เจาะลึก บัตรเครดิต ตัวช่วยสำคัญของใครหลายๆคน

GUEST1649747579

ขีดเขียนดีเด่น (362)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:678
เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 21.12 น.

บัตรเครดิตตัวช่วยอำนวยความสะดวกทางการเงินที่คนยุคใหม่ต้องมี เมื่อโลกเริ่มเข้าสู่สังคมไร้เงินสด การมีบัตรเครดิตถือว่ามีส่วนสำคัญในการสร้างอิสระในการใช้จ่าย ช่วยให้คุณไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมากๆ ไปช็อปปิ้ง หรือซื้อของชิ้นใหญ่ๆ ไม่ต้องแลกเงินจำนวนเยอะๆ เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ เพียงแค่บัตรเดียวคุณก็สามารถใช้จ่ายได้ทั่วโลก

สำหรับใครที่กำลังสนใจอยากสมัครบัตรเครดิต นี่คือบทความที่คุณไม่ควรพลาด เราพร้อมตอบทุกข้อสงสัยในการสมัครบัตรเครดิต ไม่ว่าจะเป็น สิ่งที่คุณจำเป็นจะต้องเตรียมก่อนทำบัตรเครดิต ข้อดีในการมีบัตรเครดิต ธนาคารพิจารณาวงเงินบัตรเครดิตจากอะไร บัตรเครดิตมีการคิดอัตราดอกเบี้ยกับค่าธรรมเนียมอะไรบ้าง และบัตรเครดิตแบบไหนที่เหมาะกับคุณ 

บัตรเครดิต สมัครบัตรเครดิตktc


 

บัตรเครดิต (Credit Card) คืออะไร

 

บัตรเครดิต คือ บัตรที่สถาบันการเงินออกให้กับผู้สมัครเพื่อใช้จ่ายแทนเงินสด โดยผู้สมัครไม่จำเป็นต้องนำเงินไปฝากไว้ก่อนทำการใช้จ่าย ซึ่งบัตรเครดิตก็เปรียบเสมือนสินเชื่อเคลื่อนที่ที่ทำให้คุณมีอำนาจในการใช้จ่ายมากขึ้น หลังจากใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตคุณก็ทำการชำระเงินตามรอบบิลที่ธนาคารกำหนด

บัตรเครดิต คืออะไร


 

บัตรเครดิต อำนวยความสะดวกอย่างไรบ้าง 

 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า บัตรเครดิตเป็นอีกหนึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกทางการเงินที่คนยุคใหม่ใช้กันอย่างแพร่หลาย และนี่คือตัวอย่างของความสะดวกในการใช้บัตรเครดิต

  1. มีอำนาจทางการใช้จ่ายที่มากขึ้น
  2. ไม่มีเงินสดก็สามารถใช้จ่าย ชำระสินค้าได้
  3. ซื้อสินค้า และบริการผ่านทางออนไลน์ได้
  4. มีบัตรเครดิตใบเดียวก็สามารถใช้จ่ายได้ทั่วโลก
  5. มีระบบ Contactless Payment แค่เพียงแตะเบาๆ ก็ชำระสินค้าได้
  6. ใช้วางเป็นเงินมัดจำในกรณี เช่ารถ หรือกรณีอื่นๆ เป็นต้น
  7. มีเจ้าหน้าที่ และระบบคอยให้การดูแลผู้ใช้บัตรตลอด 24 ชั่วโมง


 

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนสมัครบัตรเครดิต 

 

สำหรับคนที่สนใจสมัครบัตรเครดิต นี่คือสิ่งที่คุณจำเป็นจะต้องสำรวจตัวเองก่อนการสมัครบัตรเครดิต และเตรียมเอกสารในการสมัครให้พร้อม

เงื่อนไขในการสมัครบัตรเครดิต

 

  1. ผู้สมัครจะต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไปก่อนทำการสมัครบัตรเครดิต
  2. ผู้สมัครจะต้องมีฐานเงินเดือนขั้นต่ำ 15,000 บาท ซึ่งเป็นรายได้ประจำ
  3. ต้องมีระยะการทำงานอย่างน้อย 6 เดือนก่อนสมัครบัตรเครดิต
  4. ไม่มีประวัติการผิดนัดชำระหนี้

 

มีเอกสารอะไรบ้าง ที่ใช้ในการสมัครบัตรเครดิต

 

1. พนักงานเงินเดือน

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • หนังสือรับรองเงินเดือนหรือสลิปเงินเดือน
  • รายการเดินบัญชีย้อนหลัง (Statement) 3-6 เดือน

2. อาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  • รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน พร้อมหน้าสมุดบัญชีที่ระบุชื่อ – เลขที่บัญชีของผู้สมัคร
  • สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนหรือทะเบียนการค้า (ถ้ามี)
  • เอกสารการรับเงินหรือสลิปเงินเดือน (ถ้ามี)
  • หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ทวิ 50) แสดงรายได้ปีล่าสุด

3. เจ้าของกิจการ

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  • รายการเดินบัญชีย้อนหลัง ย้อนหลัง 6 เดือน พร้อมหน้าสมุดบัญชีที่ระบุชื่อ – เลขที่บัญชีของผู้สมัคร
  • สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนหรือทะเบียนการค้า (ถ้ามี)
  • สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (ถ้ามี)
  • รายการเดินบัญชี (Statement) สำหรับบัญชีที่ใช้ในธุรกิจ ย้อนหลังประมาณ 6 เดือน


 

ข้อดี - ข้อจำกัดของการใช้บัตรเครดิต

 

ในยุคปัจจุบันบัตรเครดิตถือว่ามีส่วนช่วยให้ผู้คนใช้จ่ายได้อย่างสะดวกมากขึ้น ซึ่งใครหลายคนที่เริ่มทำงานก็เริ่มจะมีบัตรเครดิตเป็นของตนเอง ดังนั้นเรามาดูข้อดี และข้อจำกัดในการใช้บัตรเครดิตกัน

ข้อดีของการใช้บัตรเครดิต

ข้อดีของการใช้บัตรเครดิต 

 

  • ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากในการพกเงินสด

เมื่อโลกเริ่มเข้าสู่สังคมไร้เงินสด บัตรเครดิตก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้คุณใช้จ่ายได้สะดวก โดยไม่จำเป็นต้องพกเงินสดจำนวนมากๆ เวลาไปซื้อของราคาแพงๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้สึกปลอดภัย 

  • สามารถยืดเวลาการชำระเงินได้

บัตรเครดิตจะมีกำหนดระยะเวลาในการจ่ายเงินประมาณ 30 - 45 วัน หลังจากวันสรุปบัญชีซึ่งจะช่วยให้คุณยืดเวลาการชำระเงินไปได้

  • ทำการผ่อนชำระสินค้าได้

บัตรเครดิตมักมีโปรโมชั่นผ่อน 0% ในกรณีซื้อสินค้าราคาแพง หรือชิ้นใหญ่ ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของคุณได้ และถึงแม้ว่าจะเป็นดอกเบี้ยจากการผ่อนก็จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ

  • ได้รับส่วนลดพิเศษ

บัตรเครดิตส่วนใหญ่จะมีจัดโปรโมชั่นลดราคาพิเศษที่ร่วมรายการกับร้านอาหาร หรือศูนย์การค้าต่างๆ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้สมาชิกได้รับส่วนลดพิเศษมากกว่าการใช้จ่ายด้วยเงินสด

  • สะสมแต้มแลกของรางวัลได้

บัตรเครดิตทุกประเภทจะมีการสะสมคะแนนเพื่อให้สมาชิกสามารถนำคะแนนนั้นไปแลกของรางวัล แลกไมล์สายการบิน แลกรับส่วนลดพิเศษ และแลกเครดิตเงินคืนได้ ช่วยให้คุณรู้สึกว่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตนั้นคุ้มค่ายิ่งขึ้นไปอีก

  • ใช้เป็นเงินสำรองยามฉุกเฉิน

บัตรเครดิตสามารถใช้เป็นเงินสำรองยามฉุกเฉินได้ อย่างเช่น ค่ารักษาพยาบาลที่จำเป็นต้องจ่ายกะทันหัน ค่าเรียน ค่าเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งถอนเงินสดมาใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน

  • ใช้จ่ายในต่างประเทศได้

อีกหนึ่งความสะดวกของบัตรเครดิตคือ คุณสามารถนำบัตรเครดิตไปใช้จ่ายในสกุลเงินต่างประเทศได้ ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินจะอ้างอิงจากเรทของธนาคาร ทำให้คุณสามารถเที่ยวต่างประเทศได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องแลกเงินสดติดตัวไปเยอะๆ

  • ใช้หักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นได้

ค่าใช้จ่ายประจำเดือนอย่างเช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ หรือค่าอินเทอร์เน็ต เป็นต้น คุณสามารถเลือกใช้บัตรเครดิตในการหักค่าใช้จ่ายเหล่านั้นทุกๆ เดือนได้

  • ใช้ซื้อสินค้า และบริการผ่านอินเทอร์เน็ตได้ง่าย

คุณสามารถใช้บัตรเครดิตในการซื้อสินค้าออนไลน์ได้ หรือซื้อสินค้าในสกุลเงินต่างประเทศได้ หรือแม้กระทั่งจองโรงแรมในต่างประเทศ หรือจองรถเช่าที่ต้องมีการชำระเงินล่วงหน้าผ่านทางอินเทอร์เน็ต บัตรเครดิตก็จะช่วยคุณชำระเงินได้ง่าย และใช้จ่ายสะดวก

ข้อจำกัดของการใช้บัตรเครดิต 

 

  • ดอกเบี้ยสูงหากชำระขั้นต่ำ

ถึงแม้บัตรเครดิตจะช่วยให้คุณยืดระยะเวลาการจ่ายไปได้ก็ตาม แต่การชำระบัตรเครดิตในจำนวนขั้นต่ำทุกเดือน จะทำให้คุณเสียดอกเบี้ยมากขึ้นโดยไม่จำเป็น ซึ่งตรงนี้ผู้ใช้จำเป็นจะต้องวางแผนการใช้บัตรเครดิตให้ดี 

  • ถอนเงินสดจะมีค่าธรรมเนียมทุกครั้ง

ถึงแม้ว่าบัตรเครดิตจะสามารถถอนเงินสดได้เต็มวงเงินของบัตรเครดิตก็ตาม แต่ทุกครั้งที่ทำการถอนเงินสดจะโดนค่าธรรมเนียมทุกครั้งที่ถอน ซึ่งบัตรเครดิตอาจจะไม่เหมาะกับการถอนเงินสดบ่อยๆ 

  • ใช้จ่ายเกินตัว

การมีบัตรเครดิตอาจทำให้คุณรู้สึกว่ามีอำนาจทางการเงินมากขึ้น ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ ต้องวางแผนทางด้านการใช้บัตรเครดิตให้ดี โดยอาจจะกำหนดวงเงินว่าควรใช้ได้ประมาณเท่าไหร่ถึงจะสามารถจ่ายไหวในแต่ละเดือน


 

ธนาคารพิจารณาวงเงินบัตรเครดิตอย่างไร 

 

เมื่อคุณสมัครบัตรเครดิตธนาคารจะพิจารณาวงเงินบัตรเครดิตจากความสามารถในการชำระหนี้ของคุณ โดยความสามารถในการชำระหนี้ของคุณจะถูกพิจารณาจากเอกสารทางการเงินที่คุณแสดง เช่น สลิปเงินเดือน สเตทเม้นท์ หรือเอกสารรับรองการทำงานของคุณ เป็นต้น เมื่อพิจารณาจากเอกสารเหล่านี้แล้วธนาคารจะกำหนดวงเงินบัตรเครดิตที่เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้ของคุณ


 

ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมของบัตรเครดิต

 

สำหรับการใช้จ่ายแบบทั่วไปดอกเบี้ยของบัตรเครดิตจะอยู่ที่ประมาณ 18% ต่อปี ซึ่งอัตราดอกเบี้ยจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่พฤติกรรมการจ่ายของผู้ใช้ และดอกเบี้ยอีกประเภทที่ทำให้คุณจ่ายอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตทั่วไป คือ การผ่อนชำระ ซึ่งจะมีตั้งแต่ 0%, 0.75% หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับโปรโมชั่น และระยะเวลาในการผ่อน

ในส่วนของค่าธรรมเนียม บัตรเครดิตบางธนาคารจะมีค่าธรรมเนียมแรกเข้า และค่าธรรมเนียมรายปี ซึ่งผู้สมัครจะต้องดูเงื่อนไขในการสมัครให้ดีก่อนตัดสินใจ แต่สำหรับบัตรเครดิต KTC ทุกประเภทจะไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี และค่าธรรมเนียมแรกเข้า 

สำหรับการใช้บัตรเครดิตในการถอนเงินสดจะมีอัตราการคิดดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ 20% ต่อปี และมีค่าธรรมเนียมในการถอนเงินสดอยู่ที่ 3% ต่อครั้ง 

ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต


 

วิธีเลือกบัตรเครดิตให้ตอบโจทย์ 

 

เทคนิคในการเลือกบัตรเครดิตที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณ

  • ค่าธรรมเนียม และอัตราดอกเบี้ย คุณควรเลือกบัตรเครดิตที่ไม่มีค่าธรรมเนียม และอัตราดอกเบี้ยที่สูงเกิน เพื่อให้คุณไม่ต้องกังวลในการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 

  • สิทธิพิเศษต่างๆ หากคุณเลือกบัตรเครดิตที่ให้สิทธิพิเศษที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ จะทำให้คุณได้ประโยชน์ในเรื่องของส่วนลด การใช้บริการต่างๆ และการสะสมแต้ม เป็นต้น

  • ประเภทของบัตร การเลือกประเภทของบัตรเครดิตก็สำคัญ อย่างเช่น บัตร VISA MASTERCARD และ JCB เป็นต้น ซึ่งในบางต่างประเทศ หรือในบางร้านค้าจะมีการรับประเภทของบัตรเครดิตที่ต่างกัน และอาจจะให้สิทธิพิเศษของบัตรแต่ละประเภทต่างกันด้วย


 

แนะนำบัตรเครดิต KTC ที่เหมาะกับคุณ 

 

หากคุณสนใจอยากสมัครบัตรเครดิต KTC สักใบ บัตร เรามาดูกันว่าบัตรแต่ละใบมีสิทธิพิเศษต่างๆ อย่างไรที่เหมาะกับตัวคุณ

1. บัตรเครดิต KTC VISA PLATINUM

 

บัตรเครดิต KTC VISA PLATINUM

บัตรเครดิต KTC VISA PLATINUM ให้คุณคล่องตัวทุกไลฟ์สไตล์ มั่นใจทุกครั้งที่ใช้จ่ายผ่านบัตร ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี และค่าธรรมเนียมแรกเข้า มาพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยผ่อนชำระสุดพิเศษ 0.74% สำหรับสมาชิกใหม่รับความคุ้มครองอุบัติเหตุวงเงินสูงสุด 300,000 บาท นาน 90 วันหลังเปิดใช้บัตรโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ 

2. บัตรเครดิต KTC VISA SIGNATURE

 

บัตรเครดิต KTC VISA SIGNATURE

ใครที่ชอบเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ บัตรเครดิต KTC VISA SIGNATURE อาจเหมาะกับคุณ ด้วยสิทธิพิเศษห้องรับรอง Royal Orchid Lounge Services 2 ครั้งต่อปีไม่มีค่าใช้จ่ายเพียงแสดงบัตร พร้อมทั้งรับคะแนนพิเศษ KTC FOREVER X2 เมื่อใช้จ่ายในสกุลเงินต่างประเทศ และนอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ให้คุณได้ใช้จ่ายอย่างสบายใจ ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี

3. บัตรเครดิต KTC JCB ULTIMATE

 

บัตรเครดิต KTC JCB ULTIMATE

บัตรเครดิต KTC JCB ULTIMATE เอาใจคนชอบเที่ยวญี่ปุ่นด้วยสิทธิพิเศษ ห้องรับรอง JCB Plaza Lounge ใน 9 ประเทศ และห้องรับรองในสนามบินญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ ที่ร่วมรายการ เพียงมีบัตรเครดิตใบนี้จะช่วยให้คุณประทับใจทุกครั้งที่ไปญี่ปุ่น แถมถ้าใช้จ่ายด้วยสกุลเงินต่างประเทศจะได้รับคะแนน KTC FOREVER ถึง 2 เท่า สมัครได้ทันทีไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า และรายปี

4. บัตรเครดิต KTC BANGCHAK TITANIUM MASTERCARD

 

บัตร KTC BANGCHAK TITANIUM MASTERCARD

ใครที่ขับรถเป็นประจำ และเติมน้ำมันบ่อยต้องไม่พลาดบัตรเครดิต KTC BANGCHAK TITANIUM MASTERCARD ให้คุณได้รับส่วนลด 1% ทุกครั้งที่มีการเติมน้ำมันบางจากในยอดชำระไม่เกิน 3,000 บาทต่อเซลล์สลิป และยังแถมประกันอุบัติเหตุการเดินทางให้คุณทั้งใน และต่างประเทศในวงเงินคุ้มครองสูงสุด 8,000,000 บาท ซึ่งตัวบัตรเครดิตไม่ได้มีค่าธรรมหรือ ค่าแรกเข้าใดๆ บอกเลยว่าคุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว สมัครเลย


 

ข้อแนะนำในการใช้บัตรเครดิตยุคปัจจุบัน 

 

สำหรับใครที่เพิ่งมีบัตรเครดิต หรือสนใจจะทำบัตรเครดิต นี่เป็นข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้คุณใช้บตรเครดิตได้อย่างสบายใจ

  • เช็คค่าธรรมเนียมรายปี และอัตราดอกเบี้ยของบัตร

ก่อนที่คุณจะทำการสมัครบัตรเครดิต คุณจำเป็นจะต้องรู้ว่าบัตรเครดิตที่คุณสมัครมีการคิดอัตราดอกเบี้ยที่เท่าไหร่ กี่เปอร์เซ็นต์ และมีค่าธรรมเนียมอะไรบ้างต่อปี ซึ่งบัตรเครดิตบางประเภทจะไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี แต่อาจมีข้อกำหนดว่าต้องใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ต่อปี เป็นต้น

  • เช็คสิทธิพิเศษต่างๆ ของบัตร

สิทธิพิเศษของบัตรเครดิตเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจสมัครบัตรเครดิต ซึ่งบัตรเครดิตแต่ละประเภทจะออกแบบมาให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ที่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น บัตรเครดิตที่ใช้สะสมไมล์สายการบิน ก็จะเหมาะกับคนที่ชอบเดินทาง หรือบัตรเครดิตที่มีโปรโมชั่นส่วนลดร้านอาหารหลายแห่งก็จะเหมาะกับคนที่ชอบทานข้าวนอกบ้าน เป็นต้น

การเลือกบัตรเครดิตที่มีสิทธิพิเศษต่างๆ ที่เหมาะกับคุณ จะช่วยให้คุณใช้จ่ายได้อย่างประหยัด และได้รับส่วนลดจากการใช้จ่ายมากขึ้น

  • ตรวจสอบความสามารถในการจ่ายบัตรเครดิตในแต่ละเดือน

เมื่อคุณได้รับบัตรเครดิตแล้ว สิ่งที่คุณจะต้องระวังคือ เรื่องของการใช้จ่ายในแต่ละเดือน ซึ่งคุณควรจะมีวงเงินกำหนดไว้ว่าในแต่ละเดือนคุณควรใช้บัตรเครดิตไม่เกินเท่าไหร่ต่อเดือน เพื่อให้คุณสามารถหาเงินมาจ่ายบัตรเครดิตได้ ซึ่งจำนวนเงินที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตไม่ควรเป็นจำนวนเงินที่บีบรัดการใช้จ่ายในแต่ละเดือนมากเกินไป

  • รู้วันสรุปบัญชี และวันครบกำหนดชำระ

การที่คุณรู้วันตัดยอดบัญชี บัตรเครดิต และกำหนดชำระ ของบัตรเครดิตที่คุณสมัครจะช่วยให้คุณใช้จ่ายได้อย่างคล่องขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าบัตรของคุณสรุปบัญชีทุกวันที่ 23 ของเดือน หากคุณใช้จ่ายหลังวันที่ 23 ยอดที่คุณใช้ก็จะถูกยกไปให้ชำระในรอบบิลถัดไป ซึ่งจะช่วยแบ่งเบายอดของเดือนปัจจุบันได้

  • พยายามอย่าจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ

หากคุณมีกำลังมากพอที่จะจ่ายบัตรเครดิตมากกว่าขั้นต่ำได้ เราแนะนำให้คุณพยายามจ่ายให้ได้มากที่สุด เพื่อที่คุณได้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่มากจนเกินไป แต่ถ้าหากคุณสามารถจ่ายทุกยอดได้แบบเดือนชนเดือน คุณก็จะไม่โดนอัตราดอกเบี้ยของบัตรเครดิตเล่นงาน

  • ชำระบิลให้ตรงเวลา

สิ่งสำคัญมากๆ ของการชำระยอดบัตรเครดิตในแต่ละเดือนคือ พยายามจ่ายให้ตรงตามกำหนด เพราะว่าอัตราดอกเบี้ยที่จ่ายเลยกำหนดนั้นจะถูกคิดเพิ่มขึ้น และยังไม่รวมค่าธรรมเนียมทวงถาม หรือค่าธรรมเนียมในการชำระล่าช้าด้วย


 

คำถามที่พบบ่อย

 

ถอนเงินสดจากบัตรเครดิตได้หรือไม่?

 

โดยทั่วไปแล้วบัตรเครดิตนอกจากจะสามารถใช้รูดซื้อสินค้าได้แล้ว ยังสามารถใช้กดเงินสดได้ด้วย ซึ่งฟังก์ชั่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้บัตรเครดิตสามารถนำเงินออกมาใช้ได้ในยามฉุกเฉิน ซึ่งหากคุณถอนเงินสดจากบัตรเครดิตมาใช้ คุณจะโดนชาร์จค่าธรรมเนียม 3% ทันทีที่ถอน 

ถ้าหากคุณมีบัตรกดเงินสดต่างหาก คุณก็จะไม่โดนค่าธรรมเนียมถอนเงินตรงนี้ แต่อย่างไรก็ตามบัตรเครดิตจะมีอัตราการคิดดอกเบี้ยในการถอนเงินสดที่ต่ำกว่าบัตรกดเงินสด ดังนั้นบัตรเครดิตจึงไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการถอนเงินสดบ่อยๆ เพราะต้องโดนค่าธรรมเนียมทุกครั้งที่ถอนเงิน

อยากทําบัตรเครดิตแต่ไม่มีสลิปเงินเดือนทำอย่างไรดี? 

 

สำหรับผู้ที่ไม่มีสลิปเงินเดือนแต่สนใจอยากสมัครบัตรเครดิตก็สามารถทำได้ โดยคุณจะต้องแสดงหลักฐานทางการเงินอื่นๆ ให้กับสถาบันการเงิน เพื่อแสดงว่าคุณมีความสามารถในการชำระหนี้ ยกตัวอย่างเช่น

  • หากคุณเป็นพนักงานเงินเดือนที่ไม่มีสลิปเงินเดือน หรือเป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ คุณสามารถใช้หนังสือรับรองเงินเดือนที่บริษัทเป็นผู้ออกให้ หรือหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ทวิ 50) ยื่นให้กับสถาบันการเงินได้ว่าคุณมีรายได้สม่ำเสมอแทนการใช้สลิปเงินเดือน

  • แต่ถ้าหากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือกิจการ คุณสามารถยื่นสำเนาการจดทะเบียนพาณิชย์ หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และคุณควรมีรายการเดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่คุณจะได้ยื่นรายการเดินบัญชี หรือสเตทเม้นให้ทางสถาบันการเงินดูว่าคุณมีความสามารถในการชำระหนี้


 

ข้อสรุป 

 

บัตรเครดิตสามารถอำนวยความสะดวกให้คุณในเรื่องของการใช้จ่ายได้ ให้คุณมีอำนาจทางการเงินที่เพิ่มขึ้น ซึ่งการเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะกับคุณจะช่วยให้คุณได้รับสิทธิพิเศษ และส่วนลดต่างๆ มากมายที่คุ้มค่ากว่าการใช้เงินสด แถมยังปลอดภัยกว่าการต้องถือเงินสดจำนวนมากๆ ไปซื้อสินค้า อย่างไรก็ตามการใช้บัตรเครดิตก็ควรจะมีการวางแผนที่ดี เพื่อไม่ให้ลำบากในการชำระยอดบิลในแต่ละเดือน

 

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา