รอยยิ้มที่ถนัด

7.0

วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 20.15 น.

  1 บท
  2 วิจารณ์
  2,586 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 มีนาคม พ.ศ. 2559 20.20 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) รอยยิ้มที่ถนัด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เสียงหอบหายใจจนถี่ยิบ เหงื่อไหลหยดลงพื้นที่แห้งกร้าน... 

          แสงแดดอุ่นๆ นวลละมุนส่องสอดช่องหน้าต่างประตูเข้าในห้องนอนที่ปูด้วยกระเบื้องรูปทรงสี่เหลี่ยมพื้นผ้า กระเบื้องเหล่านั้นเริ่มจะซึมซับความอุ่นจากแสงแดดเช้านี้ได้เต็มที่ จากมรสุมค่ำคืนลมหนาวเย็นมาได้แล้ว

"ไอ่เจ๋ง ไอ่เจ๋ง ไอ่เจ๋ง มึงจะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหนนนนน!!!!" เสียงตะโกนของหญิงสาวคนนั้นคือ แม่

          เสียงของแม่ตะโกนดังลั่นมาจากหลังครัวที่เตรียมกับข้าวเช้านี้อย่างเสร็จสรรพ ผมรับรู้มันถึงได้จากการดมกลิ่นไข่เจียวที่ใส่หอมหัวใหญ่ แม่จะชอบทอดให้กินทุกๆเช้าก่อนออกไปเรียน ไม่สิ ผมยังมีหน้ามาดมกลิ่นไข่เจียวอยู่อีก..!!!  ผมชงักตัวสะดุ้งตื่นท่ามกลางผ้าห่มที่ปกคลุ่มหนาจนทำให้ไม่รับรู้ถึงบรรยากาศของเช้านี้ได้ทันที ลืมตามาสิ่งแรกที่ผมทำคือการมองดูนาฬิกา เข็มยาวของมันชี้ไปที่เลขสิบส่วนเข็มสั้นนั้นชี้ไปที่เลขเจ็ดกว่าๆเกือบถึงแปด "เห้ย สายแล้วสิเรา!!! วันนี้จะต้องไปเป็นตัวแทนนำเสนองานกลุ่มที่ทำจนดึกดื่นเที่ยงคืนของเมื่อวานอีกด้วย"ผมพรึบพรำอยู่สักพัก พอรู้ตัวก็รีบพุ่งร่างของตัวเองเข้าห้องน้ำและทำธุระส่วนตัวจนเสร็จ ตอนนี้เข็มยาวอยู่ที่เลขสิบเอ็ด ผมใช้เวลาไปกับการทำธุระส่วนตัวไวมากกว่าทุกวัน

"แม่ ผมไปเรียนก่อนนะ เก็บข้าวกับไข่เจียวไว้ตอนเย็นด้วย" คำสั่งลาก่อนออกไปเรียนของคนอยากกิน  แม่พูดกับพ่อที่รดน้ำต้นไม้สวนหย่อมหน้าบ้าน

          ผมออกไปกับรถสองล้อคู่ใจที่ใช้ตะลอนไปทั่ว บนถนนที่มีรถราสวนแล่น แซงซ้าย แซงขวา จนทำให้เกิดเสียงที่กระทบเข้ามาหากันบ้าง บางทีเสียงคำรามของตัวถังที่กระทบลมก็ทำให้คนตกใจ เส้นทางสายคันคลองเปิดใหม่แห่งนี้ ทำให้เป็นที่รู้จักของนานายี่ห้อรถที่ปะปนต่อแถวเหยียดยาว     ตามแนวเส้น เยอะจนรานลูกตาไปอีกแบบเมื่อจอดสี่แยกไฟแดง เจ้าคู่หูคู่ใจของผมไร้ปัญหามันสามารถลัดเลาะไปตามข้างเส้นขาวที่ตีกีดกั้นไว้สำหรับทางเดินเท้าไปได้สบาย ผมหวังว่าคงไปเรียนทันแน่ๆ 

          เสียง...กระอึด กระอัก กระอึด และกระอัก ราวกับมันไอกระตุ้นและช้าลงในที่สุด จนมันจอดลง ณ เส้นที่ตีกีดกั้นทางใช้เดินเท้า

"อ่าว เห้ย!!! มาเป็นอะไรของมันในเวลานี้ วันอื่นเวลาอื่นทำไมไม่เป็น คนยิ่งรีบๆ อยู่" ผมงุ้มงำที่ข้างทางถนน

"ใช่ๆ โทรหาพ่อให้มารับดีกว่า" ลวงกระเป๋าซ้ายแลกระเป๋าข้างขวา ดูกระเป๋าเป๋หน้าก็ไม่เจอ โหยยย อะไรจะซวยขนาดนี้กัน ผมคิดได้ว่าเมื่อคื่นชาร์จ     แบตทิ้งไว้ข้างทีวี ด้วยความรีบจึงไม่ได้คิดไตร่ตรองอะไรมาก ผมก็เข็นไปตามประสาคนรีบ ไม่สนว่าใครจะมองหรือเหลียวดูและขับผ่านไปโดยไม่ใยดี     คนสมัยนี้ใจดำ!!!

          เสียง...เสียงหอบหายใจจนถี่ยิบ เหงื่อไหลหยดลงพื้นที่แห้งกร้าน แดดยามสายเริ่มทำหน้าที่ของมัน คือโชว์รัศมีเปล่งประกายให้คนรู้หน้าที่ทำงานตามมันไปด้วย ผมเริ่มเหนื่อยอิดอ่อนจากการเข็น เลยตัดสินใจจอดรถคู่ใจพักรอดูระยะ ผมไม่สนอีกว่าต้อเป็นตัวแทนทำรายงานกลุ่ม     เลิกคิดเรื่องนั้นไปได้เลย นั่งอิงเบาะบนรถสักพักก็คิดได้ขึ้นมาว่า…

          น้ำมัน...เมื่อวานผมลืมดูน้ำมันในรถ ผมรีบเปิดเบาะตามด้วยฝาถัง เขย่าดูไม่ได้ยินเสียงกระทบของน้ำมันดังกระทบเข้ากับถังเลยสักนิด...

ว่าแล้วน้ำมันหมด ผมคิดว่าจะเข็นรถไปเต็มเพราะเห็นว่าปั้มไม่ไกลไปจากนี้อีก 2 กิโล แต่ขากับแข้งดันไม่ขยับเห็นเพียงเหงื่อที่ขยับออกมาเป็นเส้นสายเพียงอย่างเดียว

          หมดหวัง...ผมคงจะภาวนานั่งรอให้ตัวเองหายเหนื่อยดีเสียก่อนแล้วจะเข็นออกไป ในใจก็ยังหวังที่จะไปนำเสนองานกลุ่มให้ทันด้วยผมหวังเพียงอย่างนั้นจริงๆ

          ความหวัง...เสียงรถสองล้อพร้อมควันขาวปรากฏเข้ามาเห็นชัดขึ้น ชัดขึ้น และชัดขึ้น จนที่สุด

          ภาพแรกที่เห็น...เป็นชายถอดเสื้อ ไว้หนวดเคราราวโจร เสียงแรกที่ได้ยิน...น้องรถเป็นอะไร ให้พี่ช่วยไหม. เพียงประโยคที่ได้ยินกลับทำให้ความหวังของผมชัดขึ้นในชั่วขณะ พี่ชายคนนี้ช่วยพาระของผมไปถึงปั้มอย่างทันการ

          ภาพต่อมาที่ผมเห็น...คือรอยยิ้มที่ถนัดนักของพี่ชายคนนี้ ก่อนบอกลากลับไปทางเดิมที่รถมันควรจะไปอย่างถูกเลน ผมได้แต่เพียงขอบคุณและขอบคุณที่ส่งความหวังเข้า สิงที่แปลกใจมันกลับทำให้ผมสงสัยว่า ทำไมรอยยิ้มที่ถนัดแบบนั้นมันช่างดูดีมีความสุขมากกว่าสิ่งใด...

         เหตุการณ์วันนั้นจนถึงวันนี้ที่ผมมีเรียนเที่ยง ไม่มีความร้อนรนที่จะรีบ ผมตรวจสอบรอบคอบให้ดีกว่าเดิมก่อนออกเดินทาง ขับรถไปพราง มองนั้นมองนี่ตามประสาคนไม่รีบ แต่กลับเห็นหญิงวัยกลางคนเหนื่อยเปียกทั่วร่างเสื้อ เธอสวมหมวกเลยทำให้มองเห็นหน้าไม่ถนัด ผมชะลอรถลงและถามแกว่ารถเป็นอะไร หญิงวัยกลางคนเธอบอก "รถป้าน้ำมันหมด" ผมรีบช่วยแกถีบรถไปยังปั้มน้ำมันที่ไม่ไกลจากตรงนี้มากเพราะไม่อยากถูกมองว่าเป็นคนใจดำ พอถึงผมก็ขอตัวจากหญิงวัยกลางคนคนนั้น แต่เธอกลับส่งเสียงที่ว่า ขอบคุณนะหนูที่ช่วยป้า เพียงประโยคนี้ มันทำให้ผมรู้แล้วว่ารอยยิ้มที่ถนัดของพี่ชายคนนั้นได้มายังไง... 

 

#เจ้าจันทร์

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา