เคยตัว

-

เขียนโดย iiai

วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 00.57 น.

  2 chapter
  0 วิจารณ์
  4,448 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 00.13 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) เคยไหม?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

          

 

     วันนี้ฉันลืมตาขึ้นมาพร้อมกับแสงอาทิตย์จ้าในเช้าวันหยุด ฉันพลิกตัวหันหลังกลับไปมองยังเตียงข้างๆ แต่พบว่าเจ้าของเตียงไม่อยู่ซะแล้ว ไปไหนกันนะ แต่เช้าเลย ฉันลุกขึ้นมานั่งบนเตียงขยี้ตาไปมาสองสามครั้ง

                “ตื่นแล้วเหรอ.....เค้าเสียงดังทำให้ตื่นหรือป่าว” เธออยู่ที่ระเบียงนี้เอง เธอเดินถือผักเข้ามาในห้องมากมาย พร้อมกับเอ่อทักฉัน

                “ไม่หรอก...ทำไรกินอ่ะ” ฉันถามกลับทั้งที่ยังนั่งอยู่บนที่นอน

                “อยากกินไร เดี๋ยวทำให้กิน”เธอหันหน้ากลับมาถามฉัน

                “เค้าเหรอ....อะไรก็ได้กินได้หมดแหล่ะ” พูดจบ ฉันก็ลุกออกจากเตียงเพื่อที่จะอาบน้ำ ยังไม่ทันได้เข้าห้องน้ำกลับโดนขัดขึ้นมาซะก่อน

                “จะอาบน้ำเหรอ...เดี๋ยวค่อยอาบมาชิมอันนี้ให้ก่อน” ว่ายังไม่ทันไรเธอก็ชุดมือฉันให้มานั่งลงด้วยกัน พร้อมกับตักซุปขึ้นมาให้ชิม ฉันรับมาแล้วชิมให้

                “.........”

               “เป็นไงอร่อยไหม โอเคยัง ขาดไรไหม” เธอถามอย่างตื่นเต้น

               “ไม่นะ ก็โอเคแล้วล่ะ อร่อยนะ”

               “งั้นเอาแค่นี้เนอะ” เธอหันมาพยักหน้าให้กับฉัน ฉันก็พยักหน้าตอบกลับไปเท่านั้น  ฉันกำลังจะลุกขึ้นไปอาบน้ำอีกครั้ง แต่ก็ถูกชุดแขนไว้ก่อน

               “มีไรป่าว เค้าจะไปอาบน้ำนะ” ฉันหันกลับไปถามด้วยความไม่เข้าใจ

               “ป่าวหรอก  คือ เค้าหิวแล้วอ่ะ  มากินข้าวก่อนแล้วค่อยอาบนะ”

               “เฮ้ย ได้ไง ยังไม่ได้ล้างหน้าเลยนะ” ฉันตอบกลับไป

               “หึ่ย...ถ้ารออาบเสร็จนะหิวตายพอดี ยิ่งอาบน้ำเร็วอยู่ด้วย ล้างหน้าก็พอนะ แล้วมากินข้าวกัน”  เธอพูดประชดฉันพร้อมกับบอกให้ฉันไปล้างหน้า

               “โอเค โอเค  ก็ได้ รอแป๊บนะ” เธอปล่อยแขนฉัน แล้วฉันก็เดินเข้าห้องน้ำไป

 

 

     หลังจากที่เรากินข้าวกันเสร็จแล้วเราก็ไม่ได้ออกไปไหน เพราะวันนี้เป็นวันหยุดส่วนมากในเวลาวันหยุดแบบนี้คนอื่นๆก็จะใช้เวลานี้ไปกับการพักผ่อนกลับบ้านบ้าง หรือบ้างคนก็ไปหาที่พักผ่อนหย่อนใจ ดูหนัง ไปเที่ยวบ้าง  แต่สำหรับเราสองคนแล้วการอยู่ในห้องเฉยๆก็ถือเป็นการพักผ่อนที่ดีอย่างหนึ่ง  เพราะบางอาทิตย์เรามีกิจกรรมกันเยอะจนแทบไม่ได้หยุด หรือไม่บางอาทิตย์ก็เรียนหนักต้องทำโครงการพิเศษก่อนจบทั้งอาทิตย์ไม่ได้หยุดเลยเหมือนกัน  ชีวิตและช่วงเวลาส่วนใหญ่ของเราเลยเป็นที่มหาวิทยาลัยเป็นส่วนมาก ห้องนี้ก็ใช้แค่กลับมานอน อาบน้ำแล้วก็ออกไปเท่านั้น

               “ไปให้อาหารปลาที่วัดกันไหม”  เธอที่นั่งอยู่บนเตียงหันมาถามฉันที่ยังเป่าผมอยู่

               “ตอนนี้เหรอ?” ฉันเช็ดผมต่อไปไม่ได้ทันหันไปมอง

               “บ่ายๆ ก็ได้แดดร้อน นะ”  แล้วเธอก็ลุกมาจากเตียงหยิบผ้าเช็ดตัวอีกผืน แล้วนั่งลงข้างหลังฉัน พร้อมกับพูดว่า

               “ทำแบบนี้แล้วเมื่อไรจะแห้งอ่ะ”  เธอเอาผ้าที่หยิบมาใหม่นั้นคลุมหัวฉันแล้วขยี้ไปมา ฉันเอามือลงและได้แต่นั่งเฉยๆ ให้เธอเอียงหัวไปทางโน้นทีทางนี้ที

               “ถามอะไรหน่อยได้ไหม”  หลังจากที่เงียบกันไปสักพักฉันก็เอ่ยคำถามนั้นขึ้นมากับเธอ

               “อืม...อะไรอ่ะ  นั่งเฉยๆสิ ถ้าเช็ดไม่แห้งเดี๋ยวเป็นหวัดนะ”  เธอยังคงตั้งหน้าตั้งตากับการเช็ดผมให้กับฉัน แถมยังดุฉันอีกด้วย

               “อืม   เค้าอยากรู้ว่าเวลาที่เรารู้สึกเป็นห่วงใครคนหนึ่งมากๆ  อยากอยู่กับเขาคนนั้นตอลดเวลา เวลาที่ทำอะไรด้วยกันแล้วรู้สึกดีมากๆ  บางทีเวลาเห็นเขาไปกับคนอื่นก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาไม่มีเหตุผล หรือบางครั้งอยากจะพูดอยากจะคุยด้วย แต่ก็ไม่กล้าที่จะพูด ได้แต่มองดูการกระทำของเขาคนนั้นไป เชื่อไหมจำได้เกือบทุกสิ่งที่เขาทำเลยนะ ความรู้สึกแบบนี้ เคยเป็นไหม”

               “เค้าเหรอ....อืมมม  แต่เอ๊ะ ทั้งหมดที่พูดมานี้ใครเหรอ ป๋าเป็นแบบนั้นเหรอ”  เธอหยุดเช็ดผมให้ฉันพร้อมนั่งลงในท่าเดียวกันหลังฉัน

               “ไม่มีอะไร  ก็แค่อยากรู้เฉยๆ  มีคนมาปรึกษาน่ะ   แล้วไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครเหรอ” 

               “คนที่รู้สึกแบบนี้กับคนคนนั้นได้ แสดงว่าเขาตกหลุมรักคนคนนั้นไปแล้วแน่เลย  สำรับเค้าเหรอ  ยังไม่มีนะช่วงเวลานั้นมันเลยมาแล้ว    แต่ถ้าคนที่เป็นห่วง และอยากไปไหนทำอะไรด้วยกันน่ะ...มีนะ”  เธอเงียบไปสักพัก ฉันที่อยากรู้คำตอบเลยหันหน้าไปข้างหลัง  แต่ก็ต้องตกใจกับใบหน้าเนียนๆที่ชะโงกมา ตาเล็กๆ ปากอมชมพู จมูกน้อยๆที่ใครๆบอกว่ามันไม่โด่ง ฉันกำลังกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ใบหน้าที่เห็นกันทุกวันตลอดสามปี  แต่ทำไมวันนี้มันสวยและน่าหลงใหลมากขนาดนี้  ฉันไม่รู้ว่าจ้องมองเธอไปนานเท่าไร  รู้สึกตัวอีกทีตอนที่เธอยิ้มให้จนตาแทบปิดแล้วบอกว่า

               “ก็ป๋าไงเพื่อนที่สนิทที่สุด รู้ใจมากที่สุด แถมยังเป็นผู้จัดการส่วนตัวอีก”  เธอพูดไปอมยิ้มไป  (ด้วยความที่เธอเป็นคนขี้ลืมวางของอะไรไว้ตรงไหนหาไม่เจอ จำไม่เคยได้  ฉันที่อยู่กับเธอต้องคอยบอกคอยเตือน และช่วยหาเป็นประจำ มันเป็นเรื่องปกติสำหรับเราไปแล้ว เวลาที่เธอหาอะไรไม่เจอเธอจะถามฉันก่อนเป็นอันดับแรก  เธอเลยยกให้ฉันเป็นผู้จัดการส่วนตัวไปอีกตำแหน่ง)  เพราะเธอลืม ฉันจึงจำ

               “อ่อ  อืม  เค้าว่าผมเค้าแห้งแล้วนะ”  ฉันรีบลุกขึ้นไปจะหยิบหวีที่โต๊ะ แต่กลับถูกมือเรียวนั้นรั้งไว้

               “ไม่ต้องเลย นั่งเฉยๆ  ผมยังไม่แห้งเลย เดี๋ยวเค้าเช็ดให้แห้งก่อนแล้วจะหวีให้”

               “ความจริงเค้าทำเองก็ได้นะ  เกรงใจป่าวๆ”

               “นั่งเฉยๆเถอะน๊า  อยากทำให้  ผมยาวแล้วนะ ความจริงป๋าไว้ผมยาวก็ดีออกนะเค้าว่า”  เธอยังคงทำหน้าที่ต่อไป

               “ไว้ยาวมากๆมันหนักหัวอ่ะ  เลยว่าจะตัด”  ฉันเป็นอะไรเนี๊ยะ ทำไมหัวใจยังไม่หยุดเต้นโครมครามสักที บ้า ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ

               “น่าเสียดายเนอะ ”  ฉันเห็นเธอเงียบไปจึงเอามือเอื้อมไปจับผ้าที่อยู่บนศีรษะ  แต่ไม่พบอะไร ไหนบอกจะเช็ดให้แห้งแล้วไปไหน  ฉันหันหลังกลับไปดูโดยไม่ทันระวังเธอที่เอื้อมมือไปหยิบหวีตรงข้างเตียงเลยทำให้ศีรษะเราโขกกัน 

               “โอ้ยย  เจ็บ”  เธอร้องออกมาพร้อมกับมือที่กุมหน้าผาก

               “เค้าขอโทษไม่ทันระวังอ่ะ  เจ็บมากไหม”  ฉันถามเธอทั้งที่ยังเอามือลูบผากตัวเอง

               “ไม่เป็นไรมากหรอก....ฮ่าๆ”  เธอหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี   “เราสองคนนี้ซุ่มซ่ามเนอะ”  พูดจบเธอก็หัวเราะต่อ

               “...........”  ฉันยิ้มให้กับท่าทีแบบนั้นของเธอ มันเป็นอะไรที่ไม่เบื่อเลยจริงๆเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน

 

 

 

 

@ วัด

                “เอาถังเดียวกันก็ได้เนอะ”  เธอบอกกับฉัน

                “อืม....ไปทางโน้นกัน”  ฉันเดินนำเธอมาม้านั่งข้างริมน้ำที่ทางวัดเตรียมไว้ให้

               

     เราให้อาหารกันไปเรื่อย คุยกันไป ดูชีวิตผู้คนริมแม่น้ำในเวลาแบบนี้  เราเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนก็จะจบกันแล้ว  ฉันได้แต่นั่งคิดถึงเรื่องนี้เพราะอีกไม่นานพวกก็ต้องแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง  ฉันเองก็คงต้องจากเธอไปและเธอเองก็คงต้องไปตามความฝันของเธอ  ฉันคิดไปพลางหันหน้าไปมองดูคนที่นั่งอยู่ข้างๆกัน  เธอจะคิดเหมือนกันกับฉันหรือป่าวนะ  อยากรู้จังว่าเธอจะรู้สึกแบบไหน และคิดอะไรอยู่

                “มองหน้าเค้าทำไมเหรอ  มีไรติดป่าว”  เธอเอียงศีรษะไปมา 

                “ป่าวไม่มีหรอก  ไม่มี”  ยิ้มไปให้กับเธอ

                “อ่าว...ก็เห็นจ้องหน้าแบบนั้น   แหน่  คิดอะไรกับเค้าป่าว”   เธอพูดทีเล่นทีจริง

                “คิดอะไร  อยู่ด้วยกันมาตั้งนานจะให้คิดไร”  ฉันอมยิ้มไปให้เธอ

                “เหรอ....นี้ในวัดนะ โกหกไม่นะค่า”   เธอแกล้งแซวฉัน  ฉันส่ายหัวเบาๆไปเท่านั้น  เวลาที่เป็นแบบนี้สุดก็เป็นฉันเองที่ยอมแพ้ให้กับเธอทุกครั้งไป

 

 

                แต่เธอจะรู้บ้างไหม?   ว่าฉันคนนี้กำลังจะหักหลังเพื่อนรักอย่างเธอ คนที่เธอไว้ใจมากที่สุด  สนิทมากที่สุด  คนคนนี้กำลังจะทรยศในความเป็นเพื่อนที่มีให้กันมาตลอดสามปีที่เจอกันวันแรกจนถึงวันนี้   ฉันมันคนทรยศหักหลังได้แม้กระทั่งคนที่ตัวเองเรียกว่าเพื่อนสนิท  ถ้าสักวันเธอจะรู้ความจริงนั้นบางทีเราอาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วก็เป็นได้  ถึงตอนนั้นเราอาจจะแยกย้ายกันไปแล้วก็เป็นได้  บอกตรงๆเลยว่าตอนนี้ฉันเริ่มไม่ไว้ใจตัวเองแล้ว  ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงกับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้  ฉันควรจะบอกเรื่องนี้กับเธอ หรือจะเก็บมันไว้แบบนี้โดยที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่เป็นอยู่มันจะใช่หรือไม่ใช่   แต่ไม่ว่าทางไหนฉันก็ไม่อยากเสียเพื่อนสนิทอย่างเธอไป  ฉันอยากมีเธออยู่เคียงข้างกันแบบนี้ไปนานๆ

 

               

 

 

 

               

               

               

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา