ปะยางรถยนต์ สตรีมกับแทงไหม มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร
เชื่อว่าทั้งมือใหม่มือเก่าหลายคนคงจะเคยเจอกับเหตุการณ์ขับรถอยู่ดี ๆ อาจจะเหยียบเข้าจนลมรั่วได้ ซึ่งปัญหานี้ก็น่าปวดหัวไม่น้อยเลยถ้าหากไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกับ ยางรถยนต์ ที่รั่ว โดยเฉพาะการที่จะต้องเลือก วิธีปะยางรถยนต์ ว่าควรต้องเลือกแบบไหนดี เพราะในปัจจุบันมีวิธีการปะยางอยู่ 2 แบบ คือแบบปะสตรีม และแบบแทงไหม แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร และรถแบบเราจะเหมาะกับแบบไหนมาดูกัน
การปะยางแบบสตรีม
มาเริ่มทำความรู้จักกับ วิธีปะยางรถยนต์ แบบสตรีม เป็นวิธีที่ใช้กันมากอย่างยาวนานและสามารถใช้กับรถทุกชนิดทั้งเล็กหรือใหญ่ตั้งแต่รถจักรยานไปจนถึงรถบรรทุก โดยการปะยางรถยนต์แบบสตรีมยังถูกแบ่งย่อยออกเป็น
- การปะแบบสตรีมร้อน นิยมใช้ปะตั้งแต่ ยางรถ มอเตอร์ไซค์ไปจนถึงยางรถบรรทุกสิบล้อ โดยใช้ยางพิเศษที่ผ่านการหลอมด้วยความร้อนเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะนำยางมาประกบกับรอยยางที่รั่วแล้วใช้เครื่องมือกดเพื่อให้แผ่นยางพิเศษประกบเข้ากับยางรถยนต์ได้อย่างแนบสนิทจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน ปล่อยทิ้งไว้ให้เย็นสักครู่ก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ
- การปะยางแบบสตรีมเย็น ปกติแล้วจะไม่นิยมใช้กับรถที่บรรทุกของหนัก เพราะด้วยวิธีการปะยางแบบสตรีมเย็นจะเป็นการนำยางในรถที่ไม่ได้ใช้แล้วนำมาทำการอุดรูรั่ว โดยจะนำยางมาปิดทับบริเวณที่เป็นรอยรั่วแล้วประสานยางให้เป็นเนื้อเดียวกันด้วยกาว จากนั้นรอให้กาวแห้งสนิทก็จะสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ เป็นวิธีที่เหมาะกับปะยางรถที่มีขนาดเล็ก
มาดูข้อดีและข้อเสียของการปะยางรถยนต์แบบสตรีมร้อนและสตรีมเย็นกันบ้าง
ข้อดีของการปะยางแบบสตรีมร้อน เป็น วิธีปะยางรถยนต์ ที่สามารถปิดรอยรั่วซึมได้สนิททำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าสตรีมเย็น แต่ด้วยความที่เป็นการปะด้วยการใชช้ความร้อนจึงอาจจะทำให้ยางรถยนต์เกิดการเสียรูปทรงได้
ข้อดีของการ ปะยางรถยนต์ แบบสตรีมเย็น มีข้อดีคือไม่ทำให้ยางรถยนต์เสียรูปทรงและมีราคาไม่แพง แต่ก็มีข้อเสียคือไม่เหมาะกับการปะยางรถยนต์ที่ต้องบรรทุกของหนักเพราะทนต่อความร้อนได้ต่ำ เพราะยางอาจจะเกิดความร้อนอาจทำให้บริเวณที่ปะยางนั้นเสื่อมสภาพกลับมารั่วซึมได้อีก
การปะยางแบบแทงไหม
การ ปะยางรถยนต์ แบบแทงไหม การปะด้วยวิธีปะยางรถยนต์แบบนี้จะใช้ปะเฉพาะรอยรั่วขนาดเล็กที่มีสาเหตุมาจากการเหยียบตะปูหรือน็อตโดยเริ่มจากการดึงตะปูออกแล้วจะใช้ตะไบหางหนูแทงกลับเข้าไปเพื่อทำความสะอาดรอยแผลที่รั่ว ก่อนที่จะแทงไหมที่มีใยสังเคราะห์และกาวผสมเข้าด้วยกันลงไปอุดรอยรั่ว
ข้อดี คือใช้เวลาในการปะไม่นาน ไม่ต้องถอดยางรถยนต์ออกจากล้อ แต่มีข้อเสียคือทนต่อความร้อนได้ต่ำ อาจจะเกิดอาการรั่วหรือมีรอยซึมบริเวณที่ปะได้
จะเห็นได้ว่าปะยางทั้งแบบสตรีมและแทงไหมต่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียให้โดยเราก็สามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมกับยางของเรา ถ้าหากต้องการปะยางแบบรวดเร็วก็ต้องใช้วิธีการปะแบบแทงไหม แต่ถ้าหากเน้นความคงทนใช้งานได้ในระยะยาวก็ต้องปะแบบสตรีม และอย่าลืมที่จะเลือกตรวจสอบสภาพยางรถยนต์ อย่างสม่ำเสมอ และเมื่อพบความผิดปกติของยางก็ควรรีบทำการซ่อมแซมหรือทำการเปลี่ยนทันทีเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้