ป้องกันรถยนต์จากไอร้อนของแสงแดด

looklikelove

ขีดเขียนฝึกหัด (74)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:100
เมื่อ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2564 22.14 น.

เวลาที่เราจอดรถทิ้งไว้ ไม่ว่าจะในอาคารหรือกลางแจ้ง เมื่อเรากลับมาที่รถยนต์ของเรา เราจะสัมผัสได้ทันทีที่เปิดประตูรถ นั่นก็คือไอร้อนนั่นเอง จะเห็นได้ว่าแสงแดดนั้นมีอานุภาพร้ายแรงขนาดไหน ขนาดภายในรถยนต์ยังร้อนขนาดนี้ แล้วถ้าภายนอกตัวรถล่ะ จะถูกแสงแดดทำลายมากแค่ไหน คนรักรถเอง คงกังวลใจไม่น้อย และอยากจะปกป้องรถยนต์โดยการติดฟิล์มใสกันรอย เพราะนอกจากจะช่วยให้รถไม่มีรอยแล้ว ยังทำให้รถยนต์ของเราดูใหม่อีกด้วย

ด้วยเหตุนี้หลายคนที่มีรถยนต์จึงไม่ลังเลใจที่จะติดฟิล์มใสกันรอยรถยนต์ ติดฟิล์มกันรอยรถ อุณหภูมิภายในตัวรถเองก็จะลดลงอีกด้วย ไม่ร้อนระอุเหมือนเตาไมโครเวพซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่อันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว หากเราลืมบุตรหลานหรือสัตว์เลี้ยง รวมไปถึงเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งถ้าเกิดความร้อนสูงภายในรถยนต์ อาจสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลได้ รักรถแล้วต้องรักชีวิตด้วย ฟิล์มกันรอยรถยนต์จึงเป็นทางเลือกที่คนรักและใส่ใจรถเลือกใช้ ส่วนการดูแลสีรถภายนอกก็เป็นสิ่งสำคัญและเราสามารถทำเบื้องต้นได้โดย จอดรถในที่ร่ม เพราะแสงแดดตอนกลางวันในบ้านเราแม้จะไม่ร้อนระอุเหมือนทะเลทราย แต่ก็มีพลังทำลายล้างความสดใสของสีรถยนต์ของเราให้ซีดจางและหม่นหมองลงไปได้อย่างรวดเร็วเลยทีเดียว และเนื่องจากบ้านเมืองเราเป็นเมืองร้อนอบอ้าว การจอดรถยนต์ในที่แจ้งเวลากลางคืน น้ำค้าง คือตัวการสำคัญหนึ่งที่ส่งผลทำให้สีของรถยนต์ซีดด่างได้ด้วยอีกเช่นกัน ดังนั้นเราควรจอดรถยนต์ในที่ร่ม เพื่อป้องกันสีรถจากการทำร้ายของแสงแดดและน้ำค้าง ซึ่งช่วยให้สีภายนอกของรถยนต์ก็จะสดใสยาวนานยิ่งขึ้น อย่าปล่อยให้รถสกปรกนานเกินไป ถ้ามีฝุ่นหรือโคลนเข้ามาติดในตัวรถ สิ่งเหล่านี้จะดูดความชื้นได้ง่าย เป็นสาเหตุทำให้ชั้นผิวแล็กเกอร์ของรถยนต์ค่อย ๆ เสื่อมสภาพและลดความเงามัน ถ้าฝุ่นไม่มากจนเกินไปก็ใช้ไม้ขนไก่ปัดเบา ๆ แต่หากมีคราบฝุ่น คราบโคลน ขี้นกติดแน่น ควรใช้ผ้านุ่มชุบน้ำและเช็ดอย่างระมัดระวัง เพราะการทำความสะอาดลักษณะนี้จะทำให้สีเป็นรอยขีดข่วนได้ง่ายกว่าการล้างรถ กรณีที่เราไม่ได้ขยันล้างรถเป็นประจำ ล้างรถอย่างเหมาะสม แน่นอนว่าหากรถของเราสกปรกมากจนไม่สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ ควรเลือกใช้วิธีการล้างรถ แต่หากน้ำที่ใช้มีความร้อนหรืออุ่นมากเกินไปอาจจะทำให้สีรถซีดลงได้ รวมถึงการล้างรถในที่แจ้งที่มีแดดจัด ๆ น้ำจะระเหยเร็วและทิ้งคราบได้ง่าย นอกจากนี้การใช้ผงซักฟอกหรือสบู่ต่าง ๆ แทนการใช้น้ำยาที่ถูกผลิตขึ้นมาสำหรับใช้ล้างรถโดยเฉพาะ อาจทำให้สีรถหมดความงามจากความเป็นกรดและด่างของผงซักฟอกและสบู่ก็เป็นได้ การเช็ดรถยนต์หลังล้างเสร็จ หลังการล้างรถยนต์ทุกครั้ง สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการเช็ดทำความสะอาดรถให้แห้ง โดยการใช้ผ้าที่มีความนุ่ม สะอาด และสามารถซับน้ำได้ดี เช่น ผ้าชามัวร์ หรือ ผ้านาโน ที่ถูกผลิตขึ้นมาสำหรับใช้เช็ดรถหลังการล้าง เพราะคราบด่างจากน้ำที่เป็นเม็ด ๆ จะเกาะติดอยู่บนตัวถังจะทำให้เกิดคราบด่างที่สีของรถยนต์ หากล้างรถแล้วไม่ได้ทำการเช็ดรถให้แห้งบ่อย จะเกิดปัญหากับสีรถยนต์อย่างเห็นได้ชัดกว่าเดิม โดยจะเห็นเป็นคราบน้ำด่างเป็นจุด ๆ บนพื้นผิว

 

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา