คางตัด แก้อย่างไรดี มีวิธีไหนบ้างเพื่อคางได้รูปทรงสวย?

bestfriends

หัดอ่านหัดเขียน (7)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:3
เมื่อ 28 เมษายน พ.ศ. 2564 21.08 น.

คางตัด ทำอย่างไรดี?

ปัญหาคางตัด คางสั้น คางบุ๋ม รวมไปถึงรูปหน้าที่ไม่เรียวแบบรูปไข่ เช่น หน้ากลม หน้าสี่เหลี่ยม ที่หลายคนยังไม่ค่อยพอใจในรูปหน้าของตัวเองสักเท่าไหร่ อีกทั้งบางคนอยากเสริมโหงวเฮ้งด้วยการเสริมคาง เพื่อปรับให้คางได้รูปสวยมากขึ้นกว่าเดิม

ส่วนการแก้ปัญหาคางตัดจะมีวิธีการอะไรให้เลือกบ้าง คุ้มค่าแค่ไหน และตัวเราจะเหมาะกับวิธีการใด วันนี้เรามีข้อมูลที่น่าสนใจจากแพทย์มาฝากแก่ผู้อ่านทุกท่านค่ะ

อยากมีคางเรียวสวย แก้ปัญหาคางตัด หรือหน้าสั้น ทำอย่างไรดี?

วิธีการหลัก สำหรับคนที่ต้องการแก้ปัญหาคางตัด คางบุ๋ม ที่ทำให้ดูหน้าสั้น หน้ากลม รวมถึงปัญหาใบหน้าไม่ได้สัดส่วนจากคางย้อย หรือคางเบี้ยว ซึ่งต้องการมีใบหน้าที่เรียวสวยยิ่งขึ้นกว่าเดิม ได้แก่ 

วิธีที่ 1.) แก้ไขคางตัด คางบุ๋ม ด้วยการฉีดฟิลเลอร์คาง

การจัดการกับปัญหาคางตัด คางบุ๋ม โดยการฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกวันนี้ เพราะไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีบาดแผลเกิดขึ้นหลังทำ ไม่เสียเวลาพักฟื้น ช่วยแก้ปัญหาคางตัด หน้าสั้น คางบุ๋ม ซึ่งให้ผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนหลังทำ

ฉีดฟิลเลอร์คาง เป็น การฉีดสารเติมเต็มจำพวก HA (หรือ ไฮยารูลอนิกแอซิด) ซึ่งเป็นฟิลเลอร์แท้ที่สามารถสลายออกไปได้เองตามธรรมชาติทั้ง 100% โดยไม่มีสารตกค้างในร่างกาย ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวสวย คางดูยาวขึ้นกว่าเดิม และใบหน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้นค่ะ

ข้อดี ของการฉีดฟิลเลอร์คาง

  1. หลังทำเสร็จแล้ว ใบหน้าดูเรียวขึ้น คางได้รูปขึ้นทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนาน
  2. ราคาไม่แพงมาก
  3. ไม่ต้องเจ็บตัวมากเมื่อเทียบกับการผ่าตัดเสริมคาง
  4. ผู้ที่อยากให้คางยาวขึ้น ใบหน้าดูเรียวขึ้นแบบรวดเร็ว จะเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์คาง
  5. หลังทำจะมีแค่รอยเข็มจากการฉีด filler ที่ใต้คาง รอเพียง 3-7 วันรอยเข็มก็จะค่อย ๆ หายไป โดยไม่มีบาดแผล
  6. เป็นหัตถการที่มีความยืดหยุ่นมาก ถ้าเราไม่ชอบผลลัพธ์หลังฉีดก็สามารถให้แพทย์ฉีดสลายออกทั้งหมดหรือบางส่วนได้โดยทันที (ถ้าคางดูยาวไป) หรือขอให้แพทย์ฉีดเพิ่มเติมก็ได้เช่นกัน (ถ้าคางสั้นไป)
  7. สามารถสลายไปเองได้หมด ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย ถ้าเราเลือกฉีดฟิลเลอร์แท้ 100% 

ข้อเสีย ของการฉีดฟิลเลอร์คาง

คนไข้เคสที่มีคางสั้นมาก ๆ หรือคางตัดในบางท่าน จะไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีฉีดฟิลเลอร์คาง เนื่องจากการเติมคางด้วย filler จะไม่ทำให้คางยาวได้เกินกว่า ซ.ม. เนื่องจากฟิลเลอร์คือเนื้อเจลค่ะ หากต้องการเสริมคางควรเลือกวิธีผ่าตัดจะเหมาะสมกว่า

เพราะถ้าฉีดฟิลเลอร์ให้ยาวเกินไปกว่า 1 ซ.ม. อาจส่งผลให้เกิดปัญหาคางผิดรูป คางย้อยตามมาได้ในภายหลัง จะดูเป็นก้อนตอนยิ้ม หน้าดูแข็ง ๆ ไม่เป็นธรรมชาติ อันเกิดจากบางส่วนของฟิลเลอร์ไปซ้อนทับเข้ากับเนื้อคางชั้นตื้น

 

วิธีที่ 2.) แก้ไขคางตัด คางสั้น ด้วยการผ่าตัดเสริมคาง

ใครที่กำลังกังวลกับปัญหาคางตัด คางถอย คางสั้นมาก หรือคางบุ๋ม อันมีต้นเหตุมาจากพันธุกรรม โครงสร้างกระดูก ที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิด และอยากจะเสริมคางให้เรียวสวยได้รูปแบบถาวร จะเหมาะสำหรับการผ่าตัดเสริมคางค่ะ

ข้อดี ของการผ่าตัดเสริมคาง

คนที่คางสั้นมาก หากผ่าตัดเสริมคางโดยใช้ซิลิโคน จะเสริมให้คางยาวได้มากกว่าวิธีฉีดฟิลเลอร์ค่ะ คุณหมอจะช่วยปรับและจัดรูปทรงให้ใกล้เคียงกับรูปทรงคางที่เราอยากได้

ข้อเสีย ของการผ่าตัดเสริมคาง

  1. ในกรณีที่ผ่าตัดแล้วไม่ชอบทรงคางที่ได้หลังเสริมคางด้วยซิลิโคน หากเราอยากจะแก้ไขทรงคางใหม่ จำเป็นต้องผ่าตัดเท่านั้น เพื่อปรับรูปคางให้เหมาะสมและลงตัวยิ่งขึ้น
  2. ในช่วงแรก ๆ หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้ว การเคี้ยวอาหารจะไม่ค่อยสะดวกมากนัก
  3. หลังผ่าตัดเสริมคาง ถ้าเราไม่ค่อยใส่ใจดูแลรักษาความสะอาดภายในช่องปาก มีความเสี่ยงที่จะเกิดการอักเสบติดเชื้อขึ้นได้
  4. ถ้าจะผ่าตัดทำคางแบบเปิดแผลด้านนอกปาก อาจจะไม่เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องความเสี่ยงของการเกิดรอยแผลเป็นในภายหลัง โดยเฉพาะคนที่ผิวเกิดรอยแผลเป็นนูนได้ง่าย
  5. ถ้าเปรียบเทียบกับวิธีฉีดฟิลเลอร์เติมคาง การผ่าตัดจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าค่อนข้างมาก 

ในผู้ที่ต้องการเสริมคางแบบถาวร หรือมีคางสั้นมาก ๆ จะเหมาะกับวิธีผ่าตัดเสริมคางด้วยซิลิโคนมากกว่าค่ะ แต่สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเสริมคางให้ยาวมาก เพียงแค่ต้องการปรับรูปคาง ลดปัญหาคางบุ๋ม คางตัด แพทย์จะแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์คาง จะช่วยให้รูปหน้าดูเรียวสวยขึ้น ไม่เกิดรอยแผล และไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นด้วยค่ะ 

แก้ไขครั้งที่ 3 โดย bestfriends เมื่อ28 เมษายน พ.ศ. 2564 21.32 น.

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา