สาวเสื้อแดงบนรถไฟ

9.2

เขียนโดย แว่นฟ้า

วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.50 น.

  1 ตอน
  3 วิจารณ์
  2,932 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 21.56 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) สาวเสื้อแดงบนรถไฟ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

แรงบันดาลใจจาก All you Zombies โดย Robert A. Heinlein

 

               แปดชั่วโมงบนรถไฟทำให้ร่างกายชาไปหมด ทุกคนในโบกี้ค่อย ๆ ลงกันไปทีละคน จนสุดท้ายเหลือเพียงฉันและหญิงสาวเสื้อแดง เธอนั่งติดหน้าต่างทางด้านหลัง กำลังมองเม็ดฝนเม็ดแล้วเม็ดเล่ารวมตัวแล้วแยกจาก ความเย็นจากช่องแอร์ช่องเล็ก ๆ เป่าตาฉันจนแสบไปหมด

 

               ผ่านไปสักพัก หญิงสาวเสื้อแดงซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นชายหนุ่มผมยาวใส่เสื้อสีแดงเดินเข้ามาหาฉัน เขาชักมีดออกมา แล้วขู่ให้ฉันส่งเงินและทรัพย์สินมีค่าทั้งหมดให้กับเขา

 

               เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย ฉันลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงส่งกระเป๋าถือทั้งใบให้ไป เขาเปิดกระเป๋า แล้วเทของทั้งหมดออกมาบนเบาะข้าง ๆ ฉันไม่ได้พกอะไรมากนอกจาก ปากกา สมุด หนังสือรวมเรื่องสั้น กระเป๋าสตางค์ และกล่องพัสดุกล่องเล็ก ๆ ที่เพิ่งได้รับมาเมื่อเช้า พร้อมกับจดหมายเล่าว่าของข้างในเป็นนาฬิกา สมบัติของคุณย่าที่ตายไปแล้ว ชายหนุ่มผมยาวส่งสายตาผิดหวังเพราะไม่มีอะไรที่ดูมีค่าเป็นพิเศษ เขาแกะกล่องเล็ก ๆ นั้นออก ภายในพบนาฬิกาข้อมือเรือนหนึ่ง สายทำจากหนังสีดำ ดูใหม่เหมือนเพิ่งซื้อมา นาฬิกาข้อมือเรือนนี้เป็นแบบเข็ม ข้าง ๆ หน้าปัดมีปุ่มอยู่ปุ่มหนึ่งสลักตัวหนังสือภาษาอังกฤษไว้ด้านบนว่า press to reset ชายหนุ่มผมยาวกดปุ่มนั้นทันทีที่เห็นมัน

 

ติ๊ด!

 

               แปดชั่วโมงบนรถไฟทำให้ร่างกายชาไปหมด ทุกคนในโบกี้ค่อย ๆ ลงกันไปทีละคน จนสุดท้ายเหลือเพียงฉันและหญิงสาวเสื้อแดง เธอนั่งติดหน้าต่างทางด้านหลัง กำลังมองเม็ดฝนเม็ดแล้วเม็ดเล่ารวมตัวแล้วแยกจาก ความเย็นจากช่องแอร์ช่องเล็ก ๆ เป่าตาฉันจนแสบไปหมด

 

               ผ่านไปสักพัก หญิงสาวเสื้อแดงซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นชายหนุ่มผมยาวใส่เสื้อสีแดงเดินเข้ามาหาฉันเพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องเส้นทาง

 

               เขาบอกว่าตัวเองจะลงที่สถานี ข. พลางไถ่ถามระยะทางว่าอีกไกลไหม อันที่จริงสถานีข. เป็นสถานีที่เลยจุดหมายปลายทางของฉันไปอีกสถานีหนึ่ง ฉันจึงตอบเขาไปว่าหากเห็นฉันลงเมื่อไหร่ ให้นับไปอีกสถานีหนึ่งแล้วค่อยลง

 

               "คุณจะไปที่เมืองก. ทำไมหรือครับ" เขาว่า

 

               "ฉันจะเอานาฬิกาไปขายน่ะค่ะ มีคนรู้จักทำงานอยู่ที่ร้านรับซื้อของโบราณที่นั่น เขาบอกว่าจะให้ราคาดี" ฉันตอบแล้วเล่าเรื่องสมบัติของคุณย่าให้เขาฟัง ฉันเพิ่งได้รับพัสดุกล่องเล็กทางไปรษณีย์พร้อมจดหมายบอกเล่าว่าในกล่องคือพัสดุของคุณย่าที่ตายไป เขาขอดูนาฬิกาเรือนดังกล่าวแล้วเสนอซื้อในราคาสูง ขณะที่เรากำลังสนทนากันอยู่รถไฟก็วิ่งเลยสถานีก.ที่เขาจะลง เขายืนยันจะซื้อนาฬิกาข้อมือเรือนนี้จากฉันให้ได้ รถไฟกำลังเคลื่อนจากสถานีก. ไปยังสถานีข. เกิดแรงปะทะเสียงดังตั้ม! แล้วรถไฟทั้งขบวนก็เอียงตกลงจากสะพานสูงลงไปยังแม่น้ำ ชายผมยาวฉวยเอานาฬิกาไป ก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นสีดำทะมึน

 

ติ๊ด!

 

               แปดชั่วโมงบนรถไฟทำให้ร่างกายชาไปหมด ทุกคนในโบกี้ค่อย ๆ ลงกันไปทีละคน จนสุดท้ายเหลือเพียงฉันและหญิงสาวเสื้อแดง เธอนั่งติดหน้าต่างทางด้านหลัง กำลังมองเม็ดฝนเม็ดแล้วเม็ดเล่ารวมตัวแล้วแยกจาก ความเย็นจากช่องแอร์ช่องเล็ก ๆ เป่าตาฉันจนแสบไปหมด

 

               ผ่านไปสักพัก หญิงสาวเสื้อแดงซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นชายหนุ่มผมยาวใส่เสื้อสีแดงเดินเข้ามาหาฉันแล้วทักว่า "สนใจตรวจสอบดวงชะตาไหมครับ" แล้วยิ้มให้ ยิ้มของเขาช่างดูมีเสน่ห์

 

               "คิดเงินหรือเปล่าคะ"

 

               "ฟรีครับ แต่มีข้อแลกเปลี่ยน ถ้าสิ่งที่ผมพูดนั้นถูกหมด คุณต้องเลี้ยงกาแฟผมแก้วนึง"

 

               "ได้สิ" ได้เล่นอะไรแบบนี้ก็น่าตื่นเต้นดีเหมือนกัน

 

               "ข้อแรก มีคนในครอบครัวคุณเพิ่งจากไป ถูกไหมครับ" ฉันพยักหน้า คุณย่าที่ฉันไม่เคยเห็นหน้าเลยสักครั้งเพิ่งเสียชีวิต มีพัสดุกล่องเล็ก ๆ ส่งมาถึงฉันพร้อมจดหมายระบุว่าข้างในเป็นนาฬิกาของคุณย่าที่ยกให้ฉัน

 

               "ข้อที่สอง คุณกำลังเดินทางไปทำธุรกิจอะไรสักอย่าง" ฉันพยักหน้าอีกครั้ง ฉันตัดสินนำนาฬิกาที่คุณย่ายกให้ไปขายให้กับคนรู้จักซึ่งอยู่ต่างเมือง

 

               "ข้อที่สาม คุณคิดว่าผมมีเสน่ห์" ฉันหัวเราะฮ่า ๆ ยอมแพ้คารมของเขาแล้วตกลงจะเลี้ยงกาแฟเขาที่สถานี ก. ซึ่งเป็นสถานีปลายทางของเขา หลังจากนั้นฉันจะนั่งแท็กซี่ไปเมือง ข.ที่อยู่ใกล้ ๆ เพื่อไปทำธุระให้เสร็จ ช่วงเวลาที่เราอยู่ในร้านกาแฟ ชายผมยาวชวนฉันสนทนาเรื่องหนังสือ เขาบอกว่าไฝที่หูขวาของฉันทำให้เขานึกถึงผู้หญิงคนหนึ่งในหนังสือรวมเรื่องสั้นของฮารุคิ มุราคามิซึ่งฉันบังเอิญพกมาด้วยพอดี เราเห็นข่าวรถไฟชนกันในทีวี ราวกับว่าฉันรอดตายอย่างหวุดหวิดเพราะเลี้ยงกาแฟชายผมยาวคนนี้

 

หลายสิบปีผ่านไป...

 

               หญิงชราคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงยาว หายใจออกครั้งสุดท้ายก่อนที่จะนอนนิ่งไปเฉย ๆ บนเก้าอี้ข้างเตียงมีชายแก่ผมยาวสีขาวคอยกุมมือ ภรรยาของเขาได้จากไปแล้ว เขาหยิบกล่องกล่องหนึ่งออกมาจากลิ้นชักข้างเตียง พร้อมด้วยซองจดหมายซองหนึ่งนำไปใส่ไว้ในกล่องรับพัสดุหน้าบ้าน รอให้บุรุษไปรษณีย์ข้ามมิติมารับเอาไป ในจดหมายมีใจความดังนี้

 

               ถึง หลานย่า
               ย่าขอมอบนาฬิกาข้อมือเรือนนี้ให้เป็นสมบัติของหลาน ให้หลานช่วยดูแลรักษาต่อหลังจากที่ย่าไม่สามารถทำได้แล้ว...

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา