วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก จำเป็นไหม ทำไมจำเป็นต้องฉีด?

Siwaporn_s

ขีดเขียนชั้นอนุบาล (87)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:175
เมื่อ 9 มกราคม พ.ศ. 2563 19.16 น.

    วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก  นับเป็นวัคซีนพื้นฐานที่เด็กทุกคนจำเป็นที่จะต้องได้รับ ด้วยเหตุว่าโรคกลุ่มนี้เป็นโรคร้ายแรง โดยเฉพาะแม้เกิดขึ้นกับเด็กเล็ก ถ้าไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที อาจจะส่งผลให้ได้รับอันตรายถึงชีวิตได้ ในประเทศไทยได้กำหนดให้เด็กทุกคนฉีดยาป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 ซึ่งช่วยลดจำนวนผู้เจ็บป่วยทั้งสามโรคลงได้มาก


โรคคอตีบเป็นอย่างไรมีลักษณะอาการเช่นไร


โรคคอตีบ (Diphtheria) เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Corynebacterium diphtheriae ที่อยู่ในน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของคนไข้ ติดต่อกันได้โดยง่ายผ่านทางการไอ จาม หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งหรือสิ่งของเครื่องใช้ของคนเจ็บ นับเป็นโรคติดต่อที่เกิดขึ้นฉับพลันรวมทั้งร้ายแรง โดยมากจะพบในเด็กอายุต่ำยิ่งกว่า 10 ปี  ลักษณะของโรคจะแสดงภายหลังจากการรับเชื้อราว 2-5 วัน คนเจ็บจะมีไข้สูง หนาวสั่น มีน้ำมูก เจ็บคอ คออักเสบ กลืนของกินทุกข์ยากลำบาก รู้สึกเจ็บเวลากลืน คอบุ๋ม หอบ หายใจไม่สะดวก หากอาการร้ายแรงมากอาจทำให้หายใจไม่ออก จนถึงเป็นอันตรายถึงชีวิต ถ้าตรวจคอบางทีอาจพบแผ่นฝ้าสีขาวผสมเทา (White-grayish membrane) ขึ้นบริเวณลำคอ ต่อมทอนซิล หรือลิ้นไก่ อาการแทรกซ้อนสำคัญคือ โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis) รวมทั้งเส้นประสาทอักเสบ (Neuritis) เดี๋ยวนี้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคอย่างล้นหลาม นำมาซึ่งการทำให้อัตราการเกิดโรคคอตีบลดน้อยลงอย่างมาก

 

วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยักเป็นอย่างไรมีกี่ประเภท


วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก เป็นวัคซีนศูนย์รวมในเข็มเดียว สร้างขึ้นมาจากเชื้อหรือพิษของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อเกิดโรค โดยเอามาผ่านกระบวนการทำให้เชื้อหมดความสามารถในการก่อโรค จึงปลอดภัยและก็มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคสูง ดังนี้วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก แบ่งได้ 2 กลุ่มสำคัญๆ

* วัคซีนDTwP หรือจำพวกทั้งยังเซลล์ วัคซีนกลุ่มนี้ประกอบไปด้วย ท็อกซอยด์ (พิษของเชื้อโรคที่ทำให้หมดฤทธิ์ แต่ว่ายังสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้อยู่) คอตีบแล้วก็บาดทะยัก รวมทั้งเชื้อแบคทีเรียก่อโรคไอกรนที่ตายแล้ว
* วัคซีนDTaP หรือจำพวกไม่มีเซลล์ วัคซีนกลุ่มนี้ประกอบไปด้วย ทอกซอยด์คอตีบรวมทั้งบาดทะยัก แล้วก็แอนติเจนจากผนังเซลล์ของเชื้อไอกรนปริมาณ 2 จำพวก เป็น Inactivated lymphocytosis promoting factor (LPF) และ Filamentous hemagglutinin (FHA)

    ดังนี้พบว่า คุณภาพสำหรับการป้องกันโรคของวัคซีนทั้งคู่กลุ่มนี้ไม่ได้มีความแตกต่างกัน แต่วัคซีน DTwP ได้ผลข้างๆสูงยิ่งกว่า คนที่ได้รับวัคซีนบางรายอาจมีไข้สูง มีลักษณะอาการชัก มีภาวะตัวอ่อน และไม่ตอบสนองด้านใน 48 ชั่วโมงภายหลังได้รับวัคซีน ซึ่งแม้มีอาการดังที่กล่าวมานี้ เมื่อถึงกำหนดฉีดยาคราวต่อมา หมอบางทีอาจให้ยาลดไข้หรือยาป้องกันการชัก หรือบางทีอาจเปลี่ยนแปลงมาให้วัคซีน DTaP แทน เพื่อป้องกันอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยักต้องฉีดเวลาใดจะต้องฉีดกี่เข็ม

    โดยทั่วไป วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก จะเริ่มฉีดให้เด็กแรกคลอดตั้งแต่อายุ 2 เดือน โดยฉีดรอบๆต้นขาข้างหน้า ทั้งหมด 5 เข็ม ตามระยะเวลาดังนี้

* ครั้งที่1 อายุประมาณ 2 เดือน
* ครั้งที่2 อายุโดยประมาณ 4 เดือน
* ครั้งที่3 อายุราว 6 เดือน
* ครั้งที่4 อายุราวๆ 18 เดือน
* ครั้งที่5 อายุราว 4-7 ปี

อาการข้างๆของวัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยักมีอะไรบ้าง


    การฉีดยาทุกหมวดหมู่ย่อมนำมาซึ่งการก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ ซึ่งจะมีลักษณะแตกต่างออกไป โดยวัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก อาจส่งผลให้เกิดลักษณะของการปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีด บางรายอาจมีอาการอ่อนแรง จับไข้ต่ำๆอ้วก โดยส่วนใหญ่อาการนี้จะเกิดขึ้นด้านใน 1 วันภายหลังจากได้รับวัคซีน การดูแลแค่เพียงประคบด้วยผ้าเย็นรอบๆที่ปวด หากจับไข้ให้รับประทานยาลดไข้ และก็อาการจะหายได้ด้านใน 2-3 วัน เว้นแต่ว่าในรายที่มีอาการร้ายแรง ดังเช่นว่า เป็นไข้สูงจัด ชัก ตัวอ่อน ไม่ตอบสนอง ซึ่งเจอได้น้อยมากโดยประมาณ 1 ใน 50,000 ราย ผู้ดูแลควรรีบพามาพบหมอในทันที เนื่องจากอาจมีการเสี่ยงที่จะแพ้วัคซีนได้


ใครไม่ควรฉีดยาคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก

    ถึงแม้ว่าวัคซีนจะเป็นประโยชน์ และกระทรวงสาธารณสุขจะกำหนดเป็นมาตรฐานว่าเด็กทุกคนจำเป็นต้องได้รับวัคซีนนี้ แต่ก็มีความจำกัดสำหรับเพื่อการฉีดวัคซีนด้วยเหมือนกัน ดังต่อไปนี้

* คนที่มีภาวะไม่ดีเหมือนปกติทางสมองหรือชัก ซึ่งยังควบคุมอาการไม่ได้
* ผู้ที่เคยมีประวัติต่อต้านหรือแพ้วัคซีนประเภทนี้มาก่อน
* เด็กที่มีอายุมากกว่า 7 ปีและคนแก่ ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนจำพวกนี้มาก่อน ถ้าเกิดปรารถนาป้องกันโรค ควรจะฉีดยาป้องกันคอตีบแล้วก็บาดทะยัก (ไม่มีเชื้อ ไอกรน) คนป่วยที่มีไข้ควรจะเลื่อนการฉีดวัคซีนแล้วก็รอคอยให้หายป่วยแล้วก็ค่อยกลับมาฉีดยา

ควรต้องฉีดยาคอตีบ ไอกรน บาดทะยักซ้ำ เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันหรือไม่
    ถึงแม้ในวัยเด็กพวกเราอาจได้รับวัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยักครบตามที่กำหนดแล้ว แต่ว่าก็ควรฉีดกระตุ้นด้วยเหมือนกัน เพราะเมื่อโตขึ้น ภูมิคุ้มกันที่ร่างกายเคยสร้างไว้อาจถดถอยลง โดยส่วนใหญ่จะฉีดกระตุ้นอีกรอบในกลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 10-18 ปี ซึ่งเดิมวัคซีนที่ใช้ฉีดกระตุ้นจะเป็นวัคซีนป้องกันโรคคอตีบและก็บาดทะยัก (ไม่มีไอกรน) เพราะเหตุว่าวัคซีนที่มีไอกรนบางทีอาจส่งผลข้างๆในเด็กโตหรือผู้ใหญ่ได้ค่อนข้างจะมากมาย แต่ว่าตอนนี้ได้มีการพัฒนาวัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก สำหรับคนแก่โดยดัดแปลงแก้ไขให้วัคซีนบริสุทธิ์มากขึ้นเรื่อยๆ มีจำนวนเชื้อไอกรนลดลง ซึ่งช่วยลดการเสี่ยงของการเกิดอาการข้างเคียงลงได้มาก 

วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ราคาเท่าใด
วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก เป็นหนึ่งในวัคซีนพื้นฐานที่สถาบันวัคซีนแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข แบ่งสรรให้สำหรับเด็กเล็กอายุไม่เกิน 12 ปีทุกคน เข้ารับการฉีดวัคซีนเหมาะโรงพยาบาลเมืองโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แม้กระนั้นสำหรับคนแก่ที่ปรารถนาฉีดวัคซีนกระตุ้น สามารถเข้ารับการฉีดยาเหมาะโรงหมอรัฐและเอกชนทั่วไป โดยรายจ่ายในการฉีดวัคซีนเริ่มต้นที่ 512 บาท (อ้างอิงจากราคาของโรงพยาบาลศิริราช)

    โรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ถึงแม้ฟังมองบางทีอาจไม่ร้ายแรงเท่าโรคร้ายอื่นๆแต่กาลครั้งหนึ่งก็เคยเป็นสาเหตุสำคัญของการตายในเด็กอ่อน โดยเหตุนั้นผู้ดูแลควรพาบุตรหลานไปฉีดยาให้ครบตามที่กำหนดเวลา เพื่อป้องกันการเสี่ยงที่บางทีอาจตามมาในวันหลัง นอกนั้นถึงแม้คนแก่บางบุคคลอาจเคยได้รับวัคซีนครบแล้ว แต่ว่าก็ไม่สมควรนอนใจ ด้วยเหตุว่าภูมิต้านทานของร่างกายอาจเสื่อมลงตามระยะเวลา จะต้องฉีดกระตุ้น ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเสนอแนะว่าควรฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี เพื่อสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ห่างไกลจากโรค

https://www.honestdocs.co/tdap-vaccine

Tags : วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก,-,-

แก้ไขครั้งที่ 1 โดย Siwaporn_s เมื่อ9 มกราคม พ.ศ. 2563 19.34 น.

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา