คําเดียวสั้นๆ แต่มีความหมาย...พ่อ

7.4

เขียนโดย กระดาษสีเทา

วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 10.42 น.

  1 ตอน
  12 วิจารณ์
  6,140 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 10.54 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) คําเดียวสั้นๆ แต่มีความหมาย...พ่อ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เช้าวันอาทิตย์...

     ขณะที่ผมนั่งจ้องกระดาษรายงานอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วมั้ง แต่งานเขียนของผมก็ยังอยู่เหมือนเดิมไม่มีอะไรคืบหน้า สักอย่าง และบรรยากาศภาพความหลังในวัยเด็กมันหายไปไหนหมดนะ นี่ผมคิดผิดหรือคิดถูกที่จะมานั่งแต่งเรื่องสั้นเกี่ยวกับพ่อ เข้าประกวดก็เพราะคำสั้นๆ คำว่า พ่อ นี่แหละ ที่ทำให้ผมเขียนไม่ออก และก็ไม่รู้จะเขียนอะไร บางครั้งผมรู้สึกราวกับว่าพ่อเป็นคนทำลายครอบครัว ทำลายความรักที่แม่มีต่อพ่อไปอย่างหมดสิ้น จนแม่ทนไม่ไหวจนต้องหย่าร้างกันไปในที่สุด และในที่สุดพ่อก็ยังเป็นคนทำลายความฝันผมอีก...

     ผมชอบเขียนหนังสือ ผมบอกกับพ่อในวันที่พ่อไม่ให้ผมเรียนต่อในมหาวิทยาลัย และยังให้ผมออกมาช่วยทำงานในบริษัทของตนเอง พ่อบอกว่า...

     “แกจะเรียนไปทำไมนักหนา กิจการของพ่อก็มี แล้วก็ความฝันบ้าๆบอๆ ของแกอีก”

     “ผมทิ้งมันไม่ได้ครับพ่อ ผมทิ้งความฝันของผมไม่ได้จริงๆ” ผมเถียง

     “แต่แก ต้องทิ้งมัน” พ่อยื่นคำขาดตอบกลับมา

     “พ่อ...นี่มันยุคสมัยไหนกันแล้วแล้วครับพ่อ” ผมเถียงอย่างไม่ลดละ

     “ฉันจะบังคับแก และฉันก็ไม่ให้แกเรียนต่ออะไรทั้งนั้นแหละ” พ่อยื่นคำขาด

     “ผมเกลียดพ่อ พ่อไม่เคยสนใจผม พ่อไม่เคยถามผมสักคำว่าผมต้องการอะไร เอ๊ะอะ อะไร พ่อก็บังคับผม ผมเกลียดพ่อ” ผมตวาดใส่พ่อ พร้อมสีหน้าแดงกล่ำ

     พอผมพูดเสร็จเท่านั้นแหละ มีฝ่ามืออันหนัก ของพ่อมากระทบบนแก้มข้างขวาของผมอย่างจัง ผมหน้าชา ส่วนเจ้าของมือ พูดด้วยเนื้อตัวสั่น ว่า...

“แกออกไป...ต่อไปนี้แกไม่ใช่ลูกฉัน”

     ผมเดินออกจากบ้านหลังนั้นมา และไม่หันหลังกลับไปมองอีก...

 

 

นับจากวันนั้นมา...

     ผมใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังกับห้องเช่าแคบๆ เล็กๆ แต่ยังดีที่แม่ฝากเงินในธนาคารไว้ให้ผมเกือบ 1 แสน แต่ผมก็ยังเฝ้าหางานทำอยู่หลายที่ แต่มาตกเป็นนักแสดงสมทบ หรือใครๆ เรียกกันว่า ตัวประกอบ เพื่อแลกกับเงินไม่กี่ร้อย แต่ผมก็ยังไม่ทิ้งความฝันของผม ผมได้แต่งเรื่องสั้น นิยาย ลงในเว็บขีดเขียนบ้าง และล่าสุดผมก็ได้ลองส่งไปลงในนิตยสารฉบับหนึ่ง...

     จนในที่สุดเรื่องที่ผมแต่งก็ได้รับการตีพิมพ์ ผมเริ่มมีความสุขและสนุกไปกับงานเขียนมากขึ้น

     เมื่อความฝันของผมเป็นจริง และหนังสือเล่มแรกของผมพิมพ์เสร็จ ผมก็ได้เปิดดูทีละหน้า ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าผมจะมีโอกาสแบบนี้จริงๆ แต่ที่แน่ๆ มันดีใจแบบบอกไม่ถูก และมันเต็มไม่ด้วยความภาคภูมิใจ ผมอยากให้พ่อรู้เหลือเกินว่าในที่สุดผมก็ทำความฝันของผมได้สำเร็จ

     ผมละภาพหลังความหลังเก่าๆ ละสายตาจากกระดาษรายงานด้วยการไปเดินในสวนสาธารณะ ทำให้ผมสบายใจขึ้นเยอะ และผมมักจะได้คำตอบหรือแนวพล็อตเรื่องที่ผมจะอยู่เสมอๆ

     และในวันนี้ผมก็นั่งจ้องกระดาษรายงานอยู่ตามเคย และก็ไม่มีอะไรคืบหน้าเลยสักอย่าง ขณะที่ผมกำลังคิดเรื่องเก่าๆ ความหลังเกี่ยวกับพ่อ มีเสียงโทรสับดังขึ้นมาในความเงียบ ผมกดรับโทรศัพท์น้องชายผมโทรมา...

     “ฮัลโหล...ว่าไง ”

     “พี่ๆ...พ่อถูกรถชน พี่รีบมาเลยนะ”

     น้องชายผมพูเสร็จแล้วก็วางสายไป ผมนั่งคิดไปคิดมา แต่ขาของผมน่ะสิ มันรีบก้าวออกไปโดยไม่รอคำตอบ

     “ทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะ” ผมถามน้องชายเมื่อถึงโรงพยาบาล

     “ก็พ่อน่ะสิ ทำหนังสือหล่นกลางถนน เลยหยุดเก็บก็เลย....”  น้องชายพูดด้วยเสียงสั่น

     “แค่หนังสือเล่มเดียวเนี่ยนะ เอมาแลกกับชีวิต” ผมยังไม่หยุดบ่นว่าพ่อ

     “ถ้าไม่ใช่หนังสือของพี่ พ่อคงไม่เก็บหรอก พี่รู้ไหม...พอพ่อรู้ว่าหนังสือพี่วางขาย พี่ก็รีบไปซื้อทันที พ่อบอกว่า ไม่ซื้อไม่ได้ นี่มันเป็นผลงานของลูก มันความฝันของลูก และพี่รู้ไหมว่าพ่อคิดถึงพี่มาแค่ไหน พ่ออยากให้พี่กลับมาอยู่ด้วย พ่อยังบอกอีกว่า พ่อจะไม่บังคับลูกอีกแล้ว พ่อเชื่อว่าลูกจะต้องทำความฝันของลูกได้สำเร็จ” น้องชายพูดด้วยเสียงสั่น

     คำพูดของน้องชาย ทำเอาผมอึ้งไป พูดไม่ออก หนังสือของผม เพราะหนังสือของผมเหรอ คำพูดของน้องชายทำเอาน้ำตาผมไหลอาบแก้มอย่างไม่รู้ตัว และผมก็ไม่เคยรู้สึกดีกับพ่ออย่างนี้มาก่อน

     เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ผมไม่อาจทราบได้ว่าประตูห้องฉุกเฉินจะเปิดออกมาแล้วผมจะกลับเข้าบ้านหลังนั้นอีกครั้ง กลับเข้าสู่อ้อมแขนของพ่ออีกครั้ง และครั้งนี้ทำให้ผมเขียนเรื่องสั้นครั้งนี้ได้แน่นอน และผมก็ตั้งชื่อเรื่องไว้ก่อนแล้วว่า...

คำเดียวสั้นๆ แต่มีความหมาย...พ่อ

 

เรื่องนี้ผมก็คิดว่าน่าจะเข้ากับชีวิตของเพื่อนๆบางคน และช่วงนี้ก็ใกล้ถึงวันพ่อแล้ว ผมก็อยากให้เพื่อนๆดูแลพ่อของเราดีๆ เพราะท่านไม่อาจอยู่กับเราไปตลอดชีวิต...สิ่งไหนที่ยอมท่านได้ได้ก็ควรยอม เพราะที่ท่านสอนเราก็เพราะว่าท่านหวังดีกับเรา ไม่มีพ่อคนไหนที่คิดร้ายกับลูกหรอก 

 

“จบบริบูรณ์”

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา