เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการกู้ร่วมซื้อบ้าน มีข้อดีอย่างไร ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
หากคุณเป็นคนที่ต้องการซื้อบ้าน ซื้อคอนโด การกู้ร่วมซื้อบ้านถือเป็นอีกทางที่จะช่วยให้เราไปถึงฝันได้ เพราะเป็นการลงนามสัญญากู้เงินซื้อบ้านร่วมกับผู้อื่น เพื่อให้สถาบันการเงินเห็นว่าผู้ขอ กู้ร่วม มีความสามารถทางการเงินในการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยได้ตามสัญญา โดยที่ผู้กู้คนเดียวอาจมีฐานรายได้ไม่เพียงพอ ไม่มีหลักฐานทางการเงินครบถ้วน ไม่น่าเชื่อถือ หรือมีประวัติไม่ดี
โดยข้อดีของการกู้ร่วม คือ
- ช่วยให้สถาบันการเงินอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้น
- มีโอกาสได้รับวงเงินสินเชื่อที่มากขึ้น
- มีผู้ร่วมรับผิดชอบการชำระหนี้
แต่ผู้ร่วมกู้นั้น ต้องเกี่ยวข้องเป็นญาติที่มีนามสกุลเดียวกัน เช่น เป็นคู่สมรส พ่อ แม่ พี่ น้อง หรือลูก กรณีที่ผู้กู้ร่วมมีการเปลี่ยนนามสกุล ต้องแสดงหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน เช่น สูติบัตร หรือทะเบียนบ้าน เป็นต้น หรือกรณีที่คู่สมรสไม่ได้จดทะเบียน ก็สามารถแสดงหลักฐานการสมรส เช่น รูปภาพงานแต่งงาน หนังสือรับรองบุตรได้ เป็นต้น และต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- เป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย
- อายุ 20 ปีขึ้นไป
- มีรายได้เพียงพอ
- มีความสามารถในการชำระหนี้ ไม่มีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้
แต่ก่อนจะร่วมตัดสินใจกู้ร่วม แนะนำให้ทุกคนศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน เช่น
- การกู้ร่วมไม่ใช่การค้ำประกัน เนื่องจากบุคคลค้ำประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบชำระหนี้เมื่อผู้กู้ไม่ชำระหนี้ และผู้ค้ำประกันไม่จำเป็นต้องเป็นญาติกับผู้กู้
- การมีภาระหนี้ร่วมกัน หมายถึงการรับผิดชอบชำระหนี้ร่วมกัน ไม่ใช่การเป็นหนี้คนละครึ่ง ดังนั้นเมื่อมีการผิดนัดชำระหนี้ สถาบันการเงินสามารถเรียกชำระหนี้จากผู้กู้คนใดคนหนึ่งได้
- การกู้ร่วมส่งผลต่อการกู้เงินครั้งต่อไป กรณีที่ผู้ร่วมกู้คนใดคนหนึ่งต้องการกู้เงินซื้อบ้านหลังใหม่ จะถือว่ายังมีภาระหนี้ของบ้านหลังเดิมอยู่ ซึ่งมีผลการกับพิจารณาสินเชื่อ
- การเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ การกู้ร่วมสามารถระบุผู้รับกรรมสิทธิ์เป็นบุคคลเดียวได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นชื่อของผู้ร่วมกู้ทุกคน
- การส่งผลต่อการขายหรือการโอน กรณีที่ผู้กู้ร่วมเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในบ้าน การขายหรือการโอนบ้านต้องได้รับความยินยอมจากทุกคน กรณีคนใดคนหนึ่งไม่ยินยอมก็ไม่สามารถทำธุรกรรมได้
- สิทธิการลดหย่อนภาษี จะหารเฉลี่ยตามจำนวนผู้กู้ร่วม โดยไม่สนใจว่าผู้ร่วมกู้ชำระหนี้คนละเท่าไหร่
- เมื่อผู้กู้ร่วมไม่สามารถกู้ร่วมต่อได้ กรณีที่ผู้กู้ร่วมเสียชีวิต ธนาคารจะพิจารณาให้ทายาทหรือผู้จัดการมรดกเป็นผู้ชำระหนี้ร่วมกัน แต่ในกรณีที่ผู้กู้ร่วมต้องการถอนการกู้ร่วม ธนาคารจะพิจารณาว่าผู้กู้ที่เหลือสามารถชำระหนี้ต่อได้หรือไม่ และอาจพิจารณารีไฟแนนซ์ หรือหากไม่สามารถชำระหนี้ได้จะอาจต้องขายบ้าน
โดยหากคุณตัดสินใจที่จะยื่นกู้ร่วม แนะนำให้เตรียมข้อมูลเอกสารดังนี้
- เอกสารส่วนบุคคล ได้แก่ บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส ใบหย่า ใบมรณบัตร เอกสารเปลี่ยนชื่อนามสกุล และเอกสารอื่นเพื่อยืนยันสถานะทางครอบครัว
- เอกสารทางการเงิน ได้แก่ หนังสือรับรองเงินเดือน สลิปเงินเดือน สมุดบัญชีธนาคาร รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน หรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล สำเนาทะเบียนการค้า บัญชีเงินฝาก รายการเดินบัญชีเงินฝากกระแสรายวันย้อนหลัง 6 -12 เดือน หลักฐานรายได้และสินทรัพย์ กรณีประกอบอาชีพอิสระหรือธุรกิจส่วนตัว
- เอกสารหลักประกัน ได้แก่ สัญญาจะซื้อจะขาย สำเนาโฉนด หรือสำเนากรรมสิทธิ์ห้องชุด
เอกสารอาจมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นจึงควรสอบถามธนาคารทุกครั้งเมื่อต้องการยื่นกู้ร่วม
การกู้ร่วมซื้อบ้าน เป็นวิธีที่ช่วยให้ได้สินเชื่อประเภทบ้านแลกเงินง่ายขึ้นและสามารถซื้อบ้านในวงเงินที่สูงขึ้น แต่ควรไตร่ตรองให้รอบคอบเนื่องจากเงื่อนไขของการกู้ร่วมที่ถือว่าเป็นภาระหนี้ร่วมกัน เมื่อผู้กู้ร่วมคนใดคนหนึ่งไม่สามารถชำระหนี้ได้ ก็เป็นหน้าที่ของคนที่เหลือที่ต้องรับภาระชำระหนี้เองต่อไป ดูข้อมูลผ่อนคอนโด ที่ https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1171 หรือกู้ร่วมซื้อบ้าน ที่ https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1170
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้