สัมภาษณ์ผี

8.8

เขียนโดย RATH

วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554 เวลา 09.55 น.

  3 chapter
  24 วิจารณ์
  10.53K อ่าน
แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

3) บทที่ 3 ไขอดีตสัมภาษณ์ความหลอน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

http://www.keedkean.com

 

บทที่ 3 

 

 

 

ไขอดีตสัมภาษณ์ความหลอน

 

 

 

ผู้หมวดเอ็กส์จ้องมองวงหน้าสุดแสนสยองๆ หลอนๆของหญิงสาวเบื้องหน้า แล้วรู้สึกสงสารจับจิตจับใจ จะมีผีตายโหงใหม่ๆสักกี่ตนนะที่มีสภาพน่าเกลียดน่ากลัวได้อย่างเช่นหญิงสาวเบื้องหน้าของตนเอง หญิงสาวที่ไม่ยอมไปผุดไปเกิดยังชาติภพภูมิใหม่หากไม่ได้รับรู้ความจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตของตัวเองเสียก่อน ผู้หมวดเอ็กส์ได้แต่ถอดถอนใจสิ้นหวังในวังวนของกิเลส ตัณหา ที่หญิงสาวเบื้องหน้าตนกำลังพบเจออยู่ ผู้หมวดเอ็กส์คิดว่าความจริงเท่านั่นถึงจะทำให้หญิงสาวเบื้องหน้าของตน ยอมที่จะละทิ้งสังขารแล้วจากไปยังภพภูมิอื่นได้...

 

“คุณตำรวจข๊า  เร็วสิค่ะ อึ้งย้งน้อยรอฟังอยู่จนใจจะขาดตายอยู่รอนๆแล้วอ๊ะค่ะ”

 

“ครับๆ...จะเริ่มเล่าเดียวนี้ล่ะครับ คุณแม่นางอึ้งย้งน้อย แต่เรื่องนี้ต้องเริ่มเล่าตั้งแต่ก่อนการเกิดอุบัติเหตุไปสักหนึ่งอาทิตย์นะครับ มันถึงจะทราบเรื่องราวทั้งหมดได้ คุณแม่นางอึ้งย้งน้อยต้องการอยากจะทราบแบบฉบับย่อๆ หรือแบบฉบับรวมเล่มยาวๆล่ะครับ”

 

“อึ้งย้งน้อยอยากจะฟังแบบรวมเล่มยาวๆ อ๊ะค่ะคุณตำรวจข๊า...เล่าเลยๆๆ คุณตำรวจข๊าเล่าเลยค๊ะ”

 

“ฮ่าๆๆ...ได้ครับ...แม่ผีน้อยผู้อยากรู้อยากเห็น”

 

 

.................................................................

 

 

เรื่องทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้วครับ ผมเป็นตำรวจมีชื่อว่าผู้หมวดเอ็กส์ ผมเป็นนายตำรวจหน่วยปราบปรามยาเสพติด เมื่อหนึ่งอาทิตย์ที่แล้วผมและพรรคพวกบุกเข้าไปจับกุมพ่อค้ายาเสพติด สายของเราได้แจ้งให้ทราบว่าจะมีการนัดซื้อขายยากันที่โกดังร้างแถวถนนเลียบชานเมือง ผมและทีมงานจึงบุกเข้าไปจับกุมพวกพ่อค้ายาเสพติดได้จนครบหมดทุกคน แต่ที่พวกเรายังไม่รู้อีกก็คือยังคงมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังอีกที่ยังจับกุมไม่ได้ และสิ่งที่พวกเราไม่รู้อีกอย่างก็คือในช่วงชุลมุนวุ่นวายกันนั่นมีนักข่าวของสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งรอบเข้ามาทำข่าวยาเสพติดนี้ด้วยและเธอก็ได้ขโมยหลักฐานบางอย่างออกไปจากที่เกิดเหตุการณ์การจับกุมพวกลักรอบค้ายานรกเหล่านั่น...

 

“คุณตำรวจข๊าอะไรหรือค่ะที่นังนักข่าวไร้จรรยาบรรณคนนั่นมันขโมยออกไปจากที่เกิดเหตุอ๊ะค่ะ”

 

“เงินสดจำนวน 10 ล้านบาทครับ คุณแม่นางอึ้งย้งน้อย”

 

“สะ...สิบ...ล้าน หรือค่ะ”

 

“ครับสิบล้าน ความจริงมันมีมากกว่านั่นแต่บางส่วนพวกเรายึดมาเป็นหลักฐานได้ ที่เหลืออีกสิบล้านที่ถูกขโมยไปพวกเราก็ยังช่วยกันสืบและค้นหากันต่อไปครับ”

 

“เล่าเหตุการณ์ต่อไปเถอะค่ะ อึ้งย้งน้อยรอฟังส่วนที่เหลือต่อไปอยู่น่ะค่ะ คุณตำรวจข๊า”

 

หลังจากนั่นไม่นานผมก็ได้รับรู้ว่าเงินที่ถูกขโมยไปส่วนที่เหลืออยู่กับใคร เพราะคนที่รวมกันขโมยไปเกิดตื่นกลัวจึงคิดว่าจะนัดและพากันนำเอามาคืนให้กับทางตำรวจ แต่ระหว่างทางมันก็ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นเสียก่อนก็อย่างที่คุณอึ้งย้งน้อยกำลังมองเห็นอยู่ขณะนี้ล่ะครับ

 

“อุ๊ย น่ากลัวจังเลยอ๊ะค่ะ คุณตำรวจข๊า...คุณตำรวจข๊าช่วยเล่ารายละเอียดเหตุการณ์ช่วงเกิดอุบัติเหตุให้หน่อยสิค่ะ”

 

“ได้ครับ...”

 

ไม่ทราบว่ามันเกิดอะไรกันขึ้นกันแน่แต่ทีมงานนักข่าวบอกกับพวกเราว่าเงินที่ได้ขโมยไปถูกเก็บซ้อนไว้ที่ข้างๆโกดังแต่พวกเราก็หากันไม่พบ ดังนั่นทีมงานนักข่าวจึงพากันขับรถกลับไปยังที่เกิดเหตุ แต่ระหว่างทางพวกค้ายาเสพติดก็เกิดอยากจะได้เงินคืนด้วยเช่นกัน จึงขับรถบี้รถนักข่าวตกไปยังริมถนนฝั่งตรงข้าม ชนกับรถตู้โดยสารที่ประสบอุบัติเหตุอยู่ก่อนหน้านั่นอยู่ก่อนแล้ว รถของตำรวจที่ขับประชิดกันมาติดๆกันมาก็เกิดควบคุมไม่อยู่ด้วยเช่นกันก็เกิดขับไปชนเข้ากับรถของปอเต็กตึ้งอีกสองคันที่กำลังช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากรถตู้ก่อนหน้านั่นอยู่ก่อนแล้ว ก็อย่างคุณอึ้งน้อยกำลังจ้องมองอยู่ในตอนนี้ล่ะครับ รถตู้โดยสาร รถยนต์คันหรูของพวกค้ายา รถยนต์นักข่าว รถยนต์ตำรวจ และรถปอเต็กตึ้งที่ไม่มีอะไรเสียหายมากนัก...

 

“อุ๊ย!! น่ากลั๊ว  น่ากลัว น่ะค่ะ คุณตำรวจข้า...แล้วผู้หมวดข้าพอทราบมั้ยอ๊ะค่ะ มีคนตายทั้งหมดกี่คนอ๊ะค่ะ...อึ้งย้งน้อยอยากจะรู้ม้าก...มากอ๊ะค่ะ”

 

“ก็ประมาณคนตายอย่างเดียวไม่รวมผู้ได้รับบาดเจ็บก็น่าจะประมาณได้ดังนี้ครับ...รถตู้โดยสารพร้อมคนขับตาย 15 คน  รถยนต์ของพ่อค้ายาเสพติดตาย 4 คน รถยนต์ของนักข่าวตาย 2 คน รถยนต์ของนายตำรวจตาย 1 คน และสุดท้ายปอเต็กตึ้งตายอีก 5 คน ก็เท่าที่คุณอึ้งน้อยกำลังมองเห็นอยู่ตอนนี้ล่ะครับ”

 

“อุ๊ยจริงด้วยอ๊ะค่ะ...แต่เอ๊...ทำไมมีนายตำรวจเกินมาอีกหนึ่งคนอ๊ะค่ะ หรือว่าตำรวจคนที่เกินมานั่นจะยังไม่ตายอ๊ะค่ะ คุณตำรวจข๊า”

 

“ครับเขายังไม่ตายครับ เขายังมีชีวิตอยู่ และเขากำลังสืบหาเงินที่ยังหาไม่พบอีก 10 ล้านอยู่นะครับ คุณแม่นางอึ้งย้งน้อย”

 

“เขาเสียสละและรับผิดชอบต่อหน้าที่จริงๆเลยนะค่ะ อึ้งย้งน้อยอยากเป็นได้เหมือนกับนายตำรวจคนนั่นจริงๆเลยอ๊ะค่ะ คุณตำรวจข๊า”

 

“คุณอึ้งย้งน้อยเป็นเหมือนกับนายตำรวจคนนั่นได้แน่ๆครับ”

 

“เป็นได้จริงหรือคะ คุณตำรวจข๊า”

 

“เป็นได้จริงแน่ครับ เพียงแค่คุณแม่นางอึ้งย้งน้อยบอกผมมาว่าเงินสิบล้านที่คุณขโมยไป จริงๆแล้วคุณได้นำมันเก็บซ้อนไว้ที่ไหนกันแน่”

 

“คุณตำรวจข๊า กำลังพูดเรื่องบ้าอะไรกันอ๊ะค่ะ อึ้งยังน้อยจะไปรับรู้ได้อย่างไรกันล่ะค่ะ ว่าเงินสิบล้านนั่นมันไปเก็บซ้อนไว้ที่ไหน อึ้งย้งน้อยไม่ได้เป็นคนขโมยเงินนั่นไปเสียหน่อย คุณตำรวจข๊า อย่าได้มาคิดปรักปรำ อึ้งย้งน้อยเสียเวลาให้ยากเลยอ๊ะค่ะ ...คุณตำรวจข๊าคงยังไม่ลืมน่ะค่ะว่าอึ้งย้งน้อยคนนี้นั่นได้ตายและกลายเป็นผีไปแล้วคงไม่คิดจะหลอกหลอนผีด้วยกันเองหรอกค่ะ คุณตำรวจข๊าต้องเชื่ออึ้งน้อย...น่ะค่ะๆ ถ้าอึ้งย้งน้อยขโมยเงินนั่นไปจริงๆ อึ้งย้งน้อยไม่คิดจะปิดบังคุณตำรวจข๊าแน่ๆอ๊ะค่ะ”

 

“คุณแม่นางอึ้งย้งน้อยนี้เป็นผีนักสตอเบอรี่ตัวแม่จริงๆเลยนะครับ ผมผู้หมวด ดิ เอ็กซ์ ไฟส์ ไขคดียากๆและเป็นปริศนามานานแล้วก็มากมาย ต้องขอยอมรับนับถือคุณแม่นางอึ้งย้งน้อยด้วยใจจริง...จริงๆเลยนะครับ คุณแม่นางอึ้งย้งน้อยนี่เป็นผีนักสตอเบอรี่หลอกหลอนได้จนวินาทีสุดท้ายเลยจริงๆครับ”

 

“คุณตำรวจข๊าอย่ามากล่าวหาอึ้งย้งน้อยโดยไม่มีหลักฐานนะค๊ะ…และก็อย่ามาพูดจาเหมือนกับว่ารู้จักกับอึ้งย้งน้อยดีเกินกว่าตัวของอึ้งย้งน้อยเลยอ๊ะค่ะ…เพราะจริงๆแล้วคุณตำรวจข๊าไม่เคยรู้จักกับอึ้งย้งน้อยเลยแม้แต่เพียงนิดเดียว”

 

“ฮ่าๆๆๆ แม่นางอึ้งย้งน้อยนี่เวลาจะฉลาดก็ฉลาดได้แบบสุดๆเลยนะครับ แต่เวลาจะโง่นี้ก็โง่ได้แบบสุดๆเช่นกัน เอาเป็นว่าผมจะเล่านิทานให้คุณแม่นางอึ้งย้งน้อยได้ฟังสักเรื่องเพื่อว่าคุณแม่นางอึ้งย้งน้อยจะจดจำอะไรๆขึ้นมาได้บ้าง...ฮ่าๆๆ”

 

“มะ.. มันคืออะไรกันหรือค่ะที่จะเล่า ให้กับอึ้งย้งน้อยฟัง”



“มันก็คือเรื่องจริง ที่คุณแม่นางอึ้งย้งน้อยยังคาจิตคาใจ และไม่ยอมไปผุดไปเกิดเสียที่อย่างไรกันล่ะครับ ฮ่าๆๆ และพอผมเล่าเรื่องจนจบคุณแม่นางอึ้งย้งน้อยคงอาจอยากจะรีบหนีไปผุดไปเกิดโดยเร็วหรือในทันท่วงที หรือทันใดอย่างแน่นอนเลยล่ะครับ ฮ่าๆๆ... อยากจะฟังแล้วใช่มั้ยล่ะครับ คุณแม่นางอึ้งย้งน้อย ...ฮ่าๆๆ”

 

“ยะ...อยาก จะฟังแล้วค่ะ คุ..คุณตำรวจข๊า”

 

 

........................................................................

 

 

เมื่อผมเพิ่งได้มารับตำแหน่งนายตำรวจใหม่ๆ ผมได้รู้จักกับผู้หญิงสองคนคนหนึ่งมีชื่อว่า ภาวินี เธอเป็นนักข่าวโดยใช่นามปากกาว่าอึ้งย้งน้อย...เธอมักจะมีความเชื่อแบบผิดๆว่าตัวเธอเองสามารถมองเห็นผีหรือวิญญาณได้แต่ความจริงแล้วเธอก็เป็นแค่คนธรรมดาปกติอย่างเราๆนี่เองครับ ผมกับเธอพบเจอกันบ่อยๆเพราะหน้าที่การงานของเราต้องใกล้ชิดกันและอยู่ในสถานที่เดียวกันเสมอๆ เราเริ่มคบหากันอย่างเปิดเผย ไปทานข้าว ฟังเพลง ไปดูหนัง แต่ในวันหนึ่งผมก็ได้รับรู้ว่าเธอไม่เคยรักชอบผมจริงๆเลยแม้แต่เพียงนิดเดียวสิ่งที่เธอหลงรักจริงๆก็คืออาชีพนักข่าวของเธอเอง...เธออยู่กับผมเพราะต้องการจะใช่ประโยชน์จากผมเพียงอย่างเดียวเท่านั่น สุดท้ายเราก็ทะเลาะกันและเลิกลากันไป โดยผมไม่คิดจะรอฟังคำแก้ตัวที่เห็นแก่ตัวของเธออีกต่อไป...

 

และเพื่อเป็นการแก้แค้นภาวินี...ผมจึงหันไปคบหากับเพื่อนสนิทของเธอ เพื่อนสนิทของภาวินีคนนั่นมีชื่อว่า จันดี...ไม่นานภาวินีก็ได้รับรู้ว่าถูกเพื่อนรักและอดีตคนรักหักหลังเธอ ภาวินีโกรธมากๆ เธอจึงยอมที่ทำทุกอย่างทุกวิถีทางเพื่อที่จะสามารถแก้แค้นคืนกับผมและจันดีกลับคืนให้ได้เช่นกัน จนสุดท้ายเธอก็ทำมันได้จนสำเร็จในที่สุด เธอขโมยเงินจากหลักฐานที่ผมจับกุมมาได้จากพ่อค้ายาเสพติดได้แล้วโยนความผิดทั้งหมดให้ผมและจันดีรับผิดชอบ จนถึง ณ วันนี้ผมและจันดีต่างก็ช่วยกันค้นหาเงินที่สูญหายไปนั่นกลับมาคืนมาให้จงได้...

 

พวกเราค้นหาทุกวิธีแล้วก็ยังหาเงินจำนวนนั่นคืนมาไม่ได้ ดังนั้นจันดีจึงคิดแผนการบางอย่างขึ้นมาได้นั่นคือแผนการหลอกหลอนผีให้คายความลับออกมาให้จงได้ ผมกับจันดีเราไปตามหาหมอผีให้มาช่วยปลุกวิญญาณของภาวินีที่เพิ่งประสบอุบัติเหตุการตายใหม่ๆ ขึ้นมาอีกครั้ง...แรกๆ พวกเราไม่คิดว่ามันจะสามารถเป็นไปได้...แต่คืนนี้มันก็สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่า หมดผีทำได้จริงๆ ภาวินีผู้ไม่ยอมพ่ายแพ้ในกิเลส ตัณหา และความทะเยอทะยาน ก็คืนกลับมาจากความตายได้จริงๆอย่างที่จันดีและผมคาดคิดไว้... ภาวินี...ก็คือคุณแม่นางอึ้งย้งน้อยในเวลานี้อย่างไรกันล่ะครับ...

 

“ไม่จริง..ฉะ..ฉันไม่เชื่อ ถ้าเป็นเรื่องจริงฉันต้องจดจำอะไรได้บ้างสิ”

 

“เพื่อนเลิฟ ของฉัน ถ้าเธอสามารถจดจำอะไรต่อมิอะไรได้หมดทุกสิ่งทุกอย่าง เขาจะเรียกว่าการหลอกหลอนผีหรือสัมภาษณ์ผีและวิญญาณได้อย่างไรกันล่ะจ๊ะ เพื่อนเลิฟ”

 

“นะ...นังจันดี...แก่รวมหัวกันกับแฟนเก่าของฉันหลอกหลอนฉัน พวกแกสองคนรวมหัวกันหลอกหลอนผีอย่างฉันเล่นกันอย่างนั่นหรือ ...นี่ฉันได้ตายไปแล้วจริงๆหรือนี่...จันดี...เพื่อนเลิฟ... มันไม่ใช่ความจริงใช่มั้ย...ตอบฉันมาสิ...เพื่อนเลิฟ...ตอบฉันมา...”

 

“เธอได้ตายไปแล้วจริงๆจ๊ะ เพื่อนเลิฟ...เธอตายไปพร้อมกันไอ้ช่างกล้องหรือคนขับรถคันนั่นอย่างไรกันล่ะ...เธอไม่สงสัยเลยหรือว่าทำไมไอ้ช่างกล้องตัวผอมๆถึงได้อ้วนท้วนสมบูรณ์ขึ้นมาได้มากมายขนาดนั่นในเวลาสั้นๆ...ฉันจะเฉลยให้เพื่อนเลิฟได้ฟังก็ได้จ๊ะ ก็เพราะไอ้ช่างกล้องนั่นมันกำลังจะขึ้นอืดหรือกำลังจะเน่าแล้วอย่างไรกันล่ะ...เพื่อนเลิฟ”

 

“ไม่จริงฉันไม่เชื่อ...ฉันไม่เชื่อ...จันดีเธอโกหกฉัน...ใช่มั้ยๆ”

 

“ยอมรับความจริงเสียทีเถอะ เพื่อนเลิฟ...แล้วก็บอกฉันกับแฟนตำรวจของฉันได้แล้วว่าเงินสิบล้านที่เธอขโมยไปเธอนำมันไปซ้อนไว้ที่ไหน...แล้วฉันกับ...คุณตำรวจข๊า...ของหล่อนจะแบ่งเงินเล็กๆน้อยๆทำบุญอุทิศส่วนบุญกุศลไปให้หล่อนได้บ้าง...เพื่อนเลิฟ”

 

“แก..นังจันดี...แกมันนังอสรพิษ...แกมันนังเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด...แกแอบแทงข้างหลังฉันมาโดยตลอดใช่มั้ยๆ”

 

“สุดท้ายเธอก็เริ่มจะคิดและจดจำอะไรๆ ได้บ้างและออกบ้างแล้วใช่มั้ยล่ะจ๊ะ...เพื่อนเลิฟ”

 

“แกมันไม่ใช่เพื่อนเลิฟของฉันอีกต่อไปแล้วนังจันดีและพวกแกสองคนก็อย่าได้ฝันว่าฉันจะบอกว่าเงินสิบล้านฉันเอามันไปซ้อนไว้ที่ไหน...พวกแกอย่าได้ฝันกันให้เมื่อยเลย..ถึงฉันรู้ฉันก็ไม่มีวันบอกพวกแก่สองคนอย่างแน่ๆ...น๊อยๆๆ พากันปลุกฉันขึ้นมาเพื่อหลอกหลอนเล่นคิดที่จะสัมภาษณ์ผีนักข่าวอย่างฉันฝันไปเถอะย่ะ...”

 

“ภาวินี เห็นแกอดีตรักของเราในวันเก่าๆ บอกความจริงผมมาเถอะนะครับ...คุณเอาเงินไปซ้อนไว้ที่ไหน...ผมสัญญาว่าจะรักแต่คุณเพียงแค่คนเดียวและตลอดไป...จะไม่มีวันยกหัวใจรักให้กับใครอื่นอีก”

 

“คุณโกหก...คุณหลอกลวง...แม้แต่ตอนฉันยังมีชีวิตอยู่ และในตอนขณะที่ฉันได้ตายจากคุณไปแล้ว...คุณมันหูเบาหลงเชื่อนัง..อสรพิษจันดีนั่น...โดยไม่เคยสอบถามความจริงอะไรจากฉันเลย...ฉันเกลียดคุณ ฉันแค้นคุณ...ฉันไม่มีวันให้อภัยคุณและนังจันดีนังอสรพิษแน่...และก็อย่าหวังว่าฉันจะคืนเงินให้กับคุณเลย...วันไม่มีวันคืนให้คุณแน่ๆ”

 

“เพื่อนเลิฟใจเย็นๆแล้วค่อยๆพูดค่อยจากันน่ะจ๊ะ...เพื่อนเลิฟคืนเงินให้กับพวกเราเถอะนะจ๊ะ...มันเป็นเงินของทางราชการเขา...ไม่ใช่ของฉันหรือของแฟนของฉันเลย”

 

“ฮ่าๆๆ ฉันเริ่มจะจดจำอะไรได้บ้างแล้วว่าใครกันแน่เป็นคนเริ่มเรื่องการขโมยเงินนั่น...เธอกับไอ้ช่างกล้องนั่นร่วมมือกันขโมย แต่ไอ้ช่างกล้องมันเกิดปอดแหกมันเลยเอาเงินพากนั่นมาคืนให้กับฉันเพื่อนำเอาไปคืนให้กับทางตำรวจ แต่บังเอิญว่าฉันกับไอ้ช่างกล้องนั่นเกิดตายในอุบัติเหตุกันเสียก่อนฉันเลยไม่มีโอกาสได้นำเอาเงินนั่นไปคืน...เรื่องที่ฉันพูดมาเป็นความจริงใช่มั้ยล่ะจ๊ะ...ยัยอสรพิษจันดี...และอย่าได้มาคิดโกหก หลอกหลอนผีอย่างฉันอีก  พูดความจริงออกมาเสียดีๆเลย...พูดให้กับแฟนนายตำรวจของเธอได้รับรู้ความจริงด้วย”

 

“จันดี...คุณโกหกผมอย่างนั่นหรือ...เรื่องที่ภาวินีพูดมาเป็นความจริงใช่มั้ยๆ”

 

“ฉะ...ขอโทษคะ...เอ็กส์  ฉันขอโทษจริงๆ”

 

“แล้วเรื่องที่คุณบอกกับผมว่า ภาวินีหลอกใช่ผม โกหกผม ไม่เคยรักผมเลย ก็เป็นเรื่องโกหกด้วยใช่มั้ยๆ”

 

“ค่ะฉัน...ขอโทษ..”

 

“โอ้พระเจ้า...ผมทำอะไรลงไปนี้...ผมขอโทษภาวินี...ผมไม่น่าหูเบาหลงเชื่อ...จันดีเลย ผมขอโทษจริงๆ คุณยกโทษให้ผมได้มั้ย”

 

ไม่มีเสียงตอบรับจากความมืดมิดรอบข้าง บนท้องถนนกลับคืนมาสู่สภาพดังเดิมไม่เคยมีอุบัติเหตุรถชนกันเกิดขึ้นมาในวันนี้ ทั้งหมดต่างเกิดขึ้นจากความทรงจำของภาวินีหรืออึ้งย้งน้อยที่ได้มองเห็นเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นและผ่านพ้นไปแล้วเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ ผู้หมวดเอ็กส์และจันดีจ้องมองร่างกายน่าเกลียดน่ากลัวของภาวินีที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาจากความตายยกเว้นร่างกายช่างกล้องในรถตู้เท่านั่นที่กำลังนอนขึ้นอืดอยู่ นายตำรวจและจันดีจนซึ่งปัญญาจะทำอะไรได้ต่อไป อึ้งย้งน้อยได้จากร่างกายอันน่าเกลียดน่ากลัวไปแล้วอย่างนั่นหรือ แล้วสิ่งที่นายตำรวจต้องการจะค้นหาเล่าจะทำอย่างไรต่อไป...

 

 

……………………………………………………..

 

จบบริบูรณ์

 

คุณแม่นางอึ้งย้งน้อยคิดเช่นไรคับยกโทษให้อภัยกับเอ็กส์...แล้วคืนเงินที่หายไปคืนให้กับคนรักเก่าได้หรือไม่...คำถามนี้ผู้อ่านคิดว่าคำตอบเอาเองนะคับผม...จบแบบหลอนๆคนอ่าน...ฮ่าๆๆๆ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา