ต้อยติ่งซินโดรม

8.1

เขียนโดย jundee

วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 14.43 น.

  13 ตอน
  68 วิจารณ์
  22.19K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 กันยายน พ.ศ. 2556 15.54 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

10) คู่แฝดที่แตกต่าง..อย่างสิ้นเชิง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

LaughingLaughingLaughing             ในเมื่อเราคุ้นเคยกับต้อยมาพอสมควรแล้ว   ในฐานะพี่สาวที่ต้อยอาจจะ  คิดเหมือนว่า   พี่จันเผาผมมาเยอะแล้วนะ....   เดาเอาว่า  ต้อยคงคิดแบบนี้นะคะ   มาวันนี้เราจะชม"น้องชาย"คนนี้บ้าง..อิ  อิ...

              อย่างที่บอกค่ะว่าต้อยเขาจะมี  "ไอดอล"ในใจเยอะมาก   เปลี่ยนไปตามอธิพลของดวงดาวประจำราศีเกิด   (เกิดจะร่วง  และ เกิดจะร่วง..ลง....ฮา..)   แรกๆเลยก็พี่ไมค์ภิรมพรนักร้องในดวงใจของเขา  คนที่สองก็โจน้องชายเรา   ก่อนอื่นที่ต้องขอบอกว่า  ต้อยจะสนิทกับน้องเรามากค่ะ   โจทำอะไรต้อยจะ"ทำตาม"  เกือบทุกอย่าง  เช่น   ท่าส่ายหน้าเวลารู้สึก"ผิดหวัง"  หรือ  .." ท่าเฮ้อ!!..."อย่างเหนื่อยหน่าย  ก็เหนื่อยหน่ายต้อยนั่นล่ะค่ะเป็นส่วนใหญ่   หรือแม้แต่การแต่งเนื้อแต่งตัว   ตอนนี้มีบางเวลาที่ต้อยมานุ่งกางเกงกับเสื้อเซิ้ตบ้างแล้ว   แต่ก็ยังไม่ลืม   ผ้าขาวบนบ่าซ้ายกับสร้อยเชือกหนังสีดำเหมือนพี่ไมค์ที่ยังอยู่(ฮา)    ทาโร่ซังก็ถูกต้อย"ยึด"เอารูปแบบมาใช้อย่างไม่รู้ตัวเหมือนกันค่ะ

          ทาโร่ซังชอบเสื้อยืดกับกางเกงยีน   อันนี้ไม่มีปัญหา    เพราะต้อยเรา"มี"อยู่เยอะ  โดยเฉพาะเสื้อยืดสีขาวกับสีดำ   ทาโร่ซังจะมีเป้สะพายติดหลังเสมอหากจะออกข้างนอก    ต้อยเคยสงสัยว่าในเป้ของทาโร่ซังนั้นมีอะไรบ้าง?   แต่ทาโร่ซังไม่เคยบอกต้อยเลย   เขาถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวค่ะ   และต้อยคงเห็นว่า  เวลาทาโร่ซังจะต้องการอะไรก็จะล้วง"หยิบ"อะไรต่อมิอะไรออกมาจากเป้วิเศษนั้นได้ทุกที่    นานเข้า  ต้อยของเราเริ่มมีเป้"วิเศษ"บ้าง   และสะพายติดหลังเหมือนทาโร่ซังกับน้องเราเปี๊ยบ!......

            ที่ทาโร่ซังเขาสะพายเป้ติดตัวมันก็ไม่ได้แตกต่างอะไร   ก็เหมือนผู้หญิงเรา  ที่เวลาจะไปใหนมาใหนย่อมมีกระเป๋าถือติดตัวกันแทบทุกคน   แต่ด้วยที่เขามาจากประเทศที่มักเกิดเหตุการณ์ภัยธรรมชาติบ่อยๆแผ่นดินไหวเอย  สึท์นามิเอย   เขาเลยมักมีของจำเป็นติดตัวไปด้วยอย่างนี้ค่ะ     1 น้ำดื่มขวดที่ขนาดพอเหมาะ

                    2 ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นชุดเล็กๆ และยาแก้ท้องเสีย,ผงเกลือแร่

                    3  ไฟเช็ค,ไฟฉายกระบอกเล็กๆ

                    4   สมุด,ดินสอ

                    5   ผ้าขนหนูผืนเล็กๆ

                   6    ของกินเล็กๆน้อยๆ  เผื่อเอาไว้ในกรณีที่ติดอยู่ในสถาณการณ์ฉุกเฉิน   อย่างเดือนพ.ค  ของบ้านเราที่ผ่านมา....(อ้าว..)..อย่างพวกช้อกโกแลตอะไรพวกนี้ล่ะค่ะ.

                    7   หนังสืออ่านเล่นกับคู่มือการใช้ภาษาไทยง่ายๆ  แล้วก็แผนที่.

           ที่นี้มาดูของในเป้ของต้อยเราบ้าง

         1  ผ้าขนหนูผืนหนึ่ง  (อันนี้มีประโยชน์เพราะต้อยเหงื่อเยอะ)

         2  คู่มือบริษัทเล่มหนามาก  ขนาดเท่ากระดาษเอ4  (พกเทห์ๆ  ไม่เคยอ่าน  อ้างว่าถ่วงเป้ดีเวลาถีบจักรยานเร็วๆเป้ไม่ปลิว)

          3   มีดพับขนาดเล็ก   ที่เป็นมีดเพียงอย่างเดียว   ไม่ใช่มีดพกสาระพัดประโยชน์แบบที่  "แมกไกว์เวอร์"ใช้นะคะ....(เอ...แล้วจะมีคนรู้จักใหมนะ...???..) ..วอนนอนคุก...มากต้อยเรา.

           4  ลิปบามล์   เอาไว้ทากันปากแห้ง  

            5   โลชั่นทาผิว    อันนี้ดีค่ะ  บ้านเราแดดแรง  ทาไว้ก็ดีค่ะ 

            6    ลูกกุญแจและโซ่เส้นใหญ่ๆ   เอาไว้ล๊อครถจักรยาน

             7   เศษกระดาษ!....ค่ะไม่ผิดค่ะ  อ่านถูกแล้ว   ..เศษกระดาษ  ไม่ว่าจะเป็นบิลต่างๆที่เวลาซื้อของแล้วได้มา  สลิปATM  กระดาษทิชชู่ที่เช็ดหน้าแล้วหลายๆกำ ....  กระดาษซับมันที่ใช้แล้วกับยังไม่ใช้   แยกกันออกแค่อันที่ใช้อยู่นอกซอง ส่วนที่ยังอยู่ในซองที่บางแผ่นก็ออกมาก่อนเวลาอันควรเพราะซองขาด!   ต้อยเขาดีตรงที่ไม่เคยทิ้งขยะเรี่ยราดค่ะ  เก็บมาทิ้งที่บ้านหมดทุกอย่างซึ่งก็  น้านนานที  ที่ต้อยจะโละสักครั้งในรอบปี  ทำให้เป้ของต้อยออกแนวเหมือนจะกลับอุบลทุกวัน  

           วันที่ต้อยเอาของในเป้ออกมาประจาน.!..ต่อหน้าทุกคนคือ   ,มีอยู่วันที่ต้อยหามือถือตัวเองไม่เจอ   เลยเอาของทุกอย่างที่ตัวเองแบกหนักเกือบพอๆกับกระสอบข้าวสารทุกวัน  มาเทแล้วหา ...  หา..   หา..."มันไปใหนหว่า   มือถือผม???"     ต้อยบ่นงึมงำ   แล้วคุ้ยลื้อเป้ตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย

เราถามว่าได้เปิดเครื่องไว้หรือเปล่า?   ต้อยบอกไม่แน่ใจ   เราเลยลองกดเข้าเบอร์ต้อย   ได้ยินเสียงดังเป็นเพลงพี่ไมค์   "เป็นแฟนคนจน   ต้องทนหน่อยน้อง........."    ต้อยเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ   ก้มๆเงยๆหา   "พี่จัน  อย่าเพิ่งวางสายนะ"    มันสั่งเรา   ในขณะนั้นพอดีมีลูกค้ามาสั่งของ   เราเลยวางสายก่อนแล้วว่า  "ต้อยมันคงอยู่ในเป้นั่นล่ะ  แสดงว่าไม่ได้หายไปใหน  ค่อยๆหาเอาทีหลังแล้วกัน"   ว่าแล้วก็ไปรับงานที่ลูกค้ามาสั่ง555"รับงานๆ" .. แหม...บรรยายเหมือนยิ่งใหญ่เน้าะ...อิ...อิ.   ต้อยก็หามือถือของตัวเองต่อไป

           เราไม่รู้จริงๆค่ะ ว่าเขาหาเจอหรือยัง   แต่ก็คิดว่าคงเจอล่ะ   เพราะจากนั้นไม่นานต้อยก็ไปเช็ดรถต่อ  แล้วเล่นกีฬาหน้าบ้านตามเดิม(ยกเวท)

             เช้าวันจันทร์ต่อมา  หม่ามี๊เราบ่นแว่วๆแต่เช้า     "อารายยของมันกันนักหนานะ   แช่กันจั๊งงงง..  ไอ้ผ้านี่ ว่างๆก้อไม่ซักกันเน้าะ  เหม็นเน่ายังกับกลิ่นรองเท้าก้อไม่ปาน... " ..แล้วเราก็ได้ยินเสียงเหมือนซักผ้าดังออกมาจากในห้องน้ำ   เสียงแปรงถูผ้าดังแกรกๆๆ...แล้วก็มีเสียงโวยวายออกมาจากห้องน้ำอีกรอบ

         "..บักต้อยๆ....มันจะใช้กันกี่เครื่องนะ..โทสับเนี่ย..  "  แล้วหม่ามี๊เราก็เดินออกมาจากห้องน้ำ  ในมือหม่ามี๊ชู มือถือต้อยมาให้ดู    มือถือที่นอนแช่อ่างน้ำแฟ้บมาทั้งคืน  และได้ขาดใจตาย..!!..ไปแล้วเรียบร้อย!!!...

            ต้อยบ่นเสียดายมากในตอนเย็นที่กลับมาถึงบ้าน   ..."เป็นเพราะพี่จันล่ะ"   แน้...มันโทษเรา...

   "ทำไม??...ชั้นเกี่ยวรัยด้วย   "  เราแหว๋ว

   "ก็บอกไม่ให้วางสายๆ"           มันบ่นต่อ

    "อ้าว...แล้วแกไม่หาต่อเหรอ??"    เราว่ากลับ

     "จะหาได้ไง...ไม่ได้ยินเสียงนี่"      มันไม่ยอม

      "ทำไมไม่หาให้เจอล่ะ?"            เราก็ไม่ยอมมันเหมือนกัน

        "ผมจะหาได้ไงล่ะ   มันไม่ได้อยู่ในกองของ   ของผมนี่"       มันยังไม่ยอมแฮะ  คุณผู้อ่าน

         "เออ....ๆ..ป้ารู้แล้วว่ามันอยู่ใหน?"    เสียงแม่เราตัดบท   ด้วยความรำคาญ          "มันอยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนแกเองล่ะต้อยเอ๊ย...ข้างซ้ายกระเป๋าที่ขาดๆด้วย.!"        ค่ะ  ..ทุกคนยอมรับคำตัดสินที่ถูกต้องและแม่นยำที่สุดของวงสนทนาในค่ำนั้น. 

          

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา