สะ-กด-รัก

-

เขียนโดย LaVieRosy

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 17.23 น.

  10 ตอน
  0 วิจารณ์
  2,880 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) Tcaster

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

การจราจรเช้าวันศุกร์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์เคลื่อนที่ไปได้ช้าๆด้วยความหนาแน่นของรถบบนท้องถนน ปฐวีอ่านรายงานงบการเงินที่ฝ่ายบัญชีตรวจสอบมาแล้วอีกครั้งก่อนเข้าประชุมเช้านี้ ปีนี้สยามสตีล บริษัทผลิตเหล็กเส้นและชิ้นส่วนเหล็กที่เขาและน้องชายบริหารสืบทอดต่อจากปราญ์ผู้เป็นพ่อกำลังและอากง เดินทางเข้าสู่ปีที่เก้าสิบ จึงมีโปรเจคใหม่หลายอย่างที่จะเริ่มต้นเพื่อก้าวการครบรอบหนึ่งร้อยปี

 

ปฐวีกลับมาช่วยผู้เป็นพ่อทำงานตั้งแต่เรียนจบมาใหม่ๆ เขาเรียนรู้ว่า ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นในวันเดียว ดังนั้นสิ่งที่คาดหวังให้ไปถึงในปีที่บริษัทอายุครบหนึ่งร้อยปี บางอย่างจึงต้องเริ่มต้องแต่วันนี้ ขณะที่หลายอย่างเริ่มต้นไปนานแล้ว โดยเฉพาะส่วนการผลิตที่ยกให้น้องชายดูแลทั้งหมดนั้นกำลังขยายกำลังการผลิต ขยายพื้นที่เก็บสินค้าและเปลี่ยนแปลงระบบดูแลสินค้าคงคลังและขนส่งใหม่ทั้งหมดเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น

 

วันนี้ ปฐพี คงจะต้องปวดหัวหน่อยกับคำถามมากมายในห้องประชุม บริษัทที่ก่อตั้งมานานเกือบร้อยปีและมีทายาทรุ่นลูกขึ้นมาบริหารงานเช่นพวกเขาต่างเจอปัญหาเดียวกัน คน คนที่หลากหลายวัย หลายรุ่น มาจากหลายหลายพื้นฐาน ยังไม่นับรวมนิสัยใจคอส่วนตัว เจ้าน้องชายตัวดีเลยหนีปัญหาชิงไปอยู่กับเครื่องจักรตั้งแต่กลับมา

 

รถตู้ส่วนบุคคลเลี้ยวเข้าสู่อาณาบริเวณของตึกสิบแปดชั้นของสยามสตีลหรือเอสเอสซีที่รู้จักกันในวงการอุตสาหกรรม วนรอบบ่อน้ำพุกลมที่มีน้ำพุสูงต่ำที่ทำจากเหล็กเส้นแปดเส้นและจอดที่หน้าประตูบานเลื่อนกระจกใสอัตโนมัติ ข้างทางเดินเข้าสองฝั่งเป็นบ่อน้ำใสสีดำแปดเหลี่ยมมีปลาคาร์ปตัวโตหลากสีว่ายวนด้านละแปดตัว ทั้งหมดนี้ปฐพีและปราชญ์ได้รับคำแนะนำและทำตามซินแสที่เคารพที่เป็นชาวฮ่องกงผู้เป็นที่ปรึกษามาให้ตั้งแต่สมัยอากงตั้งบริษัทและสยามสตีลก็เติบโตแข็งแรงมาอย่างต่อเนื่อง

 

ปฐวีพยักหน้าให้ รปภ. ที่ยืนทำความเคารพและพนักงานต้อนรับที่ส่วนต้อนรับในเครื่องแบบของบริษัทคือเชิ้ตขาวขลิบสีแดงน้ำเงินที่ปลายแขน มีโลโก้เอสเอสซีปักติดกระเป๋าเสื้อติดอกด้านซ้ายส่วนท่อนล่างนั้นขอแค่เป็นกางเกงหรือกระโปรงแบบสุภาพก็ได้แล้วแต่ความถนัด สำนักงานใหญ่ที่นี่ จะมีฝ่ายวิศวกรและฝ่ายวิจัยและพัฒนาการผลิตที่ดูออกง่ายกว่าพนักงานกลุ่มอื่นเพราะส่วนมากชอบเลือกใส่เครื่องแบบเต็มตัวแบบฝ่ายผลิตที่โรงงาน มีช่องใส่ปากกาที่แขน มีกระเป๋าเสื้อทั้งสองด้านที่เสื้อและกางเกงและหากเกิดกรณีต้องเข้าโรงงานก็ไม่ต้องเปลี่ยนชุดให้วุ่นวาย

 

เขาสแกนบัตรพนักงานกับประตูกั้นเหมือนเช่นพนักงานคนอื่นๆ ชายหนุ่มและน้องชายเห็นตรงกันว่าพวกเขาและพนักงานทุกคนต่างเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้องค์กรเดินไปข้างหน้า ไม่แตกต่างกัน จึงไม่มีการการแยกลิฟต์ มีเพียงการจำกัดการเข้าถึงพื้นที่และข้อมูลที่สำคัญๆสำหรับพนักงานแต่ละฝ่ายเท่านั้น

 

พนักงานทั้งหลายที่แขวนป้ายที่มีสายคล้องสีแดงน้ำเงินต่างทำความเคารพ ปฐวี ที่พยักหน้าให้ ในบริษัทเขาขึ้นชื่อว่าทั้งดุ เนี้ยบและไม่พูดมาก ขณะที่ปฐวี ผู้เป็นน้องชายจะดูขี้เล่นกว่า ยิ้มมากกว่า แต่ที่เหมือนกันคือไม่ชอบความผิดพลาดเป็นอย่างยิ่งซึ่งเป็นสิ่งที่บิดาเคยเตือน

 

‘อย่าไปอะไรให้มันมากนัก คนเราเติบโตด้วยความผิดพลาดทั้งนั้น ผิดนิดผิดหน่อยมันคงไม่เจ๊งหรอกน่า’

 

ปฐวีหัวเราะในใจเมื่อนึกถึงบิดา หลังจากทำงานมาอย่างหนักพาบริษัทฝ่าวิกฤตใหญ่ๆมาได้หลายครั้ง พออายุครบหกสิบทิ้งทุกอย่างมาให้เขาและน้องชาย ส่วนตัวเองกับภรรยาเก็บข้าวของไปทำสวนทำนา เพาะชำเลี้ยงกล้วยไม้บนที่ดินสิบกว่าไร่ที่เชียงใหม่ที่แอบไปซื้อไว้กันสองคนนานแล้ว ปรึกษาอะไรก็ไม่ค่อยตอบ ปล่อยลอยแพเขาและปฐพีหน้าตาเฉย

 

‘ยกให้แล้วก็ไปทำกันเองสิ จะเจ๊งแล้วค่อยมาคุยกัน’

 

นั่นคำพูดติดปากของบิดา อย่างเช่นวันนี้ที่จะขอให้เข้าร่วมประชุมทางไกลถึงโปรเจคใหม่ที่บริษัทจะครบรอบร้อยปีก็ปฏิเสธทันควัน

 

‘จะทำอะไรก็ทำกันเถอะ พ่อกับแม่จะตัดชุดใหม่รอไปงานครบรอบ’

 

แล้วก็ตัดสายทิ้งไปเฉยๆอย่างนั้น

 

ชายหนุ่มนั่งเซ็นต์เอกสารที่เดี่ยว ผู้เป็นทั้งผู้ช่วย เลขาฯส่วนตัวตั้งแต่เขาเข้ามาทำงาน เรียงให้บนโต๊ะตามความเร่งด่วน ชายหนุ่มวัยสามสิบห้าเป็นคนทำงานดีมีระเบียบ ที่สำคัญคือพูดเมื่อจำเป็นเท่านั้น ปฐวีรู้สึกว่าเขาโชคดีมากทีเดียว การหาเลขาฯส่วนตัวที่ทำงานเข้ากันได้และทำงานมาด้วยกันได้ยาวนานไม่ใช่เรื่องง่ายในยุคนี้

 

ไม่ถึงสิบโมงดีทุกแฟ้มก็พร้อมคืนให้แต่ละแผนก ชายหนุ่มหยิบไอแพดและปากกา เขาเป็นคนตรงเวลามาก ข้อนี้ทุกคนรู้ดี เดี่ยวยืนรอพร้อมอยู่แล้วก่อนจะเดินตามเขาไปตามทาง ปฐวีนวดขมับที่ตึงขึ้นเล็กน้อยรอ เขารู้ว่าจะกำลังจะเจออะไร

 

รถเอสยูวีสีน้ำเงินเข้มวาววับเลี้ยวตรงเข้ามาในถนนขนาดสี่เลนบริเวณย่านการค้าทางเข้าหมู่บ้านใหญ่แห่งหนึ่ง หญิงสาวที่อยู่หลังพวงมาลัยเปิดไฟให้สัญญาณเข้าชิดทางฝั่งซ้ายนำรถจอดชิดขอบทางเท้า เธอเดินลงมาโดยไม่ลืมแตะมือจับประตูฝั่งคนขับเพื่อล็อครถ ร่างเล็กบางในเสื้อเชิ้ตขาวคอจีนแขนปีนสวมทับด้วยกางเกงยีนส์เข้ารูปสีซีดห้าส่วนและรองเท้าผ้าใบคู่เก่ง มองดูอดีตร้านกาแฟร้างที่สภาพยังดีอย่างพึงพอใจ

 

 

ตัวอาคารทำจากปูนสีขาวชั้นเดียวเป็นสี่เหลี่ยมเหมือนกล่องตั้งเหลือบกันตั้งอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยที่พื้นที่ที่ตีตารางเป็นที่จอดรถริมรั้วตลอดแนวโดยมีต้นไม้ใหญ่ปลูกให้ร่มเงาครึ้มเขียวขจี

 

“คุณปรางรึเปล่าครับ”

 

หญิงสาวหันไปเจอชายหนุ่มที่ดูรู้ว่าน่าจะยังเด็กกว่าเธออย่างชัดเจนในเสื้อยืดคอวีสีเทาและกางเกงยีนส์สีดำ มีรอยสักโผล่มาครึ่งหนึ่งบริเวณชายแขนเสื้อยืดทั้งสองข้างยืนคู่กับหญิงสาวน่าตาน่ารัก ไว้ผมม้าสั้น ในชุดเดรสยาวถึงข้อเท้าลายดอกไม้สีฟ้า สะพายกระเป๋าผ้ายิ้มให้อย่างเป็นมิตร

 

“ใช่ค่ะ คุณโอกับคุณหวานใช่ไหมคะ”

 

ปริมาเปิดยิ้ม ทำให้เห็นลักยิ้มบุ๋มลงข้างแก้มทั้งสองข้างรางๆ ใบหน้านวลไร้เครื่องสำอางเกลี้ยงเกลาเป็นรูปไข่ ถักผมเป็นเปียเดี่ยวง่ายๆ มีเครื่องประดับเพียงต่างหูสีโรสโกลด์ฝังเพชรไขว้กันเป็นตัวเอ็กซ์และนาฬิกาเข้าชุด ดูเรียบง่ายแต่อีกฝ่ายที่พบโดยเฉพาะฝ่ายหญิงนั้นทราบว่ามูลค่าสูงลิบ

 

“ใช่ค่ะ เชิญด้านในก่อนนะคะ”

 

 

เจ้าของที่ฝ่ายหญิงไขกุญแจพาหญิงสาวเดินเข้าไปในบริเวณร่มครึ้ม ผ่านลานปูนด้านหน้าเข้าไปยังตัวอาคาร อดีตร้านคอฟฟี่แอนด์สวีทแล็บตกแต่งด้วยสไตล์มินิมอล บานประตูเลื่อนอัตโนมัติสูงจากพื้นถึงเพดานเป็นกระจกกรอบไม้บานใหญ่

 

เมื่อเข้าไปทางขวามือจะพบปูนก่อเป็นผนังสูงแค่เอว แยกเป็นส่วนครัววางเครื่องชงกาแฟและตู้ขนม ลึกเข้าไปก่อปูนเป็นซิงค์ล้างจานขนาดใหญ่ มองออกไปด้านนอกฝั่งขวารั้วติดกันเป็นโรงพยาบาลสัตว์เล็ก ส่วนฝั่งซ้ายเป็นร้านอาหารในสวนสวย นี่คือทำเลในฝันก็ว่าได้

 

ส่วนด้านในทางซ้ายนั้นเป็นห้องสี่เหลี่ยมกว้าง มีหน้าต่างกรอบไม้รูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว ติดเป็นระยะโดยรอบ ปริมามองอย่างพอใจ เธอจะจัดส่วนทางขวาเป็นส่วนต้อนรับและกั้นเป็นออฟฟิศ ส่วนโถงกว้างทางซ้ายจะทุบเอาหน้าต่างออกฝั่งหนึ่งเพื่อติดกระดานไวท์บอร์ดขนาดใหญ่และวางเรียงเก้าอี้เล็คเชอร์ ติดม่านที่หน้าต่างที่เหลือ จัดสวนเพิ่มให้มีส่วนนั่งรอของผู้ปกครองด้านหน้าและทำพื้นใหม่ตรงส่วนหน้าตั้งน้ำพุสามชั้น ปลูกดอกไม้หลากสี โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษบ้านเอบีซี ของเธอกำลังจะเป็นจริงแล้ว

 

“ปรางตกลงซื้อค่ะ ไปทำสัญญาซื้อขาย โอนเงินวันนี้ได้เลยค่ะ”

 

สองหนุ่มสาวตกใจเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าผู้ที่ติดต่อมาจะถูกใจขนาดตัดสินใจเลย

 

“ยินดีค่ะ ขอบคุณ คุณปรางมากๆค่ะ”

 

หญิงสาวโอนเงินมัดจำเอาไว้ก่อนครึ่งหนึ่งและทางอีกฝ่ายได้มอบกุญแจอาคารและประตูรั้วให้หนึ่งชุดพร้อมโฉนดที่ดิน ขอเวลาหนึ่งสัปดาห์ในการเคลียร์ของออกก่อนจะส่งมอบกุญแจอีกชุดให้เมื่อทำเรื่องโอนที่ดินและรับชำระเงินส่วนที่เหลือเรียบร้อย คู่รักหนุ่มสาวกลับไปแล้วแต่ปรางยังอยู่ต่อ เธอไปคว้าไอแพดประจำตัวลงมาจากรถ ถ่ายรูปและจดโน้ตลงไปว่าส่วนไหนต้องปรับปรุงอย่างไรบ้าง ทั้งในอาคารและด้านนอก ยืนยิ้มมองอย่างพอใจอีกครั้ง

 

หญิงสาวขับรถเพียงสิบห้านาทีมาอีกฝั่งถนนก็เลี้ยวเข้าสู่โครงการหมู่บ้านขนาดใหญ่ที่ภายในแบ่งเป็นโครงการย่อยอีกสามโครงการมีทาวน์โฮม บ้านเดี่ยวชั้นเดียวและบ้านสองชั้นขนาดใหญ่ เธอขับรถผ่านทางเข้าโครงการทาวน์โฮมที่มีป้อมรักษาความปลอดภัยอีกชั้นทางซ้าย ตรงไปและเลี้ยวขวาผ่านประตูกั้นเข้าโครงการบ้านเดี่ยวชั้นเดียวที่มีทั้งหมดสี่สิบยูนิต

 

เธอจำได้ว่าตกหลุมรักบ้านทันทีที่เห็น เพราะตัวบ้านรูปตัวแอลมีหน้ากว้าง หลังคาทรงจั่วนั้นตั้งอยู่ตรงกลางห่างจากบ้านหลังข้างเคียงและมีพื้นที่ให้เธอได้ปลูกต้นไม้ดอกไม้ที่ชอบและแปลงผักสวนครัวที่ใฝ่ฝัน หญิงสาวดัดแปลงต่อเติมด้านหลังเพิ่มเติมจากตัวแอลเป็นตัวที ทำเป็นห้องทำงาน ห้องนอนและห้องแต่งตัว ส่วนโถงกลางรับแขกและครัวนั้นคงเดิม

เมื่อซื้อแล้วก็ทยอยนำต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงามาลงรอบๆบ้าน ไม่ว่าจะเป็นล่ำซำ ขนุน แคนา มะฮอกกานีใบ ส่วนที่ติดรั้วลงผลไม้เช่น มะม่วง ชมพู่ ฝรั่ง สลับไปกับไม้ดอก ทั้งแก้ว เทียนหยด ชบาสีต่างๆ มะลิ และคุณนายตื่นสายที่เธอซื้อกระถางมาทั้งแบบตั้งพื้นและแบบแขวน ปลูกหลายๆสีในกระถางเดียวกัน

 

ทั้งบ้านและสวนจะมีคนจากบริษัทดูแลบ้านมาทำความสะอาด ดูแลสวนให้ทุกสัปดาห์ โดยจะเข้ามาในวันเสาร์อาทิตย์ที่ติวเตอร์แบบเธอติดงานสอนตลอดทั้งวัน หญิงสาวกดประตูอัตโนมัติ นำรถถอยหลังเข้าจอดตามความเคยชิน เข้าบ้านนำโฉนดเก็บในชั้นเอกสารและกินมื้อกลางวันง่ายๆ ก่อนที่จะโทรนัดบริษัทก่อสร้างและตกแต่งภายในที่ได้คอนแทคมาจากเพื่อนสนิทและขับรถออกไปอีกครั้ง

 

วันนี้เป็นวันจันทร์ที่เธอไม่มีสอน ช่วงเปิดเทอมงานของเธอจะเริ่มตอนห้าโมงเย็นถึงสามทุ่มในทุกวันส่วนเสาร์อาทิตย์นั้นยาวตั้งแต่สิบโมงเช้าจนถึงหนึ่งทุ่ม หญิงสาวทำอาชีพนี้มาได้นานเจ็ดปีแล้ว โดยก่อนหน้านั้นเธอเรียนจบเอกวิชาภาษาอังกฤษด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งและไปเรียนต่อปริญญาโทสาขากฎหมายระหว่างประเทศที่อังกฤษและเข้าทำงานในบริษัทกฎหมายแห่งหนึ่งที่นั่นรวมเป็นเวลาสองปีก่อนกลับมาทำงานอยู่ฝ่ายกฎหมายของบริษัทสำรวจ ผลิตและจำหน่ายน้ำมันข้ามชาติเบอร์ต้นของโลกแม้จะได้เงินเดือนสูงกระนั้นปริมาก็รับสอนพิเศษในวันเสาร์อาทิตย์ไปด้วยเพราะใจรักในภาษา

 

อาชีพสอนพิเศษไปได้ดีเรื่อยๆจนเธอเริ่มต้องเปิดเป็นคอร์สที่มีนักเรียนในชั้นเรียนยี่สิบห้าคน เริ่มจากเช่าห้องตามโคเวิร์คกิ้งสเปซ ก่อนมาเช่าอาคารใกล้รถไฟฟ้า ผ่านไปเจ็ดปีเธอมีจำนวนนักเรียนมากขึ้นมากและที่สำคัญคือปัญหาที่จอดรถ หญิงสาวจึงตัดสินใจยอมควักเงินเก็บที่ได้มาจากกองมรดกมาทำพื้นที่ของตนเองจริงจัง ทำเลนี้เธอบังเอิญขับรถผ่านไปเห็นแปะป้ายขาย การที่ตั้งอยู่หน้าหมู่บ้านขนาดใหญ่ทั้งสองฟากถนนและในย่านค้าขาย ถือเป็นทำเลทองที่เธอตามหามานาน

 

ใครๆล้วนคิดว่างานติวเตอร์เช่นเธอสบายทำงานวันละไม่กี่ชั่วโมงก็โกยเงินมากมายแต่เบื้องหลังนั้น ปริมาใช้เวลาในการเตรียมการสอนเกือบทั้งวันโดยเฉพาะคอร์สสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ระบบปัจจุบันเรียกกันว่า *TCAS ข้อสอบนั้นยากกว่าสมัยที่เธอสอบเองมาก

 

            สิบปีที่ทำงานกับเงินเดือนหกหลักและโบนัสก้อนโตทุกปีทำให้หญิงสาวเก็บเงินได้พอสมควร โดยพื้นฐานเธอไม่ใช่คนตามแฟชั่นนัก ชุดใส่ตอนทำงานจะเป็นแบบเรียบๆสีพื้นๆ อาศัยซื้อคาร์ดิแกนช่วงลดราคามาหลายๆสีใส่สลับๆกันไป ส่วนเครื่องประดับมีแบรนด์ในใจสองสามยี่ห้อกระเป๋าแบรนด์เนมที่นิยมกันนั้น ไม่ต้องใจเธอนักมีเพียงสองแบรนด์ของฝั่งอังกฤษที่เธอชอบแต่ไม่เคยจ่ายมากกว่าใบละห้าหลัก ที่สะสมและถือเป็นการลงทุนคงเป็นทองคำแท่งที่ทยอยซื้อเก็บไว้ทีละบาทสองบาทได้กำไรก็ขายแล้วซื้อเพิ่ม

 

 

ปริมาเป็นหลานสาวคนเดียวของครอบครัวที่ทำโรงสีข้าวส่งออกขนาดใหญ่ที่อากงบริหารกับลูกชายคนเดียว ส่วนพี่ชายอีก 2 คนต่างเลือกเรียนหมอและใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา บิดาเธอจากไปก่อนด้วยโรคมะเร็งตามมาด้วยมารดาด้วยโรคเดียวกัน เมื่ออากงเสียเมื่อแปดปีก่อนเธอและพี่ชาย จึงได้รับส่วนแบ่งเป็นเงินสดคนละแปดหลัก อาคารพาณิชย์ ที่ดินและทองคำแท่งคนละเท่าๆกัน ณ ตอนนั้นเธอจึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำและใช้เงินมรดกที่ได้ ไปเรียนต่อด้านการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างชาติ ด้วยการสนับสนุนจากพี่ชายทั้งสองจนจบปริญญาโทจากอังกฤษมาอีกใบ

 

            ทุกวันนี้หญิงสาวจึงเป็นทั้งติวเตอร์และอาจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชนหลายแห่ง และหากมีเวลาก็รับเป็นล่ามให้กับงานประชุมสัมมนาใหญ่ๆด้วย หญิงสาวเลี้ยวรถเข้าสู่บริษัทก่อสร้างและตกแต่งภายในที่ดัดแปลงมาจากบ้านเก่าในย่านเอกมัย ภายในตกแต่งใหม่เป็นสไตล์ลอฟท์โทนขาวน้ำตาลดำ ดูทั้งอบอุ่นและทันสมัย

 

            ปริมาแจ้งพนักงานต้อนรับสาวสวยถึงจุดประสงค์ที่มา ไม่นานพนักงานสาวก็เดินนำเธอเข้าไปตามทางเดินที่กั้นกระจกสองฝั่งเป็นโซนออฟฟิศและห้องประชุม เมื่อเธอไปถึงก็ต้องประหลาดใจ

 

            “พี่นัท”

 

            “ปราง”

 

*Thai University Central Admission System

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา