากข้าทำเช่นนั้น” ก็อบลินเฒ่าส่งยิ้มเจ่าเล่ห์ให้ “แต่ถ้าเจ้าอยากให้ข้าเชื่อในคำพูดของเขาจริงๆ ละก็ จงพิสูจน์ด้วยชีวิตของเจ้าซะ”

 

          “พิสูจน์” เอ็ดเวิร์ดทวนคำ “ยังไง”

 

          “การประลองตัวต่อตัว เดิมพันด้วยชีวิต”

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา