Last Chance

9.3

เขียนโดย waenprin

วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 15.25 น.

  4 session
  0 วิจารณ์
  6,652 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557 22.18 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

3) The End

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เพียงอึดใจ...เขาเห็นเงาแวบๆในมุมหนึ่งข้างหลังร้าน สัญชาตญาณอันดีเยี่ยมของเขาบอกได้ทันทีว่าเงานั้นเป็นของใคร ก็จะไม่ให้รู้ได้ยังไงล่ะ ในเมื่อเงาของผู้ชายตัวสูงใส่หมวกแก๊ป และสะพายเป้ไว้กับตัวตลอดก็มีหมากคนเดียว!

หึ...คิดว่าจะหนีฉันพ้นเหรอ...ยังไงวันนี้เราก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง!

ว่าแล้วณเดชน์ก็วิ่งเข้าไปตรงจุดที่เขาเห็นเงานั้น ทว่าเมื่อก้าวเข้าจุดๆนั้น กลับไม่มีแม้เงาของหมาก เขาหนีไปอีกแล้ว...

เล่นตัวนักนะ...กลับไทยเมื่อไหร่เจอดีแน่...

"ณเดชน์"
เขาหันขวับไปตามเสียงเรียก หวังว่าจะเป็นคนที่ตามหาอยู่ แต่ไม่ใช่เลย เสียงเรียกนั้นเป็นของบอยต่างหาก เขารู้สึกผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก แอบท้อ แต่อีกใจก็บอกให้ฮึดสู้ ต้องตามหาหมากให้จงได้
"นายมาทำไม" ณเดชน์ถามด้วยน้ำเสียงอย่างคนกำลังโกรธ มือสองข้างถูกกำแน่นจนเห็นเส้นเลือดผุดออกมา
"ฉันมาหานาย..."
"ไม่จำเป็น" ณเดชน์พูดขัดทันทีอย่างไร้เยื่อใย "นายไปเถอะ"
"..."
"ขอให้ฉันได้อยู่คนเดียวเถอะ" คำพูดของเขาดูเหมือนจะเป็นการขอร้อง หากในใจไม่ใช่ เขาแค่อยากอยู่ให้ห่างจากบอยเท่านั้น
"ขอโทษ..."
"ไม่เป็นไร"
"ไม่ใช่...ฉันหมายถึงเรื่องนั้น" บอยพูดเสียงเศร้า
"พอได้แล้ว!!!" ณเดชน์ตะคอกกลับ "จะไปไหนก็ไป!"
"ฟังฉันก่อน" บอยอ้อนวอน "นะ...ได้ไหม..."
"ฉันไม่อยากเห็นหน้านายอีก ไป!!!"
"..."
"และถึงฉันจะรักนาย แต่ฉันก็ไม่อยากเจ็บอีก...ไม่อยากทำให้อีกคนต้องเสียใจ...เพราะฉัน..."
"..."
"เราอย่าเจอกันอีกเลย..."
"แต่ฉันรักนาย รักมากนายมากนะ!" บอยสวนกลับทันควันอย่างอดกลั้นใจ "รัก...ทั้งๆที่ฉันก็รู้ว่าเขาไม่ได้รักฉันแล้ว รัก...ทั้งๆที่ก็รู้ว่าคนๆนั้นทำให้ฉันเจ็บ รัก...ทั้งๆที่รู้ว่าเขาไม่มีวันกลับมาหาฉัน ทั้งๆที่รัก...แต่ฉันก็ยังทิ้งเขาไป ฉันทิ้งเขาได้ลงคอ...ได้อย่างไร..." ประโยคสุดท้ายบอยพูดด้วยเสียงอันแหบพร่าและสั่นเครือ
"เรื่องของเราจบตั้งแต่วันนี้!!!"
"เดี๋ยวก่อน!!!"
"เอาเป็นว่าฉันเกลียดนายตั้งแต่วันนี้!"
"..."
"ชาตินี้ชาติไหน ขออย่าได้เจอกันอีกเลย!!!"
จบประโยคณเดชน์ก็วิ่งออกไปอย่างไร้จุดหมาย ปล่อยให้บอยยืนหน้าเศร้าอย่างเคว้งคว้าง เขาสำนึกผิดแล้ว ตอนนี้เขารู้แล้วว่าณเดชน์สำคัญมากแค่ไหน แต่ณเดชน์...ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาอีกแล้ว....หมดแล้วความรู้สึกดีๆที่มี

'ชาตินี้ชาติไหน ขออย่าได้เจอกันอีกเลย!!!'
....นี่หรือคำบอกลา...ช่างเจ็บปวดนัก...
จากนี้เราคงจะไม่ได้เจอกันแล้วสินะ...

เขารู้...เขาผิด
ที่ทิ้งณเดชน์ไป....
ผิด...ที่ไม่เคยเห็นความสำคัญ
ผิด...ที่ไม่เคยทำอะไรหวานๆซึ้งๆให้
ผิด...ที่ไม่สามารถทำให้ณเดชน์มีความสุขได้อย่างเท่าที่ควรจะเป็น
และเขาผิด...ที่พูดจาแรงๆออกไป ทั้งๆที่เขาเป็นฝ่ายผิด

บอยคุกเข่าลงกับพื้นที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอันหนาวเหน็บ เพราะตอนนี้ความหนาวของหิมะไม่ผลต่อร่างกายของเขาแต่อย่างใด เขาเอามือสองมือบังใบหน้า ที่บัดนี้มีน้ำอุ่นๆใสๆไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ เขาไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่เหลือ...แม้แต่โอกาสสุดท้าย โอกาสที่จะกลับมาทำให้คนรักมีความสุข

รักครั้งนี้...เจ็บไปอีกนานทีเดียว...

ราวกับทองฟ้า ใบไม้ และธรรมชาติรอบตัวจะไม่เป็นใจด้วย เมื่อจู่ๆก็มีลมพัดเย็นๆเข้ามาให้ความหนาวเพิ่มพูน ฟ้าที่เคยสดใส ปกคลุมไปด้วยเมฆสีขาวน่าชื่นชมและหมอกจางๆ ณ ตอนนี้เปลี่ยนสีเป็นเทาเข้ม เหมือนฝนจะตก ให้บรรยากาศเข้ากับคนรักคุดเสียจริง...เสียงเพลงอกหักดังอยู่โดยรอบ มันจะมาจากไหนไม่สำคัญ แต่ความหมายของมัน...ตอกย้ำเขาให้ชอกช้ำเป็นที่สุด

"จะลุกขึ้นยืนประกาศ ว่ารักเธอ
ให้ทุกคนได้ยินได้ฟังว่ารักเธอเพียงใด
จะคอยตั้งนาฬิกาและโทรปลุกตอนเช้าให้เธอชื่นใจ อยู่ทุกๆวัน
จะมีของขวัญชิ้นใหญ่ฝากให้เธอ
แม้ไม่ใช่วันเทศกาลที่เขาให้กัน
จะทิ้งงานอันมากมาย ใช้เวลาที่หายไปกับเรื่องไม่สำคัญ อยู่ข้างๆเธอ
เป็นเรื่องดีๆที่ยังไม่เคยได้ทำจนวันนี้
มารู้สึกตัวก็ตอนนี้ ที่เธอไม่มีใจ
อยากจะฟังสักครั้ง มันก็ยังมากไป
ยิ่งฟังยิ่งเลวร้ายลงทุกที
เป็นเรื่องดีๆที่ไม่เคยทำเลยสักครั้ง
ทั้งๆเธอทำในวันนั้น เธอคงรักฉันมากมาย
ล่วงเลยมาถึงวันนี้ ฉันเข้าใกล้เธอไม่ได้
เรื่องดีๆที่ทำไหว และไม่สายไป
...คือต้องไปจากเธอ..."

---------------------------------------
----------Nadech's----------
ผมรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย...

แต่ผมเลือกแล้วว่าจะต้องเป็นหมากเท่านั้น เหตุผลน่ะเหรอ หนึ่งคือ ผมไม่สามารถกลับไปรักคนที่ทำร้ายผมขั้นรุนแรงได้อีก สองคือ ผมหมดรักเขาแล้ว เราสองคนแตกหักกันเกินกว่าที่จะเป็นได้แม้เพื่อนกัน สามคือ ผมรักหมาก สี่คือ ผมรักหมาก ห้าคือ ผมรักหมาก...ต่อให้พูดเหตุผลอีกกี่ร้อยข้อ หลังจากข้อสองไป ทุกๆข้อคืออย่างเดียวกัน นั่นคือ 'ผ ม รั ก ห ม า ก'

...รักเขาคนเดียว...
คนเดียวเท่านั้น
หมากเท่านั้น...
เขาคือ 'The one and only one' ของผม

ผมจะต้องหาเขาให้เจอและอธิบายเรื่องราวทั้งให้ฟัง แม้จะต้องพลิกแผ่นดินอีกกี่ผืน ผมก็ยอมทั้งนั้น ขอเพียงอย่างเดียว อย่าให้มันสายเกินกว่านี้เลย...

ผมมองซ้ายขวาอยู่เป็นระยะ ด้วยหวังว่าหมากจะซ่อนอยู่แถวๆนี้ ทว่า ไม่มีแม้แต่เงา ถ้างั้นเงาที่ผมเห็นนั้นคือใครล่ะ? เขาแน่ๆ ต้องเป็นเขาแน่ๆ แต่ตอนนี้นายหายไปไหนนะ

นายหลบฉัน...เพื่ออะไรกัน
นาย...หนีฉันทำไมนะ

ผมยังคงวิ่งวุ่นตามหาหมากอย่างไม่ลดละความพยายาม แน่สิ ผมรักเขานี่นา รักมากด้วย ยังไงก็ต้องหาให้เจอ! แต่นี่ก็แทบทั่วเมืองแล้วนะ ทำไมยังไม่เจออีก โอ๊ย เครียด! ทำไมชอบทำตัวแบบนี้นะ จู่ๆก็โผล่มาให้เห็นแวบๆ จู่ก็หายไปอย่างไร้วี่แวว เฮ้ออออ คนเขาเป็นห่วงนะ รู้ไหม...

---------------------------------------
หมากกำลังต่อแถวซื้อตั๋วขึ้นรถไฟรอบสุดท้ายอย่างเก้ๆกังๆ ที่นี่ที่ไหน? เขาไม่เคยมา และไกด์ส่วนตัวก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว เขาอยู่เพียงคนเดียวจริงๆหรือนี่?

ทริปนีี้เขาตั้งใจจะให้เป็นช่วงเวลาที่ดีของกัน แต่ไม่เลย...เขาไม่น่ามาสวิสเซอร์แลนด์เลย หรืออาจจะมาได้ แต่เขาไม่น่าเลือกสถานที่ให้เป็นโลซานเลย เขาทำใหณเดชน์หวนคิดถึงอดีต และฟ้าเบื้องบนก็เล่นตลกอะไรก็ไม่รู้ให้ 'รักเก่า' ของณเดชน์ยังอยู่ที่โลซาน... และก็คงเป็นฟ้าอีกนั่นแหละที่กลั่นแกล้งให้เขาสองคนมาทานอาหารร้านนี้

ฟ้าหนอฟ้า...จะแกล้งกันไปถึงไหน...?

เขาพลาด...เขาโทษตัวเองในใจด้วยความหม่นหมอง

ฉันขอโทษ ฉันคิดถึงนาย นายกลับมาหาฉันเถอะนะ ได้โปรด...

กลับมาเถอะ...ฉันรักนาย...

หมับ!

หมากตาโตด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆก็มีคนวิ่งเข้ามาจับแขนเขาตอนกำลังซื้อตั๋วพอดิบพอดีอย่างไม่ทันตั้งตัว แล้วเขาก็กล่าวขอโทษรัวๆเป็นภาษาอังกฤษกับคนขายตั๋ว ก่อนจะพาหมากออกมาจากแถวซื้อตั๋วและฝูงชนแถวนั้น แม้จะยังงงไม่หายกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะมันเร็วมาก แต่ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าคนที่วิ่งมาจับมือเขาคือใคร

คนที่เขากำลังคิดถึงอยู่ไงล่ะ!

"นายคิดจะทำอะไร" ณเดชน์ถามเมื่อพาหมากออกมาจากสถานีแล้ว
"เรื่องของฉัน" หมากตอบด้วยน้ำเสียงโกรธๆ หันหน้าไปอีกทาง "แล้วจะมาทำไม"
"มาหานาย" ณเดชน์ให้คำตอบอย่างจริงใจที่แม้จะไม่มีในน้ำเสียง หากมีในใจชัดเจน แต่ก็ไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายลดความทิฐิลงมาได้แม้แต่นิด
"กลับไปเถอะ" หมากไล่อย่างไร้เยื่อใย ไม่สิ เขายังมีเยื่อใยอยู่...แต่ด้วยความโกรธมากกว่า...
"ไม่ จนกว่านายจะยกโทษให้" ณเดชน์ยังไม่ลดความพยายาม "ฟังที่ฉันพูดก่อน"
"ไม่อยากฟัง" หมากกระแทกเสียง "ดูปากฉันนะ ฉัน-ไม่-อยาก-ฟัง-อะไร-ทั้งนั้น" ย้ำเสร็จก็ลุกทันที แต่คนตัวโตกว่ามือไว ดึงแขนเขาให้นั่งลงอย่างเดิม
"ไม่อยากฟังก็ไม่อยากฟัง แต่นายบอกฉันได้ไหมว่าทำไมนายถึงหนีฉัน" เขาถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เอื้อมมือมาโอบไหล่กว้างของหมากอย่างเอาใจ (นายหมากไม่ขัดขืนเสียด้วยสิ -_-^)
"ไม่ได้หนี"
"แล้วที่ทำอยู่เขาไม่ได้เรียกว่าหนีหรอกเรอะ" คำพูดของณเดชน์ทำให้หมากอดไม่ได้ที่จะหันมาค้อนขวับ ก่อนจะกลับไปอยู่ในโหมดโกรธเช่นเดิม "ยังปากแข็งเหมือนเดิมเลยนะ หึ"
"ฉันให้เวลานายห้านาที จะพูดก็พูดมา"
"นายโกรธฉันเรื่องอะไร" ณเดชน์กลับสู่ประเด็นเดิม
"นี่ไม่รู้จริงๆหรือว่าแกล้งไม่รู้กันแน่"
"ก็พอจะรู้ล่ะนะ แต่ฉันอยากรู้จากปากนายเองมากกว่า"
"นายโกหกฉัน" คำตอบของหมากทำให้ณเดชน์ชะงักกึกด้วยความรู้สึกผิด "เรื่องไม่เคยมีแฟน"
"ขอโทษ..." ณ ตอนนี้คงไม่มีคำใดที่จะพูดนอกจากคำๆนี้แล้วล่ะ
"ทั้งๆที่นายก็รู้ว่าฉันเกลียดคนโกหก"
"ฉันก็ไม่ชอบคนโกหกเหมือนกัน"
"แล้วนายโกหกทำไม!?!" หมากสะอื้นกลั้นน้ำตาอย่างเงียบๆ เพราะไม่อยากให้คนข้างๆเห็นน้ำตาของตน ตีหน้าขาของอีกฝ่ายดังป้าป แต่ณเดชน์ก็รู้ว่าหมากกำลังร้องไห้ในใจ...
"เพราะ...เอ่อ...เพราะฉันไม่อยากให้นายรู้อดีตของฉัน"
"พูดเหมือนเคยเป็นโจรงั้นแหละ"
"เพราะฉันรักนาย เลยไม่อยากให้รู้ไงล่ะ" ณเดชน์ยิ้ม ลูมผมของหมากอย่างเอ็นดูต่อความงี่เง่าของคนข้างๆ

น่ารักชะมัด...เขาชมอีกฝ่ายในใจด้วยความรัก

"คนบ้า รักแล้วมาทำให้เจ็บทำไมเล่า" หมากหัวเราะทั้งน้ำตา "จะไปไหนก็ไปเลย!" หมากพยายามสะบัดมือณเดชน์ออก
"นั่นเป็นเพราะฉัน 'ไม่รู้' ต่างหาก" ณเดชน์ให้คำตอบ "ขอโทษนะ"
"รู้แล้ว เลิกพูดได้แล้ว" หมากพูดเสียงอู้อี้เหมือนเด็กๆกลบเกลื่อนความเขิน ต้องยอมรับว่าเขาแพ้ลูกง้อของณเดชน์จริงๆ
"ยกโทษให้ฉันแล้วสิ"
"อือ -///- ถามมากเดี๋ยวก็โกรธอีกรอบหรอก" พูดไปงั้นแหละ เอาเข้าจริงก็ไม่เคยทำได้เลย เขาเป็นคนโกรธง่ายหายง่าย มีครั้งนี้แหละที่หายยากเพราะความเล่นตัวนิดๆ (ย้ำ เล่นตัว -O-) แต่มันก็น่าโกรธจริงๆนี่นา
"เด็กน้อยเอ๊ย ฮ่าๆๆ" ณเดชน์หัวเราะร่า อมยิ้มกับการพูดแก้เขินของหมาก
ปั้ก! หมากโยนกระเป๋าเป้หนักๆของตนเข้าที่หน้าของณเดชน์อย่างด้วยความหมั่นไส้ กระหยิ่มยิ้มย่องด้วยความสะใจเล็กๆ
"เจ็บนะ \(-O-)/"
"สมน้ำหน้า แบร่ ! :p"
"นึกจะหายโกรธก็หายง่ายๆเลยนะ นายนี่"
"งั้นฉันโกรธต่อดีกว่า" หมากกอดอกพูด สะบัดหน้าไปอีกทางอย่างไม่จริงนัก
"ฉันไม่ง้อแล้วนะ"
"แบร์รี่..."
"อะไร อย่าบอกนะว่าจะโกรธต่อจริงๆน่ะ -_-"
"จะบ้าเหรอ! -O-" หมากหันมาแหวใส่
"เอ้า แล้วอะไรล่ะ"
"จะโกรธไหม ถ้าฉันจะขอให้นายเล่าเรื่องของนายกับบอย...เอ่อ...ฉันขอโทษ ถ้ามันไม่ควร" สีหน้าของณเดชน์เปลี่ยไปเป็นหม่นหมองทันที แต่ไม่กี่วินาทีต่อมาก็เปลี่ยนกลับเป็นสดใสยิ้มแย้มดังเดิม
"ได้สิ นายนี่ชอบคิดมากนะ"
"-_-^^^"
"ฮ่าๆๆ โอเคๆ ไม่แซวแล้วก็ได้" ณเดชน์หัวเราะร่วนกับท่าทางและสีหน้าของหมาก ก่อนจะเพ่งมองใบหน้าอันหล่อเหลาและขาวอย่างคนเหนือของอีกฝ่ายอย่างพิศวง "หน้านายเวลาโดนแซวนี่หล่อดีนะ ฮ่าๆๆ"
"ไอ้บ้า!!!" หมากแทบจะบีบคอณเดชน์ทันทีที่จบประโยค
"เราไปหาที่ดีๆคุยกันเถอะ ฉันรับรองว่าจะเล่าทุกรายละเอียดระหว่างฉันกับเขาให้นายฟังเลยล่ะ" ว่าแล้วก็จับมือหมากลุกขึ้น ทั้งยังสะพายเป้หนักๆให้อีกต่่างหาก เหมือนเขากำลังสื่อว่า จากนี้ไป ไม่ว่าจะเจออะไร เขาจะคอยอยู่เคียงข้างและแบกรับภาระนั้นไปด้วยกัน...

คนที่ดีกว่านาย ฉันจะหาได้จากที่ไหนอีกนะ? คำตอบคือ ไม่มีเลย เพราะนายดีที่สุดสำหรับฉัน ขอบคุณนะ...หมากตั้งคำถามและตอบเองในใจ

---------------------------------------
----------Mark's----------
อากาศเริ่มเย็นลงแล้ว บรรยากาศมืดลงเรื่อยๆด้วยตอนนี้คือหน้าหนาว หลังจากที่เดินหาที่ที่เหมาะสำหรับคืนนี้มาหลายชั่วโมง(เว่อร์) ในที่สุดเราก็เจอครับ สถานที่แห่งนี้ผมอยากจะแนะนำมากๆครับ -_- บรรยากาศรอบข้างสวยงาม มองไปทางไหนก็เจอแต่ธรรมชาติสวยงามยามค่ำคืนของสวิตเซอร์แลนด์ -_- ผมจะบอกให้ก็ได้ว่าที่ที่นั้นก็คือ 'พื้นที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ' หรือจะเรียกให้เข้าใจง่ายๆก็คือ 'ข้างทาง' นี่แหละครับ ผมว่ามันคลาสสิกดีนะ -_-^ แบบไม่ว่าจะหันซ้ายขวา เงยหน้าเงยหลังก็เจอแต่ธรรมชาติที่มีหิมะเย็นๆปกคลุมอยู่

เข้าใจว่าณเดชน์รักธรรมชาติ แต่ก็ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้มั้ง -_-++ นี่ถ้าแก้ผ้ากลางหิมะได้ก็คงทำไปแล้ว (ถ้านายกล้าน่ะนะ ._.)

พวกผมนอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นโดยใช้เป้ใบมหึมาของผมเป็นหมอน รู้สึกเสียวสันหลังวาบกับความเย็นของหิมะเพราะไม่มีผ้าห่ม ก็ณเดชน์เขาบอกว่า เราสองคนกอดกันอุ่นกว่าผ้านวมหนาๆอีกง่ะ ^_^ แล้วผมก็เชื่อเขาเนี่ยนะ (รู้สึกว่าคิดผิดอย่างแรง -_-*)

"นอนสบายมั้ย" ณเดชน์ถาม พับผ่าสิ! หนาวโว้ยยย หนาวววว~ +_+ แต่ความอยากรู้อยากลองมีมากกว่า ^O^ จะลองดูสักคืนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก (แต่แบบนี้ก็พิสดาร(?)ไป๊)
"ไม่ตอบแสดงว่าสบาย" เออครับ ให้คำตอบเองก็ได้ด้วย -_-||
"เล่ามาได้แล้ว" ผมทวงสัญญาที่เขาบอกว่าจะเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง
"เชิญรับฟังได้ครับ~"
แล้วเรื่องราวทั้งหมดก็ค่อยๆพรั่งพรูออกมาจากปากของณเดชน์
---------------------------------------
ณดชน์และบอยรู้จักสนิทสนมกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย แม้บุคลิกจะต่างกันคนละขั้ว แต่ก็เข้ากันได้อย่างเหลือเชื่อ เขาสองคนเป็นเหมือนฝาแฝด ไปไหนไปกัน จะให้กินนอนด้วยกันก็ยังได้ จนกระทั่งสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยก็เข้าที่เดียวกัน เพียงแต่ต่างคณะเท่านั้น

ทั้งสองคนโดนเพื่อนแซวบ่อยๆว่าทำตัวติดกันอย่างกับฝาแฝด บ้างก็ว่าเป็นแฟนกัน ทั้งคู่โดนเพื่อนแซวต่างๆนาๆ บ้างก็เชียร์ให้เป็นแฟนกัน นักเรียนหญิงถึงกับใช้คำว่า 'คู่จิ้น' ด้วยซ้ำ ณเดชน์และบอยไม่ไดคิดหรือซีเรียสกับเรื่องพรรค์นี้สักนิด เพราะชินแล้ว แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า ทั้งณเดชน์และบอยต่างก็หลงรักกันและกันมาตั้งแต่มัธยม

ความรักของทั้งสองเริ่มต้นขึ้นอย่างเงียบๆในใจของทั้งคู่ ต่างฝ่ายต่างเก็บเงียบไว้ในใจ ไม่ให้อีกฝ่ารู้ แต่ดูเหมือนว่ายิ่งเก็บความรู้สึกก็ยิ่งเปิดเผยออกมามากขึ้นทุกที

ในวันสอบสุดท้ายของเทอมๆหนึ่ง หลังสอบเสร็จบอยจึงชวนณเดชน์ไปทานข้าว และตัดสินใจบอกความในใจของตนให้อักฝ่ายรับรู้ โชคเข้าเขาเมื่อณเดชน์ตอบรับรักของเขา ทั้งสองจึงตกลงเป็นแฟนกันตั้งแต่วันนั้น

ความรักของสองหนุ่มจะไม่มีอุปสรรคอะไรเลยถ้าหากณเดชน์ไม่ชวนบอยมาเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ เขาหวังไว้ว่าจะสร้างความทรงจำดีๆระหว่างกัน แต่...จู่ๆวันหนึ่งของการมาเที่ยวบอยก็หายไปเสียดื้อๆ ณเดชน์ตามหาให้ควั่ก เรียกว่าแทบจะพลิกประเทศหาเลยก็ไม่ปาน เจออีกทีบอยก็กลายเป็นของชายอื่นไปเรียบร้อยแล้ว เขาไม่รู้ว่าเพราะบอยเมาหรือสมยอมกันแน่ เขารับไม่ได้ที่เห็นคนรักทำกับเขาแบบนี้ แม้บอยพยายามจะอธิบายสักเท่าไร เขารับฟังไว้ทั้งหมดแต่ไม่สามารถยอบรับสิ่งตรงหน้าได้จริงๆ หนำซ้ำหนุมฝรั่งที่บอยนอนด้วยก็บอกในสิ่งที่ตรงข้ามกับบอยทั้งสิ้น เขาเพียรคิดในใจ ตอกย้ำตัวเองในใจ ไหนว่ารักนักรักหนาไง แล้วที่เห็นอยู่นี่มันอะไรกัน อย่างนี้จะให้เขาทนอยู่ได้อย่างไรล่ะ

บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับคนที่ทุ่มเทความรักให้ใครสักคนมากๆอย่างเขาแล้ว ย่อมที่จะรับไม่ได้และตกอยู่ในสภาวะคิดหนัก ปะติดปะต่อเรื่องราวอะไรไม่ค่อยถูก แม้จะเชื่อใจกันมากแค่ไหน สุดท้ายแล้วก็ต้องจากกันทั้งๆที่ยังไม่ได้พูดหรืออธิบายอะไร

เหตุการณ์นี้ยังคงฝังใจตลอดการเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งสองต่างเมินเฉยต่อกัน ทำราวกับว่าไม่รู้จักกัน วันสุดท้ายของการท่องเที่ยวบอยตัดสินใจบอกลาณเดชน์ และบอกว่าเขาได้ยกเลิกตั๋วกลับไทยเรียบร้อยแล้ว เขาตั้งใจแล้วว่าจะอยู่ที่นี่ตลอดไป เพราะหากกลับไปยังไงก็ต้องจากกันอยู่ดี สู้อยู่ที่นี่เก็บความทรงจำไว้ในใจ รอให้เวลาเป็นเครื่องลบล้างสิ่งที่เขากระทำไปดีกว่า เขาคิดอย่างนั้น และณเดชน์ก็ไม่คิดที่จะขัดศรัทธา เพียงแค่บอกลาสั้นๆและเดินจากไปอย่างเงียบๆ แต่ในใจร้องไห้...

ในเมื่อเขาเลือกแล้วว่าจะให้เป็นแบบนี้...ก็ต้องปล่อยเขาไป...

ทั้งสองไม่ได้ติดต่อกันเลยตั้งแต่วันนั้น ต่างคนต่างมีชีวิตเป็นของตัวเอง ได้รับอิสระมากขึ้น แต่ต่างฝ่ายต่างก็ยังคิดถึงกันอยู่ ยังคงอาลัยอาวรณ์กันและกัน เมื่อหลายปีผ่านไปทั้งคู่ก็เริ่มทำใจได้ ไม่คิดหรือติดใจอะไรในอดีต ให้มันเป็นประสบการณ์หนึ่งที่ทิ้งเอาไว้ข้างหลัง และเริ่มต้นใหม่กับชีวิต

จนณเดชน์ได้พบหมากนั่นแหละ เขาถึงรู้ว่าเขาลืมเรื่องบอยไปแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆเมื่อรู้ว่าหมากชวนมาสวิตเซอร์แลนด์ เขาคิดหนักอยู่เหมือนกันว่าถ้าเจอบอยจะทำอย่างไร คิดหนักว่าหรือแท้จริงแล้วเขายังลืมบอยไม่ได้ แต่หมากเข้ามาช่วยเติมสีสันในชีวิต ทำให้เขามีความสุขมากขึ้น เขาเลยนึกว่าลืมไปแล้ว แต่ไม่เลย เขาลืมไปแล้วก็จริง แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่เขายังกลัวและลืมไม่ลง

เขากลัวที่จะเผชิญหน้ากับบอย จะด้วยเหตุสุดวิสัยหรืออะไรก็ตาม และที่เขาลืมไม่ลงก็คือประเทศสวิตเซอร์แลนด์แห่งนี้ยังไงล่ะ ที่แห่งนี้ยังคงมีร่องรอยความทรงจำของเขาและบอยหลงเหลือ แม้เป็นส่วนหนึ่งจะเป็นความทรงจำดีๆ แต่ก็เจ็บปวดทุกทีที่คิดถึงมัน เขายอมรับว่าเขาหนีปัญหา แค่แต่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าสักวันก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน แค่ขอเวลาทำใจอีกนิด...

วันนี้...ฟ้าเล่นตลก...นำพาให้สอง(อดีต)เพืี่อนรักต้องมาเจอกันพร้อมกับความกลัวในใจของทั้งคู่ ณเดชน์พยายามทำตัวให้ปกติที่สุด แต่สมองกลับสั่งว่าเขาต้องตามบอยไปทั้งๆที่ไม่อยากเจอ กลัวว่าจะต้องมีปากมีเสียงกันอีก

เป็นอย่างที่เขาคิด ณเดชน์และบอยทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนคนที่อยู่ในเหตุการณ์ถอยกรูดออกมากันหมด และบังเอิญที่หมากได้ยินทั้งสองทะเลาะกัน ด้วยความเป็นห่วงณเดชน์มากจึงวิ่งตามเข้าไป และก็เจอแจ็คพอตเข้าให้...

---------------------------------------
"เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้แหละ" ณเดชน์จบเรื่องของเขาเพียงเท่านี้โดยเว้นตอนที่เขาวิ่งตามหาหมากเอาไว้ แต่ก็หมากไม่วายอยากรู้จึงถามออกไป
"แล้วนายตามหาฉันเจอได้ยังไง"
"ไม่รู้ แต่เหมือนมีอะไรมากระซิบข้างหูว่านายกำลังหนีฉัน ฉันถึงตามไปที่สถานีรถไฟ แต่ก่อนหน้านั้นฉันวิ่งตามหานายจนทั่วเลย แต่ก็ไม่เจอ แต่สัญชาตญาณบอกว่านายยังอยู่ที่โลซาน และกำลังจะจากไป ฉันเลยรีบวิ่งไปที่สถานีรถไฟ โชคดีที่ตามไปทัน ไม่งั้นฉันก็คงจะตาย..." ณเดชน์เล่า เหม่อลอยมองไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างไร้จุดหมาย
"น่ารักจัง..." หมากยิ้มกว้าง ดีใจที่มีผู้ชายดีๆอย่างเขาเคียงข้าง "อะไรทำให้นายตามหาฉัน"
"อยากได้คำตอบแบบไหนล่ะ -"-"
"ขอสามคำให้ฉันก็พอ..."
"ฟังดีๆนะ" ณเดชน์พูดพลางจับไหล่หมากด้วยสอง มองลึกลงไปในดวงตาของอีกฝ่าย ยิ้มนิดๆแล้วเอาหน้าเข้าไปใกล้ใบหูของหมาก กระซิบแผ่วเบา หากชัดเจนทุกถ้อยคำ "ฉัน...รัก...นาย"
">///<"
"ทีนี้ขอสามคำให้ฉันบ้าง : )"
หมากเอานิ้วแตะคาง ทำท่าประมาณว่ากำลังคิด จริงๆไม่ต้องคิดก็ตอบได้ทันที แต่เขาขอเล่นตัวนิดนึงละกัน ณเดชน์เหล่มองเคืองๆ

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา