“เนื้องอกมดลูก” เรื่องสำคัญที่ผู้หญิงต้องรู้ คุณอาจเป็นโดยไม่รู้ตัว

chutikan

ขีดเขียนหน้าใหม่ (44)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:47
เมื่อ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 11.02 น.

เนื้องอกมดลูก” เรื่องที่ผู้หญิงต้องรู้......
     เนื้องอกมดลูก เชื่อว่าหลายท่านตกใจหรือกังวลอยู่ไม่น้อยเมื่อได้ยินชื่อนี้ บางท่านกังวลถึงขั้นว่าเนื้องอกนั้นจะกลายเป็นมะเร็ง ฉะนั้นเรามาทำความรู้จักกับโรคเนื้องอกมดลูก ภัยเงียบสำหรับคุณผู้หญิง เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันตัวเองจากภัยเงียบนี้อย่างถูกต้อง เพราะการตรวจพบได้ตั้งแต่แรก ย่อมรักษาได้เร็วกว่า และปลอดภัยกว่า

เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก Leiomyoma
     เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูกเป็นรอยโรคทางนรีเวชที่พบบ่อยที่สุดและเป็นสาเหตุของการผ่าตัดมากที่สุดในโรคทางนรีเวช โดยจะพบได้ประมาณ 50% ของสตรี ส่วนมากไม่มีอาการ ในรายที่มีอาการจะขึ้นกับชนิดของเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูกซึ่งแบ่งตามตำแหน่งของเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก

     - ชนิดแรก เนื้องอกที่ผิวด้านนอกมดลูก (Subserous myoma) กลุ่มนี้มักจะไม่มีอาการ ขนาดมักจะใหญ่ อาการที่เกิดมักเกิดจากขนาดของก้อนไปกดเบียดอวัยวะอื่น เช่น กดกระเพาะปัสสาวะทำให้ปัสสาวะบ่อย กดลำไส้ใหญ่ทำให้เกิดอาการท้องผูก หรือ กดท่อไตทำให้ท่อไตบวม การทำงานของไตแย่ลงอาจถึงภาวะไตวาย
     - ชนิดที่สอง เนื้องอกที่กล้ามเนื้อมดลูก (Intramural myoma) เนื้องอกภายในกล้ามเนื้อของมดลูก ขัดขวางการบีบรัดตัวของมดลูก หรือขนาดใหญ่หรือใกล้โพรงมดลูก เป็นผลทำให้มีอาการปวดท้องประจำเดือน ประจำเดือนมามาก ในบางรายขนาดเนื้องอกใหญ่มากอาจทำให้มดลูกโตและไปเบียดอวัยวะอื่นๆ ทำให้เกิดความผิดปกติ
     - ชนิดที่สาม เนื้องอกมดลูกที่โพรงมดลูก (Submucous myoma) เนื้องอกชนิดนี้อยู่ในกล้ามเนื้อใต้เยื่อบุโพรงมดลูกทำให้พื้นผิวในโพรงมดลูกไม่เรียบ ซึ่งจะทำให้มีเลือดออกผิดปกติ ประจำเดือนกระปริดประปรอยระหว่างรอบเดือน ปวดท้องประจำเดือน และเป็นสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก

     เนื้องอกอาจมีก้อนเดียวหรือหลายก้อน เนื้องอกส่วนใหญ่จะเริ่มต้นจากภายในที่เป็นชั้นของกล้ามเนื้อของมดลูกมีการเจริญเติบโตต่อไป เนื้องอกอาจจะเจริญเติบโตออกไปทางด้านนอกของมดลูกหรือจะเจริญเติบโตต่อเข้าไปด้านในเบียดโพรงมดลูก ทำให้มีอาการผิดปกติต่างๆ เช่น เลือดออกผิดปกติ,ปวดท้องน้อย, รวมถึงการเบียดอวัยวะอื่นๆได้ ซึ่งผลที่ตามมาอาจทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง, การขาดธาตุเหล็ก, ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

เนื้องอกชนิดนี้เป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง โอกาสกลายเป็นมะเร็งต่ำประมาณ 1 : 1,000

แนวทางการรักษา
     - กรณีไม่มีอาการ ไม่ต้องทำการรักษาใดๆ แนะนำให้ตรวจติดตามต่อเนื่องเพื่อติดตามขนาด และตำแหน่งของก้อนเนื้องอกมดลูก
     - กรณีมีอาการ การรักษาหลัก คือ การลดขนาดของเนื้องอกมดลูก, ตัดเนื้องอกมดลูก หรือตัดมดลูก

โดยมีทางเลือกในการรักษา โดยการใช้ยา หรือการเข้ารับการผ่าตัด
     - การรักษาโดยใช้ยา ปัจจุบันการรักษาโดยใช้ยาที่มีหลักฐานการวิจัยยืนยัน ได้แก่ การฉีดยา GnRH agonist. เพื่อลดขนาดของก้อนเพื่อเข้ารับการผ่าตัด
     - การใช้ยากลุ่มอื่น เช่น การทานยาคุมกำเนิด, การฉีดยาคุมกำเนิด สามารถช่วยได้ในเรื่องของการมีประจำเดือนมามาก แต่บางการศึกษาพบว่า เป็นการกระตุ้นให้ก้อนเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูกโตขึ้นได้
     - การรักษาโดยการผ่าตัดเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก ในปัจจุบันสามารถผ่าตัดได้โดยการผ่าตัดผ่านกล้องแบ่งเป็นสองชนิด

1.การส่องกล้องทางโพรงมดลูก hysteroscopy
สามารถใช้ในการผ่าตัดรักษาเนื้องอกมดลูกที่อยู่ในโพรงมดลูก หรือที่มีการเบียดโพรงมดลูก วิธีการผ่าตัดนี้ จะไม่มีแผลผ่าตัด จะสอดกล้องผ่านช่องคลอด ปากมดลูกเข้าสู่โพรงมดลูก และใช้ลวดไฟฟ้าในการตัดเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก ทำให้สามารถฟื้นตัวได้เร็ว ข้อจำกัดของการส่องกล้องทางโพรงมดลูก ได้แก่ขนาดของเนื้องอกมดลูก ในกรณีที่ขนาดใหญ่ ดังนั้นการตรวจพบแต่เนิ่นๆ จะทำให้สามารถรักษาได้ง่ายขึ้น

2.การส่องกล้องทางช่องท้อง Laparoscopy
การส่องกล้องทางหน้าท้องสามารถผ่าตัดรักษาเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูกได้เทียบเคียงกับการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง โดยจะมีแผลผ่าตัด ขนาด 0.5-1 เซนติเมตร 3-4 แผล ขึ้นกับความยากง่ายของการผ่าตัด ส่วนสำคัญคือการนำเนื้องอกออกจากช่องท้องหลังจากผ่าตัดแล้ว โดยเฉพาะก้อนที่มีขนาดใหญ่ ปัจจุบันการใช้เครื่องปั่นชิ้นเนื้อต้องทำในถุงชนิดพิเศษเท่านั้น เพื่อป้องกันการกระจายของเนื้องอกไปฝังตัวในช่องท้องตำแหน่งอื่น การผ่าตัดส่องกล้องจะช่วยให้ผู้ป่วยใช้เวลาฟื้นตัวน้อยกว่า เจ็บแผลน้อย ทำให้กลับสู่ชีวิตประจำวันได้อย่างรวดเร็ว

     การเข้ารับการตรวจภายในร่วมกับการตรวจอัลตราซาวน์ช่องท้องส่วนล่างเป็นประจำทุกปี จะช่วยให้สามารถวินิจฉัยโรคทางนรีเวชได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้สามารถมีทางเลือกในการรักษา และโอกาสหายได้มากกว่า

     เนื้องอกมดลูก แม้ไม่ทราบสาเหตุการเกิดของโรคอย่างชัดเจน ผู้ป่วยโรคเนื้องอกมดลูกส่วนมากมักไม่มีอาการจนเมื่อเข้าสู่ระยะรุนแรง แต่ทั้งนี้สามารถป้องกันและรักษาได้ ถ้าตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ หมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกายตนเองอยู่เสมอ หากมีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ทันที และที่สำคัญควรตรวจสุขภาพเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อการดูแลรักษาด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางได้อย่างทันท่วงที

     โรงพยาบาลนนทเวช พร้อมให้การดูแลรักษา “เนื้องอกมดลูก” ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านสูตินรีเวช พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวชและมะเร็งทางนรีเวช ทีมีประสบบการณ์มากกว่า 15 ปี ภายใต้มาตรฐาน JCI ที่ทั่วโลกยอมรับ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โรงพยาบาลนนทเวช

ขอบคุณข้อมูล : นายแพทย์ศุภชัย เรืองแก้วมณี
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านมะเร็งทางนรีเวช และการผ่าตัดผ่านกล้อง
โรงพยาบาลนนทเวช
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://www.nonthavej.co.th/Leiomyoma.php

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา