ค่าเบี้ยประกันภัยเขาพิจารณาจากอะไรกันบ้างมาดูกันดีกว่า
แน่นอนว่าในการทำประกันภัยใด ๆ ก็ตามนั้น เราจำเป็นที่จะต้องพิจารณาจากอะไรหลาย ๆ รวมถึงค่าเบี้ยประกันภัยด้วย ซึ่งใน ประกันอุบัติเหตุ นั้นแม้ว่าจะเป็นจ่ายค่าเบี้ยประกันที่ไม่ได้สนว่าผู้เอาประกันภัยเป็นใครนั้นก็ยังต้องมีการกำหนดเงื่อนไขในเรื่องของค่าเบี้ยประกันภัยไว้ด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของอาชีพ อย่างเช่น ถ้าในชีวิตประจำวันต้องเสี่ยงกับอุบัติเหตุอยู่ตลอดนั้นก็อาจจะต้องจ่ายค่าเบี้ยที่แพงกว่าผู้ที่ทำอาชีพอื่น ๆ และในการทำประกันนั้นในปัจจุบันเราจะเห็นว่าหลาย ๆ คนเลือกที่จะทำกับธนาคารกันเสียมาก เพราะมีความน่าเชื่อถือ มีเงินทุนหมุนเวียน มีมาตรฐาน และที่สำคัญคือ สะดวกต่อการ โอนเงิน หรือจ่ายค่าเบี้ยประกันนั่นเอง อย่างเช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ (Siam Commercial Bank of Thailand) ที่ก็มีประกันประเภทต่าง ๆ ให้เราได้เลือกทำมากมาย และในวันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า ค่าเบี้ยประกันภัยนั้นเขาพิจารณาจากอะไรบ้าง
- พิจารณาจากกลุ่มคน โดยการทำประกันภัยแบบกลุ่มนั้นมันก็จะถูกกว่าการทำประกันภัยแบบรายบุคคลโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าหากว่าเป็นกลุ่มคนมีจำนวนมาก ๆ นั้นค่าเบี้ยประกันภัยก็จะยิ่งต่ำลงด้วย อย่างเช่น จำนวนคน 30 – 60 คน จะได้ลดเบี้ยประกันภัยในจำนวน 10 % แต่ถ้าหากจำนวนคน 300 – 999 คน ได้ลดเบี้ยประกันภัย 25 - 30 % เป็นต้น ส่วนประกันภัยสำหนับกลุ่มนักเรียนนักศึกษานั้นก็จะต่ำกว่ากลุ่มบุคคลทั่วไป แต่ทั้งนี้เบี้ยประกันภัยก็จะแตกต่างกันตามระดับการศึกษาด้วย
- พิจารณาจากอาชีพ โดยอาชีพในชั้นที่ขึ้นเรื่อย ๆ นั้นก็จะมีค่าเบี้ยประกันภัยที่มากกว่าอาชีพชั้นน้อย ๆ นั่นเอง ซึ่งก็จะมีการแบ่งชั้นอาชีพในการรับประกันภัย ได้แก่
- อาชีพชั้น 1 คือ จะทำงานประจำในสำนักงานเป็นเสียส่วนใหญ่
- อาชีพชั้น 2 ก็อาจจะมีปฏิบัติงานที่ในวิชาชีพที่ต้องทำงานกลางแจ้งตลอดเวลา
- อาชีพชั้น 3 ปฏิบัติงานด้านช่าง กระบวนการผลิต ที่มีการใช้เครื่องจักรกลหนัก ผู้ใช้แรงงาน การเดินทาง หรือทำงานนอกสำนักงานเป็นประจำ
- อาชีพชั้น 4 อาชีพพิเศษที่มีความเสี่ยงสูงมากกว่าชั้นอื่น ๆ เป็นพิเศษ เช่น นักแสดงผาดโผน เป็นต้น
- พิจารณาจากอายุ แน่นอนว่าคนที่อายุเกินกว่า 60 ปี เบี้ยประกันภัยก็จะสูงกว่าคนที่อายุต่ำกว่า 60 ปี
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้