รีวิว เจลแต้มสิว Smooth E แบบธรรมดา และแบบ Plus ดีจริงหรือจกตา!?

หากพูดถึงเจลแต้มสิวยี่ห้อดัง หลายๆ คนก็จะต้องนึกถึงเจลแต้มสิว Smooth E อย่างแน่นอน ซึ่งในช่วงแรกๆ ที่ Smooth E ออกเจลแต้มสิวออกมานั้น จะเป็นเจลแต้มสิวสำหรับสิวที่มีหัว แต่ในปัจจุบันมีทั้งแบบสำหรับสิวมีหัว และไม่มีหัวที่เป็นรุ่น PLUS อย่างไรก็ตาม อาจจะมีอีกหลายๆ คนที่ยังสงสัยว่าจริงๆ แล้วเจลแต้มสิว Smooth E ใช้ดีจริงหรือไม่ เพราะเห็นว่าใครๆ ก็ใช้กัน จนแทบจะเป็นไอเท็มประจำโต๊ะเครื่องแป้งเลยก็ว่าได้ ซึ่งในบทความนี้เราจะมารีวิวเจลแต้มสิว Smooth E ทั้งสองสูตรให้ทุกคนได้อ่านกันว่าดีจริงๆ หรือจกตากันแน่!?

ขอบคุณรูปภาพจาก smooth-e.com

ความแตกต่างระหว่าง Smooth E Acne Hydrogel และ Smooth E Acne Hydrogel Plus

สำหรับเจลแต้มสิว Smooth E Acne Hydrogel นั้นจะเหมาะกับสิวที่มีหัว อย่างสิวอุดตัน และสิวหัวหนอง เพราะเจ้าตัวเจลจะเข้าไปสลายสิ่งอุดตันที่อยู่ตามรูขุมขน และช่วยลดการอักเสบ รวมถึงลดการระคายเคือง ไม่ทำร้ายผิวแต่อย่างใด แถมทางแบรนด์ยังเคลมอีกว่า ไม่เพียงแต่จะช่วยรักษาสิวเท่านั้น แต่ยังลดโอกาสในการเกิดสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย เนื่องจากเจลรุ่นนี้มี Oryza Sativa และ Bosswellia Serrenta extract ที่ช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย และไม่ทำให้เกิดอาการดื้อยาอีกด้วย

ในขณะที่เจลแต้มสิว Smooth E Acne Hydrogel Plus จะเหมาะกับสิวไม่มีหัว อย่างสิวที่แดงๆ นูนๆ ก็สามารถใช้เจลรุ่นนี้ได้เลย นอกจากนี้ก็ยังเหมาะกับสิวประจำเดือน และสิวหัวช้าง โดยเจลแต้มสิวรุ่นนี้จะเน้นการลดการอักเสบ ปวด และบวมแดง รวมถึงช่วยสลายสิ่งอุดตันต่างๆ ที่สะสมอยู่ในรูขุมขน และลดการสะสมของแบคทีเรียเช่นเดียวกับรุ่น Hydrogel ธรรมดา

ดีจริงหรือจกตา?

การจะรักษาสิวให้หายนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของสิว และความรุนแรงด้วย อย่างถ้าเป็นสิวฮอร์โมน สิวอักเสบที่ไม่รุนแรงมาก ทาแค่ 1 วันก็ยุบเลยทันที ส่วนถ้าแบบสิวไม่มีหัวอาจจะต้องใช้เวลา 2-3 วัน แต่ยุบลงจริงๆ แต่หากใครเป็นสิวเรื้อรังอยู่แล้ว สิวก็อาจกลับมาได้บ้าง เพราะฉะนั้นนอกจากการทาเจลแต้มสิว Smooth E แล้ว ก็ควรรักษาความสะอาดบนใบหน้าให้ดี รวมทั้งทำการทาครีมบำรุงเพื่อปรับความสมดุลให้กับใบหน้า

ราคา:

- Smooth E Acne Hydrogel 215.- 

- Smooth E Acne Hydrogel Plus 260.-

คะแนน : 4.5

หากจะถามว่าเจลแต้มสิว Smooth E ดีไหม ก็ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับผิว หรือความรุนแรงของสิวของแต่ละบุคคลด้วย แต่ในเรื่องส่วนผสมบอกได้เลยว่าปลอดภัย ใช้แล้วไม่เป็นอันตราย แถมราคาก็น่าคบหาอย่างมาก หากใครยังไม่เคยลอง ก็แนะนำว่าให้ไปลองกันได้เลย