ประวัติ พระขุนแผน
ในบรรดาพระเครื่องลางชั้นสูงสุดของเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี มักมีชื่อของ “พระขุนแผน” รวมอยู่ในพระกรุยอดนิยมต่างๆจำนวนมาก หนึ่งในจำนวนนั้นซึ่งก็คือพระขุนแผน กรุบ้านกร่าง เมืองทอง ซึ่งเป็นพระกรุโบราณ แก่การสร้าง มาหลายร้อยปี กล่าวกันว่าความงามของพุทธศิลป นั้นเด่นยิ่งนัก ส่วนพระพุทธคุณนั้น ก็ดียอดเกินคำบรรยาย ทั้งยังเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ ตลอดจน คงกระพันชาตรี ยากที่จะหาพระเครื่องลางใดเท่ากัน จัดเป็นพระยอดนิยมชั้นแนวหน้าของวงการ มานาน
พระกรุวัดบ้านกร่าง พระดี พระตามที่เมืองทองคำ
วัดบ้านกร่าง อันเป็นแหล่งเกิด “พระขุนแผน กรุบ้านกร่าง” อัน ดังนี้ ตั้งอยู่ที่ ตำบล ศรีพบเจอต์ จังหวัด สุวรรณ อยู่ทางฝั่งทิศตะวันออกของแม่น้ำท่าจีน หรือ แม่น้ำจังหวัดสุพรรณบุรี ตรงกันข้ามกับที่ว่าการอำเภอศรีพบเจอต์ วัดนี้เป็นวัดโบราณ ที่สร้างมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา พระเครื่องลาง กรุวัดบ้านกร่าง แตกกรุจากเจดีย์ด้านหลังพระวิหารเก่าในบริเวณวัดบ้านกร่าง เมื่อราว พ.ศ. 2447 มีปัญหาเล่ากันว่า ในระหว่างที่พระแตกกรุออกมาใหม่ๆพวกพระและก็ประชาชน ได้นำพระทั้งหมดทั้งปวง อย่างมากมายหลายพิมพ์ มาวางไว้ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ใกล้วิหาร เด็กวัดในสมัยนั้นได้นำ พระที่วางไว้มาเล่นร่อนแข่งขันกันในสายน้ำสุวรรณ เป็นที่ครื้นครึก เพราะเหตุว่า ในสมัยนั้น พระวัดบ้านกร่าง ยังไม่มีมูลค่า และก็ ความนิยมเยอะมากเหมือนดังอาทิเช่นเวลานี้
ชื่อ ”พระขุนแผน” ทั้งยังของเมืองกาญจน์ หรือ ขุนแผน เมืองไหนก็ตาม เป็นการเรียกชื่อ พระของคนสมัยด้านหลัง เนื่องจากว่าคนโบราณ สร้างพระเครื่องลาง ไม่เคยพบหลักฐาน ว่ามีการตั้งชื่อพระเอาไว้ด้วย มีหากแม้คนสมัยใหม่ที่ไปขุดพบพระเครื่องลางเป็นผู้ตั้งชื่อให้ทั้งมวล พระกรุวัดบ้านกร่าง ก็แบบเดียวกัน เมื่อแตกกรุใหม่ๆก็ไม่มีชื่อ คนสุวรรณ ยุคนั้นเรียกกันเพียงว่า “พระวัดบ้านกร่าง” เป็นถ้าหากเป็นท่านเดียวก็เรียก “พระบ้านกร่างผู้เดียว” ถ้าเป็นพระ 2 องค์คู่ชิดกันก็เรียก “พระบ้านกร่างคู่” ต่อมาก็เลยมีการตั้งชื่อให้เป็น พระขุนแผน บ้าง พระพลายสันโดษ บ้าง พระพลายคู่ บ้าง สาเหตุของชื่อ พระเครื่องลาง ขุนแผน เหล่านี้ แน่ใจว่าคนตั้งชื่อบางครั้งอาจจะอยากให้ใกล้เคียงกลมกลืน กับตัวละครในวรรณคดีเรื่อง ขุนช้าง-ขุนแผน ที่เลื่องลือ อันมีถิ่นเกิดในเขตทอง คำว่า พระบ้านกร่าง แล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยๆเลือนหายไป หรืออีกความหมายหนึ่ง ชื่อของ พระขุนแผน อาจได้มาจากการที่มีผู้บูชาบูชา หรือ นิมนต์นำประจำตัวไปไว้คุ้มครองป้องกันอุบัติภัย ต่างๆแล้วได้ประจักษ์ ความศักดิ์สิทธิ์ ในอำนาจคุณพระพุทธเจ้า ที่มี่คุณดีเยี่ยมที่สุด เสมอเหมือน ขุนแผนในวรรณคดี โดยเฉพาะ ด้านเสน่ห์ เมตตามหานิยม อาจด้วยเหตุนั้น ก็เลยเรียกขื่อว่า พระขุนแผนสืบมา
พระกรุวัดบ้านกร่าง เข้าใจว่ามีจำนวนถึง 84,000 องค์ตามคติการสร้าง พระเครื่องลางในโบราณกาล เมื่อพระแตกกรุขึ้นมาก็ได้มีผู้แยกแบบ แยกพิมพ์ต่างๆตามแตกต่างกันของพุทธลักษณะ ซึ่งมีจำนวนกว่า 30 พิมพ์ขึ้นไป บางแบบ ก็เรียกว่า “พระขุนแผน” ซึ่งมีพิมพ์ยอดนิยม เป็นต้นว่า พิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่ พิมพ์ห้าเหลี่ยมอกเล็ก พิมพ์ทรงพลใหญ่ พิมพ์ทรงพลเล็ก พิมพ์พระประธาน พิมพ์เถาวัลย์เลื้อย พิมพ์แขนอ่อน ฯลฯ บางแบบก็เรียกว่า “พระพลาย” อันแปลว่าลูกของขุนแผน ซึ่งมีในช่วงเวลาที่พิมพ์เป็นคู่ชิดกัน เรียกว่า “พระพลายคู่” และองค์ผู้เดียวๆเรียกว่า “พระพลายผู้เดียว” ซึ่งแต่ละพิมพ์ก็ยังแบ่งออกไปอีกเพียบเลยพิมพ์ เช่น พลายคู่หน้ายักษ์ หน้ามงคล หน้าฤาษี หน้าเทพเทวดา พลายลำพังพิมพ์ชะลูด พิมพ์ก้าง ฯลฯ
การที่คนรุ่นเก่า เลือกที่จะตั้งชื่อ imiwin พระเครื่องลางนั้นว่า ขุนแผน พิมพ์นี้เรียกพลาย คนรุ่นใหม่ อาจจะไม่ทราบจะหลักเกณฑ์ หรือ ที่มาชัด ซึ่งน่าจะเดาหัวใจว่า คนที่ตั้งชื่อ ขุนแผน คงจะมองดูรูปร่างศิลปในองค์พระ ถ้าหากท่าน ใดมีต้นแบบศิลปสวยงามสะดุดตา ก็เรียกว่า พระขุนแผน ไว้ก่อนส่วนพระเครื่องลางใดหย่อนยานค่าทางด้านศิลปความสวย ความงอนสวยก็ตั้งชื่อเรียกว่า พระพลาย เพื่อนานับประการ…
พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง สุวรรณ เมื่อใคร่ครวญจากศิลปแล้ว บอกให้ทราบดีว่าเป็น พระในสมัยอยุธยาจุดศูนย์กลาง โดยมีศิลปที่งอนงามงดงาม เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ที่สำคัญที่สุดเป็นในจำนวนพระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่างนี้ มีอยู่พิมพ์หนึ่งโน่นเป็น “พระขุนแผน พิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่” มีลักษณะและก็ศิลปราวกับ “พระขุนแผนฉาบ” ที่แตกกรุออกมาจากเจดีย์ วัดใหญ่ชัยมงคล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเจดีย์องค์นี้มีบันทึกไว้ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้ว ว่า สมเด็จพระพระเจ้าแผ่นดินมหาราช โปรดให้ผลิตขึ้นในปี พ.ศ. 2135 ตามคำทูลชี้แนะของสมเด็จพระวันรัตน์ วัดป่าแก้ว เพื่อเชิดชู ที่ชัยสำหรับในการทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา ที่ประเทศพม่า พระเจดีย์องค์นี้ชื่อว่า “พระเจดีย์ชัยมงคล” หากแม้ประชาชนเรียกว่า “พระเจดีย์ใหญ่” ด้วยเหตุว่าเป็นเจดีย์ ที่ใหญ่ที่สุดในอยุธยา ซึ่งตามขนบประเพณีมาแต่โบราณว่า เมื่อสร้างพระเจดีย์แล้ว จะสร้างพระเครื่องลางใส่ไว้ด้วย
เพื่อสืบทอดศาสนาพุทธ ถือกันว่าได้บุญกุศลแรง พระขุนแผนฉาบบางทีอาจจะสร้าง เพื่อใส่ด้านในเจดีย์ วัดใหญ่ชัยมงคลเวลานี้
ความคล้ายคลึงกันของพุทธศิลป ของ พระขุนแผน ฉาบกรุวัดใหญ่ชัยมงคล กับ พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยเฉพาะพิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่นี้ เมื่อนำพระทั้งสองมาเทียบเคียงกัน จะแลเห็นความแตกต่างกันน้อยมาก โดยเฉพาะเส้นและลวดลายการแกะของแม่พิมพ์ ทำให้น่าไว้ใจว่า ช่างที่แกะสมัยนั้น บางทีอาจเป็นคน คนเดียวกัน หรือ สกุลช่างศิลปในสำนักเดียวกัน อายุการสร้างอาจไม่ต่างอะไรกันมากสักเท่าไรนัก หรืออาจแกะในคราวเดียวกัน แล้วก็พิมพ์ในคราวเดียวกัน แม้กระนั้นได้มีการแยกใส่เจดีย์ ไม่เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้ ก็เลยพอที่จะคาดหมายได้ว่า พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง บางครั้งก็อาจจะแก่อยู่ในราวรัชกาล สมเด็จพระกษัตริย์มหาราช หรือ ราว 400 ปีล่วงมาแล้ว
พระกรุวัดบ้านกร่าง ปกติไม่ว่า จะเป็น พิมพ์พระขุนแผน พระพลายผู้เดียว พระพลายคู่ นั้นเป็นพระเนื้อเดียวกันเป็นเนื้อดินเผาผสมว่านและก็เกสรดอกไม้ นานาพวก ไม่ปรากฏว่ามีเนื้อชนิดอื่น ลักษณะเนื้อพระ มีทั้งจำพวก เนื้อละเอียด และก็ เนื้อไม่สุภาพ แม้กระนั้นส่วนใหญ่จะเป็นประเภทเนื้อไม่สุภาพที่มีส่วนผสมของกรวดทรายเยอะแยะ มีทั้งแดง สีพิกุล สีเขียว รวมทั้งสีดำ ตามความอ่อนแก่ของความร้อนในขณะเผาไฟ แต่ไม่ว่าจะเป็นเนื้อไม่สุภาพหรือละเอียด สิ่งที่จำเป็นมากหมายคือต้องมี ว่านดอกมะขาม มี แร่ทรายเงิน แร่ทรายทอง และ “รอยว่านหลุด” อยู่ด้วยทุกองค์ รอยว่านหลุด ดังกล่าว เป็นร่องเล็กๆเค้าโครงไม่แน่นอน เป็นรูปแท่งสี่เหลี่ยม บ้าง สามเหลี่ยม บ้าง รวมทั้งเป็น ร่องลึก ร่องตื้น ก็ได้ รอยว่านหลุด นี้ ถือได้ว่าเป็นเอกรูปแบบของเนื้อพระกรุวัดบ้านกร่างที่จะขาดเสียมิได้สำหรับการพินิจพิจารณา
อีกทั้ง พระกรุวัดบ้านกร่าง ยังเป็นพระกรุที่ผิวสะอาด เนื่องจาก กรุพระมีสภาวะดี ไม่จมดินหรือถูกน้ำท่วมขัง ด้วยเหตุดังกล่าว ก็เลยไม่มีคราบที่สกปรกและก็เป็นรอยเปื้อนขี้กรุติดตามดกให้แลเห็น จะมีก็แค่ฝ้ากรุบางๆฉาบติดอยู่ แม้กระนั้นถ้าเกิดผ่านการใช้หรือการสัมผัสก็จะเหลือผิวฝ้ากรุตามซอกองค์พระ เท่านั้น พระกรุวัดบ้านกร่าง เป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่ว่าจะเป็น พระขุนแผน พระพลายลำพัง พระพลายคู่ ล้วนแต่เป็นพระกรุที่แก่หลายร้อยปี รวมทั้งมี คุณพระพุทธเจ้าเด่น ทางด้าน เมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ แคล้วคลาด และก็ หนังเหนียว เลิศ ก็เลยเป็นที่นิยมค้นหากันมานานแล้ว ถึงแม้ในเวลานี้ความชื่นชอบก็ไม่ได้ลดลงลดลงไปเลย……..
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้