พัฒนา Writing Skills ผ่านการเรียนเขียนภาษาอังกฤษ

GUEST1649747579

สุดยอดขีดเีขียน (563)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:1007
เมื่อ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2566 00.03 น.

คอร์ส Writing เรียนเขียนภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาตนเอง

ไม่ว่าจะเรียนหรือทำงานก็จะต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ทั้งทักษะด้านการฟัง พูด อ่าน เขียน ซึ่งในบรรดาทักษะภาษาอังกฤษทั้งหมด จะมีทักษะด้านการเขียนที่ผู้เรียนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชินสักเท่าไหร่ แต่ทักษะการเขียนก็นับว่าเป็นทักษะสำคัญที่ขาดไม่ได้ 

โดยการเขียนภาษาอังกฤษมักใช้การเขียน Essay เพื่อทำรายงาน สอบเข้าเรียนตามโรงเรียนหรือสถาบัน รวมถึงยังใช้ในการสอบวัดระดับ IELTS หรือ TOEFL เพื่อใช้สมัครเข้าทำงานได้ ดังนั้นการลงเรียนคอร์ส Writing หรือคอร์สเรียนเขียนภาษาอังกฤษ ก็จะช่วยเสริมสร้างทักษะและความคุ้นชินด้านการเขียนให้กับผู้เรียนมากขึ้น


 

การเขียน(Writing) คืออะไร มีความสำคัญยังไง

 

การเขียน(Writing) คือ ทักษะภาษาอังกฤษรูปแบบหนึ่งโดยวัดผ่านการเขียน การเขียนนับว่าเป็นหนึ่งในทักษะสำคัญ โดยมักจะเขียน Essay ในการสอบต่าง ๆ ไม่ว่า IELTS TOEFL รวมถึงสอบภายในโรงเรียน สอบเข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติหรือตามมหาลัยหลักสูตรภาษาอังกฤษ สอบชิงทุนเพื่อศึกษาต่อต่างประเทศ สอบเข้าทำงานตามบริษัทที่เน้นสื่อสารภาษาอังกฤษ และอื่น ๆ 


 

การเขียน(Writing) ที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร

 

การเขียน Essay ที่ดี มีหลักการอย่างไรบ้าง

ในตอนที่เริ่มต้นเขียน writing ถึงแม้ว่าจะรู้คลังศัพท์เยอะ หรือแม้ว่าจะเก่งไวยากรณ์มากเพียงใด แต่เมื่อถึงเวลาเขียนภาษาอังกฤษ ส่วนใหญ่มักจะไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นเขียนอย่างไรดี และเมื่อเขียนบทความหรือเรียงความออกมาแล้วก็อาจจะรู้สึกไม่พึงพอใจกับการเขียนของตนเองสักเท่าไหร่

ซึ่งการลงคอร์ส Writing นั้นก็จะมีกระบวนการที่ช่วยเพิ่มพูนทักษะการเขียนภาษาอังกฤษอย่างก้าวกระโดด และทำให้ผู้เขียนสามารถเขียน Essay หรือบทความต่าง ๆ ได้ดี เป็นระเบียบอ่านง่าย และมีความน่าอ่านมากยิ่งขึ้น โดยการเรียนเขียนภาษาอังกฤษจะสอนถึงหลักการเขียน Writing ดังนี้

1. Planning

โดยทั่วไปแล้ว จะมีหลายคอร์สเรียนเขียนภาษาอังกฤษ ที่จะสอนให้เราวางแผนก่อนเขียน เมื่อตัดสินใจหัวข้อที่ต้องการเขียนได้แล้ว Planning หรือการวางแผนจะช่วยจัดระเบียบความคิดของผู้เขียนได้เป็นอย่างดี โดยอาจจะวาดเป็น Mind Mapping กำหนดขอบเขตของหัวข้อที่ต้องการเขียนอย่างคร่าว ๆ โดยเรียงลำดับเหตุการณ์ก่อน-หลัง เพื่อให้เห็นลำดับเชื่อมโยงเรื่องราวที่ต้องการถ่ายทอดชัดเจนมากขึ้น 

ซึ่งผลจากการวางแผนหัวข้อเพื่อกำหนดขอบเขต ลำดับเหตุการณ์หัวข้อที่ต้องการเขียนก็จะทำให้ผู้เขียนสามารถเขียน Essay หรือบทความได้อย่างตรงจุด ไม่หลุดหลงประเด็น และยังทำให้สามารถถ่ายทอดความคิดตนเองในรูปแบบของตัวอักษรได้ดีมากยิ่งขึ้น

2. Drafting

หลังจากที่ Planning หรือวางแผนหัวข้อ ขอบเขตที่ต้องการเขียน Essay เสร็จเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่แนะนำว่าควรทำต่อคือการ Drafting หรือ การร่าง ในที่นี้ผู้เขียนสามารถร่างงานเขียนตามที่ได้วางแผนไว้โดยที่ยังไม่ต้องจริงจังกับเรื่องความถูกต้องของไวยากรณ์มากนัก แต่จะเขียนร่างเพื่อเช็คว่าบทความที่จะเขียนนั้นตรงประเด็น และถ่ายทอดความคิดของผู้เขียนให้เข้าใจง่ายไม่สับสน ซึ่งหากเราเรียนเขียนภาษาอังกฤษ แล้วสามารถพัฒนาสกิลการเขียน จะทำให้การเรามีความชำนาญในการ Draft มากยิ่งขึ้น

3. Writing

เมื่อ Drafing ร่างงานเขียน Essay เรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องเริ่มลงมือเขียน Writing ซึ่งการเขียนในแต่ละย่อหน้าจะต้องสอดคล้อง มีเหตุผลรองรับ และที่สำคัญคือจะต้องใช้คำศัพท์ที่เหมาะสมกับหัวข้อที่เขียน สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องการใช้คำศัพท์หรือการใช้ไวยากรณ์ ก็สามารถลงเรียนคอร์สภาษาอังกฤษอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อช่วยพัฒนางานเขียนได้ด้วยเช่นกัน

4. Editing

เมื่อเขียน Writing เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้เขียนควรตรวจทานเนื้อหาบทความที่เขียนไว้ โดยบทความจะต้องมีเนื้อหาที่ไปในทิศทางเดียวกัน มีจุดไหนที่ควรปรับเปลี่ยนแก้ไขหรือไม่ และจะต้องตรวจสอบความถูกต้องของคำศัพท์ ไวยากรณ์ การเว้นวรรคและเครื่องหมายต่าง ๆ เพื่อให้งานเขียน Essay เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งการเรียนเขียนภาษาอังกฤษ จะทำให้เรามีการผิดพลาดที่น้อยลง

นอกจากหลักการเขียน Writing แล้ว สำหรับผู้ที่อยากให้งานเขียน Essay มีความสมบูรณ์มากที่สุด จำเป็นจะต้องทราบถึงโครงสร้างของ Essay โดยส่วนมากจะประกอบด้วย 3 ส่วน ดังนี้

1. Introduction(บทนำ)

Introduction คือ ย่อหน้าแรกของบทความที่จะกล่าวรายละเอียดเกี่ยวกับหัวข้อที่ต้องการนำเสนอ ในส่วนนี้จะเป็นการเกริ่นเพื่อเข้าหัวข้อเรื่อง ใจความหลักของหัวข้อ และสรุปที่ซัพพอร์ทหัวข้อหลัก ดังนั้นบทนำที่เขียน Essay จึงไม่ควรยาวเกินไป ไม่จำเป็นต้องเจาะรายละเอียดมากนัก ไม่ควรสรุปทุกประเด็นในส่วนบทนำ และอาจจะใส่ประโยคโน้มน้าวเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้อ่านอยากอ่านเนื้อหาส่วนถัดไปมากขึ้น

2. Body(เนื้อความ)

Body คือ ส่วนที่บรรยายเนื้อหาซึ่งจะมีความยาวมากที่สุด ซึ่งในการเขียน Essay อาจจะมีถึง 3-5 ย่อหน้า โดยในเนื้อความจะมีใจความสำคัญของบทความ และเน้นบรรยายอธิบายข้อมูลให้กับผู้อ่านเพิ่ม ซึ่งโดยทั่วไปหากเราเรียนเขียนภาษาอังกฤษ ส่วนใหญ่จะมีการสอนถึง 2 ส่วน คือ

  • Topic Sentence

จะอยู่ส่วนแรกของแต่ละย่อหน้า เพื่อเป็นตัวชี้ให้ผู้อ่านทราบว่าย่อหน้านี้เขียนเกี่ยวกับอะไร

  • Supporting Details

จะเป็นส่วนที่ช่วยขยายความ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Topic Sentence ซึ่งจะมีการยกตัวอย่าง เปรียบเทียบ หรืออธิบายเพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจเนื้อหามากขึ้น โดยการเขียน Supporting Details จะต้องเขียนใส่เหตุผลสนับสนุน Topic Sentence อย่างสมเหตุสมผล และต้องสนับสนุนแนวความคิดใจความหลักด้วยความเป็นจริง

3. Conclusion(บทสรุป)

Conclusion คือ ย่อหน้าสุดท้ายของการเขียน Essay สรุปมักจะมี 1 ย่อหน้าและจะเขียนไม่ยาวมากนัก โดยจะต้องสรุปใจความสำคัญของหัวข้อและเนื้อหาอีกครั้ง ซึ่งจะเน้นให้ผู้อ่านตระหนักรับรู้ถึงปัญหา หรือให้ผู้อ่านสามารถคิดต่อยอดได้ 

สำหรับใครที่อยากรู้ตรงส่วนนี้เพิ่มขึ้น สามารถที่จะลงเรียนเขียนภาษาอังกฤษ เพื่อพัฒนาทักษษะการเขียนตัวเองให้ดียิ่งขึ้น


 

คอร์สเรียนเขียนภาษาอังกฤษ ช่วยส่งเสริมอะไรให้กับตัวเราบ้าง 

 

การเรียนเขียนภาษาอังกฤษจะมีความจำเป็นมาก ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการนำงานเขียนภาษาอังกฤษของตนเองไปต่อยอดให้กับชีวิตของตนเองได้ ซึ่งคอร์ส Writing จะช่วยส่งเสริมพัฒนาขีวิตได้ ดังนี้

ใช้ในการเรียนในโรงเรียนและสถาบัน

 

ในการเรียนภาษาอังกฤษในระดับที่สูงขึ้น จะเริ่มมีการเรียนเขียนที่มึลักษณะเป็นทางการมากขึ้นเข้ามา เช่น การเขียนรายงาน การเขียน Essay ซึ่งผู้เรียนบางส่วนอาจจะยังไม่เข้าใจถึงหลักการการเขียนสักเท่าไหร่ ทำให้การเขียน Essay เป็นเรื่องยากขึ้นมา

ดังนั้นการเรียนเขียน Essay จะเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มพูนทักษะการเขียน ทำให้ผู้เรียนสามารถนำเคล็ดลับความรู้ที่ได้จากการเรียนเขียนภาษาอังกฤษมาใช้พัฒนาทักษะการเขียนของตนเอง และนำไปเป็นประโยชน์ต่อยอดในการเรียนหนังสือหรือทำงานต่อไปได้

ใช้ในการสอบเข้าโรงเรียน มหาลัย หรือสถาบันต่าง ๆ 

 

ในการสอบเข้าโรงเรียนนานาชาติ มหาลัยหลักสูตรภาษาอังกฤษ หรือสอบชิงทุนเพื่อเรียนต่อต่างประเทศ ส่วนมากแล้วจะมีการสอบเขียนเรียงความเขียน Essay หรือในบางที่ก็จะใช้คะแนนจาก IELTS TOEFL ที่มีข้อสอบเขียน เพื่อเช็คทักษะภาษาอังกฤษของผู้เข้าสอบ และนำไปเป็นส่วนหนึ่งในการคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเข้าศึกษาต่อไป 

ใช้ในการสมัครเข้าทำงาน

 

กรณีสมัครงานในบริษัทที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารระหว่างลูกค้า หรือพนักงานในบริษัทด้วยกันเองนั้น จะมีการใช้ผลสอบ IELTS TOEFL ที่จะมีการสอบพาร์ทเขียนรวมอยู่ด้วย ดังนั้นการเรียนเขียนภาษาอังกฤษก็จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาทักษะการเขียนของตนเอง ทำให้สามารถทำคะแนนได้ดีขึ้น ซึ่งคะแนนที่เยอะก็จะทำให้บริษัทสนใจในตัวเรามากขึ้น

อีกทั้งการลงคอร์ส Writing ช่วยทำให้ผู้เรียนสามารถนำทักษะการเขียนที่เรียนมาประยุกต์ใช้ในการเขียนอีเมลติดต่อลูกค้าหรือทางซัพพลายเออร์ หรือใช้ในการคุยด้วยกันกับเพื่อนร่วมงานหรือเจ้านายได้อย่างมีความชำนาญ สามารถอ่านและทำความเข้าใจประโยคเนื้อหาที่ต้องการสื่อสารได้ง่าย

จากที่กล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่าทักษะการเขียนภาษาอังกฤษเป็นหนึ่งในทักษะที่มีความสำคัญทั้งในด้านการเรียนและการทำงานเป็นอย่างมาก ดังนั้นสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มทักษะการเขียน การลงคอร์สเรียนภาษาอังกฤษก็จะเป็นวิธีที่จะช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกภาษาอังกฤษได้


 

สิ่งที่ได้รับจากการลงเรียนเขียนภาษาอังกฤษ

 

เมื่อเรียนเขียนภาษาอังกฤษแล้ว สิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับเป็นอย่างแรก ๆ คือ ความคุ้นเคยในการเขียน เนื่องจากหลายคนอาจจะไม่ค่อยได้เขียน ทำให้เมื่อต้องเขียนก็ไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นเขียนอย่างไรดี เพราะฉะนั้นการลงคอร์ส Writing จะช่วยให้ความรู้เกี่ยวกับหลักการเขียน Writing ที่ดี รวมถึงยังได้เคล็ดลับที่ช่วยให้การเขียน Essay ของคุณพัฒนาได้มากขึ้น

นอกจากนี้แล้วเมื่อลงเรียนเขียนภาษาอังกฤษก็จะมีคุณครูที่คอยช่วยชี้แนะ ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเขียนของผู้เรียน รวมถึงยังสอนเกี่ยวกับเคล็ดลับการเขียน Essay ที่ดี ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนทราบถึงจุดที่ตนเองควรศึกษาเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาทักษะการเขียนได้อย่างมั่นคง

เมื่อทักษะการเขียนภาษาอังกฤษของผู้เรียนเพิ่มขึ้นแล้วก็จะทำให้ผู้เรียนมีความมั่นใจในงานเขียนของตนเองมากขึ้นตาม ส่งผลให้ผู้เรียนสามารถเขียน Essay หรือทำข้อสอบเขียนได้อย่างรวดเร็วและทำให้ผู้เรียนได้รับคะแนนจากพาร์ทเขียนสูงมากขึ้น สำหรับผลคะแนนการสอบ IELTS TOEFL ที่สูงก็จะสามารถนำคะแนนไปยื่นตามมหาลัย ใช้เรียนต่อต่างประเทศ หรือนำมาใช้สมัครเข้าทำงานที่มีชื่อเสียงได้


 

อยากพัฒนาทักษะ Writing ให้ใช้งานได้อย่างไม่สะดุด ควรทำอย่างไร

 

คอร์ส Writing ที่ไหนดี

สำหรับผู้ที่กังวลว่างานเขียนภาษาอังกฤษของตัวเองดูอ่านไม่ราบรื่น ไม่สละสลวย อ่านแล้วขัดแย้งเข้าใจยาก และอยากจะพัฒนาทักษะการเขียนของตนเอง นอกจากจะต้องอาศัยการฝึกฝนแล้ว การเรียนเขียนภาษาอังกฤษจะช่วยพัฒนาทักษะการเขียนได้ด้วยเช่นกัน 

ในกรณีเรียนคอร์ส Academic Writing กับทาง English Park ซึ่งจะเป็นคอร์ส Writing ที่สอนโดยคุณครูที่มากด้วยประสบการณ์ ในคอร์สจะเรียนเกี่ยวกับสิ่งที่ควรรู้ในการเขียน Essay ให้ผู้เรียนได้ฝึกเขียนจริง และคุณครูจะเป็นผู้ตรวจงานเขียนของผู้เข้าเรียนตัวต่อตัว ทำให้ผู้เรียนสามารถทราบถึงจุดที่ตนเองควรฝึกเพื่อพัฒนาได้อย่างถูกจุด

นอกจากนี้แล้วยังมีการฝึกฝนซ้อมด้วยการจับเวลาเหมือนกับการลงมือทำข้อสอบจริง ซึ่งจะช่วยแก้ไขอุปสรรคในการทำข้อสอบพาร์ทเขียนของ IELTS หรือ TOEFL ได้ไม่ทันเวลา ทำให้ผู้เรียนสามารถเขียนได้ทันเวลา และทำคะแนนในส่วนของพาร์ท Writing ได้มากขึ้น


 

สรุป

 

การเขียน (Writing) เป็นทักษะการเขียนภาษาอังกฤษที่มักจะใช้ในการทำรายงาน สอบข้อเขียนเข้าโรงเรียนนานาชาติ มหาวิทยาลัย รวมถึงยังใช้ในการสอบ IELTS TOEFL เพื่อสอบชิงทุนศึกษาต่อต่างประเทศ หรือนำมาใช้สมัครงานในบริษัทต่าง ๆ ได้

แต่ส่วนใหญ่แล้วพบว่าหลายคนที่แม้ว่าจะเก่งเรื่องศัพท์ และไวยากรณ์ภาษาอังกฤษมากก็ตาม แต่ก็ยังเขียน Essay ภาษาอังกฤษได้ไม่ดีเท่าที่ควร รวมถึงในการสอบที่มีเวลาจำกัด ก็อาจจะเขียนไม่ทัน ซึ่งจะส่งผลทำให้คะแนนที่สอบลดลงได้ ดังนั้นการเรียนเขียนภาษาอังกฤษจึงเป็นสิ่งที่จะช่วยทำให้ผู้เรียนสามารถเพิ่มพูนทักษะการเขียนภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

แก้ไขครั้งที่ 1 โดย GUEST1649747579 เมื่อ8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 11.18 น.

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา