ผมกับชีวิตในรั้วโรงเรียน

7.5

เขียนโดย ลัลลาบาย

วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 08.51 น.

  2 ตอน
  2 วิจารณ์
  4,387 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 14.48 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) เปิดเทอมใหม่กับครูฝ่ายปกครอง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          เมื่อผมมาถึงโรงเรียน  เสียงกริ่งเข้าแถวก็ดังขึ้น  หลังจากเคารพธงชาติ สวดมนต์เสร็จ  ผู้อำนวยการโรงเรียนก็ขึ้นเวทีมาให้โอวาทแก่นักเรียนในวันเปิดเทอม  ผมก็แอบกระซิบกับเพื่อนผมที่ชื่อบลาบัสว่า

"มึงดูดิ  ผู้อำนวยการผมยังไม่ขึ้นอีกหรอวะ"

บลาบัสฟังผมพูดเสร็จก็ขำออกมาเสียงดังลั่น  ครูฝ่ายปกครองก็เดินเข้ามานำตัวบลาบัสออกไปนอกแถว  ผมก็ยืนหน้าซีดเหมือนอุจจระไม่ออกเพราะกลัวว่าครูฝ่ายปกครองจะถามบลาบัสว่าขำเรื่องอะไร  ซึ่งรู้อยู่แล้วแน่ๆว่าต้องถาม  หลังจากผู้อำนวยการให้โอวาทเสร็จแล้ว  ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของครูประจำชั้น  ตอนนั้นเอง  ครูฝ่ายปกครองก็ถามบลาบัสว่า

"เธอหัวเราะเสียงดังขนาดนั้นรู้มั้ยว่ามันเสียมารยาท  เธอบอกครูมาซิว่าเธอหัวเราะเรื่องอะไร"

 

บลาบัสได้ฟังดังนั้นก็ไม่กล้าพูดความจริงออกไป  เพราะกลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่  ผู้อำนวยการอาจรู้เรื่องแล้วเอาวิกผมมาใส่  อาจทำให้พวกผมไม่ได้เห็นผมจริงๆของผู้อำนวยการ  จึงตอบครูฝ่ายปกครองว่า

"ผมแค่คิดเรื่องที่ครูตกชักโครกจนสะโพกหลุดในสมัยที่ผมอยู่มัธยมต้นทำให้เผลอขำออกมาอะครับ555+"

ครูฝ่ายปกครองได้ยินดังนั้นก็โกรธมาก  แต่ว่าที่บลาบัสพูดเป็นความจริงและมีคนรู้เรื่องนี้น้อยมาก  ถ้าทำโทษไป  บลาบัสอาจเอาเรื่องที่ตกชักโครกจนสะโพกหลุดมาโรงเรียนไม่ได้2เดือนมาแฉ  จึงบอกบลาบัสว่า

"ครูเห็นว่าเป็นวันแรกของเทอม  ครูจะไม่ลงโทษเธอในครั้งนี้  แต่ขอให้เธอเก็บเรื่องที่ครูสร้างบาดแผลในห้องน้ำชายชั้น2ไว้เป็นความลับด้วย  ไม่งั้นเจอดีแน่ๆ หึ!"

บลาบัสได้ยินดังนั้นจึงขำลั่นโรงเรียนยิ่งกว่าตอนเห็นผู้อำนวยการไม่มีผมเสียอีก  จากนั้นก็บอกกับครูฝ่ายปกครองว่า

"ได้เลยครับ  ผมรับปาก555+"

 

ครูฝ่ายปกครองจึงเดินกลับห้องทำงานไปอย่างไม่พอใจเท่าไหร่นักและไม่ทันสังเกตว่า  ระหว่างที่บลาบัสพูดว่า"ผมรับปากครับ"นิ้วชี้กับนิ้วกลางของบลาบัสทั้งสองข้างไขว้กัน  นั่นก็แปลว่าที่รับปากว่าจะไม่บอกคนอื่นเรื่องที่ครูตกชักโครกนั้นเป็นโมฆะ  และยิ่งไขว้กันทั้ง2ข้างก็ยิ่งกลายเป็นดับเบิ้ลโมฆะเลย(โมฆะกับโมฆะเจอกันตัดกันไม่ได้นะ อย่าเอาคณิตมาเกี่ยว555+) 

จากนั้นบลาบัสก็วิ่งเข้ามาหาผมด้วยความมั่นหน้าเหมือนเพิ่งทำศึกชนะมา แล้วบอกกับผมว่า

"หยุด! กูรู้ว่ามึงจะถามกูว่าไรไอฟีท555+"

ผมก็ทำหน้าเอ๋อๆแล้วตอบไปว่า

"งั้นถ้ามึงรู้แล้วก็บอกกูมาสิ ว่ากูจะถามมึงว่าอะไร"

บลาบัสก็ตอบกลับมาว่า

"มึงจะถามกูเรื่องที่ครูปกครองเรียกกูไปถามว่าหัวเราะทำไมใช่มั้ยล่ะ555+  มึงไม่ต้องห่วงนะ  พวกเราไม่ต้องกลัวครูสะโพกบิดนั่นแล้วล่ะ  กูจัดการอยู่หมัดแล้ว555+"

 

ผมก็ทำหน้างงๆ บลาบัสจึงบอกผมว่า  

"เดี๋ยวตอนเที่ยงกูเล่าให้ฟังหน่า  ตอนนี้ขึ้นเรียนก่อนเถอะ555+"
จากนั้นพวกเราก็ขึ้นไปยังห้องโฮมรูม  แล้วผมก็สังเกตว่า "นิริน" แฟนของผมไม่มาโรงเรียน  ผมจึงไปถามเพื่อนสนิทของนิริน นั่นก็คือเบล ว่า

"เบล วันนี้นิรินเป็นอะไรอะ ทำไมไม่มาโรงเรียน"

เบลก็ทำสีสีเหมือนเพิ่งโดนอุกกาบาตพุ่งชนและตอบด้วยเสียงตะคอกกลับมาว่า

"ขนาดแฟนอย่างมึงยังไม่รู้ แล้วกูจะไปตรัสรู้มั้ยล่ะ"

ผมก็อึ้งไปซักพักนึง แล้วก็ตอบไปว่า

"ขอโทษครับ กูผิดเอง T T"

ตอนนั้นอาจารย์ยังไม่เข้าสอน ผมเลยโทรไปที่บ้านของนิริน  คุณแม่ของนิรินรับสายแล้วบอกว่า

"นิรินไม่สบายนะ  แต่พรุ่งนี้คงมาโรงเรียนได้ปกติ  ขอบคุณที่เป็นห่วงนะลูก"

ผมก็ตอบกลับไปว่า

"อ่อ ครับ ขอบคุณนะครับ "

เมื่อคุยโทรศัพท์เสร็จ ผมก็เข้าไปในห้องเรียน ครูก็เริ่มสอนพอดี 

 

ตอนกลางวัน (ณ โรงอาหาร)

"เฮ้ย!! ไอบัส ทางนี้ๆ ไหน มึงบอกกูได้ยังว่ามึงจัดการกับครูฝ่ายปกครองอยู่หมัดได้ยังไง"

ผมเอ่่ยปากถามบลาบัสด้วยใบหน้าที่จริงจัง  บลาบัสหัวเราะและตอบกลับมาว่า

"มันเป็นเรื่องที่น่าขำมากเลยว่ะ  กูจะเล่าละนะ เรื่องก็มีอยู่ว่า บลาๆๆๆ(ย้อนไปอ่านข้างบนนะครับ555+)"

ผมได้ฟังดังนั้นจึงกลั้นขำไว้ไม่อยู่จึงขำลั่นโรงอาหาร  จนครูเวรประจำโรงอาหารเรียกผมเข้าไปอบรมเรื่องมารยาทและซักถามว่าทำไมถึงหัวเราะดังขนาดนั้น  ผมก็บอกเรื่องที่ครูฝ่ายปกรองครองตกชักโครกจนสะโพกหลุดให้ครูเวรประจำโรงอาหารฟัง  ซึ่งครูเวรก็ไม่ชอบครูฝ่ายปกครองคนนี้อยู่แล้วจึงไม่ทำโทษผมและปล่อยผมออกมา

จากนั้นเรื่องที่ครูฝ่ายปกครองตกชักโครกก็แพร่สะพัดดุจคำนินทาจากปากคนจนรู้กันทั่วโรงเรียน  ทำให้ครูฝ่ายปกครองอายมาก จนขอลาออกจากโรงเรียน  ทำให้เรื่องนี้กลายเป็น7สิ่งมหัศจรรย์ของโรงเรียนนี้เลยทีเดียว

เมื่อผมและบลาบัสทราบข่าวเรื่องที่ครูฝ่ายปกครองจะลาออก  จึงพากันไปขอขมาและได้รับคำพูดคำนึงจากครูฝ่ายปกครองกลับมาว่า

"ครูรู้เธอยังเป็นแค่เด็ก  เรื่องในครั้งนี้ครูอยากให้เธอจำเป็นบทเรียน  ว่าการไม่รักษาสัญญาอาจทำลายชีวิตของผู้อื่นได้  แต่ครูไม่เสียใจหรอกนะ  ครูก็แก่แล้ว ถ้าครูสามารถทำให้เด็กคนนึงได้เข้าใจและกลับตัวกลับใจได้  ชีวิตนี้ที่เลือกจะมาเป็นครูก็ประสบความสำเร็จแล้วล่ะ  จนอย่าลืมบทเรียนนี้นะ  ครูให้อภัยครับ"

เมื่อผมและบลาบัสได้ยินคำพูดของครูฝ่ายปกครองเท่านั้น  ก็มีหยดน้ำใสๆไหลรินออกมาจากตาทั้งสองข้างดั่งสายน้ำที่ทอดยาวไม่มีที่สิ้นสุด  ผมและบลาบัสต่างก็ขอร้องว่าครูอย่าไปเลย  ผมขอโทษ  ครูฝ่ายปกครองก็ได้ตอบกลับมาว่า

"ไม่ได้หรอก  ครูไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ เพราะคำนินทาจากปากคนมันคมยิ่งกว่าโดนกระบี่บั่นคอเสียอีก  พวกเธอไม่ต้องเป็นห่วงนะ  ครูอายุ58แล้ว  อีก2ปีครูก็เกษียรณแล้ว  ออกก่อนซัก2ปีก็ได้เงินบำนาญใช้ในบั้นปลายชีวิตอยุ่ดีนั่นแหละ  ถ้าเธอรู้สึกผิดจริง  ก็ตั้งใจเรียนหนังสือ  หางานดีๆทำ  เท่านี้ก็ถือว่าเป็นการชดใช้ความผิดแล้วล่ะนะ

น้ำตาของผมกับบลาบัสก็ยิ่งไหลมากขึ้นราวกับฝนตกในแม่น้ำที่ล้นตลิ่งอยู่แล้ว  

 

เรื่องในวันเปิดเทอมวันแรกก็จบลงด้วยน้ำตาและบทเรียนที่ควรค่าแก่การจดจำ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา