ใบหน้าเรียวสวยด้วยการฉีดฟิลเลอร์คาง

เมื่อส่องกระจกไปมาแล้วรู้สึกไม่พอใจกับรูปร่างคางของตัวเอง ในปัจจุบันก็มีทางเลือกต่าง ๆ เช่น การผ่าตัดคาง หรือการฉีดฟิลเลอร์คางจะช่วยแก้ปัญหาความไม่พอใจเกี่ยวกับคางให้หมดลงไป โดยฉีดฟิลเลอร์คืออะไร ช่วยแก้ปัญหาคางได้อย่างไร ปลอดภัยหรือเปล่า มาเช็คไปด้วยกันในบทความนี้

ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คาง คืออะไร

ฉีลฟิลเลอร์คาง คือ การนำสารที่มีตามธรรมชาติมาฉีดเข้าบริเวณคาง เพื่อช่วยปรับใบหน้ามีความกระชับ สมดุล และเรียวสวยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์นั้นใช้เวลาไม่นานแต่กลับช่วยเพิ่มความสวยและความมั่นใจในใบหน้ามากขึ้น ทำให้ในปัจจุบันมีผู้เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์เป็นจำนวนมาก

ฟิลเลอร์จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่

• ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว(Temporary filler)
  เป็นฟิลเลอร์ที่สามารถสลายตัวเองได้ เนื่องจากมีการใช้สารที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ โดยจะสามารถคงอยู่ได้ 4-6 เดือน
  
  
• ฟิลเลอร์แบบกึ่งชั่วคราว(Semi Permanent filler)
  เป็นฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยน้อยกว่าแบบชั่วคราว โดยสามารถคงอยู่ได้ราว 2 ปี
  
  
• ฟิลเลอร์แบบถาวร(Permanent filler)
  เป็นฟิลเลอร์ที่ใช้ซิลิโคนหรือพาราฟินซึ่งไม่สามารถสลายตามธรรมชาติได้ และมีวิธีกำจัดออกโดยการขูดออกเท่านั้น ซึ่งฟิลเลอร์ประเภทนี้แม้ว่าจะมีราคาถูกมาก แต่มีโอกาสเกิดอันตรายหรือผลข้างเคียงจากการฉีดสูง จึงควรหลีกเลี่ยงการฉีดแบบถาวร
  
  

สารที่มักใช้ในการฉีดฟิลเลอร์คางที่สามารถสลายตัวตามธรรมชาติมีดังนี้

• กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic acid) 

เป็นสารที่สามารถพบได้ในผิวหนังและกระดูกอ่อนในร่างกาย โดยส่วนมากจะสามารถอยู่ได้ราว 6-12 เดือน ซึ่งสารชนิดนี้มีความปลอดภัย และสามารถฉีด Hyaluronidase เข้าไปสลายฟิลเลอร์โดยตรงได้ จึงทำให้แม้ว่ามีราคาสูงกว่าประเภทอื่น แต่กลับมีผู้เลือกใช้มาก โดยยี่ห้อที่แนะนำ ได้แก่ Juvederm Belotero และ Restylane

• โพลี่ แอล แลคติด แอซิด (Poly-L-lactic acid)

เป็นสารอุ้มน้ำสามารถเข้ากับเนื้อเยื่อในร่างกาย และสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติได้ โดยสามารถคงอยู่ได้ประมาณ 2 ปี นับว่าเป็นฟิลเลอร์ที่อยู่ได้นานสุดในบรรดาฟิลเลอร์ที่ร่างกายดูดซึมได้

• คอลลาเจน (Collagen)

เป็นโปรตีนที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย โดยมักจะนำคอลลาเจนจากสัตว์มาใช้ ซึ่งสามารถคงอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน นับว่าสามารถอยู่ได้นานน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับสารชนิดอื่น และยังมีความจำเป็นต้องตรวจร่างกายก่อนว่ามีการแพ้โปรตีนหรือไม่ จึงจะเลือกใช้ชนิดนี้ได้

• แคลเซียม ไฮดรอกซีอะพาไทท์ (Calcium Hydroxyapatite)

เป็นแร่ธาตุที่มักพบในกระดูกและฟัน โดยมักจะใช้ในการแก้ปัญหาริ้วรอยตามใบหน้า มือ โดยสามารถอยู่ในร่างกายได้ประมาณ 18 เดือน

• ไขมัน (Fat Filler)

เป็นการนำไขมันในร่างกายมาฉีดเพื่อเติมเต็มรูปหน้า ซึ่งร่างกายจะดูดซึมไขมันที่ฉีดเข้าไปโดยสามารถคงอยู่ได้ประมาณ 1 ปี แต่เนื่องจากเซลล์ไขมันบางเซลล์มีโอกาสตายระหว่างการฉีด ทำให้ปริมาณที่ฉีดเข้าไปลดลงจึงทำให้ต้องฉีดปริมาณมากและต้องฉีดซ้ำ

ทำไมถึงต้องฉีดฟิลเลอร์ที่คาง

หลาย ๆ คนคงจะสงสัยใช่ไหมว่า ทำไมถึงต้องฉีดฟิลเลอร์ที่คาง ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์คางจะเป็นวิธีปรับใบหน้าให้มีความเรียว ให้มีรูปคาง v shape ได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยสามารถช่วยแก้ปัญหาคางที่รูปร่างไม่สมดุลให้สวยได้อย่างทันใจแตกต่างจากการผ่าตัดคางโดยที่ไม่มีข่วงเวลาพักฟื้น รวมถึงไม่มีรอยแผลด้วย

ฉีดฟิลเลอร์คางช่วยในเรื่องอะไรบ้าง

ฟิลเลอร์คางจะช่วยทำให้ปัญหาคางต่าง ๆ เช่น ข่วยแก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม คางไม่เท่ากันหรือผู้ที่มีรูปหน้ากลม ให้มีความเรียวยาว ทำให้ใบหน้าดูมีสัดส่วนและเรียวสวยมากขึ้นอย่างลงตัว และยังช่วยเสริมโหวงเฮ้งให้กับผู้ที่มีความเชื่อได้อีกด้วย

ฉีดฟิลเลอร์ที่คางเหมาะกับใคร

การฉีดฟิลเลอร์คางนั้นจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาคางสั้น คางไม่เท่ากัน คางบุ๋ม ให้มีความสมดุลมากขึ้น ซึ่งการแก้ปัญหานี้จะทำให้ผู้ที่ไม่มีความมั่นใจในใบหน้าของตนเองสามารถใช้ชีวิตออกสังคมได้อย่างไร้ความกังวล

ผลข้างเคียงที่อาจพบได้จากการฉีดฟิลเลอร์คาง

แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์คางจะเป็นทางเลือกที่ช่วยทำให้ใบหน้าเรียวสวยได้ แต่มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้ด้วยเช่นกัน โดยผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์แบบถาวรจะมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงสูง เพราะฉะนั้นโดยส่วนมากแล้วแพทย์จะไม่แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์คางชนิดนี้

จากที่กล่าวข้างต้น ผลข้างเคียงที่มักพบบ่อย ได้แก่ คางบวม มีผื่นแดงขึ้น รู้สึกคัน และเจ็บ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น ฟิลเลอร์ขยับออกจากบริเวณที่รักษา แผลเปิด เลือดออก มีก้อนใต้คาง(จำเป็นต้องผ่าตัด) ติดเชื้อ นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่ตัวฟิลเลอร์ขวางหลอดเลือด ทำให้เนื้อตาย และเกิดลิ่มเลือดอุดตันในปอด เป็นต้น

ฉีดฟิลเลอร์ที่คางราคาเท่าไหร่?

โดยส่วนมากแล้วจะฉีดฟิลเลอร์ที่คางกันครั้งละประมาณ 1-2 CC ซึ่งราคานั้นก็จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกใช้ โดยฟิลเลอร์คางมีทั้งอย่างราคาน่ารักตั้งแต่ช่วงเรท 4000 บาท จนถึงราคาหลักหมื่นขึ้นไป 

Q & A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ที่คาง

.

Q : ฟิลเลอร์คางอยู่ได้นานแค่ไหน?

โดยส่วนมากแล้วฟิลเลอร์คางจะคงอยู่ในช่วงระหว่าง 12-24 เดือนขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือก ซึ่งแพทย์ผู้รักษาจะเป็นผู้พิจารณาเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับใบหน้าของผู้เข้ารักษาโดยคำนึงถึงสภาพใบหน้าเป็นหลัก

Q : ฟิลเลอร์ที่คางปลอดภัยไหม?

การฉีดฟิลเลอร์คางจะปลอดภัยได้ก็ต่อเมื่อใช้ฟิลเลอร์ของแท้ ที่ได้รับมาตรฐานต่าง ๆ รวมถึงควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ทราบแหล่งที่มา มีราคาที่ไม่ถูกมากจนเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้จากการใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่มีคุณภาพ 

นอกเหนือจากนี้แล้วก่อนเข้ารับการฉีดยาฟิลเลอร์ควรศึกษาหาข้อมูลของสถานที่ที่เข้ารับบริการอย่างละเอียดก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าสถานที่นั้น ๆ มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย มีแพทย์ที่มีประสบการณ์ และเชี่ยวชาญในการรักษาจริง

Q : ฉีดฟิลเลอร์คาง คุ้มไหม?

การฉีดฟิลเลอร์คางจะช่วยปรับโครงหน้าให้ดูเรียวสวยมากขึ้นได้ทันที อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการฉีดฟีลเลอร์เมื่อเทียบกับระยะเวลาที่โครงหน้าเรียวสวยจะคงอยู่ได้ยาวประมาณ 1-2 ปี จึงเรียกได้ว่าเป็นการรักษาที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายมากเลยทีเดียว

Q : ฉีดฟิลเลอร์ที่คางเจ็บไหม?

ในส่วนของการฉีดฟิลเลอร์คาง ระดับความเจ็บจะขึ้นอยู่กับความรู้สึกของแต่ละคน โดยส่วนมากจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยเมื่อฉีด ในช่วงระหว่างฉีดเองก็จะใช้ยาชาแปะ และคอยประคบน้ำแข็งไว้เพื่อบรรเทาอาการเจ็บ แต่อย่างไรก็ตามในเนื้อฟิลเลอร์จะมียาชาเป็นส่วนผสมด้วย เพราะฉะนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลว่าฉีดแล้วจะรู้สึกเจ็บมากจนทนไม่ได้

ฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นหนึ่งในทางเลือกที่จะทำให้โครงหน้าสวยสมบูรณ์เพิ่มมากขึ้น โดยที่ใช้เวลาเพียงไม่นาน แต่ฟิลเลอร์นั้นก็มีข้อที่ควรจะวังและมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงหรืออาการแซรกซ้อนจากการรักษาด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นจึงควรศึกษาข้อมูลของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ รวมถึงสถานที่เข้ารับการรักษาอย่างละเอียดก่อนเพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์คางประสบความสำเร็จได้ด้วยดี