Dragon tear ผจญภัยสุดขอบฟ้าฝ่าเซียนเทพ

10.0

เขียนโดย api3api

วันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.09 น.

  16 บท
  3 วิจารณ์
  18.34K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556 22.22 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

7) สิ่งที่มีค่ากว่าของวิเศษ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ณ จวนเจ้ามืองหัวอู่ ย้งยี้ ผู้ศิริโฉมงดงามยืนริมหน้าต่างเศร้าสร้อยไม่มีความสุข

 

           "นายหญิงทานอาหารซักนิดเถิดเจ้าค่ะล้มป่วยไปพวกเราจะถูกลงโทษนะเจ้าค่ะ"คนรับใช้เจ้าเมืองกล่าวอย่างกังวล

 

 

 

               "ข้าไม่ใช่นายหญิงเจ้า หัวใจข้ามีหนึ่งเดียว ข้าขอโทษเจ้าด้วย"

 

คนรับใช้ได้ยินดังนั้นก็คำนับแล้วออกจากห้องทหารยามล็อคประตูอย่างแน่นหนา

 

              "เทียนเล่ยข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน เทียนเล่ย"

 

แสงดาวส่องสว่างในคืนนี้นางก็ไม่อาจข่มตาหลับ

 

 

 

 

 

              "นางเป็นยังไงบ้างแม่บ้าน"เจ้าเมืองสอบถามคนรัับใช้ซึ่งพวกนางทำท่าเลิกลัก เจ้าเมืองอารมณ์เสีย

 

               "ใช้ไม่ได้สักคน พรุ่งนี้ถ้านางล้มป่วยข้าจะประหารพวกเจ้า"

 

เจ้าเมืองเดินกลับอย่างอารมณ์ไม่ดีคนรับใช้กอดกันกลมน้ำตาร่วง

 

              "เจอเทียนเล่ยรึยัง"เจ้ามืองสอบถามองครักษ์หม่า

 

              "ไร้วี่แววเลยขอรับ ท่านหวัง"องครักษ์หม่ารายงานด้วยความสัตย์

 

              "ข้าน่าจะฆ่ามันเสีย นางจะได้เลิกอาวรณ์มันเสียที ค้นหาต่อไป"

 

 เจ้าเมืองสั่งการพวกทหารรับคำ แล้วต่างกันแยกย้าย

 

 

 

 

 

              ต้ากงอ้วงเดินทางมาลาดตะเวนรอบๆจวนเมื่อเห็นกองทัพจัดขบวนอย่างแน่นหนาจึงกลับไปรายงานพวกเอ้อหลันที่โรงน้ำชา

 

 

 

             "ยากหน่อยนะ มันระวังตัวเต็มที่เลย"ต้ากงอ้วงส่ายหัว

 

             "คืนนี้ข้าจะลอบเข้าไปป่วนจากภายใน พวกเจ้าอาศัยช่วงเวลานั้นไปจัดการเจ้าเมืองซะ"เฉินโจวว่าแผนการเอ้อหลานกับต้ากงอ้วงพยักหน้ารับคำ

 

 

 

              เฉินโจวแยกตัวออกไป เอ้อหลันกับต้ากงอ้วงจึงย้ายไปพักโรงเตี๊ยมไกล้จวนเจ้าเมือง

 

             "เจ้าคิดยังไงถึงอยากช่วยเด็กนั่น"ต้ากงอ้วงถามเอ้อหลันบนห้องพัก

 

 

 

              "ข้าเป็นหญิง ข้าย่อมเข้าใจความทุกข์ของสตรี เจ้าล่ะเต็มใจหรือเปล่า ข้าบังคับเจ้าไปใหม"

 

             เอ้อหลันถามต้ากงอ้วง เขากอดอกยิ้มอย่างมั่นใจ

 

             "ข้าพร้อมเป็นกำลังให้เจ้าทุกเรื่อง ข้าตัดสินใจของข้าเองตั้งแต่พบเจ้า"ต้ากงอ้วงพูดด้วยความมั่นใจทำให้เอ้อหลันยิ้มน่ารัก

 

            "ข้าขอบใจเจ้ามาก"

 

           เอ้อหลันไม่พูดต่อ ตอนนี้ทุกคนต่างใจจดจ่อถึงแผนการคืนนี้

 

 

 

 

 

เวลาสองยาม เฉินโจวใช้วิชาตัวเบากระโดดขึ้นกำแพงสูง เขาวิ่งไปบนหลังคาและ ลักลอบเข้าตัวอาคาร

 

       เขาใช้ยาสลบรมคนรับใช้และทหารยาม และค้นหาคน จนเจอห้องที่ล็อคแน่นหนา

 

 

 

           "นั่นใคร"ย้งยี้ส่งเสียงทำให้เฉินโจวส่งสัญญานให้เบาเสียง

 

           "ข้ามาช่วยเจ้า ไปกับข้า"

 

 เฉินโจวใช้ดาบฟันกลอนประตูขาดออกและเปิดประตูเข้าไป

 

             " ไม่ ข้าจะรอจนคนคนนั้นมา"นางใจแข็งไม่ยอมมากับเฉินโจว

 

 

 

             "ตอนนี้เจ้าเป็นทุกข์เพราะความรัก แต่เจ้าน่าจะคิดถึงสาวตัวเล็กที่วิ่งไปก้มหัวขอร้องคนเหมือนคนบ้า ให้มาช่วยเจ้า" เฉินโจวพูดถึงเซียงหลัน

 

 

 

             "เซียงหลัน นางปลอดภัยใช่ใหม" ย้งยี้เดินออกมาหาเฉินโจว

 

             "แล้วเราจะออกไปยังไง"ย้งยี้ถาม

 

เฉินโจวไม่ตอบคว้าย้งยี้แล้วทะยานออกมาแต่เนื่องจากมีเพิ่มอีกคนจึงไปได้ไม่เร็ว

 

             เฉินโจวโยนของบางอย่างไปที่จวน แล้วสักครู่มันก็เกิดระเบิดขึ้น

 

ทหารในจวนต่างเริ่มอลม่าน

 

             "นี่เจ้าบ้าไปแล้วเหรอ ทำอย่างนี้พวกมันก็จะตามล่าเจ้า"ย้งยี้ตกใจตื่น

 

             "ขออภัยหน้าที่พาเจ้าไปไม่ใช่ข้า หน้าที่ของพวกข้าคือกำจัดคนชั่ว"

 

สักพักพวกทหารก็ส่งเสียงร้อง ต้ากงอ้วงและเอ้อหลันบุกเข้าจวนเพื่อจัดการเจ้าเมือง

 

             "จะฝากข้าอัดหน้ามันซักหมัดใหม"

 

         ยั้งยี้ได้ยินดังนั้นก็ยิ้มออกมานางสวยไร้ที่ติ

 

 

 

              "ย้งยี้"

 

      นางหันขวับ ก็ได้พบจอมยุทธหนุ่มที่มากับสาวน้อย

 

         "เทียนเล่ย เซียงหลัน" ทั้งสามก็วิ่งเข้ามากอดกัน

 

 

 

          "พวกเจ้ารีบไปเสีย ไปให้ไกลจากเมืองนี้" เฉินโจวกำชับ เทียนเล่ยลุกขึ้นขึงขัง คารวะด้วยความเลื่อมใส

 

           "ข้าเทียนเล่ยขอขอบใจเจ้า"

 

เฉินโจวรีบทะยานไปที่จวนอีกครั้ง  ย้งยี้ เทียนเล่ย เซียงหลันจึงพากันหนีออกมาทางลัด แต่แล้วพวกเขาก็ต้องหยุดเมื่อเจอกับ คนคนหนึ่งยืนอยู่

 

        องครักษ์หม่า

 

         "หม่าย่งให่"

 

        "ใช่ข้าเอง ข้าคาดการไว้แล้ว ว่าสักวันเจ้าต้องมา อู่ เทียนเล่ย"

 

 องครักษ์หม่า ส่งสัญญานพลธนูก็ยิงลงมาเป็นห่าฝน แม้เทียนเล่ยจะปัดป้องแต่ก็ยังโดนที่ไหล่เซียงหลัน

 

 

 

            "ฆ่ามันซะ   มีคนปองร้ายเจ้าเมืองจวบเหมาะจริง โอกาศของข้าที่จะป้ายความผิดให้พวกมัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า" เขาหัวเราะอย่างร้ายกาจ

 

 

 

           "เซียงหลัน ทำใจดีๆไว้น้องพี่"ย้งยี้เรียกเซียงหลันให้ได้สติ ธนูมีพิษ

 

 

 

           "หม่าย่งให่ วันนี้ข้าไม่ตายเจ้าก็ม้วย" เทียนเล่ยพุ่งเข้าไปหาหม่าย่งให่ 

 

ทั้งสองสู้กันหลายกระบวนท่า เทียนเล่ยเหมือนได้เปรียบ แต่หม่าย่งให่เล่นสกปรก อาวุธลับออกมาจากปลายรองเท้าหม่าย่งให่ เชือดแขนเทียนเล่ย เขาหมุนตัวถอยกลับไป

 

 

 

             "เจ้าสิ้นแล้ว เทียนเล่ย เจ้าโดนพิษของข้าแล้ว"

 

สิ้นเสียงหม่าย่งให่ เทียนเล่ยก็ทรุดลง 

 

              "พลธนูฆ่าพวกมัน"

 

ไม่มีเสียงตอบ พลธนูโดนเฉินโจวจัดการซะเกลี้ยง เขาปลิวตัวลงมาขวางหน้า หม่า หย่งให่

 

 

 

          "เจ้าต้องมาเจอกับข้า" เฉินโจวทะยานไปหาหม่าย่งให่ แต่เสียงแตร พร้อมกลองรบก็ดังสนั่นขึ้นมา พร้อมคำประกาศ

 

 

 

             "รับราชโองการ เจ้าเมือง หวัง ต้าฟุ มีความผิดฐานใช้อำนาจมิชอบจึงมีคำสั่งให้ หม่า หย่งให่รักษาการณ์เจ้าเมืองคุมทหารห้าร้อยกำจัดให้สิ้นซาก

 

      เสียงแตรดังขึ้นอีก แล้วทหารในจวนแม้จะน้อยแต่พวกเขาก็สู้ยิบตาทยอยตายไปทีละคน

 

           หม่าย่งให่หัวเราะอย่างผู้มีชัยชนะ

 

 

 

         "ข้าจะดูว่าคนไม่กี่คนอย่างพวกเจ้าจะชนะทหารของข้าห้าร้อยนายได้ยังไง วันนี้ข้าจะทำลายเมืองนี้ให้สิ้น ฮ่า ฮ่า ฮ่า"

 

 

 

       มือธนูกว่าสี่สิบนายยิงเกาทันฑ์เข้าใส่พวกเฉินโจวทำให้พวกเขาต้องหลบเข้ามาอยู่ในจวน ทหารห้าร้อยล้อมกรอบเข้ามาเรื่อยๆ

 

        "แย่แล้ว แย่แน่ๆ หม่าย่งให่ทรยศข้า เร็วแก้มัดข้าเร็ว ข้าจะหนี"เจ้าเมืองหวังต้าฟุร้องขอให้ต้ากงอ้วงกับเอ้อหลันปล่อยตัวบนชั้นบนสุดของจวน

 

                   "หนวกหูเจ้าขี้ขลาดเอ้ย ทั้งหมดก็เป็นเพราะเจ้านี่แหละ"ต้ากงอ้วงหมั่นใส้จึงชกหวังต้าฟุหน้าหงายสลบไป

 

                 "ทำยังไงดีต้างกงอ้วง พวกมันจะเข้ามาในเขตจวนแล้ว"เอ้อหลันกระวนกระวาย

 

 

 

          ย้งยี้พาเซียงหลันกับเทียนเล่ยเข้ามาหลบในจวน เทียนเล่ย กับเซียงหลันอาการแย่ลงเรื่อยๆ

 

          "ท่านจอมยุทธทำอะไรสักอย่างสิ พวกเขากำลังจะตาย"ย้งยี้ขอร้องเฉินโจว 

 

         เฉินโจวโยนห่อยาให้ห่อนึง

 

          "นั่นเป็นยาถอนพิษที่ข้ามีอยู่ มันใช้ได้คนเดียว แต่ถ้าแบ่งกันจะยืดเวลาตายออกได้อีกชั่วยาม"

 

          เทียนเล่ยหยิบมันแล้วใส่ให่กับเซียงหลัน ย้งยี้ร้องให้ออกมา

 

 

 

            "ย้งยี้ชาตินี้ข้าทำบุญมาน้อย ได้พบเจ้าแต่ต้องตายจาก ขอให้เจ้าดูแลเซียงหลันให้ดี" เทียนเล่ยอาการแย่ลงเรื่อยๆ

 

          เฉินโจวตรวจอาการแล้วส่ายหัว

 

      "พิษกระจายช้าแต่ถ้าไม่ได้รับยาถอนพิษ ไม่ถึงชั่วยามคงสิ้นใจขออภัย"

 

 

 

 ตึง ตึง ตึง เสียงกลองกองทัพตีกำแพงจวนแตกและพวกทหารกรูเข้ามาในจวน ฆ่าทุกคนที่พบเห็นอย่างไร้ปราณี หม่าย่งให่ หัวเราะด้วยความสะใจ

....................................................................................................................

หม่าย่งให่ยืนยะโสบนเกวียนศึก หัวเราะอย่างองอาจ

 

 ทหารของ หวังต้าฟุ ล้มตายสิ้น พวกทหารบุกรุกถึงจวน

 

 

 

         "ขึ้นไปชั้นบน ไปพบพวกของข้า ไม่เกินอึดใจข้าจะกลับมา"เฉินโจวพูดกับย้งยี้

 

             "ท่านจะไปใหน"ย้งยี้ถามด้วยความกังวล

 

             "ไปเอายาถอนพิษ"

 

           พูดจบเฉินโจวก็ตีฝ่ากองทัพทหารด้วยความเร็ว

 

             พวกย้งยี้รีบขึ้นไปบนชั้นบนสุดของจวน

 

 

 

              "พี่เอ้อหลัน พี่ต้ากงอ้วง" เซียงหลันร้องดีใจเมื่อพบคนทั้งสอง

 

             "ศิษย์พี่ล่ะ"เอ้อหลันถามหาเฉินโจว ย้งยี้จึงตอบด้วยความลำบากใจ

 

 

 

             "เขาเสี่ยงตายออกไปเอายาถอนพิษมาให้เทียนเล่ย เขาจะหาจากใหนได้กัน"

 

 ย้งยี้ร้องให้ออกมา

 

             "เจ้านั่นไม่เคยทำอะไรสิ้นคิดถ้าบอกว่ามีมันก็ต้องมีเชื่อใจเจ้านั่นเถอะ"

 

  ต้ากงอ้วงกอดอกพูดด้วยความมั่นใจ

 

              "แล้วเราจะหนีได้ยังไง"

 

คำถามของเอ้อหลันทำเอาทุกคนเงียบไป

 

 

 

           หม่าย่งให้เห็นทหารกองหนึ่งผิดสังเกตุ  เห็นเฉินโจวตีฝ่าเข้ามา จึงตกใจในความบ้าบิ่น

 

 

 

          เพลงดาบใบใผ่สังหารคนอย่างบ้าคลั่งจนทหารไม่กล้าเข้ามาไกล้ เฉินโจวจึงกระโดดเข้ามาหาหม่าย่งให่ ร่างของเขาแดงไปด้วยเลือดศัตรู

 

 

 

          "ข้าบอกแล้วเจ้าต้องเจอกับข้า" 

 

 คำพูดของเฉินโจวทำให้หม่าย่งให่หวาดหวั่น แต่หม่าย่งให่ยังพุ่งเข้ามาพร้อมอาวุธอาบยาพิษ

 

           "แค่โดนนิดเดียวเจ้าก็ตายแล้ว" หม่าย่งให่ใช้เพลงเตะพลายกระซิบ แต่เฉินโจวหลบได้อย่างรวดเร็ว

 

            "เจ็กหลงคนเดียวยังน่ากลัวกว่ากองทัพเจ้า"

 

ท่ามกลางความตะลึงของหม่าย่งให่เฉินโจวตัดเท้าของมันออกในพริบตา แล้วรับไว้ในมือ

 

 

 

       "เจ้าแห่งพิษตายเพราะพิษน่าสนใจใหม "

 

       "อย่า" หม่าย่งให่ไม่ทันร้องขอชีวิตเฉินโจวก็เอาอาวุธอาบยาพิษที่ติดกับเท้าของหม่าย่งให่ แทงเข้าหน้าอก

 

       พิษออกฤทธิ์ หม่าหย่งให่กระอักเลือด เขารีบซอกหาอะไรบางอย่างในเสื้อ

 

       "ยา ยา ยาถอนพิษ" 

 

   หม่าย่งให่ล้วงมันออกมายังไม่ทันกิน เฉินโจวก็สับข้อมือมันออกแล้วรับเอาไว้เขาแกะเอายาถอนพิษมา  

 

  ตำแหน่งพิษจากแผลโดนจุดสำคัญบวกกับเสียเลือดมาก หม่าย่งให่สิ้นใจด้วยอาการเลือดออกจากทวารทั้งเก้า

 

 

 

          ตูม เสียงทหารใช้ปืนใหญ่ระดมยิงเข้าไปในจวน เฉินโจวเห็นท่าไม่ดีจึงทะยานข้ามหัวทหารไปด้วยวิชาตัวเบา พลธนูยิงตามเขาเป็นห่าฝน

 

 

 

     ชั้นบนสุดถูกทำลายแหว่งไปครึ่งหนึ่ง หวังต้าฟุถูกระเบิดเหลือครึ่งตัวตายอนาถเหมือนกัน

 

 

 

                      ย้งยี้เห็นเฉินโจวปีนบันไดขึ้นมาก็ดีใจ

 

         "ท่านจอมยุทธ"

 

      แต่แล้วทุกคนก็ยิ้มไม้ออกเมื่อเฉินโจวมาพร้อมลูกธนูหนึ่งลูกที่ทะลุท้อง

 

 

 

          "ถ้ายังอยากดูจุดจบของตัวเองพร้อมกันในภพนี้ให้เขากินยานี่ซะ"

 

       เฉินโจวโยนยาถอนพิษให้แล้วล้มลงหมดแรง

 

           "ศิษย์พี่"เอ้อหลันรีบวิ่งไปช่อนตัวไว้

 

 

 

     เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง แต่โชคดีที่มันไม่ถูกอาคาร

 

         "เซียงหลันไปใหน" ย้งยี้ร้องหาเมื่อมองไปทางใหนก็ไม่เจอ 

 

 เซียงหลันปีนขึ้นไปบนหลังคา พร้อมกระบี่ ต้ากงอ้วงรีบขึ้นไปตาม

 

         

 

          "ทำอะไรของเจ้าน่ะ ลงมาหาข้านี่"

 

 ต้ากงอ้วงตะโกนเรียกฝ่าเสียงอื้ออึงของทหาร

 

 เซียงหลัน ยิ้มหวานให้ต้ากงอ้วงจนเขาแปลกใจ

 

 

 

            "ถ้ามันไม่ได้ผล ข้าก็โชคดีที่ได้เจอเนื้อคู่ของข้าแล้ว"

 

เซียงหลันชักกระบี่ออกชูขึ้นท้องฟ้าที่มืดสนิท น้ำตานางไหลออกมาเป็นสาย

 

      "ถ้าเจ้าเป็นอาวุธวิเศษของหลวงจีนรูปนั้นจริงจงฟังคำขอของข้าผู้เป็นนายเจ้า "

 

ทุกคนบนจวนนั้นมองเซียงหลันด้วยความตะลึง

 

        "ช่วยแสดงอิทธิฤทธิ์ของเจ้าอีกครั้งทำให้สงครามหายไปซะ"

 

                 เซียงหลันตะโกนสุดเสียง ทันใดนั้น กระบี่ก็ส่องแสงจ้า และน้ำตามังกรในกล่องไม้ของเอ้อหลันก็ส่องแสง

 

 

 

          "อ๊ะ น้ำตามังกร"

 

 

 

 เมื่อแสงจ้าหายไป เหล่าทหารที่มองดูปากฏการ์ณก็ทิ้งอาวุธเดินเข้ากอดกันเหมือนเป็นมิตร     ทุกคนบนจวนมองแล้วยิ้มโล่งใจ 

 

 

 

        แต่ทันใดนั้น

 

 

 

 ทหารที่กอดกันเกิดบ้าคลั่งกัดกินกันและกันเองอย่างอเร็ดอร่อยด้วยความป่าเถื่อน ท่ามกลางความตะลึงของทุกคน     ต้ากงอ้วงรีบกระโดดฉุดเซียงหลันลงมาปิดตานางไว้

 

 

 

ทหารกัดกินกันไปมาจนเนื้อแหว่งเหลือแต่กระดูกก็ยังกัดกินกันไปเรื่อยๆ เป็นเวลานานหลายเพลา   จนเสียงโหยหวนหายไปตอนไกล้ย่ำรุ่ง

 

 

 

 เงียบสงัด ทุกคนลงมาจากจวน เทียนเล่ยที่พึ่งได้สติถามว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ไม่มีใครพูดถึง

 

 

 

ทั้งหกคนออกมาจากเมืองหลายลี้ จึงพักเหนื่อย เฉินโจวหักเอาลูกธนูออกมาดีที่ไม่โดนจุดสำคัญเลย

 

 

 

           "กระบี่นั่นคืออาวุธน้ำตามังกรจริงๆ"

 

 เอ้อหลันพูดเสียงอ่อยๆ 

 

            "ทำใมกัน"

 

  เฉินโจวเดินมาหาเปิดดูน้ำตามังกรที่ตอนนี้หยุดเรื่องแสงแล้ว

 

            "ข้าว่าน้ำตามังกรชักนำให้เราพบพวกมัน"

 

  เฉินโจวพูดเข้าทีทำให้ต้ากงอ้วงตบมือนึกออก

 

             "เจอแต่เรื่องร้ายๆและรุนแรง คิดจะขัดขวางการเดินทางของพวกเราหรือไงกัน"   ต้ากงอ้วงหยุดพูดเมื่อทุกคนจ้องตาเขม็ง

 

             "เอ่อข้าถอนคำพูดก็ได้"

 

 

 

            ทั้งสามคนกล่าวลาย้งยี้ เทียนเล่ย และเซียงหลัน

 

 

 

          "ขอบคุณพวกท่านมาก โดยเฉพาะท่านนะ ต้ากงอ้วง"เซียงหลันหน้าแดง

 

 

 

          "ตอนนั้นข้าพูดอะไรแปลกๆออกไปหรือเปล่า บนหลังคาน่ะ"นางก้มหน้าหลบสายตา   "และก็ขอบคุณมากที่ฉุดข้าลงมาจากที่นั่น"

 

 

 

          "เรื่องเล็กน่า ต่อไปพวกเจ้าก็ดูแลกันให้ดีๆ เจ้าก็ระวังในการใช้เจ้านั่นหน่อยก็แล้วกัน"ต้ากงอ้วงบอกกับเซียงหลันนางพยักหน้าอย่างว่าง่าย

 

 

 

           "ตอนนี้เซียงหลันก็อายุสิบสามแล้วอีกสามปีก็โตเป็นสาวต้องสวยแน่ๆ เจ้าจะหมั้นไว้ก่อนใหม"ย้งยี้พูดกับต้ากงอ้วง เขากับเซียงหลันหน้าแดง

 

 

 

            "บ้า พูดอะไร"ทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกันจนทุกคนหัวเราะ

 

 

 

 

 

  หลังจากพวกเอ้อหลันเดินทางไปครอบครัวเล็กๆก็ได้ถือกำเนิดขึ้น  

 

 วันนี้เทียนเล่ยกลับจากไรเข้ามาในบ้านก็เห็นเซียงหลันใส่ชุดพิธี และย้งยี้นั่งอยู่ 

 

เซียงหลันรำดาบไปมาแล้วก็วางไว้บนมือของย้งยี้

 

               "ดึงมันสิเทียนเล่ย มีแต่เจ้าเท่านั้นที่ไม่ได้ลองกับข้าเจ้าคงรู้สึกค้างคาใจตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว" ย้งยี้พูดด้วยรอยยิ้ม

 

 

 

       เทียนเล่ยยกมันขึ้นมาแล้วนำมาคืนให้เซียงหลัน

 

           "ความรักของข้าเป็นสิ่งมีค่าเกินกว่าของวิเศษใดในโลกจะคาดการได้"

 

 คำพูดของเทียนเล่ยทำให้ย้งยี้หลั่งน้ำตานางลุกขึ้นมากอดเขาไว้

 

            "ดีแล้ว มีแต่เจ้าเท่านั้น ที่ข้าไม่ต้องการเสี่ยงทายใดๆเลย"

 

              หลังจากนั้นความสุขเล็กๆเกิดขึ้นที่นี่

 

 

 

แสงตะวันพ้นขอบฟ้า คืนนี้ก็เป็นคืนจันทร์เพ็ญอีกคืน  และเวรตักน้ำของต้ากงอ้วงก็มาถึงอีกครั้ง

''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา