รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารไหนดี ส่องดอกเบี้ยไฟแนนซ์บ้าน 2565

ผ่อนบ้านมาครบ 3 ปีแล้ว คงถึงเวลาต้องรีไฟแนนซ์ แต่จะรีไฟแนนซ์กับธนาคารไหนดี แล้วรีไฟแนนซ์กับธนาคารอะไรจะช่วยเพิ่มวงเงิน วันนี้เรารวบรวม 5 ธนาคารที่มีดอกเบี้ยดีที่สุดสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านประจำปี 2565 มาให้แล้ว ซึ่งจะมีธนาคารอะไรบ้าง เช็กเลย! และนอกจากในบทความแล้วยังมีธนาคารที่มีข้อเสนออื่นๆ และโปรโมชั่นที่น่าสนใจอีกมากมาย สามารถเช็คโปรโมชั่นของทุกธนาคารได้ที่ รีไฟแนนซ์บ้าน 

รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร

ก่อนจะไปเช็กดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านของปี 2565 บางคนที่เป็นมือใหม่อาจจะยังไม่รู้ว่าการรีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร ช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ ค่าสาธารณูปโภค ค่าอาหารการกิน ไหนจะค่าเดินทางที่ขึ้นเอาๆ หลายคนที่บ้านอยู่ไกลกับที่ทำงาน จึงตัดสินใจไปกู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ผ่อนบ้านผ่อนคอนโดใกล้ที่ทำงาน เพื่อความสะดวก แต่ถึงอย่างนั้นดอกเบี้ยก็ยังสูงลิ่ว แถมดูแววแล้วยังไม่มีทีท่าจะผ่อนหมดในเร็วๆ นี้อีกด้วย การรีไฟแนนซ์บ้านนั้นเป็นคำตอบที่ดีที่สุด

ใช่แล้ว! การรีไฟแนนซ์บ้านก็คือการที่ผู้กู้สินเชื่อเลือกจะทำสัญญากู้กับธนาคารใหม่เพื่อลดดอกเบี้ยและระยะเวลาผ่อนบ้านในกรณีที่กำลังผ่อนบ้านอยู่ หรือสำหรับผู้กู้บางคนที่ต้องการวงเงินกู้เพิ่มเพื่อไปปิดหนี้บัตรเครดิต 

รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารไหนดี 2565 เปรียบเทียบธนาคารกัน

ขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ธนาคารออมสิน

ธนาคารออมสิน

ข้อควรรู้ของธนาคารออมสินในการรีไฟแนนซ์บ้านประจำปี 2565 มีดังต่อไปนี้

• สำหรับหลักประกันที่อยู่ในโครงการที่ธนาคารเป็นผู้กำหนด ดอกเบี้ย 3 ปีแรกเพียง 2.35 %
• วงเงินกู้สูงสุดร้อยละ 110 ของราคาประเมิน
• ผ่อนนานสูงสุด 40 ปี แต่รวมอายุกับผู้กู้และเวลาชำระเงินแล้วต้องไม่เกิน 70 ปี
• ฟรีค่าอากรแสตมป์ ค่าจดจำนอง ค่าจัดทำนิติกรรมสัญญา
• ผ่อนล้านละ 2500 บาท ต่อเดือน
• หากวงเงินเหลือ สามารถกู้สินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคได้สูงสุด 5 ล้านบาท

*โปรดศึกษาเงื่อนไขเพิ่มเติมผ่านเว็บไซต์ คอลเซ็นเตอร์ หรือเคาท์เตอร์ธนาคารออมสิน
โทร: 1115

ขอบคุณรูปภาพจาก ไทยแทบลอยด์

ธนาคารกรุงไทย

ข้อควรรู้สำหรับธนาคารกรุงไทยในการรีไฟแนนซ์บ้านประจำปี 2565 มีดังต่อไปนี้

• สำหรับหลักประกันที่อยู่ในโครงการที่ธนาคารเป็นผู้กำหนด ดอกเบี้ย 3 ปีแรกเพียง 2.60 %
• ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.75% ต่อปี
• ผ่อนนานสูงสุด 40 ปี
• ฟรีค่าอากรแสตมป์ ค่าจัดทำนิติกรรมสัญญา
• ธนาคารออกค่าจดจำนองให้ 1 %
• ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ ขั้นต่ำ 3,500 บาท สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท
• ค่าตรวจผลงานการก่อสร้างครั้งละ 1,200 บาท
• สามารถขอวงเงินเพิ่มเพื่อการอุปโภคบริโภคได้ โดยวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 100% ของราคาประเมิน

*โปรดศึกษาเงื่อนไขเพิ่มเติมผ่านเว็บไซต์ คอลเซ็นเตอร์ หรือเคาท์เตอร์ธนาคาร

https://krungthai.com/th/personal/loan/housing-loan/ 

โทร: 02-111-1111 

ขอบคุณรูปภาพจาก มติชนออนไลน์

ธนาคารกสิกร

ข้อควรรู้สำหรับธนาคารกสิกรในการรีไฟแนนซ์บ้านประจำปี 2565 มีดังต่อไปนี้

• สำหรับหลักประกันที่อยู่ในโครงการที่ธนาคารเป็นผู้กำหนด ดอกเบี้ย 3 ปีแรกเพียง 2.83 %
• วงเงินกู้สูงสุดร้อยละ 90 ของราคาประเมิน
• ผ่อนนานสูงสุด 30 ปี แต่รวมอายุกับผู้กู้และเวลาชำระเงินแล้วต้องไม่เกิน 70 ปี
• ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์อยู่ที่ 3,000 บาท
• ทราบผลอนุมัติเบื้องต้นเร็ว ภายใน 3 วัน

*โปรดศึกษาเงื่อนไขเพิ่มเติมผ่านเว็บไซต์ คอลเซ็นเตอร์ หรือเคาท์เตอร์ธนาคารกสิกรไทย

โทร: 02-888-8888 ต่อ 887

ขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

ข้อควรรู้สำหรับธนาคารกรุงศรีอยุธยาในการรีไฟแนนซ์บ้านประจำปี 2565 มีดังต่อไปนี้

• สำหรับหลักประกันที่อยู่ในโครงการที่ธนาคารเป็นผู้กำหนด ดอกเบี้ย 3 ปีแรกเพียง 2.70 %
• ดอกเบี้ย 0.5 % ต่อปีสำหรับปีแรก
• วงเงินกู้สูงสุดร้อยละ 95 ของราคาประเมิน
• ผ่อนนานสูงสุด 30 ปี แต่รวมอายุกับผู้กู้และเวลาชำระเงินแล้วต้องไม่เกิน 65 ปี
• ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน
• ฟรีค่าจดจำนอง

*โปรดศึกษาเงื่อนไขเพิ่มเติมผ่านเว็บไซต์ คอลเซ็นเตอร์ หรือเคาท์เตอร์ธนาคารกรุงศรี

โทร:1572

ขอบคุณรูปภาพจาก ผู้จัดการออนไลน์

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร

ข้อควรรู้สำหรับธนาคารเกียรตินาคินภัทรในการรีไฟแนนซ์บ้านประจำปี 2565 มีดังต่อไปนี้

• วงเงินอนุมัติสูงสุด 50 ล้านบาท
• กู้ร่วมได้สูงสุด 4 คน โดยจะต้องเป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกัน
• วงเงินกู้สูงสุดร้อยละ 100 ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย (ขึ้นอยู่กับว่าราคาใดจะน้อยกว่า)
• ผ่อนนานสูงสุด 30 ปี 
• ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน 
• ฟรีค่าจดจำนอง 1 % สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
• ทราบผลอนุมัติเบื้องต้นเร็ว ภายใน 3 วัน

*โปรดศึกษาเงื่อนไขเพิ่มเติมผ่านเว็บไซต์ คอลเซ็นเตอร์ หรือเคาท์เตอร์ธนาคารเกียรตินาคินภัทร

โทร:02-165-5555

เอกสารที่ต้องใช้รีไฟแนนซ์บ้าน

• เอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
• เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน สำเนารายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลังล่าสุด 6 เดือน
• เอกสารหลักประกัน เช่น โฉนดที่ดิน สัญญากู้เงินกับธนาคารเดิม

ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้าน ฉบับ 2565

• ตรวจสอบสัญญากู้ของตัวเอง - ส่วนมากจะทำการรีไฟแนนซ์ได้เมื่อทำการผ่อนไปแล้ว 3 ปี แนะนำให้เตรียมตัวก่อนครบสัญญาปีที่ 3 เพราะคุณสามารถยื่นเรื่องกับธนาคารใหม่ได้ 1-2 เดือนก่อนครบสัญญา เพื่อให้ธนาคารใหม่มีเวลาในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้คุณด้วย
• เลือกธนาคารที่เหมาะสม - หากได้ธนาคารที่เหมาะกับผู้กู้ จะช่วยทำให้ประหยัดเงินไปได้มากโข แต่ถ้าหากอยากประหยัดเวลาในการคำนวนอัตราดอกเบี้ยและประหยัดเวลาเปรียบเทียบธนาคาร คุณสามารถให้ Refinn ช่วยได้ สำหรับผู้ที่สมัครรีไฟแนนซ์บ้านผ่าน Refinn ทาง Refinn ยินดีดำเนินการประสานงานกับธนาคารและดำเนินเรื่องให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

• เตรียมเอกสารสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้าน - ซึ่งหลักๆ จะมี 3 ประเภทที่กล่าวไปข้างต้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะขึ้นอยู่กับบางธนาคารที่อาจจะมีการขอเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติม  ซึ่งตรงนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคาร หรือจะใช้บริการผ่าน Refinn ก็ได้เช่นกัน

• ยื่นเรื่อง - หากเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็สามารถยื่นขอรีไฟแนนซ์ได้เลย ซึ่งปกติขั้นตอนพิจารณาเบื้องต้น จะใช้เวลาอนุมัติตั้งแต่ 2 - 4 สัปดาห์เป็นต้นไป

สรุป

รีไฟแนนซ์บ้านหากได้ตัวเลือกที่ดีก็จะประหยัดเงินได้ถึง 6 หลัก แต่ถ้าหากได้ตัวเลือกที่ไม่ดีเท่าไหร่ก็อาจจะประหยัดได้แค่ 4 หลักเท่านั้น หากยังไม่มั่นใจ สามารถค้นหาโปรโมชั่น ศึกษาเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านได้ที่ Refinn  บริษัทให้บริการปรึกษา เปรียบเทียบโปรโมชั่นสินเชื่อต่าง ๆ ได้ฟรี