แนะนำวิธีรักษาออฟฟิศซินโดรม เตรียมโบกมือลาอาการปวดคอบ่าไหล่

GUEST1649747579

สุดยอดขีดเีขียน (560)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:1001
เมื่อ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2565 22.52 น.

รักษาออฟฟิศซินโดรม 

 

รักษาออฟฟิศซินโดรมแบบไหนดีที่สุด รักษา Office Syndrome หายขาดไหม ? แน่นอนว่ามนุษย์เงินเดือน ชาวออฟฟิศหลายคนน่าจะมีอาการปวดคอ ปวดบ่า ปวดไหล่ และบริเวณอื่นๆ กันบ้าง ซึ่งนั้นเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายว่าคุณอาจจะกำลังเข้าข่ายภาวะ “ออฟฟิศซินโดรม” เนื่องจากการนั่งทำงานเป็นระยะเวลาติดต่อกันหลายชั่วโมง ซึ่งบทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับโรคยอดฮิตของวัยทำงานอย่างออฟฟิศซินโดรม พร้อมแนะนำวิธีรักษาออฟฟิศซินโดรมให้หายขาด! 

 


 

ภาวะออฟฟิศซินโดรม คืออะไร

 

ภาวะออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) เป็นภาวะที่มักจะเกิดและพบได้มากที่สุดในวัยทำงาน ซึ่งสาเหตุของอาการปวดตามบริเวณต่างๆ ของร่างกาย เกิดจากการทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งซ้ำๆ ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน หรือ ทุกๆ วัน ทำให้กล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อ และเส้นเอ็นรอบๆ บริเวณนั้นได้รับบาดเจ็บ หรือ เกิดการอักเสบ ส่งผลให้รู้สึกปวดขึ้นมากนั้นเอง 

ในปัจจุบันพนักงานประจำเดือน พนักงานเงินเดือนหลายคนต้องนั่งทำงานในท่าเดิมนานๆ เมื่อโฟกัสกับการตรงหน้ามากๆ จึงทำให้ลืมที่จะขยับตัวเพื่อยืดเส้นยืดยาวระหว่าง ทำให้ภาวะออฟฟิสซินโดรมพบได้บ่อยในกลุ่มคนในช่วงวัยทำงานนั้นเอง 

 


 

อาการโรคออฟฟิศซินโดรม

 

อาการออฟฟิศซินโดรม

 

ภาวะออฟฟิศซินโดรม หรือ Office Syndrome เป็นภาวะที่พบได้บ่อย ซึ่งมีหลากหลายอาการไม่ใช่แค่เพียงคอ บ่า ไหล่ เท่านั้น มาลองดูกันดีกว่าว่าอาการโรคออฟฟิศซินโดรมมีอะไรบ้าง 

 

1. ปวดหลัง คอ บ่า ไหล่

นับว่าเป็นอาการโรคออฟฟิศซินโดรมที่พบมากที่สุดในตอนนี้ โดยส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากการนั่งทำงานหรือใช้กล้ามเนื้อในท่าเดิมเป็นระยะเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเกิดการเกร็งตัว จนทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บ 

 

2. ปวดศีรษะ

ความรู้สึกปวดศีรษะ หลายคนอาจจะไม่คาดคิดว่าตนเองเข้าข่ายภาวะออฟฟิศซินโดรม แต่จริงๆ แล้วการปวดศีรษะนั้นอาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณเป็นออฟฟิศซินโดรม โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมีสาเหตุมาจากปัญหากล้ามเนื้อบริเวณไหล่หรือบ่าที่ตึงมากเกินไป จนเลือดไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงสมองได้นั่นเอง 

 

3. ปวดข้อมือ เอ็นข้อมืออักเสบ

อาการปวดข้อมือ เอ็นข้อมืออักเสบนอกจากจะมีสาเหตุมาจากการนั่งพิมพ์งาน เล่นโทรศัพท์เป็นเวลานานแล้ว ยังอาจจะมีสาเหตุมาจากการทำกิจกรรมอย่างอื่น เช่น ซักผ้า กวาดบ้าน และอื่นๆ จนทำให้กล้ามเนื้อบริเวณท้องแขนเกิดการอักเสบและรู้สึกปวดในที่สุด 

 

4. ปวดขา เหน็บชา

สำหรับคนที่มักจะนั่งทำงานเป็นระยะเวลานาน ตลอดทั้งวัน และไม่ค่อยลุกขึ้นเดินระหว่างวันมากนั้น อาจจะส่งผลให้เส้นเลือดดำถูกกดทับจนทำให้เกิดอาการปวดขา และ เหน็บขาบริเวณชาขึ้นมาในได้ 

 

5. ปวดตา สายตาเบลอ ตาแห้ง

ปวดตา สายตาเบลอ ตาแห้ง มักจะมีสาเหตุมาจากการจ้องหน้าจอเป็นระยะเวลานาน ทำให้เกิดการระคายเคืองตาในที่สุด ทั้งนี้อาการปวดตามันจะมาคู่กับอาการปวดหัว 

 

6. ปวดนิ้ว นิ้วล็อค

นอกจากเหล่าพนักงานออฟฟิศแล้ว เหล่าเกมเมอร์ทั้งหลายมักจะมีอาการปวดนิ้ว นิ้วล็อค เนื่องจากใช้งานนิ้วมือมากเกินไป เช่น พิมพ์งาน เล่นเกม กวาดบ้าน และการคลิกเม้าส์  ซึ่งทำให้เกิดการเสียดสีของปลอกหุ้มเส้น และ เส้นเอ็น จนเกิดการอักเสบบริเวณข้อนิ้วมือในที่สุด 

 

7. ปวดกล้ามเนื้อ

อาการปวดกล้ามเนื้อเป็นอาการที่พบได้บ่อย โดยอาการปวดกล้ามเนื้อในที่นี้หมายถึงการปวดคอ บ่า ไหล่ หลัง และ สะโพก ซึ่งถ้าหากมีอาการปวดกล้ามเนื้อแล้วส่วนใหญ่มักจะมีอาการเรื้อรัง รักษาหายขาดได้ค่อนข้างยากมากเลยทีเดียว 

 

8. พังผืดทับเส้นประสาท

พังผืดทับเส้นประสาทเป็นอาการที่มักพบที่บริเวณฝ่ามือ นิ้วมือ และ แขน เพราะเป็นบริเวณที่ถูกกดทับบ่อยมากที่สุด จนทำให้เกิดพังผืดขึ้นมานั่นเอง 

 


 

ออฟฟิศซินโดรม รักษาหายไหม

 

มีหลายคนที่กังวลเกี่ยวกับภาวะออฟฟิสซินโดรม ทำให้เกิดคำถามว่าแล้วออฟฟิศซินโดรมสามารถรักษาให้หายขาดได้ไหม ? จริงๆ แล้วภาวะ Office Syndrome สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากตัวผู้ป่วยด้วย เพราะแค่ยาไม่สามารถช่วยบรรเทาอาการทั้งหมดได้ 

ผู้ป่วยจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย และ สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคออฟฟิศซินโดรมด้วย เพื่อผลลัพธ์การรักาษาออฟฟิศซินโดรมที่ดีที่สุด

 


 

10 วิธีรักษาอาการออฟฟิศซินโดรม

 

วิธีรักษาอาการออฟฟิศซินโดรม มีดังนี้

 

1. ปรับสภาพแวดล้อมทำงาน

 

 จัดแสงไฟให้เพียงพอ 

 

สภาพแวดล้อมการทำงานนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งในการรักษาออฟฟิศซินโดรม โดยผู้ที่ต้องนั่งทำงานเป็นระยะเวลานานๆ ในทุกวัน แนะนำให้มีการปรับแสงในห้องให้เหมาะสมไม่ควรสว่างหรือมืดเกินไป เพราะจะทำให้ปวดตา ไม่สบายตาได้ นอกจากนี้สภาพแวดล้อมที่ดียังทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย 

 

2. ปรับอิริยาบถให้ถูกหลักสรีรศาสตร์

 

รักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยการปรับท่านั่ง

 

ปัจจุบันมีเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์เสริมหลายอย่างที่ช่วยปรับท่าทางไม่ว่าจะเป็น ท่านั่ง ท่ายืน และท่าเดิน ให้ถูกตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคออฟฟิสซินโดรม พร้อมทั้งช่วยบรรเทาอาการปวดที่เกิดจากออฟฟิสซินโดมได้ดีอีกด้วย เช่น เก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพ เบาะรองนั่ง ที่บีบมือเพื่อบริหารกล้ามเนื้อระหว่างวัน เป็นต้น 

 

3. เปลี่ยนท่าทางระหว่างวัน

 

ยืดเส้นยืดสาย 

 

สำหรับผู้ที่เพิ่งเข้าข่ายภาวะออฟฟิศซินโดรม หรือ ไม่อยากเป็น สามารถหลีกเลี่ยงและบรรเทาอาการได้ด้วยการเปลี่ยนท่าทางระหว่างวัน เพื่อบริหารกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และเนื้อเยื่อ ช่วยให้กล้ามเนื้อไม่ยึดตึงจนทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ

 

4. ออกกำลังกายเป็นประจำ

 

ออกกำลังกายช่วยรักษาออฟฟิศซินโดรม 

การออกกำลังกายสามารถรักษาออฟฟิศซินโดรมได้ เนื่องจากการออกกำลังกายสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นได้ และการออกกำลังกายยังช่วยให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นผ่อนคลายอีกด้วย ทั้งนี้แนะนำให้เลือกเป็นการออกกำลังกายๆ เช่น เดิน โยคะ เป็นต้น 

 

5. พักผ่อนให้เพียงพอ

 

พักผ่อนให้เพียงพอ 

 

เมื่อใช้งานร่างกายอย่างหนักมาตลอดทั้งวันแล้ว ก็สมควรที่จะพักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งในระหว่างที่เรานอนหลับ กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นจะซ่อมแซมตัวเองเพื่อบรรเทาอาการบาดเจ็บต่างๆ ที่ได้รับในระหว่างวัน

 

6. รักษาด้วยยาแก้ออฟฟิศซินโดรม

 

ยาแก้ปวดออฟฟิศซินโดรม  

เป็นออฟฟิศซินโดรมควรกินยาอะไรดี ? สำหรับผู้ที่มีอาการปวดบ่า ปวดคอ ปวดไหล่ หรือ ปวดกล้ามเนื้อตามร่างกาย สามารถทานยาแก้อักเสบ ยาคลายกล้ามเนื้อ และยาแก้ปวดได้ ทั้งนี้การรับประทานยาแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อความปลอดภัย 

 

7. รักษาด้วยการทำกายภาพบำบัด

 

กายภาพบำบัด

 

การทำกายภาพบำบัดเป็นอีกหนึ่งวิธีรักษาออฟฟิศซินโดรมที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้ เพราะเห็นผลลัพธ์ดี ชัดเจน ทั้งนี้การกายภาพบำบัดเพื่อรักษาอาการออฟฟิศซินโดรมควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และนักกายภาพบำบัดที่มีความเชี่ยวชาญ เพราะถ้าหากไปลองผิดลองถูกเองอาจจะทำให้อาการปวดรุนแรงมากกว่าเดิมได้ 

 

8. รักษาด้วยเวชศาสตร์ทางเลือก

 

นวดแผนไทย 

ในปัจจุบันมีเวชศาสตร์ทางเลือกเพื่อช่วยรักษาภาวะออฟฟิศซินโดรมได้ ได้แก่

 

  • การฝังเข็ม เป็นการทำให้กล้ามเนื้อคล้ายตัว โดยใช้เข็มจิ้มไปบริเวณที่ปวด 

  • การนวดแผนไทย เป็นการจับเส้นและนวดเวลาที่มีอาการปวดเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นต่างๆ ลดความตึงเครียดลง 

 

ทั้งนี้การใช้เวชศาสตร์ทางเลือกเป็นการบรรเทาอาการเจ็บปวดและอาการปวดเมื่อยของผู้ป่วยลงได้ แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าจะช่วยรักษาให้หายขาดได้ 

 

9. รักษาด้วยการจัดกระดูกสันหลัง

 

จัดกระดูกสันหลัง

 

การรักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยการจัดกระดูกเป็นการทำให้กระดูกภายในร่างกายอยู่ในตำแหน่งและองศาที่เหมาะสม เพื่อให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูตนเองจากอาการเจ็บปวด ปวดเมื่อย ทั้งนี้การจัดกระดูกสันหลังจำเป็นต้องให้แพทย์ประเมินความเสี่ยง และ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น 

 

10. รักษาด้วยคลื่นกระแทก (Shockwave Therapy)

 

รักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยคลื่นกระแทก 

 

เป็นการใช้คลื่นมากระตุ้นบริเวณที่มีอาการปวด หรือ เจ็บ เพื่อเร่งให้เนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อบริเวณนั้นเกิดกระบวนการซ่อมแซมและรักษาตัวเอง ซึ่งสามารถบรรเทาอาการอักเสบ ปวดเมื่อย และอาการบาดเจ็บลงได้ โดยวิธีรักษาออฟฟิศซินโดรมด้วย Shockwave Therapy เหมาะกับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรังของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก และข้อ 

 


 

ท่าบริหารร่างกายแก้ออฟฟิศซินโดรม

 

บริหารร่างกาย 

 

ระหว่างวันคุณสามารถยืดเส้นยืดสาย ปฏิบัติตามท่าบริหารร่างกายต่อไปนี้ เพื่อบำบัดออฟฟิศซินโดรม 

 

  1. พักสายตาระหว่างวัน เพื่อลดอาการปวดตาลง ด้วยการหลับตาลง 10 วินาที และค่อยลืมตา

  2. แก้ปวดคออฟฟิศซินโดรม ยืดกล้ามเนื้อที่ช่วงคอด้วยการนั่งตัวตรง ใช้มือตรงกับข้างที่ต้องการวางเหนือหู แล้วดึงศีรษะลงมาด้านข้างจนรู้สึกตึงที่กล้ามเนื้อ นับ 1-15 แล้วทำสลับท่า 

  3. ยืดเส้นรักษาออฟฟิศซินโดรม ด้วยการยืนตรง กางขาเล็กน้อย แล้วยืดแขนขึ้นเหนือศีรษะ นับ1-10 ช้าๆ แล้วค่อยดึงแขนกลับลงมาแล้วทำซ้ำอีกครั้ง เป็นการยืดกล้ามเนื้อแขน 

  4. บริหารมือระหว่างวัน ด้วยการกำมือและเหยียดนิ้วออกให้เต็มที่ 5 เซต 

  5. บริหารข้อมือ ด้วยการทำท่าพนมมือแล้วดันข้อมือกางศอกออกให้สุดนับ 1-10 และทำเหมือนเดิมโดยกลับข้อมือลงด้านล่าง 

 


 

แนวทางป้องกันอาการออฟฟิศซินโดรม

 

นอกจากการรักษาออฟฟิศซินโดรมแล้ว ยังมีวิธีป้องกันไม่ให้เข้าข่ายภาวะออฟฟิศซินโดรมได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวัน เช่น 

 

  • ยืดเส้นยืดสายระหว่างวัน 

  • ปรับท่านั่งให้ถูกตามหลักสรีรศาสตร์ ไม่นั่งหลังค่อม 

  • พักสายตาระหว่าง 

  • เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ เช่น เก้าอี้ทำงาน โต๊ะทำงาน ให้มีระดับที่เหมาะสม 

  • ออกกำลังสม่ำเสมอเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับกล้ามเนื้อ

  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูตนเอง 

 


 

ออฟฟิศซินโดรม รักษาที่ไหนดี

 

รักษาออฟฟิศซินโดรมโรงพยาบาลไหนดี หอมรักษาออฟฟิศซินโดรมมีที่ไหนบ้าง ? สำหรับผู้ที่เข้าข่ายภาวะออฟฟิศซินโดรม ปวดหลัง ปวดคอ ปวดบ่า ปวดไหล่ หรือปวดกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ สามารถไปพบแพทย์ตามโรงพยาบาล คลินิกเฉพาะทาง หรือ ศูนย์กายภาพบำบัด เพื่อตรวจร่างกายหาสาเหตุที่มาของอาการปวดเหล่านั้น พร้อมทั้งเข้ารับการรักษาออฟฟิศซินโดรมที่ถูกวิธีเพื่อไม่ให้อาการรุนแรงไปมากกว่าเดิม 

ทั้งนี้การรักษาออฟฟิศซินโดรมของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไป ขึ้นกับความรุนแรง ร่างกายของผู้ป่วย และดุลยพินิจของแพทย์ 

 


 

ข้อสรุป

 

แม้ว่าจะมีหลายคนรอบตัวที่เข้าข่ายภาวะออฟฟิศซินโดรม แต่ไม่จำเป็นต้องกังวลไป เพราะภาวะออฟฟิศซินโดรมสามารถรักษาให้หายได้ และ ไม่ได้เป็นภาวะที่อันตรายรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งการแก้ออฟฟิศซินโดรมจำเป็นต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์เฉพาะทางและความร่วมมือจากตัวผู้ป่วยเอง เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ก่อให้อาการรุนแรงมากกว่าเดิม 

 


 

แก้ไขครั้งที่ 1 โดย GUEST1649747579 เมื่อ9 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 22.05 น.

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา