รู้ทันโรคความดันโลหิตสูง มีแนวทางป้องกันอย่างไรให้ถูกทาง

Siwaporn_s

ขีดเขียนชั้นอนุบาล (87)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:175
เมื่อ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 19.16 น.

ความหมายของความดันโลหิตสูง
ก่อนจะรู้จักนิยามของความดันโลหิตสูง มาทำความรู้จัก "ความดันโลหิต" (blood pressure หรือ BP) กันก่อน ความดันโลหิต เป็นความดันจากเลือดแดง ซึ่งตรวจเจอได้จากการหมุนเวียนของระบบเลือดภายในผนังเส้นเลือด เป็นตัวบอกให้เห็นถึงสัญญาณชีพจรว่าร่างกายกำลังทำงาน มีการระบายออกสิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย


ภาวะความดันโลหิตสูง ก็เลยคือ การที่ค่าความดันในเส้นเลือดแดงมีค่าสูงขึ้นยิ่งกว่าระดับธรรมดา ซึ่งแม้ค่าความดันเลือดยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง และไม่ได้รับการรักษา จะมีผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อสุขภาพร่างกายได้ ดังเช่นว่า โรคหัวใจ โรคเส้นโลหิตสมอง ไตวาย ฯลฯ
สิ่งที่ทำให้เกิดโรคความโลหิตเลือดสูง
สำหรับต้นเหตุของการเกิดโรคความดันโลหิตสูงนั้นมีอยู่หลายสาเหตุด้วยกัน เป็น

* มีเหตุมาจากกรรมพันธุ์ ซึ่งโอกาสที่คนในครอบครัวจะเป็นโรคจำพวกนี้เป็นได้สูงมากมาย ถ้าเกิดมีคนภายในครอบครัวเป็นโรคความดันสูงอยู่แล้ว โดยความเสี่ยงจะมากขึ้นถ้าเกิดเป็นเครือญาติที่ใกล้ชิด
* มีต้นเหตุจากโรคอ้วนหรือร่างกายมีน้ำหนักที่เกินไป เพราะเหตุว่าโรคจำพวกนี้เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เป็นโรคเบาหวาน และก็โรคเส้นเลือดต่างๆกระทั่งนำไปสู่ภาวะตีบจากไขมันที่ไปเกาะผนังหลอดเลือด เมื่อเกิดโรคจำพวกนี้ขึ้นภายในร่างกาย จะทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงตามมาได้ง่าย
* เกิดขึ้นจากการเป็นโรคไตเรื้อรัง เนื่องมาจากโรคประเภทนี้จะส่งผลถึงการผลิตเอนไซม์ แล้วก็ฮอร์โมนที่มีส่วนสำหรับเพื่อการควบคุมความดันเลือด
* มีต้นเหตุที่เกิดจากการมีความประพฤติการสูบบุหรี่ เพราะว่าในยาสูบมีจำนวนสารพิษอยู่ในควันสูงมากมาย โดยสารพิษนี้จะมีผลก่อให้เกิดการอักเสบ มีการตีบของเส้นเลือดต่างๆรวมทั้งเส้นเลือดไต ทั้งยังยังมีผลต่อเส้นเลือดหัวใจด้วย
* มีสาเหตุมาจากการดื่มสุรา เนื่องจากการดื่มสุราจะมีผลทำให้หัวใจของคนเราเกิดภาวะเต้นเร็วกว่าธรรมดา และส่งผลต่อการเป็นโรคภาวะความดันโลหิตสูงมากถึงโดยประมาณ 50% ของผู้ที่ติดสุรา
* เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีรสเค็มบ่อยๆ เนื่องจากว่าความเค็มที่ร่างกายได้รับในจำนวนที่มากเกินความจำเป็น มีส่วนส่งผลให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงได้
* มีสาเหตุมาจากการไม่หมั่นออกกำลังกาย ด้วยเหตุว่าการไม่ออกกำลังกายจะมีผลต่อการเป็นโรคอ้วน และโรคเบาหวานได้ ถ้าหากเผชิญกับโรคทั้งสองประเภทนี้ ก็จะทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงตามมาได้
* มีเหตุมาจากผลกระทบของการทานยา ตัวอย่างเช่น การทานยาที่อยู่ในกลุ่มสเตียรอยด์

 

สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของภาวะความดันโลหิตสูง
ต้นสายปลายเหตุดังต่อไปนี้สามารถที่จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะกระตุ้นให้เกิดความดันโลหิตสูงได้

* อายุ: การเสี่ยงจะเยอะขึ้นเรื่อยๆตามอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชายที่อายุมากกว่า 45 ปีรวมทั้งเพศหญิงที่อายุมากกว่า 65 ปี
* เชื้อชาติแอฟริกัน - อเมริกัน: พบว่ามีความเสี่ยงสำหรับการกำเนิดโรคเร็วกว่าและก็ร้ายแรงกว่า และหากเกิดภาวะแทรกซ้อนจะอันตรายกว่ามากมาย
* ประวัติครอบครัว: ภาวะความดันโลหิตสูงมีทิศทางที่จะสืบทอดทางพันธุกรรมได้
* ความอ้วน: โดยยิ่งไปกว่านั้นการอ้วนลงพุง นำมาซึ่งเส้นเลือดตีบแคบ และทำให้ค่าความดันโลหิตสูงขึ้นได้
* พฤติกรรมนั่งๆนอนๆ: การที่ร่างกายอืดอาด ไม่ได้ออกกำลังกาย มักมีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคอ้วน โรคเบาหวานชนิดที่ 2 แล้วก็อัตราการเต้นของหัวใจที่มากขึ้น ซึ่งทำให้หัวใจจำต้องทำงานมากขึ้น
* การสูบยาสูบและก็คนที่ได้รับควันที่เกิดจากบุหรี่: สารเคมีในบุหรี่สามารถทำลายฝาผนังหลอดเลือดแดงได้ ซึ่งทำให้เส้นโลหิตตีบแคบลง ก่อให้เกิดความดันเลือดที่สูงขึ้น
* การเลือกทานอาหาร: อาหารบางชนิดสามารถที่จะเพิ่มความเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูงได้ ดังเช่นว่า
* ของกินที่มีเกลือโซเดียมสูง ทำให้ร่างกายซึมซับน้ำเข้าไปมากมายและเกิดภาวะความดันโลหิตสูงชั่วครั้งชั่วคราว
* ของกินที่มีโพแทสเซียมน้อยเกินไป ทำให้ไม่สามารถที่จะรักษาระดับของโซเดียมในเซลล์ได้ นำมาซึ่งการก่อให้เกิดภาวะโซเดียมเกินในเลือด
* วิตามินดี การกินอาหารที่มีวิตามินดีน้อยไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูง
* การดื่มแอลกอฮอล์ ในจำนวนที่มากกว่า 170 มล.สำหรับผู้ชาย และ 85 มิลลิลิตรสำหรับหญิง
* ความเครียด: กระตุ้นให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูงชั่วคราวได้
* โรคเรื้อรัง: อย่างเช่น โรคไตเรื้อรัง ภาวะหยุดหายใจขณะหลับหรือโรคเบาหวาน
* การตั้งท้อง
* การกินยาเม็ดคุมกำเนิด

 

จะรู้ได้เช่นไรว่ามีความดันโลหิตสูง?
วิธีเดียวที่จะรู้ถึงความดันโลหิตสูง คือการวัดระดับความดันโลหิตเท่านั้น การตรวจวัดที่นิยมกันทั่วๆไปเป็นการวัดความดันด้วย Stethoscope (เสต็ธโทสวัวป) แล้วก็เครื่องความดันรัดแขน (Blood Pressure Cuff) โดยเจ้าหน้าที่จะนำแผ่นวัดมาพันรัดรอบแขนของผู้ตรวจในท่านั่ง หลังจากนั้นจะวัดความดันโดยใช้ เกจวัดความดัน (Pressure-measuring Gauge)

เพราะว่าความดันเลือดจะไม่คงระดับตลอดวัน แพทย์ก็เลยต้องทำตรวจวัดความดัน 2-3 ครั้งเพื่อยืนยันผลของการตรวจ ในบางครั้งแพทย์จำเป็นต้องกระทำการวัดความดันที่แขนทั้งสองข้างเพื่อเปรียบต่างระดับความดัน

วิธีการป้องกันโรคความดันโลหิตสูง
ในส่วนของวิธีการปกป้องเพื่อไม่ให้เป็นโรคความดันเลือดสูงสามารถทำได้โดยการหมั่นทานอาหารที่มีสาระ รวมทั้งดูแลตัวเองดังต่อไปนี้

* กินอาหารที่ให้ท่านค่าสารอาหารที่ครบอีกทั้ง 5 หมู่วันแล้ววันเล่า โดยทานอาหารแต่ละกลุ่มในจำนวนที่สมควร ไม่ทำให้สุขภาพร่างกายเกิดภาวะอ้วน หรือมีน้ำหนักที่เกินเกณฑ์ แล้วก็ควรจัดแจงอาหารจำพวกที่ให้ไขมัน แป้ง น้ำตาล และก็อาหารรสชาติเค็มทิ้งไป โดยเพิ่มปริมาณของผักรวมทั้งผลไม้ชนิดที่ไม่หวานมากมายแทน
* ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
* ให้ร่างกายมีเวลาพักผ่อนที่เพียงพอ รวมทั้งการหมั่นทำให้จิตใจสงบแล้วก็มีสติสัมปชัญญะเพิ่มขึ้น
* หมั่นตรวจสุขภาพรายปี เนื่องจากว่าการตรวจหาโรคความดันโลหิตสูงนั้น สามารถตรวจได้ตั้งแต่อายุ 18-20 ปี เมื่อมีแนวโน้มเสี่ยงกับโรคดังกล่าวจะได้สามารถจัดการได้ทัน โดยการปรึกษาจากหมอ

ขอบคุณบทความดีๆ จาก https://www.honestdocs.co/high-blood-pressure

Tags : ความดันโลหิต, ออกกำลังกาย, ระบบประสาท

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา