WE

6.7

เขียนโดย zeeto

วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.28 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  8,649 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 มกราคม พ.ศ. 2560 19.07 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) หลงไหลหรือเผลอ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          หลังจากผ่านวันนั้นที่ผมและไอ้หน้าหล่อพาน้องแมวไปหาหมอผมก็ไม่ได้คุยกันมันมาได้สองสามวันแล้วเพราะอาจจะด้วยเหตุที่มันติดทำกิจกรรมของพวกดาวเดือนอะไรของมันทั้งหลายอีกอย่างวันนี้ผมว่าจะไปหาน้องแมวที่คลีนิคซะหน่อยไม่รู้ป่านนี้เป็นยังไงบ้างคงดื้อได้เต็มที่แล้วมั่ง “สวัสดีครับคุณหมอ” “อ้าวฟลุ๊คมาเยี่ยมแมวหรอ” “ครับ..” “มาช้าไปนิดนึงว่ะไอ้กันต์พึ่งเอาเจ้าแรมโบ้กลับบ้านไปเมื่อกี้เอง...ว่าแต่ทำไมไม่มาด้วยกันละ” “ไอ้กันต์เอาแมวไปแล้วหรอ” “ใช่ๆ...ก็ที่มันเคยบอกไงว่าจะรับไปเลี้ยงเองอีกอย่างฟลุ๊คก็เอาไปเลี้ยงไม่ได้” “ครับ” ตกลงนี้ผมลืมไปจริงๆหรอว่าเคยตกลงกับไอ้กันต์ว่ามันจะรับเลี้ยงแมวเองแท้ๆ “ถ้าอยากไปหาเจ้าแรมโบ้ก็ไปหาที่บ้านดิรู้จักใช่ไหม” “ไม่รู้จักครับพอดีผมก็พึ่งรู้จักไอ้กันต์วันที่พาแมวมาหาหมอนี้แหล่ะครับ” “ห่ะ?...นี้ไอ้กันต์กับฟลุ๊ครู้จักกันวันนั้นวันแรก” “ครับ” “แปลกแหะปกติไอ้กันต์มันไม่ค่อยอยากสุงสิงกับใครแท้ๆแต่เอาเถอะเดี๋ยวพี่จดที่อยู่ให้แล้วกันฟลุ๊คก็ไปตามที่พี่จดให้นะหาไม่ยากหรอก” ผมพยักหน้าให้หมอออฟที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับไอ้กันต์ก่อนที่จะรับกระดาษที่จดที่อยู่ส่งให้แล้วขอตัวออกจากร้านมา มันไปทางไหนต่อว่ะจากตรงนี้ต้องเลี้ยวขวา ปริ๊น!! “ใครว่ะกูก็เดินริมทางแท้ๆมาบีบแตร่ใส่มันจะหาเรื่องกันรึไง” ผมหันไปมองตามเสียงแตร่รถที่ดังก่อนที่รถเก๋งคันสีขาวจะค่อยๆขับมาจอดเทียบข้างฟุตบาทด้านหน้าผม “ฟลุ๊ค...ใช่ฟลุ๊คจริงๆด้วยมองจากด้านหลังคิดอยู่ว่าใช่ไหม” “มึงเองหรอกูก็นึกว่าใครมาบีบแตร่หาเรื่อง” “ใจเย็นๆแล้วนี้ฟลุ๊คมาทำอะไรแถวนี้หออยู่แถวนี้หรอ” “ถ้าหอกูอยู่แถวนี้กูคงแดกแกลบพอดีไกลจากมหาลัยขนาดนี้” “เออก็จริง...ว่าแต่ฟลุ๊คมาทำอะไรแถวนี้” “ก็...มาหาบ้านมึงนี้แหล่ะ” “มาหาเรา?...อ๋อคงจะมาเยี่ยมเจ้าแรมโบ้ใช่ไหม” “ก็เออดิจะเอาแมวออกจากคลินิกไม่บอกก่อน” “ฟลุ๊คไปหาที่คลินิกพี่ออฟมาหรอ” “ก็เออดิแล้วหมอก็จดที่อยู่มึงให้เนี้ยแล้วดูดินี้ลายมือหมอโคตรอ่านยากกูนึกว่าหลงทางแล้วเนี้ย” “ฮาๆๆๆ...งั้นขึ้นรถมาดิพอดีเราออกไปทำธุระที่ไปรษณีย์มากำลังจะกลับบ้าน” ผมมองหน้าไอ้กันต์ก่อนจะเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งเบาะข้างๆ

               

          ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ากับแค่เห็นด้านหลังผู้ชายคนนี้ทำไมผมถึงจำเขาได้ในทันที อาจจะเพราะแผ่นหลังที่ดูโดดเดี่ยวของเขาก็ได้มั่งที่ทำให้ผมจำได้และคอยมองมาตลอด แปลกไหมละบางครั้งผมก็อดสงสัยตัวเองไม่ได้ว่าทำไมถึงหันหน้าหนีจากคนคนนี้ไม่ได้จริงๆ ทั้งที่นี้เป็นครั้งที่สองที่ผมได้พูดกับเขาก็เถอะแต่...ทุกครั้งที่เห็นผู้ชายคนนี้มันทำให้ผมรู้สึกอยากมีเพื่อนตลอด เพื่อน?...แต่เมื่อก่อนผมก็ไม่ได้อยากมีเพื่อนซ่ะหน่อย “เออฟลุ๊คจะกินไรไหมเดี๋ยวเราจะแวะซื้อข้าวก่อนอ่ะ” “เออกินก็ได้เอาอะไรมาก็เอามาเถอะ” “งั้นรอแปบนะเดี๋ยวเราลงไปซื้อข้าวแปบ” ไม่นานมากับห่อข้าวใส่กระดาษสองห่อเจ้าประจำที่ผมมักจะกินบ่อยๆ “ข้าวอะไรของมึงว่ะห่อกระดาษด้วย” “อ๋ออันนี้หรอข้าวมันไก่แหล่ะเจ้านี้อร่อยมากเรากินทุกวันเลย” “แดกแต่ไก่ทุกวันได้ไขมันจุกอกตายพอดี” “ไม่หรอกอันนี้เราสั่งเฉพาะส่วนอกไก่ไม่ติดหนังรับรองไม่อ้วนแถมจะทำให้ร่างกายเรามีก้ามเนื้อที่ดีด้วยดูอย่างเราดิ” “เออๆๆกูเห็นละไม่ต้องมาโชว์ก้ามเหมือนเด็กใส่กูหรอก” “เราว่าฟลุ๊คก็หน้าจะลองดูนะกินแบบเราแล้วก็เข้าฟิตเนสหุ่นจะได้ดีขึ้นไง” “นี้มึงจะบอกว่ากูหุ่นไม่ดีเหมือนมึงว่างั้น” “เปล่าๆเราแค่เห็นว่าฟลุ๊คดูผอมๆตัวบางๆก็เลยอยากให้ลองดูบ้าง” “กูลองหมดทุกอย่างละมันก็ไม่มีก้ามไม่อ้วนจะให้ทำไงว่ะหยุดพูดเหอะรีบไปได้ละกูอยากเจอน้องเหมียว” “อ๋อ...โอเค”

               

          “เหมียวๆคิดถึงพี่ชายธีไหมครับน้องเหมียว” ทันทีที่เดินเข้ามาในบ้านของไอ้กันเจ้าเหมียวก็เดินเข้ามาพันแข้งพันขาถูไปมากับผมทันที คิดถึงมันจังเลยไม่ได้เจอต้องสองวันแต่เดี๋ยวนะผมว่าเจ้าเหมียวมันดูอ้วนๆขึ้นนิดหน่อยหรือเปล่าเนี้ย “ฟลุ๊คเล่นกับแรมโบ้ไปก่อนนะเดี๋ยวเราเอาข้าวไปเทใส่จานให้” “เออขอบใจ...เป็นไงบ้างครับคิดถึงจังเลยเจ้าเหมียวอ้วน” “เหมี๊ยววว...” “อย่ากัดมือพี่ชายธีซิฮาๆๆๆ”

               

          เสียงหัวเราะสนุกสนานนั้นทำไมพอได้ยินแล้วมันอดยิ้มตามไม่ได้ ทั้งที่เห็นเขาออกจะบ่อยแต่สิ่งเดียวที่ผมไม่เคยได้ยินเลยคือเสียงแบบนี้เองหรอ ท่าทางน่ารักๆแบบนั้นมันอะไรกันภายนอกดูแข็งกระด้างแท้ๆ พูดจาหน้าตาท่าทางดูเหมือนพร้อมจะมีเรื่องได้ตลอดเวลาแบบนั้นแต่พออยู่กับเจ้าแรมโบ้นี้มันคนเดียวกันจริงๆหรอ ผมที่จัดการเทข้าวมันไก่ออกจากห่อพล่างมองไปที่ฟลุ๊คและเจ้าแรมโบ้ที่หยอกล้อกันอย่างน่ารัก แต่จะว่าไปพอสังเกตใบหน้าของเขาทำไมอยู่ๆผมกับรู้สึกว่ามันสวย น่ารัก ผมสั้นเสมอหูแบบนั้นมันคืออะไรกันยิ่งเวลาเขาเสยหรือยกทัดหู พอๆไอ้กันต์มึงเป็นบ้าละ ผมค่อยๆสะลัดความคิดแปลกๆออกจากหัวก่อนจะยกจานข้าวที่จัดใส่ถาดเดินออกไปหาคนที่เล่นกับแมวอยู่ทันที “ฟลุ๊คมากินข้าวเราเทให้เรียบร้อยละ” “เออขอบใจ...ว่าแต่ของแรมโบ้อ่ะ” “ของแรมโบ้หรอเดี๋ยวเราไปเทอาหารให้มันแปบ” “ไม่ต้องอาหารอยู่ตรงไหนเดี๋ยวกูไปเทให้เอง” “ไม่เป็นไรฟลุ๊คกินข้าวเถอะ” “ไม่เอาก็กูจะเทให้อยู่ตรงไหน...ตรงนั้นใช่ป่ะ” ไม่พูดเปล่าอีกคนเดินไปที่ห่ออาหารของเจ้าแรมโบที่ผมเองก็วิ่งตามมาเช่นกัน ว่าแต่แล้วทำไมผมจะต้องมาหวงการเทอาหารให้เจ้าแรมโบ้ด้วยเนี้ย “ถอยไปกูเทได้” “เดี๋ยวเราเทดีกว่า” “เอ๊ะมึงนี้....” คนถูกดึงถุงอาหารแมวจากมือหันมามองหน้าผมที่เดินมาจากข้างหลังทำให้ใบหน้าของผมที่ก้มลงไปพอดีชนเข้ากับปลายจมูกที่เฉี่ยวกัน ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ “เออคือมึง...อุ๊บ!!”

               

          เชี้ยแล้วไง...ผมยังไม่ทันจะพูดให้จบถูกไอ้คนตรงหน้าประกบริมฝีปากจูบผมทันที  นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันผมถูกผู้ชายจูบงั้นหรอไม่นะ แล้วทำไมมันรู้สึกแปลกๆละรังเกียจหรอแต่ทำไมใจมันเต้นแรงขนาดนี้ว่ะ ไม่ๆเมื่อผมดึงสติกลับมาได้ก็สวนมัดตรงเข้าไปที่หน้าไอ้กันต์ทันที ผัวะ!!!... “ไอ้บ้าเอ้ยมะ...มึงทำเชี้ยไรเนี้ย” “ขอ...ขอโทษคือเรา” “โถ่โว้ย...” ผมไม่รอให้ไอ้กันต์ได้พูดอะไรต่อก่อนจะเดินไปคว้ากระเป๋าแล้วออกจากบ้านของมันทันที ใครจะไปคิดว่าอยู่ๆจะโดนมันจูบ แล้วนี้จูบกับผู้ชายอีก มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่  หรือว่าไอ้กันต์เป็นเกย์งั้นหรอ...แล้ว...ผมค่อยๆยกมือขึ้นเช็ดปากตัวเองไปมาก็จะไม่ให้ตกใจได้ไงอยู่ๆก็โดนใครไม่รู้ที่พึ่งรู้จักแถมเป็นผู้ชายมาจูบปาก ไม่ๆไอ้ฟลุ๊คดึงสติแล้วกลับหอมึงซ่ะ

               

          ผม...ทำอะไรลงไปนี้ผมบ้าไปแล้วจริงๆหรออยู่ๆไปจูบผู้ชายแถมเป็นคนที่พึ่งได้คุยกันแท้ๆ แล้วแบบนี้จะทำไงต่อละมองหน้าไม่ติดแน่ๆ ถูกเกลียดแล้วแน่ๆไอ้กันต์เอ้ย “เหมี๊ยววว...” “แรมโบ้...อ่ะเดี๋ยวเทอาหารให้น่ะ เฮ้อออ...พี่ชายธีของแรมโบ้ต้องเกียจป๊าปี๊แล้วแน่ๆเลย” ผมพูดพร่างเอามือขึ้นลูบหัวเจ้าแรมโบ้ที่กินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย “แล้วข้าวสองจานนี้ล่ะวันนี้มันคงไม่อร่อยแล้วละ” ผมได้แต่ยืนมองข้าวมันไก่สองจานที่วางอยู่บนโต๊ะซึ่งวันนี้มันคงจืดชืดไม่อร่อยแล้วละผมมันบ้าเองที่ไปทำเรื่องแบบนั้นถ้าจะถูกเกลียดก็ไม่แปลกหรอก พยายามคิดว่าจะสามารถเป็นเพื่อนกับคนคนนี้ได้แล้วแท้ๆแต่ถึงตอนนี้ยังจะหวังอะไรอีกละ  “แต่ถึงยังไงก็อยากเป็นเพื่อน...กับเขาอยู่ดีถึงจะถูกโกรธถูกเกลียดก็ต้องขอโทษเขาให้ได้” 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา