Hold Your Mind ขอได้ไหม ขอกุมหัวใจเธอ

-

เขียนโดย yasang

วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 18.54 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  4,842 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 มีนาคม พ.ศ. 2559 18.01 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) ซ่อน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 2 ซ่อน

 

            “เป็นไรไปเพื่อน อุตส่าห์ได้มากินผัดไทยร้านอร่อยทั้งทีไหงทำหน้าบูดเป็นตูดลิงแบบนั้น”

            “หือ ก็ไม่มีอะไร” ชายหนุ่มนั่งเท้าคางอยู่เหลือบตามองเพื่อนของเขา

            ก็จะให้บอกยังไงล่ะว่ากำลังหงุดหงิดที่พลาดโอกาสไปส่งน้องสาวเรียนพิเศษ แล้วแถมวันนี้อาจารย์ก็ดันปล่อยเกือบจะบ่ายโมงครึ่งแทนที่จะเป็นตอนเที่ยง ก็เลยทำให้ทั้งความหงุดหงิดและความหิวประดังประเดเข้ามาที่เขา

            วันนี้ชายหนุ่มมีนัดกินผัดไทยที่ร้านหลังมหาวิทยาลัยตามที่ได้นัดกับเต๋อเอาไว้ มันก็สมกับเป็นร้านที่คนเค้าลือกันว่าอร่อยอยู่หรอก เพราะนี่ขนาดตกบ่ายแล้วคนก็ยังหลั่งไหลเข้ามาเรื่อย ๆ ทำให้ที่นั่งแทบจะไม่มี แต่ยังดีที่ทั้งสองคนมาทันเวลาทำให้ได้ที่นั่งและสั่งอาหารเรียบร้อยแล้ว

            “ขออนุญาตเสิร์ฟอาหารนะคะ” เสียงใสของพนักงานพูดขึ้นพร้อมจานอาหารในมือทั้งสองข้าง

            “ขอบคุณครับ โอ้โหน่ากิน ไอ้แทนดูนี่” เต๋อพูดพร้อมรับจานผัดไทยจากพนักงาน

            “อันนี้ผัดไทยห่อไข่ ไม่ใส่ถั่วงอกค่ะ”

            ชายหนุ่มรู้ว่าเธอกำลังจะยื่นจานมาให้ตนจึงละมือที่เท้าคางออก หันมารับจานโดยไม่ได้มองหน้าเธอ “ขอบคุณครับ”

            เมื่อจัดการกับอาหารตรงหน้าเรียบร้อยแล้ว จึงไม่แปลกใจว่าทำไมคนถึงเยอะตลอดเวลา เพราะผัดไทยที่นี่อร่อยสมคำล่ำลือจริง ๆ

            “เหมือนร้านนี้เค้าเป็นคนจีนเลยว่ะ” เต๋อพูดขึ้นหลังจากดูดน้ำในแก้วจนหมด

            “ทำไมแกคิดงั้น”

            “ก็แกไม่ได้ยินหรอวะ เค้าเรียกเด็กเสิร์ฟว่า อาแฟ้ม ๆ” เต๋อทำสียงเหมือนคนจีน จนชายหนุ่มอดขำไม่ได้ “และที่สำคัญ...” เงียบไปครู่หนึ่ง “คนนั้นคงจะเป็นลูกสาว” บุ้ยปากไปทางหลังร้านเพื่อให้ชายหนุ่มมองตาม

            เป็นอย่างที่คิดชายหนุ่มหันไปตามที่เพื่อนบอก “โห!” เค้าอุทานออกมาพร้อมทำตาโต ใครจะคิดเล่าหนอว่าความบังเอิญจะประจวบเหมาะเกิดขึ้นติดต่อกันขนาดนี้ ภาพเด็กสาวที่คุ้นเคยวิ่งเข้ามาสู่นัยน์ตาของเขา ก็จะเป็นใครอีกล่ะถ้าไม่ใช่เด็กสาวที่ร้านหนังสือ เด็กสาวที่เป็นลูกสาวของครู แล้วก็เด็กสาวที่ร้านผัดไทยวันนี้

            “เฮ้ย ๆ” เต๋อโบกมือไปมาที่หน้าของชายหนุ่ม

            “อะ อะไรวะ”

            “แหมไอ้แทน มองสาวซะตาเหยิ้ม เค้ายังเด็กอยู่นะเว้ย” เต๋อพูดเป็นเชิงหยอกล้อ

            ชายหนุ่มเงียบแต่ยังไม่ลืมส่งค้อนใส่เพื่อนไปหนึ่งวง

            “เอาเว้ย เดี๋ยวแกได้มองใกล้ ๆ” พูดแล้วก็ยกมือเรียกพนักงาน “น้องคร้าบบบ เก็บตังค์ด้วยครับ” ยังไม่ลืมส่งยิ้มยียวนมาให้เพื่อน

            “แกไม่ต้องมายิ้มแบบนี้เลยไอ้เต๋อ” ชายหนุ่มพูดในขณะที่หยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมา

            เด็กสาวเดินมาที่โต๊ะพร้อมทวนรายการอาหารและค่าอาหารทั้งหมด ชายหนุ่มผู้มีนัยน์ตาเฉียบลอบมองเธอ กระนั้นยังคิดในใจว่าเธอจะจำตนได้มั้ยนะ

            “เดี๋ยวรอตังค์ทอนซักครู่นะคะ”  วิ่งไปที่เคาน์เตอร์หลังร้านก่อนจะกลับมาพร้อมตังค์ทอนในมือ “ขอบคุณที่อุดหนุนนะคะ” เธอส่งตังค์ทอนให้เต๋อก่อนแล้วจึงส่งตังค์ทอนให้ชายหนุ่มผู้มองเธออยู่ ก่อนจะชะงักไปนิดเมื่อรู้ว่าโดนมองอย่างไม่วางตา

            “อะเออ...ขอบคุณครับ” แทนพยายามพูดให้เป็นปกติที่สุดแต่เหมือนจะยาก เพราะเมื่อเธอเห็นเขาก็เหมือนเกิดอะไรขึ้นในแววตาคู่นั้น ในใจของชายหนุ่มก็คิดว่าใครจะไปจำได้เจอกันก็แค่แวบเดียว

 

            เช้าวันอาทิตย์กลิ่นอาหารหอนกรุ่นลอยขึ้นมาถึงชั้นสองของบ้าน นั่นทำให้ชายหนุ่มรู้ดีว่าแม่ของเขากำลังทำอาหารอยู่ในครัว อันที่จริงแม่ของเขาต้องรับภาระในบ้านเกือบทั้งหมด (ยกเว้นล้างรถเพราะมันเป็นหน้าที่ของชายหนุ่ม) แถมยังงานนอกบ้านอีก เพราะตั้งแต่พ่อร่วมทำธุรกิจด้านอาหารกับเพื่อนที่นิวซีแลนด์จึงจำเป็นต้องย้ายไปอยู่ที่นั่น จะมีโอกาสได้กลับมาก็แค่ปีละสองครั้งที่บ้านจึงเหลือกันแค่สามแม่ลูก พ่อบอกแม่เสมอว่าให้อยู่บ้านอย่างเดียวก็พองานข้างนอกไม่ต้องไปทำ แต่แม่กลับพูดติดตลกว่าไม่อยากอยู่บ้านรอเงินจากสามีอย่างเดียวเพราะถ้าวันไหนถูกทิ้งไปแล้วจะลำบาก คำพูดนี้ทำให้พ่อทั้งขำทั้งโกรธที่แม่ไม่เชื่อท่านอันที่จริงท่านก็เป็นห่วงลูกและภรรยาเอามาก ๆ นั่นแหละ

            “แม่ครับ มีอะไรให้ช่วยรึเปล่า” แทนพูดขึ้นหลังเดินลงมาจากบันได

            “พี่แทน ตื่นสาย”

            “ไม่มีอะไรแล้วลูก แม่อบคุกกี้ไว้ให้ด้วยนะ” พูดพร้อมชี้ไปที่คุกกี้ที่พักไว้บนตะแกรง

            “ของครูก็อร่อยนะ พี่แทนชิมมั้ย” สาวน้อยยกกล่องคุกกี้ขึ้น ก่อนชายหนุ่มจะจำได้ว่ามันเป็นกล่องที่ลูกสาวครูเอาให้แทมเมื่อวันศุกร์

            ชายหนุ่มส่ายหัวเล็กน้อย “เรากินเถอะ พี่ยังไม่ค่อยหิว”

            “วันนี้แทนไม่มีเรียนใช่มั้ยลูก ไปอยู่รอน้องแทนแม่หน่อยสิ”

            “วันนี้ไม่มีเรียนครับ แล้วแม่จะไปไหนหรอทำไมถึงให้ผมไปรอเจ้าแทม”

            “งานบัญชีที่บริษัทมันไม่ลงตัวน่ะ แม่ก็เลยต้องเข้าไปดูหน่อย”

            “อ่อ... ครับ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับคิดว่าดีเหมือนกันที่จะได้ไปบ้านครูอีกครั้ง แต่จะทำหน้ายังไงดีนะถ้าเจอเด็กสาวคนนั้นอีก

 

            ในบ้านสอนพิเศษถูกตกแต่งด้วยวอลล์เปเปอร์น่ารัก ๆ มากมาย อีกทั้งข้าวของเครื่องใช้ที่ดูแล้วจะถูกใจเด็ก ๆ มาก เพราะแบบนี้ล่ะมั้งแทมถึงได้ถูกใจนักหนา ที่สำคัญมีหนังสือเต็มไปหมดพร้อมด้วยเปียโนไฟฟ้าที่ตั้งอยู่มุมซ้ายมือของห้องโถง ก่อนทางเชื่อมไปห้องครัวจะมีบันไดขึ้นชั้นบนและมีประตูแยกไปอีกสองห้อง

            “แทมเรียนถึงกี่โมงนะ” ชายหนุ่มถามน้องสาว

            “เที่ยงค่ะ พี่แทนจะไปเดินดูรอบ ๆ มั้ยครูไม่ว่าหรอก” พูดแล้วกระตุกข้อมือพี่ชาย

            แอ๊ดดด เสียงบานประตูเปิดออก ก่อนร่างบางของเด็กสาวจะเดินออกมา ชุดเดรสสีขาวยาวคลุมเข่า พร้อมแขนเรียวยาวที่หอบหนังสือออกมาจากห้อง กำลังปิดประตูก่อนจะหันหน้ามาทางชายหนุ่มใบหน้าได้รูปและแก้มสีระเรื่อเป็นธรรมชาติ เมื่อทั้งสองสบตากันทำให้ชายหนุ่มประหม่านิด ๆ จนต้องหลบสายตาเธอจึงไม่ทันสังเกตว่าเธอเองก็ชะงักไปครู่หนึ่งเหมือนกัน

            “สวัสดีค่ะ” เด็กสาวพนมมือไหว้ชายหนุ่มอย่างอ่อนน้อม หากแววตายังมีความแปลกใจระคนสงสัยปรากฏอยู่

            “สะ สวัสดีครับ” เขารับไหว้อย่างยิ้ม ๆ ก็มันรู้สึกแปลก ๆ ที่ต้องมารับไหว้เด็กสาวคนนี้

            “คุณครู นี่พี่ชายแทมเองค่ะ” สาวน้อยแนะนำพี่ชายให้ครูรู้จัก

            “อ๋อ... พี่ชายแทมหรอคะ” เธอพูดกับแทมก่อนจะเงยหน้ามายิ้มให้กับชายหนุ่มที่เหมือนตอนนี้จะทำตัวไม่ถูก

 

            ชายหนุ่มนั่งรออยู่ที่ห้องโถงของบ้าน ซึ่งก็มีผู้ปกครองบางคนที่นั่งรอรับลูกของตนเช่นกัน หนุ่มนัยน์ตาเฉียบปิดหนังสือ 80 วันรอบโลก เขียนโดยจูลส์ เวิร์น ที่หยิบมาจากชั้นวางหนังสือพลางสงสัยว่าการเที่ยวรอบโลกใน 80 วันนั้นมันจะเป็นไปได้หรือ แต่สิ่งที่สงสัยไม่แพ้กันก็คือเรื่องของเด็กสาวคนนั้น

            “เด็กคนนั้นเป็นครูซะเองหรอกหรอเนี่ย” เขาพึมพำกัตัวเอง ไม่นานนักเด็กราว ๆ สิบกว่าคนก็เริ่มทยอยกันออกมาจากห้องโดยมีเด็กสาวเดินตามออกมาทีหลัง

            “ครูแฟ้ม ผมยังไม่อยากกลับเล้ยยย” เด็กชายตุ้ยนุ้ยคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมวิ่งเข้าไปกอดเด็กสาว

            “ครูพี่แฟ้มหนูก็ยังไม่อยากกลับเหมือนกันค่ะ พรุ่งนี้หนูมาอีกได้รุเปล่าคะ” เด็กสาวจำต้องนั่งลงเพื่อคุยกับเด็ก ๆ ที่รายล้อมอยู่รอบตัว

            “เอ๊... จริงหรอคะเนี่ย แต่ยังไงวันนี้ก็ต้องกลับก่อนน๊า แล้วที่สำคัญ...” เด็กสาวหยุดพูดเพื่อดูเชิงลูกศิษย์ตัวน้อย “ต้องทำการบ้านด้วยนะคะ โอเคมั้ย”

            คำพูดที่แสนอ่อนโยนพร้อมใบหน้ายิ้มแย้มของเธอทำให้ชายหนุ่มเผลอจ้องมองอย่างไม่วางตา “ชื่อแฟ้มหรอเนี่ย” ชายหนุ่มพึมพำ

            ผู้ปกครองและเด็กคนอื่นค่อย ๆ ทยอยกลับเกือบจะหมดแล้ว เหลือแทมและแทนที่ยังนั่งรออยู่ในบ้าน ครูสาวยืนรอส่งลูกศิษย์ฝาแฝดสองคนขึ้นรถ

            “พี่แทนหนูไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึงนะ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับคำน้องสาว ก่อนจะมองออกไปหน้าบ้านเห็นครูสาวกำลังเดินเข้ามา เธอส่งยิ้มให้เขาก่อนจะเดินเข้าไปในครัวซักพักก็กลับมาพร้อมอาหารว่าง

            “ลองชิมดูนะคะ พอดีพึ่งลองทำสูตรใหม่เมื่อคืนนี้” เด็กสาวพูดด้วยท่าทางเป็นกันเองในขณะที่หยิบแก้วน้ำแอปเปิ้ลและจานคุกกี้วางลงบนโต๊ะกระจก

            “...ขอบคุณครับ คุณ...” เมื่อเห็นความเป็นกันเองของเธอทำให้ความประหม่าของเขาลดลงไปบ้างไม่มากก็น้อย

            “แฟ้มค่ะ ไม่ต้องเรียกคุณก็ได้นะคะ แฮะ ๆ”

            “ผมแทนนะครับ ยินดีที่ได้พบนะ”

            “เช่นกันค่ะ” เธอพูดพร้อมหยิบคุกกี้มาถือไว้ “พี่แทนลองชิมค่ะ อร่อยไม่อร่อยติชมด้วยนะคะ”

            ไม่รอช้าชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบคุกกี้และเอาเข้าปากตามที่เธอบอก ความเป็นกันเองจากเด็กสาวตรงหน้าทำให้อะไร ๆ ง่ายขึ้นกว่าตอนแรกมาก เมื่อความประหม่าลดลงแล้วชายหนุ่มจึงยกเอาคำถามที่ข้องใจมาเป็นหัวข้อสนทนา

            “นี่แฟ้มเป็นครูสอนพิเศษเองเลยหรอครับ”

            “เอ๋... ใช่ค่ะ” เธอโคลงศีรษะเล็กน้อยก่อนจะตอบ

            “โห พี่ก็นึกว่าเราเป็นลูกสาวครูซะอีก” ชายหนุ่มลืมตัวหลงโพล่งความคิดของตนออกไป

            “นั่นสิคะ หรือว่าแฟ้มเด็กไป” เธอเลิกคิ้วถาม

            “ใช่ครับ” ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังนิด ๆ ก็เจอได้บ่อยซะที่ไหนกัน คุณครูที่อายุน้อยแบบนี้ แถมเรียนชั้นมอปลาย แค่เรื่องเรียนก็หนักแล้วจะมีใครที่ไหนมาทำหน้าที่สอนเด็กให้วุ่นวายอีกชายหนุ่มคิดในใจ

            “งะ งั้นหรอคะ ก็แฟ้มอยากจะลองสอนเด็ก ๆ ดูคิดว่ามันเป็นการช่วยคุณพ่อด้วยนะคะ” พูดพร้อมหันไปมองรูปชายคนหนึ่งที่ติดไว้ข้างผนัง ก่อนจะหันกลับมาถามชายหนุ่ม “เออ หิวรึเปล่าคะ”

            “ไม่ครับ ไม่เป็นไรเดี๋ยวแม่พี่ก็มา”

            “คุณน้าบอกจะไปทำงานด่วนสินะคะ เมื่อวานบอกแฟ้มไว้เหมือนกัน” เธอพูดพร้อมดึงทิชชูมาเช็ดเศษคุกกี้ที่ติดอยู่บนนิ้วมือ

            “ครับ เห็นบอกว่าบัญชีของบริษัทไม่ลงตัวอะไรซักอย่าง” เมื่อสังเกตท่าทางของเด็กสาวตรงหน้าทำให้ชายหนุ่มอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอมีธุระจะต้องไปไหนต่อรึเปล่า ด้วยความที่ช่วงบ่ายของเมื่อวานเธอยังไปช่วยงานที่ร้านผัดไทยที่เขาไปกินกับเพื่อนอยู่เลย

            “แฟ้ม มีธุระจะไปไหนต่อรึเปล่าครับ” เด็กสาวยิ้มน้อย ๆ แทนคำตอบ “มีสินะ”

            เธอส่ายหน้ายิ้ม ๆ “พี่แทนใช่คนที่ไปกินผัดไทยร้านพ่อแฟ้มเมื่อวานรึเปล่าคะ ^^”

            “เอ๊ะ จำได้ด้วยหรอ” ชายหนุ่มอุทานด้วยความแปลกใจแต่แววตาดูจะดีใจนะ

            “ทำไมจะจำไม่ได้คะ แต่วันนี้แฟ้มไม่ต้องออกไปที่ร้านค่ะ พ่อบอกว่าวันอาทิตย์ให้แฟ้มพักอยู่บ้านค่ะ”

           

            เอกสารเกี่ยวกับงานโครงสร้างคอนกรีตที่ต้องเอามาแก้ไขวางกระจัดกระจายเต็มโต๊ะเขียนหนังสือ ก็คงเพราะเรียนชั้นปีสามแล้วอะไรก็เยอะแยะไปหมด โปรเจคจบก็เป็นงานใหญ่อีกเรื่องหนึ่งชายหนุ่มคิดว่าถ้าหาข้อมูลไว้แต่เนิ่น ๆ ก็จะทำให้ไม่ต้องมาเครียดทีหลัง

            งานของแม่พักหลัง ๆ นี้มีเข้ามาตลอดบางทีหอบกลับมาทำที่บ้านยังไม่พอ วันหยุดก็จะต้องเข้าไปทำงานที่ออฟฟิศอีก เพราะเหตุนี้ทำให้แทนต้องทำหน้าที่ไปรอน้องอยู่ที่เรียนพิเศษแทบจะทุกอาทิตย์ เขาจึงได้พูดคุยกับแฟ้มมากยิ่งขึ้น เธอเล่าให้ฟังว่าอยู่บ้านหลังนี้กับคุณพ่อหลังจากที่แม่เสียไปแล้ว ด้วยความที่บ้านหลังตรงข้ามเป็นของอาและอาสะใภ้ ‘บางวันถ้างานที่ร้านมีมาก ก็จะมีแต่แฟ้มนี่แหละคะที่ต้องเฝ้าบ้าน’ เธอเล่าให้ชายหนุ่มฟัง รอยยิ้มของเธอกลายมาเป็นสิ่งที่เขาได้เห็นเป็นประจำ เธอไม่เคยแสดงความกังวลหรือเอาเรื่องทุกข์ร้อนใจใด ๆ มาเล่าให้ฟังเลย แต่แววตาของเธอมันซ่อนไม่ได้หรอกชายหนุ่มคิดใบหน้าของวัยใสที่ส่งยิ้มให้เขาเสมอหากแต่ในบางทีเจ้าตัวจะรู้รึเปล่านะว่าแววตาของเธอนั้นเหมือนได้แบกรับปัญหาหรือเรื่องหนักใจเอาไว้มากทีเดียว

 

            'ถ้าง่วงพี่แทนนอนรอคุณน้าในห้องนี้ก็ได้นะคะ'

            'ครับ ขอบคุณนะแฟ้ม รู้งี้พี่ซิ่งมอเตอร์ไซค์มาส่งแทมซะก็ดีจะได้ไม่ต้องรบกวนแฟ้ม'

            '...คิดมากไปแล้วค่ะพี่แทน เรื่องแค่นี้เองถ้าพี่แทนต้องการอะไรเพิ่มบอกแฟ้มได้นะคะ แฟ้มจะอ่านหนังสืออยู่ข้างนอก'

            'น้องสาวจอมจุ้นหลับแล้วหรอเนี่ย' พูดพร้อมเอามือลูบหัวน้องสาวที่นอนอยู่ในห้องก่อนแล้ว 'เราก็ขอเอนหลังซักหน่อยก็แล้วกัน'

            เพราะงานที่บริษัทของแม่มีมากวันนี้จึงจำเป็นจริง ๆ ที่เขาและน้องจะต้องรออยู่ที่บ้านเด็กสาวจนดึกอีกทั้งเธอก็ยังดูแลเป็นอย่างดี ทั้งข้าวเที่ยงและจัดที่นอนให้ แม้เธอจะบอกว่ามันเป็นเรื่องเล็กก็ตาม

            แอ๊ดดด!! ชายหนุ่มได้ยินเสียงประตูแต่ด้วยความงัวเงียจึงยังไม่ลืมตา ก่อนจะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างบนใบหน้า เหมือนแว่นตาที่ใส่ไว้จะถูกถอดออก หึหึ จะเป็นใครไปล่ะถ้าไม่ใช่ยัยน้องสาวจอมซน คิดได้อย่างนั้นจึงลุกขึ้นเพื่อจะจับตัวน้องสาว

             พรึบ

            

            'ยัยแทม อย่ากวนพี่ตะ...O-O' ยังพูดไม่ทันจบชายหนุ่มก็ต้องชะงักกับคนที่อยู่ใต้อ้อมแขน

เว็บขีดเขียน

 

           

 

            “โถ่เว้ย!! แล้วคราวนี้เธอจะยอมให้ผมเข้าบ้านมั้ยล่ะเนี่ย Y-Y”

 

 

____________________________________________

ขอบคุณภาพจาก Love so liife จ้า

ชอบเวลาที่มีฉากแบบนี้จากมังงะมาอธิบายเนื้อเรื่อง

คิดว่าน่าจะเพิ่มความฟินได้ไม่มากก็น้อยน๊า 

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

 

Yasang

29/10/2558

 

 

           

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา