ทำความรู้จักกับวัคซีนปอดอักเสบ จำเป็นหรือไม่
วัคซีนปอดอักเสบ
โรคปอดอักเสบ (Pneumonia) เป็นโรคในระบบทางเดินหายใจแบบฉับพลันที่มักพบ โดยยิ่งไปกว่านั้นในคนที่มีภูมิต้านทานร่างกายอ่อนแอ ดังเช่น เด็กตัวเล็กๆ ผู้สูงวัย หรือคนป่วยที่พักฟื้นในโรงพยาบาล โรคปอดอักเสบมักมีเหตุมาจากการได้รับเชื้อไวรัส แบคทีเรีย แล้วก็เชื้อรา
ที่พบมากที่สุดคือการรับเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus pneumoniae หรือเรียกอีกอย่างว่าเชื้อ Pneumococcus แบคทีเรียประเภทนี้นอกเหนือจากการที่จะทำให้เป็นโรคปอดอักเสบแล้ว บางทีอาจแผ่ขยายจนกระทั่งเกิดภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบรวมทั้งติดเชื้อโรคในกระแสโลหิตได้
ดังนี้ก็เลยมีการคิดค้นวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบขึ้น สำหรับป้องกันการรับเชื้อและก็อันตรายร้ายแรงจากเชื้อดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว
วัคซีนปอดอักเสบเป็นยังไง?
วัคซีนปอดอักเสบ หรือ วัคซีนนิวโมคอกคัส (Pneumococcal vaccine) เป็นวัคซีนสำหรับป้องกันการติดเชื้อ Streptococcus pneumoniae ซึ่งเป็นเชื้อที่มาของโรคปอดอักเสบที่มีมากกว่า 90 สายพันธุ์ องค์การอนามัยโลกได้เสนอแนะให้มีการฉีดวัคซีนปอดอักเสบในเด็กเล็กเพื่อป้องกันการติดเชื้อ แล้วก็ยังกำหนดให้วัคซีนจำพวกนี้เป็นหนึ่งในบัญชียาจำเป็นจะต้องขององค์การอนามัยโลกอีกด้วย
วัคซีนปอดอักเสบมีกี่ประเภท
วัคซีน PCV (Pneumococcal conjugate vaccine) เป็นการนำเชื้อแบคทีเรียมาจับกับโปรตีนที่เป็นตัวนำส่ง ตัวที่นิยมใช้คือ PCV 13 ซึ่งครอบคลุมการป้องกันเชื้อ pneumococcus 13 สายพันธุ์ สามารถฉีดได้อีกทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และก็คนชรา
วัคซีน PPSV (Pneumococcal polysaccharide vaccine) จะใช้คาร์โบไฮเดรตขนาดใหญ่เป็นตัวนำส่ง ทำให้มีความจำเพาะ รวมทั้งมีประสิทธิภาพสูง ตัวที่นิยมใช้คือ PPSV 23 ซึ่งสามารถป้องกันเชื้อได้ 23 สายพันธุ์ ส่วนใหญ่แนะนำให้ฉีดในผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป
ใครบ้างมีความเสี่ยงต่อโรคปอดอักเสบ
* ผู้ที่มีโอกาสติดโรค Pneumococcus และก็มีอาการป่วยด้วยปอดอักเสบได้สูงดังเช่น
* ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคปอดอักเสบแผ่ขยาย
* คนที่มีภูมิต้านทานต่ำอย่างเช่น เด็กเล็ก ผู้สูงวัย ผู้ติดเชื้อ HIV ผู้ตัดม้ามออกแล้ว คนที่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ คนที่ได้รับยากดภูมิต้านทาน ฯลฯ
* ผู้ที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรังดังเช่น โรคไต โรคหัวใจ โรคตับ โรคเบาหวาน โรคปอด น้ำในสมองรั่วแล้วก็ไขสันหลังรั่ว ฯลฯ
* ผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและก็มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
* คนที่ได้รับการฝังเครื่องมือแพทย์ที่หูชั้นในหรือฝังประสาทหูเทียม
การฉีดวัคซีนปอดอักเสบ
* สำหรับทารกที่ยังปราศจากความเสี่ยงต่อการเป็นโรคปอดอักเสบควรได้รับวัคซีนPCV จำนวน 3 เข็ม ในตอนปีแรกข้างหลังคลอด คือ ที่อายุ 2, 4 แล้วก็ 6 เดือน แล้วจึงฉีดกระตุ้นอีก 1 เข็มเมื่ออายุ 12 เดือน
* สำหรับคนที่แก่ 2 ปีขึ้นไป และก็มีความเสี่ยงต่อโรคปอดอักเสบควรจะฉีดวัคซีน PCV 1-2 เข็ม (ห่างกัน 8 อาทิตย์) แล้วก็ฉีดกระตุ้นอีก 1 เข็ม โดยห่างจากเข็มในที่สุด 8 อาทิตย์
* สำหรับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปแพทย์อาจชี้แนะให้ฉีดวัคซีนทั้งจำพวก PCV และ PPSV โดยฉีดวัคซีน PCV ก่อน 1 เข็ม และก็ตามด้วย PPSV โดยห่างกัน 12 เดือน
การฉีดวัคซีนปอดอักเสบร่วมกับวัคซีนอื่น ถ้าหากต้องฉีดวัคซีนปอดอักเสบทั้ง 2 ชนิด คือ PCV แล้วก็ PPCV ห้ามฉีดวัคซีนทั้งสองประเภทนี้พร้อมหรือข้างในวันเดียวกัน ควรจะฉีดวัคซีน PCV ก่อนแล้วจึงและก็ตามด้วย PPSV ในวันอื่น ห่างกันขั้นต่ำ 8 สัปดาห์ เนื่องจากว่าจากการเรียนพบว่าการฉีด PCV ก่อน จะทำให้ระดับภูมิคุ้มกันต่อโรคปอดอักเสบสูงขึ้นมากยิ่งกว่า การฉีดวัคซีนปอดอักเสบร่วมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่
* ในเด็กอาจจะส่งผลให้เกิดไข้สูงกระทั่งเกิดอาการชักได้ (febrile seizures)
* ในผู้ใหญ่ การฉีดด้วยกันสามารถทำได้ แต่จากการเรียนรู้ในผู้ที่อายุสูงขึ้นมากยิ่งกว่า 65 ปีพบว่าการฉีดด้วยกันหรือภายในวันเดียวกันทำให้ภูมิคุ้มกันต่อทั้งยังเชื้อปอดอักเสบรวมทั้งเชื้อไข้หวัดใหญ่บางสายพันธุ์ลดน้อยลง
ด้วยเหตุดังกล่าวโรงพยาบาลโดยมากก็เลยเลี่ยงการให้วัคซีนปอดอักเสบกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่พร้อม หรือในวันเดียวกัน เพื่อประสิทธิผลสูงสุดของวัคซีน รวมทั้งหลีกเลี่ยงผลกระทบร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น
การฉีดวัคซีนปอดอักเสบร่วมกับวัคซีนอื่นๆ
ในผู้ใหญ่ ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการให้วัคซีน PCV ร่วมกับวัคซีนอื่นในวันเดียวกัน อาทิเช่น วัคซีนป้องกันบาดทะยัก คอตีบ ไอกรน (Tdap) วัคซีนป้องกันงูสวัด (Zoster vaccine)[br] แม้จะมีการศึกษาพบว่า การให้วัคซีนปอดอักเสบประเภท PPCV กับ วัคซีนงูสวัด ในวันเดียวกัน ทำให้ระดับภูมิคุ้มกันโรคงูสวัดลดน้อยลงเมื่อเทียบกับการให้ห่างกัน 4 อาทิตย์[br] หน่วยงานป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐอเมริกา (CDC) ยังคงเสนอแนะให้รับวัคซีนงูสวัด และก็ PPCV ในวันเดียวกันได้ เพื่อส่งเสริมให้ได้รับวัคซีนอย่างครบถ้วน
โดยสรุป ถ้าจะต้องได้รับทั้งวัคซีนปอดอักเสบ PCV และ PPCV ร่วมกับ วัคซีนงูสวัด ควรจะให้วัคซีน PCV ร่วมกับวัคซีนงูสวัดก่อน แล้วจึงให้วัคซีน PPCV ในวันหลังห่างกันอย่างน้อย 8 อาทิตย์ หรือห่างกันอย่างต่ำ 1 ปี ในคนอายุ 65 ปีขึ้นไปที่มีภาวการณ์ภูมิคุ้มกันปกติ
ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนปอดอักเสบ
วัคซีนปอดอักเสบอาจส่งผลให้เกิดผลใกล้กันเหมือนกับวัคซีนอื่นๆอาทิเช่น มีอาการปวด บวม รอบๆผิวหนังที่ฉีด มีไข้ต่ำ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อ้วก อาการกลุ่มนี้สามารถรับประทานยาลดไข้เพื่อบรรเทาอาการได้ นอกจากนั้นผู้รับวัคซีนบางรายอาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรง ดังเช่น แพ้วัคซีน มีผื่นขึ้นตามตัว ใบหน้าแล้วก็ตาบวม หายใจลำบาก ซึ่งเจอได้น้อยมาก แม้กระนั้นถ้ากำเนิดอาการกลุ่มนี้ให้รีบมาพบแพทย์โดยเร็ว
ใครไม่สมควรฉีดวัคซีนปอดอักเสบ?
* คนที่มีอาการแพ้หรือมีปฏิกิริยารุนแรงต่อวัคซีนปอดอักเสบสำหรับในการฉีดครั้งก่อน
* ผู้ที่มีลักษณะอาการแพ้วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ
* ผู้ที่มีลักษณะอาการป่วยไข้ ติดโรค ควรจะเลื่อนการฉีดวัคซีนไปก่อนจนกว่าจะหาย ภูมิต้านทานปอดอักเสบหลังจากฉีดวัคซีนอยู่ได้นานมากแค่ไหน?
วัคซีนปอดอักเสบชนิด PCV เป็นวัคซีนที่ตอบสนองต่อการผลิตภูมิคุ้มกันได้ดีในคนวัยชรา และระดับภูมิคุ้มกันจะน้อยลงภายหลังการฉีดวัคซีนโดยประมาณ 5-10 ปี
https://www.honestdocs.co/vaccines-for-pneumonia-vaccination-against-disease-injectable-at-all-ages
Tags : วัคซีนปอดอักเสบ,-
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้