เรื่องน่ารู้ของกีวี่ ผลไม้สายเฮลตี้
กีวี่ (Kiwi) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Actinidia Chinensis มักจะโตเป็นวงรีและมีขนาดเท่าขนาดไข่ไก่ทั่วไป ผิวคล้ายกับสีอูฐ เป็นเส้นใย เปลือกคลุมเป็นฝอย มีรสฝาด ขณะที่เนื้อมีสีเขียวสดใสและเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ แต่น่ารับประทาน และมีแถวของเมล็ดสีดำขนาดเล็กที่โดดเด่น ซึ่งสามารถรับประทานได้เช่นกัน กีวี่มีรสชาติที่ฝาดและหวาน ทำให้นิยมรับประทานเป็นอาหารเช้าหรือกลางวันเพื่อสุขภาพ
นอกจากความอร่อยแล้วกีวี่ยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารสูงและมีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ ทางเดินอาหาร และภูมิคุ้มกัน กีวี่เป็นผลไม่ทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ อีกทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ รสเปรี้ยว เนื้อสัมผัสที่น่ารับประทาน และมีปริมาณแคลอรี่ที่ต่ำ โดยกีวี่ 100 กรัม ให้พลังงาน 61 แคลอรี่เท่านั้น ทำให้เป็นตัวเลือกที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับเป็นของว่าง เครื่องเคียง หรือของหวานที่ไม่เหมือนใคร
ประโยชน์ของกีวี่
มีส่วนช่วยในการนอนหลับ
จากงานวิจัยบางชื้นพบว่าการรับประทานกีวี่สามารถช่วยทำให้นอนหลับ จากการศึกษา ผู้ที่รับประทานกีวี่ 2 ลูกก่อนนอน 1 ชั่วโมง พบว่าหลับเร็วขึ้นและนอนหลับสบายขึ้น โดยนักวิจัยเชื่อว่ากีวี่มีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระ สามารถจัดการกับการขาดโฟเลตและเซโรโทนินที่มีความเข้มข้นสูง
ป้องกันอาการหวัดและการอักเสบของเยื่อบุจมูก
กีวี่เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วย สารอาหาร วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ทำให้กีวี่มีสรรพคุณสามารถช่วยปกป้องร่างกายจากอาการอักเสบและอาการของหวัดได้เป็นอย่างดี
บำรุงสุขภาพหัวใจ
ผลของกีวี่มีคุณสมบัติช่วยลดความดันโลหิต ด้วยการรักษาระดับความดันโลหิตให้แข็งแรงและเพิ่มวิตามินซี จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองและโรคหัวใจได้ นอกจากนี้ กีวียังมีใยอาหารสูงอีกด้วย ไฟเบอร์สามารถลดปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจโดยการลด LDL หรือคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี การมีโคเลสเตอรอลส่วนเกินสามารถนำไปสู่ภาวะหลอดเลือดแข็งตัว ซึ่งเป็นการแข็งตัวของหลอดเลือดแดงภายในหัวใจ
เสริมการทำงานของลำไส้ให้ดียิ่งขึ้น
จากการศึกษาพบว่ากีวี่มีไฟเบอร์ที่ไม่ละลายน้ำและที่ละลายน้ำได้ โดยเส้นใยไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ที่พบในกีวี่เป็นประโยชน์ต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ในขณะที่เส้นใยที่ไม่ละลายน้ำที่พบในผลไม้สามารถช่วยให้การเคลื่อนไหวของลำไส้เป็นปกติ ดังนั้นกีวี่จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีอาการท้องผูก
อาจมีส่วนช่วยป้องกันมะเร็ง
นักวิจัยระบุว่ากีวี่เป็นผลไม้ที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง เนื่องจากกีวี่มีความสามารถในการช่วยซ่อมแซมดีเอ็นเอที่เสียหาย นอกจากนี้ยังพบว่าการรับประทานกีวี่ 2–3 ลูกควบคู่ไปกับมื้ออาหาร และการออกกำลังกายเป็นประจำสามารถป้องกันการก่อตัวของเซลล์ร้ายในร่างกายได้
บำรุงสุขภาพคนท้อง
กีวี่มีกรดโฟลิกสูงซึ่งช่วยป้องกันความบกพร่องในการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ นอกจากนี้ กีวี่ยังช่วยให้สตรีมีครรภ์สามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสิ่งนี้สามารถพิสูจน์ได้ว่าจำเป็นต่อการทำให้เลือดของหญิงตั้งครรภ์ส่งออกซิเจนไปยังทารกได้อย่างเพียงพอ
วิตามินและแร่ธาตุในกีวี่
วิตามินเอ
ช่วยให้ผิวพรรณสดใสและมีส่วนช่วยบำรุงของสายตา ช่วยให้มองเห็นแต่ชัดขึ้น และลดอาการตาไวต่อแสง นอกจากนี้ยังมีความสำคัญต่อสุขภาพการเจริญพันธุ์ และวิตามันเอยังเป็นปัจจัยสำคัญให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี ช่วยรักษาเนื้อเยื่อเยื่อบุผิวซึ่งเรียงตัวตามพื้นผิวทั้งหมดของร่างกาย รวมทั้งจมูก คอ ปอด และระบบทางเดินอาหาร
วิตามินซี
สามารถพบในผลกีวี่ได้มากถึง 71% มีประโยชน์ต่อระบบภูมิคุ้มกัน เนื่องจากวิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพซึ่งสามารถเสริมสร้างการป้องกันตามธรรมชาติของร่างกาย ป้องกันอาการป่วยหรืออาการหวัด อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวพรรณมีสุขภาพดี
วิตามินอี
ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ รวมถึงเป็นตัวช่วยที่ดีในการดูดซับอนุมูลอิสระ และลดการอุดตันของเส้นเลือด สามารถช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ จากการมีความดันโลหิตสูงและระดับไขมันในเลือดสูง เช่น คอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) และไตรกลีเซอไรด์
วิตามินบี
มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร วิตามินเหล่านี้ช่วยในการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์ และลดความเสี่ยงของความพิการแต่กำเนิดสำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ วิตามินบีอาจช่วยจัดการระดับพลังงาน บรรเทาอาการคลื่นไส้ และลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ
ไฟเบอร์
มีความสามารถในการป้องกันหรือบรรเทาอาการท้องผูก ช่วยให้การเคลื่อนไหวของลำไส้เป็นปกติ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล สามารถชะลอการดูดซึมน้ำตาล และช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงต่อ โรคหัวใจ มะเร็งบางชนิด และกี่วี่ยังเหมาะกับคนเป็นโรคเบาหวานอีกด้วย
โฟเลต
จำเป็นต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวในไขกระดูก สร้าง DNA และ RNA และเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตให้เป็นพลังงาน การมีโฟเลตในปริมาณที่เพียงพอมีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น การตั้งครรภ์ วัยทารก และวัยรุ่น อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และหลอดเลือด
โพแทสเซียม
โพแทสเซียมมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพกระดูก ช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อในผู้สูงอายุและผู้ที่มีภาวะสุขภาพที่นำไปสู่การภาวะกล้ามเนื้อฝ่อ และมีความสามารถช่วยลดความดันโลหิตและป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง และช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนและนิ่วในไต
ข้อควรระวังในการบริโภค
เป็นที่ทราบกันดีว่ากีวี่มีรสหวานที่เป็นเอกลักษณ์และอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย ผู้คนทั่วโลกชื่นชอบผลไม้ชนิดนี้ ทว่าหากรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาได้เช่นกัน เช่น อาการแพ้ โดยมีอาการเหนื่อยล้า หายใจลำบาก และคอบวม มีรายงานการเกิดผื่น หอบหืด ลมพิษ และการระคายเคืองในช่องปาก รวมถึงอาจเพิ่มโอกาสในการมีเลือดออก หากรับประทานร่วมกับยาบางชนิด นอกจากนี้กีวี่ยังสามารถนำไปสู่ผลเสริมฤทธิ์กันในระดับของเซโรโทนินอาจทำให้กระบวนการแข็งตัวของเลือดช้าลงและทำให้เลือดออกผิดปกติแย่ลง ผู้ที่มีเลือดออกง่ายหรือผู้ที่เพิ่งได้รับการผ่าตัดจึงควรระวัง
ถิ่นกำเนิดของกีวี่
เป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงของประเทศนิวซีแลนด์ แต่ต้นกำเนิดที่แท้จริงมาจากทางตะวันออกของประเทศจีน เดิมรู้จักกันในชื่อ Yang Tao ก่อนจะเปลี่ยนเป็น Chinese Gooseberry ก่อนที่จะแพร่ไปสู่นิวซีแลนด์ในช่วงศตวรรษที่ 20 พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็นกีวี่ซึ่งเป็นนกประจำชาติและได้รับความนิยมอย่างยิ่งจากทหารของอังกฤษและอเมริกันที่ประจำการในนิวซีแลนด์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้กลายมาเป็นสินค้าส่งออกในเวลาต่อมา
สรุป
กีวีเป็นผลไม้ขนาดเล็กที่มีรสหวานน่ารับประทาน ไม่เพียงแต่อุดมด้วยสารอาหาร เช่น วิตามินซี อี แร่ธาตุ เอ็นไซม์ สารต้านอนุมูลอิสระ และไฟเบอร์ สารอาหารทั้งหมดเหล่านี้จำเป็นต่อสุขภาพและการทำงานที่เหมาะสมของร่างกายของเรา กีวีมีวิตามินซีในปริมาณที่สูงมากเมื่อเทียบกับส้ม ด้วยเหตุนี้ กีวี่จึงมีประสิทธิภาพในการสนับสนุนภูมิคุ้มกัน ควบคุมความดันโลหิต และยังสามารถช่วยรักษาโรคต่างๆ เช่น โรคหอบหืดและจอประสาทตาเสื่อม
มาถึงตรงนี้ ก็ได้ทราบประโยชน์ต่างมากมายของผลกีวี่แล้ว ถ้าหากคุณต้องการผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ไร้กังวล สามารถเชื่อถือ สามารถวางใจ บริษัท Derma Health และติดต่อเพื่อเป็นเจ้าของแบรนด์ได้ที่เบอร์โทร 02 962 3223, 02 962 2177, 02 962 2442 หรือ ที่อีเมล Sales@derma-innovation.com
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้