เมื่อผิวสวยใสได้รับการดูแลอย่างดีด้วยนวัตกรรมบำรุงผิว

preciousday

ขีดเขียนชั้นมอต้น (106)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:149
เมื่อ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 16.04 น.

หากเราต้องการจะมีผิวที่สวยและอิ่มน้ำ ลดรอยริ้วรอยที่ค่อยๆมีเพิ่มมากขึ้นตามกาลเวลาและอายุที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน ยิ่งไปกว่านั้น พฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราก็มีส่วนสำคัญต่อสภาพผิว เช่น การดื่มแอลกฮอลที่มากเกินไป สิ่งนี้ไม่ใช่แค่ทำให้ผิวขาดน้ำเท่านั้น ยังเพิ่มริ้วรอยที่มาก่อนวัยอันควรอีกด้วย และสาเหตุหลักที่เราอาจมองข้ามนั้นก็คือ แสงแดด เพราะแสงยูวีนั้นมีความอันตรายอย่างมากต่อผิว และทำอันตรายร้ายแรงไปยังชั้นผิวที่เราอาจจะไม่สามารถแก้ไขได้ หากช้าเกินไป

นวัตกรรมที่ได้มาใช้ในทางแพทย์ที่เกี่ยวกับผิวหนังนั้นช่วยทำให้หนุ่มๆสาวๆที่รักผิวได้ใช้บริการ เพราะใช้เวลาอันรวดเร็วในการดูแลบำรุงผิวอย่างล้ำลึก และแก้ไขทุกปัญหาผิวได้อย่างฉับพลัน อีกทั้งยังมีความปลอดภัย การแก้ปัญหาผิวนั้น ก็มีทั้งการเติมเต็มริ้วรอยอย่างการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งคือสารเติมเต็มที่เข้ามาเติมเต็มร่องลึกต่างๆบนผิวหน้าของเราให้ดูกระชับและเปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ไม่ใช่แค่มีแค่สถานความงามในกรุงเทพเท่านั้น ยังมีสถานความงามตามหัวเมืองสำคัญต่างๆที่มีคนนิยมไปใช้บริการอย่างการฉีดฟิลเลอร์ ชลบุรี ที่สาวๆหนุ่มๆแถวชลบุรีได้โอกาสเพิ่มความปังความสวย อย่างไรก็ตาม จากที่ได้กล่าวข้างต้นเกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินไปนั้น ส่งผลอย่างไรก็ต่างกายเราบ้าง ซึ่งเว็บไซต์สนุกดอทคอมได้แชร์บทความไว้ว่า กินเหล้า ตับไม่พัง ขึ้นอยู่กับปริมาณ และชนิดที่ดื่ม การดื่มแอลกอฮอล์ให้ถูกชนิด ในปริมาณที่เหมาะสม ก็สามารถให้ประโยชน์กับร่างกายได้เช่นกัน เบียร์ เป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ไม่มาก ราวๆ 5% หรือ 5 ดีกรี ไวน์ มีแอลกอฮอล์ราว 10% หรือ 10 ดีกรี เหล้าต่างๆ มีแอลกอฮอล์ราวๆ 35-40% หรือ 35-40 ดีกรี วอดก้า บรั่นดี วิสกี้ มีแอลกอฮอล์ค่อนข้างสูง ราวๆ 40-50% หรือ 40-50 ดีกรี ขนาดมาตรฐานที่เรามักเรียกกัน คือ 1 ดริ๊งค์ (drink) หรือ 1 แก้วที่มีปริมาณเครื่องดื่มราว 10-14 กรัม ดื่มมาก ดื่มน้อย ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง หากแบ่งแยกตามเพศ ผู้หญิงไม่ควรดื่มเกิน 1 แก้ว ในขณะที่ผู้ชายไม่ควรดื่มเกิน 2 แก้ว สาเหตุที่ผู้หญิงดื่มแอลกอฮอล์ได้น้อยกว่า เพราะมีการกระจายไขมันต่อแอลกอฮอล์น้อยกว่า แอลกอฮอล์ดูดซึมได้เร็วกว่า กรรมพันธุ์ แต่ละคนจะมีระบบเผาผลาญไม่เหมือนกัน และไม่เท่ากัน อาจมีคนที่คออ่อน และคนคอแข็ง ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ของคนนั้นๆ โรคประจำตัว หากเป็นโรคตับอยู่แล้ว ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะยิ่งเพิ่มอันตรายต่อโรคตับให้มากขึ้น ช่วงเวลารับประทานอาหาร ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ขณะท้องว่าง อาจทำให้เมาได้เร็ว และทำร้ายตับได้มากกว่า ดื่มแอลกอฮอล์เท่าไร เสี่ยงโรคตับ นั่นก็คือ หากดื่มแอลกอฮอล์เกิน 4-5 ดริ๊งค์ต่อวันติดต่อกันเกิน 5 ปี จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคตับได้ โดยอาการเริ่มแรกอาจพบเพียงไขมันสะสมที่ตับ หากยังดื่มในปริมาณมากๆ เหมือนเดิมติดต่อกันถึง 10 ปี อาจมีความเสี่ยงเป็นโรคตับแข็งได้ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงในการเป็นโรคตับแข็งของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย กรรมพันธุ์ ปริมาณที่ดื่ม และพฤติกรรมเสี่ยงอื่นๆ อีกด้วย



โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา