คำบอกลา

9.9

เขียนโดย ผอมสุด

วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20.20 น.

  6 บท
  5 วิจารณ์
  8,099 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 เมษายน พ.ศ. 2558 00.15 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

6) คำบอกลา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

...เพื่อนผมมาด้วยความสงสัย ว่าไอ้เรื่องตลกที่เรียกมาฟังมันคือเรื่องอะไรกันแน่ ผมสัมผัสได้ว่าเพื่อนซี้พอจะทราบถึงความไม่สบายใจที่ส่งผ่านออกมาทางน้ำเสียงของผม ตั้งแต่โทรคุยกัน...

“เออว่าไงวะ เรื่องตลกอะไรของมึง?” –เพื่อนถามผมในทันทีที่เจอ

“เรื่องเหมียวว่ะ เมื่อคืนวันลอยกระทงอ่ะ” –ผมเริ่มที่จะเอ่ยปากเสียงผมสั่นเล็กๆ ผมก็ไม่เข้าใจร่างกายตัวเองเหมือนกัน

...ผมเล่าปัญหาเรื่องน้องเหมียวให้เพื่อนฟังแบบละเอียด เพื่อนผมคิดตาม และสนใจในทุกคำพูดของผม เขาไม่อยากให้ผมเจอเรื่องแย่ๆแบบนี้ เขาแสดงออกถึงความเข้าใจในความรู้สึกผม และข้อมูลบางอย่างก็หลุดออกมาจากปากเพื่อน...

“กูจะบอกมึงตั้งแต่วันนั้นแล้ว นุ่มมันถามกูคืนที่เรานัดมีตติ้งกัน ว่าน้องเหมียวมีแฟนอยู่แล้วไม่ใช่หรอ ชื่อหนุ่ย?” –เพื่อนผมเริ่มเล่า น้องนุ่มคือเพื่อนสนิทของน้องเหมียว สมัยอยู่บริษัทขายตรง นุ่มเดินทางไปร่วมงานมีตติ้งที่ห้องน้องหนุ่ยด้วยในคืนนั้น

“ห๊ะ! คนชื่อหนุ่ยนี่เป็นพี่ชายเหมียวไม่ใช่หรอ? เหมียวบอกว่าหวงน้องสาวมาก และก็ชอบบอกคนที่มาจีบเหมียวว่าเป็นแฟนน้องเหมียว” –ผมเล่าข้อมูลในฝั่งของผมให้เพื่อนฟัง และรอคอยคำบอกเล่าและข้อมูลที่เพื่อนจะพูดด้วยใจจดจ่อ

“ไม่รู้นะเว้ย! แต่นุ่มบอกกูแบบนี้ว่าเหมียวเองเคยบอกว่ามีแฟนแล้วชื่อหนุ่ย” –เพื่อนผมยืนยันสิ่งที่น้องนุ่มบอกมา

...เมื่อผมได้ฟังข้อมูลจากเพื่อนสนิทแล้วทำให้ผมเห็นภาพอะไรมากขึ้น ผมต่อว่าเพื่อนเล็กน้อยที่ไม่ยอมบอกเรื่องสำคัญกับผม แต่ถ้าเป็นผมเองก็คงจะทำเช่นเดียวกัน เพราะข้อมูลที่ได้มาอาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ยังไม่รู้ขืนพูดออกไปอาจจะทำให้คนสองคนหวาดระแวงกันเปล่าๆ...

...ผมคิดทบทวนซ้ำแล้วซ้ำอีกในคืนนั้น และผมเลือกที่จะเชื่อข้อมูลจากน้องนุ่มที่เป็นเพื่อนสนิทของน้องเหมียว เป็นคำพูดของคนที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียจากเรื่องนี้ ถ้าไม่จริงน้องเหมียวต้องหาโอกาสโทรมาแก้ข้อกล่าวหากับผมอย่างเร็วที่สุด แทนที่จะหนีหน้าไม่ยอมรับโทรศัพท์ และไม่หาโอกาส หรือช่องทางอะไรก็ได้ติดต่อกลับมาหาผมเลย...

สามวันหลังจากคืนวันลอยกระทง...

...เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมเอื้อมมือไปขว้าโทรศัพท์ เป็นเบอร์โทรน้องเหมียว ผมสองจิตสองใจว่าจะรับหรือจะปล่อยมันไว้เฉยๆ ผมสอนตัวเองว่าเราควรจะเผชิญความจริง และลองดูคำอธิบายจากน้องเหมียวซะก่อน...

“ฮัลโหล..” –ผมใช้น้ำเสียงนิ่งๆหดหู่ๆในการรับโทรศัพท์สายนี้

“ฮัลโหล พี่ตั้มทำไมไม่โทรมาเลย...” –น้องเหมียวถามผม เป็นคำถามที่ผมแทบจะไปไม่เป็น แล้วผมจะตอบว่ายังไง ในเมื่อเธอทำอย่างกับไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย...

“พี่จะโทรไปได้ไง ก็เหมียวมีแฟนอยู่แล้ว...” –ผมคิดสักพักก่อนจะตอบประโยคนี้ออกมา และผมอยากฟังประโยคถัดไปของเธอ

“อะไรอ่ะ! เหมียวไม่รู้เรื่องนะ นี่พี่ตั้มรู้ไหม เหมียวนอนอยู่โรงพยาบาลมาสามวันแล้ว โทรศัพท์ไม่ได้อยู่กับเหมียวเลย” –น้องเหมียวพูด

...คุณว่ามันดูสอดคล้องไหม กับคำตอบของเธอ ผมยอมรับว่าตกใจมากที่รู้ว่าเธอนอนอยู่โรงพยาบาล แต่ผมก็อดคิดไม่ได้ว่า นอนจริงหรือไม่จริง เธอบอกว่าเธอไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลยเพราะเธอเป็นไข้จนสลบไปต้องหามส่งโรงพยาบาล บอกตรงๆผมไม่เชื่อสักเท่าไหร่ เธอไม่พูดถึงผู้ชายที่รับโทรศัพท์คืนก่อนเลย ทั้งๆที่ผมพยายามถามถึง...

...จากโทรศัพท์สายนั้นผมพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติ ผมอยากจะให้โอกาสเธอ ผมพูดกรอกสมองตัวเองว่าเรื่องที่เธอพูดอาจเป็นความจริง แต่แล้ว.. มันก็ไม่เหมือนเก่า...

...ราวกับคำรับสารภาพเธอเริ่มห่างจากผมออกไป ผมทำใจได้และออกจากชีวิตของเธอมาเช่นกัน เป็นความรักที่จบลงอย่างสมบูรณ์...

...หลังจากวันนั้นผมกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม ผมดื่มกับเพื่อน พูดคุยโทรศัพท์กับสายงานเก่าๆ ผมเริ่มออกสมัครงาน และก็ได้งานประจำเป็นพนักงานขาย ของร้านขายเทป-ซีดีแห่งหนึ่ง งานผมค่อนข้างดีได้อยู่กับเสียงเพลงผมมีเพื่อนร่วมงานที่น่ารัก ที่นี่มีสาวๆ สวยๆให้จีบเยอะแยะไปหมด ผมสนุกกับการหยอกล้อกับสาวๆ สนุกกับการทำงาน และเฮฮากับเพื่อนฝูง.. จนกระทั่ง...

3เดือนต่อมา...

...คืนนั้นผมนอนหลับอย่างสบายใจก่อนหน้าที่เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ รุ่น A35 ของผมจะดังขึ้น โทรศัพท์รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ทรงพลัง ถ้าคุณเปิดเสียงเรียกเข้าดังที่สุด คุณจะไม่มีทางพลาดสายสำคัญแน่ๆแม้คุณจะหลับลึกแค่ไหนก็ตาม ผมคว้าโทรศัพท์ได้ ปลายสายเป็นเบอร์แปลก ผมเริ่มสงสัยว่า ใครกันนะโทรมาตอนตี 2 ทันทีที่รับสายปลายสายก็เริ่มบทสนทนา...

“พี่ตั้ม.. นี่เหมียวนะ หลับรึยัง?”  --น้องเหมียวใช้เบอร์ใหม่โทรมาหาผม

“อืม... หลับแล้ว..” –ผมตอบน้องเหมียวด้วยน้ำเสียงนิ่ง จริงๆแล้วจะเรียว่าตอบไปอย่างเฉยเมยก็คงไม่ผิด

“อืม.. พี่ตั้ม เหมียวจะกลับไปอยู่พะเยาแล้วนะ เหมียวเรียนจบแล้ว แม่ให้กลับไปทำงานที่นั่น” –น้องเหมียวบอกลาผม

“อืม...” –ผมบอกลาน้องเหมียว

“จ้าเหมียวโทรมาบอกแค่นี้แหล่ะ นอนเถอะเหมียวไม่กวนแล้ว” –น้องเหมียวทิ้งคำพูดสุดท้ายไว้ให้ผม

“อืม...” –และผม...ทิ้งคำพูดสุดท้ายไว้ให้น้องเหมียว

...ผมไม่รู้ว่าทำไมผมทำแบบนั้น ผมมาคิดได้ตอนเช้าว่าผมก็แค่งอล ผมไม่ได้โกรธ และไม่เคยโกรธน้องเหมียวเป็นจริงเป็นจังเลย ผมรู้ตัวว่าคำพูดของผมอาจจะทำร้ายจิตใจน้องเหมียว  แต่มันก็เป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจผมเองเช่นกัน ผมรู้สึกผิด ผมอยากแก้ตัว ผมอยากขอโทษน้องเหมียว...

...ผมหยิบโทรศัพท์ A35 ของผมและกดหาเบอร์ที่โทรมาเมื่อคืน ผมพลาดไปแล้วจริงๆ โทรศัพท์รุ่นนี้จะไม่มีการบันทึกเบอร์ที่คุณรับสายไปแล้ว จะมีบันทึกไว้ก็แต่เบอร์ที่คุณโทรออก 10เบอร์ และเบอร์ที่ไม่ได้รับสายอีก 5เบอร์ นั่นคือข้อจำกัดของโทรศัพท์รุ่นนี้ ซึ่งผมจำได้จนถึงทุกวันนี้...

...หลังจากวันนั้นผมเฝ้ารอว่า น้องเหมียวจะโทรมาอีก ผมจะแก้ตัว... ผมจะพูดดีๆ... ผมจะใช้ความรู้สึกที่แท้จริงพูดกับเธอ...ผมรออยู่หลายวัน..... ผมรอจนพ้นเดือน..... แล้วผมก็....เลิกรอ...

......

... ผมหวังว่าจะมีโอกาส ได้พูดคุยกับน้องเหมียวสักวันหนึ่ง ผมอยากบอกเธอว่าผมไม่ได้โกรธเธอ ผมเข้าใจ และผมมีแต่ความรู้สึก รวมทั้งความทรงจำดีๆเกี่ยวกับเธอเสมอ เว้นไว้แต่ความรักที่ไม่มีให้เธอเหมือนเดิมแล้ว...

... ทุกวันนี้ผมมีครอบครัวที่ดีผมเจอผู้หญิงน่ารักเราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน......ไม่ว่าเหมียวจะได้อ่านเรื่องสั้นเรื่องนี้หรือป่าว พี่อยากบอกให้เหมียวรู้ว่า “พี่ขอโทษ” ขอโทษกับคำบอกลาที่แสนเลวร้าย คำนั้น...

………………………..

THE END.

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา